✿✿แชร์ประสบการณ์ ♥ริรักกับหนุ่มญี่ปุ่น♥ เมื่อความบังเอิญทำให้เราได้มาเจอกัน✿✿ (●^o^●) ตอนที่ 5

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ขออภัย นานมากจริงๆจะมาอัพที หลังจากนี้จะเขียนเป็นตอนๆละกระทู้ไปนะคะ มีหลายๆท่านทักมาหลังไมค์บ้าง แอดเฟสทักมาบ้างว่า หลังจากตอนที่แล้ว เสียดายมากที่ไม่ได้ไปต่อ แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว มาต่อกันเลยจ้า~~~ \(^O^)/

_________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________



ความหวังเล็กๆ...

หลายวันมานี้เรารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดวกวนเรื่องเดิมอยู่ซ้ำๆ หลายครั้งที่มีอีเมล์เข้ามา แต่ไม่ใช่อีเมล์ที่เรารอคอย เราเขวี้ยงมือถือลงบนที่นอนอย่างหงุดหงิด (´ヘ`) นี่มันก็ผ่านไปเกือบจะอาทิตย์แล้วนะ ทำไมเค้ายังไม่ติดต่อกลับมา อย่างน้อยก็น่าจะบอกหน่อยก็ยังดีว่าถึงญี่ปุ่นแล้ว...





วันทำงาน ใจก็ไม่จดจ่ออยู่กับงานเลย ส่งของก็เขียนชื่อลูกค้าผิด ได้แต่นั่งมองโทรศัพท์ แล้วพยายามเตือนตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า เราเลือกที่จะตัดเองนะ และสิ่งที่เราทำกับเค้าครั้งสุดท้ายนั้น มันก็ดูเหมือนจะใจร้ายเกินไป พี่เค้าก็คงรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะติดต่อกลับมา... มันเหมือนการรออะไรสักอย่างที่ยังมาไม่ถึง ในใจวิ่งวุ่น พอเปิดดูรูปของพวกเราในมือถือ ขนาดความทรงจำแค่ 1 เดือนช่วงเวลาอันแสนสั้น แต่ทำไมเรากลับถึงได้รู้สึกอะไรมากมายได้ขนาดนี้..... อาการแบบนี้ มันไม่โอเคเลย... มันไม่ปกติ.....

'I will come back again' คำที่เค้าเคยพูดไว้ก่อนไป ยังคงดังก้องอยู่ในหัว... มันเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราอดทน บอกกับตัวเองว่า รอนะ... คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เค้าจะรักษาคำพูดกัน.. มันเป็นเหมือนความหวังเล็กๆว่าเราอาจจะได้เจอกันอีก....

ช่วงนี้เรากลับมานอนที่บ้านบ่อยขึ้น (ไม่อยากอยู่คนเดียว) และแน่นอนว่า เราก็ขอไปนอนห้องแม่อีกตามเคย -.-
แม่... ผู้ซึ่งรู้ดีทุกอย่างถึงอาการผิดปกติของลูก

Mom : "อาการเป็นยังไง ไหนเล่าซิ?" คุณแม่มองดูเราที่เหมือนจะแปลกไปมาหลายวัน
N : "เบื่อๆเซ็งๆอ่ะแม่ แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแหละ" ตอบแบบไม่มองหน้าแม่ (__ __)
Mom : "ไปโดนเค้าหักอกมารึยังไง?" แม่ถามแบบขำๆ
N : "โหววว~ แม่ก็.... ระดับนี้แล้ว มีแต่ไปหักอกคนอื่นเค้ามากกว่าอ่ะค่ะ 55" ขำแบบไม่สมจริง -.-
แม่มองหน้าเราแบบ แกแน่ใจหรอ? (เป็นไปได้แม่ก็คงจะเบ้ปากไปแล้ว) (´▽`)

พอปิดไฟนอน สมองเราก็ทำงานหนักอีกครั้ง คนที่เค้าต้องจากกัน ทั้งๆที่ยังรู้สึกดีต่อกันอยู่ พวกเค้าใช้เวลานานแค่ไหนกันนะ? กว่าจะทำใจได้.... แล้วมันจะลำบากใจขนาดไหน? ถ้าจะต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง...?

สิ่งที่รบกวนใจเรามากที่สุดตอนนี้คือ ถ้าสมมติเค้ายังจำได้ ถ้าเค้ายังรักษาคำพูด ถ้าเค้ากลับมาจริงๆ แล้วเราจะทำยังไงดี...? ความรู้สึกทุกอย่างมันจะเหมือนเดิมอยู่มั้ย? หรือเราอาจจะอยู่แค่ในสถานะไกด์ หรือแค่คนที่เคยถูกจ้างให้สอนภาษา แค่เจอกันแล้วโบกมือทักทาย กินข้าวกันคุยกันนิดหน่อยแล้วก็กลับ แบบนั้นใช่มั้ย...? เราถามตัวเองมาตลอด ว่าเรารู้สึกยังไง เราชอบเค้ามากนะ... แต่ก็ไม่อยากให้เค้าเสียเวลากับเราเลย... :c

Friend : "บางทีเค้าอาจจะไม่ชอบแกแล้วก็ได้" เพื่อนสนิทของเราพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามอดทน หลังจากที่เราถามความคิดเห็นมาสิบกว่ารอบ
Friend : "บางทีเค้าอาจจะไปเจอสาวญี่ปุ่น สวย เด็ด เอ็กซ์กว่าแก อย่าลืมสิ คนญี่ปุ่นเป็นพวกชาตินิยมไม่ใช่หรอ?"
เราพยักหน้ารับแบบหงอยๆ ( ・~・ )
Friend : "อีกอย่างพวกเค้าคุยกันรู้เรื่อง นิสัยใจคอ เข้าใจกันได้มากกว่าด้วย แกเองก็บอกชั้นเองไม่ใช่หรอ ว่าผู้ชายญี่ปุ่นเข้าใจยาก"
เราพยักหน้าแบบเหม่อๆ แล้วถอนหายใจยาว เฮ้อออออออ~~~ ( ̄・____・ ̄)
Friend : "โอ๊ยยยย! เลิกคิดซะทีเหอะแก! เค้าโชคดีแล้วที่ไปจากแกได้ แสดงว่าเค้าหมดเคราะห์หมดทุกข์ แกควรจะดีใจนะ เค้าไปได้ดี แกก็ปล่อยๆเค้าไปเหอะ!"
เรารีบถีบเก้าอี้ล้อเลื่อนที่เพื่อนนั่งอยู่ไถลไปชนโต๊ะ บัดซบที่สวดดดดด มะโห มะโห!


ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่แสนอึดอัด ที่ต้องคอยกดโทรศัพท์เช็คอีเมลล์ประจำ และน่ารำคาญทุกครั้งที่ไม่มีแมสเสจจากพี่เค้า จะมีก็แต่อีเมล์ขยะ และอีเมลล์ที่เราไม่ได้รอคอย ถ้าไม่คิดจะติดต่อกลับมา แล้วจะพูดทำไมล่ะ? ว่าจะกลับมาอีกครั้ง ฮึ่มมมมม!.....ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด..... > 😞

เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์ จนกระทั้งวันนึงที่ความหวังของเราเป็นจริง เมื่อมีอีเมลล์ของหนุ่มญี่ปุ่น ส่งมาหาเราตอน 3 ทุ่ม เราจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่ 10 วินาทีเต็มๆ เมื่อเช็คดูแล้วว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด เรารีบเปิดอ่านทันที มันเป็นข้อความที่สั้นๆง่ายๆ แต่เรากลับอ่านมันด้วยหัวใจที่พองโต 'ผมจะเดินทางไปประเทศไทย วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ผมหวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง...เผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจ...'

'เผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจ' หรอ? นี่มันหมายความว่าเค้ายังอยากที่จะเจอเรา อยากที่จะคบกับเราอยู่ใช่มั้ย? (หลงตัวเอง) แต่เราทำไม่ดีกับเค้ามาก็เยอะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดอะไรหลายๆอย่างกำลังวิ่งเข้ามาในหัว... เฮ้อ.... ลำบากใจชะมัด... (>~<)

เมื่อเวลาผ่านไปในที่สุด วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ได้มาถีง มีอีเมล์ของหนุ่มญี่ปุ่นส่งมาอีกครั้ง บอกไฟล์เที่ยวบินและเวลา เค้าคงหวังว่าเราจะไปรับเค้า แต่เราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ไปเจอ (ถึงแม้ในใจจะอยากเจอมากมายแค่ไหนก็ตาม.. TT')
ในคืนนั้นที่เค้ามาถึง เค้ายังส่งอีเมลล์มาหาเราว่าถึงไทยแล้ว พักอยู่ที่ไหน และทิ้งท้ายว่าอยากที่จะเจอ พอยิ่งอ่านก็ยิ่งใจอ่อน... แต่ถ้าเราไปเจอเค้าก็เท่ากับว่า สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดมันสูญเปล่า เราเลยบอกกับตัวเองไว้ว่า หลังจากนี้ จะไม่เช็คอีเมลล์อีกเด็ดขาด สู้ๆนะ ทำได้ๆ.. (บอกตัวเองรอบที่ล้านแปด อย่าว่าแต่คุณผู้อ่านรำคาญเราเลยค่ะ เราก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน ยังไงกันแน่!)

3 วันผ่านไปอย่างเชื่องช้า มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับเรา มันไม่สนุกเลยสักนิด เพราะเรามัวอยู่กับการกดดันตัวเอง ทำเป็นเมินเฉย ไม่สนใจอีเมลล์ในมือถือ สุดท้ายพอทนไม่ไหวจริงๆ เราก็เปิดดูอีเมลล์อีกครั้ง ในกล่องข้อความ หนุ่มญี่ปุ่นยังส่งข้อความมาทุกวัน ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องว่าแต่ละวันไปไหนมาบ้าง และเค้าหลงทางประจำเช่นเคย ทุกๆข้อความจะทิ้งท้ายด้วยคำว่า ...I'm waiting to meet you~ ^^ ... ถึงแม้ว่าเค้าจะพยายามใช้คำพูดเหมือนร่าเริง แต่เราก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เลย... คงกำลังฝืนตัวเองอยู่ใช่มั้ย?... เค้าจะต้องรอเรานานแค่ไหนกัน? มันก็น่าจะจบไปแล้วนี่นา... ความรู้สึกผิดและละอายใจถาโถมเข้ามาใส่อีกครั้ง... นี่เรามัวทำอะไรอยู่... เค้ากำลังเสียเวลากับเราแท้ๆ เราก็อยากเจอเค้า อยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันชัดเจน เราตัดสินใจที่จะไปเจอเค้า เรารู้ว่าการเปลี่ยนใจไปๆมาๆของเราแบบนี้มันไม่ดีเลย แต่เรารู้สึกสับสนมาก เราคิดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก รู้แค่ว่าอยากเจอ แต่ก็กลัวที่จะแสดงความรู้สึกโง่ๆให้เค้าเห็น เลือกสักทางเถอะนะ.... เอาสักทาง.... (T^T)

เรายืนอยู่หน้าประตูห้องในโรงแรมที่เค้าพักอยู่ย่านสุขุมวิท มันเป็นการมาแบบไม่ได้นัดล่วงหน้ามาก่อน เพราะมีแต่พี่เค้าที่ส่งอีเมลล์มาหา แต่เราไม่ได้ตอบกลับอะไรไปเลย.. ถ้าเค้ายังอยู่ในห้องเราก็จะได้เจอได้คุยกันอีกครั้ง แต่ถ้าเค้าไม่อยู่... เราคงจะกลับไปแบบไม่ต้องมีการพูดคุยกันอีก... เหมือนเป็นการเสี่ยงดวง... เรายืนนิ่งอยู่พักนึง หัวใจเต้นรัว... ก่อนที่จะกดกริ่งประตู 'ติ้งต่อง!'
เรายืนรอด้วยความหวังอันน้อยนิด ความคิดหลายๆอย่างพุ่งเข้ามา บางทีเค้าอาจจะออกไปข้างนอก หรืออาจจะไม่อยู่ย้ายโรงแรมไปแล้วก็ได้ โอ้ย..... ทำไมเราต้องมาทำแบบนี้ด้วยเนี่ย... (T___T)

พอประตูเปิดออก หนุ่มญี่ปุ่นมองหน้าเราแบบฉงน เค้ามีสีหน้าดีใจและตกใจไปพร้อมๆกัน ก่อนที่จะยิ้มกว้างออกมา เรามองหน้าพี่เค้าแล้วยิ้มตอบกลับไป... ความคิดที่ว่าเรามาเจอเค้าเพราะอะไร มาทำไม มันได้หายออกไปจากในหัวแล้ว ตอนนี้เวลานี้... มีเพียงรอยยิ้มดีใจที่ได้พบกันอีก และความคิดถึงอย่างมากมายเท่านั้น... ꒰⌯͒•̩̩̩́ ˑ̫ •̩̩̩̀⌯͒꒱


_________________________________________________________________________________________________________

ไว้มาต่อนะคะ ถึงช้าหน่อยแต่มาชัวร์น้าา

*อ่านย้อนหลังได้ที่ http://pantip.com/topic/35480294
*อ่านตอนต่อไปได้ที่ http://pantip.com/topic/35640621
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่