✿✿แชร์ประสบการณ์ ♥ริรักกับหนุ่มญี่ปุ่น♥ เมื่อความบังเอิญทำให้เราได้มาเจอกัน✿✿ (●^o^●) ตอนที่ 6

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารัก ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณสำหรับกำลังใจหลังไมค์หลายๆท่านที่ส่งเข้ามานะคะ หลายๆท่านรีเควสแบบอยากให้ลงรูปแบบไม่มีน้องหมีแพนด้ามาแปะ จะได้เห็นหน้าไปเลย TT คือต้องขออภัยด้วยนะคะ อยากเซิฟเรื่องความเป็นส่วนตัวนิดนึงอ่ะค่ะ 555 ยังไงรูปเต็มๆและเยอะมาก ขออัพในเฟสบุ๊คนะคะ ^O^

ตอนนี้ภาคต่อของเราได้เสร็จแล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เชิญอ่านต่อกันได้เลยค่ะ ^_____^



___________________________________________________________________________________________________________


...ฝืน...




พวกเราพากันยืนอ้อยอิ่งกันอยู่ที่ประตู เพราะมัวแต่ดีใจจนพูดไม่ออก สุดท้ายพี่เค้าก็ดึงแขนเราเข้ามาในห้องแล้วสวมกอดเราทันที (>_<) เค้าคงพยายามใส่ความรู้สึกที่มีไว้ในอ้อมกอดนี้ เรากอดเค้ากลับ มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก... (-///-) เหมือนความรู้สึกที่หนักอึ้งมาเกือบเดือน มันได้ละลายหายไปหมดแล้ว... ตอนนี้เวลานี้มันรู้สึกโล่งใจ และสำคัญที่สุดคือ คิดถึงมากจริงๆนะ... ไม่รู้ว่าเราสองคนยืนกอดกันอยู่นานแค่ไหน... พอรู้ตัวอีกทีมือของเราที่ถือขนมกับกระเป๋าอยู่ก็เริ่มหนักขึ้น พอคลายกอด เราก็ยื่นถุงขนมเบื้องเจ้าโปรดให้พี่เค้า

N : "ไฮ้!" ^^
K : "โอ๊ะ! อาริกาโตะ" เค้ารับพร้อมยิ้มกว้าง ^___^

เรามองไปรอบๆห้องก็รู้ได้ทันทีว่าก่อนหน้านี้เค้ากำลังอ่านหนังสืออยู่ ทั้งไกด์บุ๊คและหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่เราอ่านไม่ออก กองเต็มอยู่บนโต๊ะ
เราก็ได้แต่ขอโทษขอโพยพี่เค้ายกใหญ่ที่มาแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า พี่เค้าก็ได้แต่ยิ้มแล้วบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษเลย เพราะเค้านึกว่าเราไม่อยากเจอเค้า นึกว่าเราจะไม่มา หรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยซะแล้ว...

พวกเรานั่งกันอยู่บนโซฟา ก็คุยถามสาระทุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยเปื่อย ทำไมกันนะ... ความรู้สึกมันเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เหมือนกับว่าเรื่องที่ทำให้เสียใจต่างๆที่ผ่านมา มันไม่ได้เกิดขึ้นเลย....

เค้าเปิดถุงขนมเบื้องแล้วเริ่มต้นกินอย่างเอร็ดอร่อย ขนมเบื้องเป็นขนมไทยไม่กี่อย่างที่พี่เค้าชอบ (ต้องเป็นไส้หวานเท่านั้นนะ) ส่วนใหญ่ขนมอื่นๆที่ได้ชิม ถ้าไม่ถูกปากเค้า แล้วเค้าก็จะไม่แตะขนมนั้นอีกเลย (´▽`) เค้าเดินไปเปิดกระเป๋า แล้วเอาขนมที่ซื้อจากญี่ปุ่นมาให้ ส่วนใหญ่จะเป็นช็อคโกแลตและชาเขียว เค้ารู้ว่าของโปรดเรา (นี่เราสนิทกันจนถึงขั้นว่า ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรแล้วหรอเนี่ย ^^ ) เค้าขอแอดไลน์เรา เพราะเค้าได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ญี่ปุ่นแล้ว

เค้ามองเราที่กำลังยิ้ม เหมือนมีอะไรในใจที่เค้าอยากจะพูดกับเราสักอย่าง เราก็เหมือนกัน... พอเรานึกขึ้นมาได้ว่ามาที่นี่ทำไม เราอยากพูดกับเค้า แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี... จนพี่เค้าเป็นคนเริ่มพูดก่อน

K : "ขอบคุณที่มาหาผมนะ ผมดีใจมากจริงๆ" ^_^
N : "ขอบคุณเหมือนกันค่ะที่กลับมาไทยอีกรอบ แล้วก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้ส่งอีเมลล์ตอบกลับนะ... คือว่า... ฉัน...กำลังสับสนน่ะ..."
K : "คิดว่าผมจะไม่กลับมาหาหรอ?" ( ̄・__・ ̄)
N : "ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่... แต่แค่คิดว่าบางทีคุณอาจจะเกลียดฉันไปแล้วน่ะ เพราะฉันทำไม่ดีกับคุณไว้วันที่ไปส่งคุณครั้งที่แล้ว..." TT'
K : "อ่อ.. ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ? ผมต่างหากที่ต้องคิดว่าคุณเกลียดผม เลยไม่อยากจะพูดหรือส่งอีเมลล์กลับมาหาผม...."
เราไม่กล้าตอบ ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจมันยังค้างอยู่ เงียบกันไปสักพัก พี่เค้าเลยพูดขึ้นต่อ
K : "อันที่จริง... ผมก็กังวัลนะ... คิดหลายๆอย่างหลังจากที่ผมกลับมาไทย ผมกลัวว่าทุกอย่างจะผิดพลาดไปหมด กลัวว่าคุณเลือกที่จะไปจากผมแล้วจริงๆ..."

เรามองหน้าเค้า... ทำไมเค้าถึงไม่โกรธเรา ไม่มีการต่อว่าอะไรเลย ซึ่งนั่นมันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดขึ้นไปอีก... ทำไมเค้าต้องเห็นเราสำคัญขนาดนั้นด้วยเนี่ย... เราไม่เหมาะสมกับเค้าเลยด้วยซ้ำ.... T^T

N : "เคซัง... ฟังนะ... คุณไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับฉันเลย..."
K : "ทำไมถึงเรียกว่าเสียเวลาละครับ? เราก็ต่างคนต่างก็ชอบกันไม่ใช่หรอ?"

O_O! ถามตรงประเด็นไปมั้ยคะ? ญี่ปุ่นข๋าาาา

N : "มันก็....ใช่ค่ะ แต่... เรา... เราอยู่ไกลกันเกินไป..." มันยากนะที่จะยอมรับว่าชอบเค้าต่อหน้าเนี่ย (-////-) แอบเขิน
พี่เค้ามองหน้าเราแบบชั่งใจอยู่ครู่นึง ก่อนจะตอบกลับว่า
K : "บินแค่ 5-6 ชั่วโมง ไม่ไกลหรอกครับ" สีหน้าเค้าเริ่มตึงๆ
N : "แต่...คุณควรที่จะเจอคนที่ดีกว่าฉันนะคะ" เราเริ่มเถียง นี่ไม่เข้าใจรึไง? เรื่องระยะทางกับความรักน่ะ....
K : "แล้วคุณไม่ดีตรงไหนครับ?"
N: "ฉันน่ะ... ฉัน... ฉันเป็นคนไทยนะ" เราพยายามหาเหตุผล แต่ฟังดูแล้วโง่สุดๆ
K : "คุณเป็นคนไทย แล้วยังไงล่ะครับ?"
N : "ฉันไม่เข้าใจคนญี่ปุ่นหรอก..." (•_•)
K : "ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดแบบนั้นเลย..."
N : "แล้วอีกอย่าง... คุณไม่ต้องเสียเวลามาไทยบ่อยๆหรอก... คุณ... คุณไม่ใช่แฟนของฉันนะ มันไม่จำเป็นเลยจริงๆ... กลับไปประเทศคุณเถอะค่ะ"

พอเราพูดจบพี่เค้าก็เหมือนจะอึ้งๆไปพักนึง หน้าพี่แกนิ่งมาก ดูไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ แต่ที่รู้สึกได้คือมันไม่ดีแน่ๆ พี่เค้านั่งเงียบสักพัก ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินไปดูวิวที่หน้าต่าง

K : "นี่คุณกำลังเล่นกับความสัมพันธ์อยู่หรอ?"
N : "เอ๊ะ!?" (´□`。)
K : "คุณกำลังเล่นกับความสัมพันธ์ของเราอยู่ใช่มั้ย..?"
N : "มะ...มัน... ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ..." เราตอบด้วยท่าทีที่ตกใจ จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว เราก็แค่อยากให้เค้าไม่ต้องมาเสียเวลากับเราก็แค่นั้นเอง.... T^T...
K : "ผมคิดมาตลอดนะ...ว่าคุณคือแฟนของผม..."

เค้ายังคงยืนดูวิว ไม่หันมาคุยเราตรงๆ เราเลยรีบเดินไปหา ก่อนที่จะจับแขนเค้า มันไม่ใช่แบบนั้นนะ.... โอย..... TT'

K : "คุณบอกว่าคุณไม่ได้เกลียดผม... แถมยังเสียเวลาไปโน่นนี่เป็นเพื่อนผม... คุณมาใจดีกับผมทำไม... คุณมาทำให้ผมรักคุณทำไม นี่คุณกำลังสนุกอยู่หรอ?"

ห๊ะ!? ใช้คำว่ารักเลยหรอ? มันไม่ใช่มั้ง..... (*´>д<)

N : "ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณไม่ได้รักฉันหรอก คุณแค่กำลังเหงา... ก็เลยชอบฉันแค่นั้นเอง...."

หนุ่มญี่ปุ่นถอนหายใจยาว.. เฮ้อ....

K : "ทำไมคุณถึงไม่เชื่อใจกันเลยนะ...." พี่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แบบผิดหวังจริงๆ
K : "กลายเป็นผมที่คิดไปเองคนเดียว...ทั้งหมดที่ผ่านมานี้...คือผมคิดเองรู้สึกไปเองหมดเลยใช่มั้ย?"
N : "ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ..." เรารีบตอบ รู้สึกสิ ไม่รู้สึกจะอยากมาอยู่ด้วยทำไมล่ะ บากะจริงๆ T___T
K : "คุณ...ไม่ได้รู้สึก...อะไรกับผมเลยจริงๆหรอ?..."
น้ำตาของเค้าเริ่มซึม เหมือนกำลังพยายามข่มอารมณ์ไว้อยู่ เค้าคงเสียใจมาก เราก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลย ได้แต่ยกมือขึ้นปิดปาก และช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่เราทำให้เค้ารู้สึกแย่มากขนาดนั้นเลยหรอ.... คือ... เท่าที่รู้มานี่คนญี่ปุ่นเค้าไม่เสียน้ำตากันง่ายๆนะ นอกจากจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสจริงๆ เราได้แต่ยืนอึ้งแล้วมองหน้าเค้าก่อนที่เค้าจะเบือนหน้าหนีเรา ด้วยความที่เรารู้สึกผิดเราเลยกอดเค้าไว้ เราไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยจริงๆ... อยากมาอธิบาย... ไม่ได้อยากให้พี่เค้ารู้สึกแย่เพราะเข้าใจผิดนะ...

N : "ขอโทษนะคะ... ฉันขอโทษจริงๆ... ฉันไม่ได้เล่นกับความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น.... ฉันน่ะ... ฉันชอบคุณมากเหมือนกันนะ... คุณเข้าใจมั้ย... มันมีหลายๆอย่างที่ยากเกินกว่าจะพูดออกมา... แต่อีกใจก็คิด... นึกถึงความเป็นจริง... ว่าเราไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย... เราอยู่ไกลกันมากนะ... ฉันเคยเจอกับปัญหาแบบนี้... ฉันไม่อยากเจ็บช้ำซ้ำรอยเดิม... ไม่อยากที่จะต้องเสียใจ.... และฉันก็ไม่อยากให้เราทั้งคู่ต้องมาเจ็บปวด...."
เสียงของเราเริ่มสั่น เรากลืนน้ำลายเพราะรู้สึกว่าคอมันเริ่มตีบตัน มันยากมากนะ... ที่จะต้องพูดต่อ....

N : "มิตรภาพมันยืนยาวกว่าความรักนะคะ... ฉันไม่อยากที่จะต้องเสียคุณไปเหมือนกัน... อย่างน้อย... แค่ได้เห็นหน้าคุณในบางครั้ง ได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ของคุณ... ฉันก็ดีใจแล้ว..."
พอเราได้พูดสิ่งที่ค้างคาในใจออกมาแล้ว มันกลับยิ่งทำให้เรารู้สึกอ่อนแอมากกว่าเดิม... อ่อนแอกับความรัก... อย่าพึ่งไหลนะ..น้ำตา... ทนไว้...ทนไว้... T^T

พี่เค้าหันมากอดเรากลับ..

K : "คุณคิดว่าผมไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้หรอ... ผมรู้ครับว่าเราอยู่ไกลกัน... แต่เราไม่ได้ไกลกันมากขนาดนั้นนะ... ผมสามารถมาหาคุณบ่อยๆได้... ผมพร้อมที่จะไปกับคุณนะ... ความรู้สึกของผม... มันกลับมาเป็นเหมือนก่อนไม่ได้... เพราะผมได้ให้คุณไปแล้ว..."
เราก็ได้แต่สวมกอดและลูบแผ่นหลังของเค้าเป็นการปลอบ เพราะไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง... T___T

K : "อย่าไปเลยนะครับ..." พี่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ "เพราะ....ถ้าคุณบอกลาผมอีก... ผมไม่มั่นใจว่าจะสามารถรั้งคุณไว้ได้...." เค้ากอดเราแน่นขึ้น "ผม... ผมชอบคุณมากจริงๆนะ..."

เรายืนกอดกันนานแค่ไหนไม่รู้ ความรู้สึกที่มีตอนนี้คือละอายใจ.. อยากขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ทำให้เค้าต้องเป็นแบบนี้... ในหัวของเรากำลังหมุนติ้ว พยายามเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ อยากตัดสินใจแบบไม่ต้องฝืนอะไร...
นับตั้งแต่ตอนนี้เราจะจับมือกันเดินแล้วสินะ... เหมือนที่ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึก เราจะหนีมันไม่ได้แล้ว... ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะมีอะไรรอพวกเราอยู่ จะสุขจะทุกข์กันแค่ไหน แต่เราก็ต้องลองเสี่ยงอีกสักครั้ง... สุดท้ายแล้วไม่ว่ามันจะจบลงยังไง... ทุกอย่างที่เข้ามันก็จะกลายเป็นความทรงจำ ว่าครั้งนึง...เราเคยใช้เวลาส่วนนึงของชีวิตกับใคร ... : ' )









ไว้มาต่อตอนหน้านะคะ ^^

*อ่านย้อนหลังได้ที่ >> http://pantip.com/topic/35565761
*อ่านตอนถัดไปได้ที่ >> http://pantip.com/topic/35787962
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่