เพื่อน ๆ คิดว่า ธุรกิจโรงภาพยนต์ เป็นธุรกิจ "ตะวันตกดิน" หรือเปล่าครับ?

คือ ปัจจุบันเนี่ย โทรทัศน์จอ LED  (จอโค้ง จอแบน ทั้งหลายแหล่) ด้วยความคมชัดระดับ 4K  ที่มีขนาดจอใหญ่มากขึ้น แต่ราคาก็ถูกลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น

ไหนจะเรื่องของลำโพงโฮมเธียเตอร์ ที่ให้เสียงกระหึ่ม รอบทิศทาง รองรับได้ทุกระบบเสียงแม้กระทั่ง Dolby Atmos  ก็มีราคาถูกลงมากเช่นกัน

ผมรู้สึกว่า นับวัน คนเรายิ่งมีเงินมากขึ้น ก็มักจะซื้อทีวี +  โฮมเธียเตอร์ไว้แต่งบ้านกันอยู่แล้ว (ด้วยราคาที่ถูกลงมาก) แต่ให้คุณภาพเสียงในระดับใกล้เคียงกับโรงภาพยนต์ (ยกเว้นขนาดจอ ที่มันอาจจะไม่สามารถทำให้เทียบเท่ากับโรงภาพยนต์ได้ในอนาคตอันใกล้)

บางครั้ง ผมก็รู้สึกว่าในปัจจุบัน คนเราดูหนังในโรงหนังกันน้อยลง ไม่ใช้เพราะค่าบัตรแพงขึ้น หรือค่าอาหารที่ขายหน้าโรงหนังมันแพงขึ้น (อันนั้น มันขึ้นตามเงินเฟ้ออยู่แล้ว)

แต่เราดูหนังในโรงหนังน้อยลง เพราะเทคโนโลยีความบันเทิงในบ้าน มันสามารถตอบโจทย์เราได้ ด้วยราคาที่ถูกลงมาก ชนิดที่ว่า มนุษย์เงินเดือนระดับกลาง ๆ ทำงานเก็บเงินไม่กี่เดือน ก็สามารถซื้อทีวี+โฮมเธียเตอร์ ที่ให้คุณภาพคมชัด และเสียงกระหึ่มใกล้เคียงกับโรงหนังได้แล้ว (ถ้ารู้จักการจัดวางระบบเสียง เซ็ตโฮมเธียเตอร์ให้ดี ๆ)


และในอนาคต ผมคิดว่าเหล่าบรรดาค่ายหนังก็อาจจะทำ Server ของตนเอง พอทำหนังเสร็จ ก็ไม่ต้องไปพึ่งบรรดาโรงหนังแล้ว เพราะแทนที่ค่ายหนังจะต้องแบ่งรายได้ค่าตั๋วให้กับโรงหนัง

ค่ายหนังต่าง ๆ ก็เลือกที่จะอัพโหลดหนังใหม่ของตนเองลง Server และให้คนทั่วโลกดาวน์โหลดหนังไปดูในแพลตฟอร์มไหนก็ได้ (โดยอาจจะเสียค่าสมาชิก หรือเสียค่าซื้อหนังเป็นเรื่อง ๆ ไป)

แบบนี้ ค่ายหนังก็ได้กำไรไปเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งไปให้กับโรงหนัง คนดูก็วินไปด้วย เพราะไม่ต้องถ่อไปห้าง ไม่ต้องมาเสี่ยงดูหนังร่วมกับคนอื่น (ที่อาจจะเสียมารยาทในโรงหนัง)  เพราะพวกเค้าแค่รอค่ายหนังต่าง ๆ ประกาศวันปล่อยหนัง Release ออกมา  แล้วก็ชำระเงินออนไลน์โหลดหนังใหม่มาดูที่บ้านกับโฮมเธียเตอร์ส่วนตัวสบาย ๆ



ส่วนพวกธุรกิจโรงภาพยนต์ ก็จะค่อย ๆ เงียบเหงามากขึ้น เพราะช่วงแรก ค่ายหนังอาจจะยอมขายลิขสิทธิ์ให้กับโรงหนังเอาหนังมาฉายในโรงอยู่ แต่พอกาลเวลาผ่านไป จนกระทั่งค่ายหนังเลือกที่จะอัพโหลดหนังลง Server ตนเองมากกว่า ที่จะปล่อยลิขสิทธิ์ให้กับโรงภาพยนต์ (คือ ค่ายหนังเอารายได้เต็ม ๆ ไม่ต้องการแบ่งรายได้กับโรงหนังอีกต่อไป)

สุดท้าย นานวันเข้า เมื่อโรงภาพยนต์ไม่มีหนังใหม่เข้าฉาย ลูกค้าก็ต้องหดหาย ถึงตอนนั้น ธุรกิจโรงภาพยนต์ก็อาจจะไม่มีอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป



ก็อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ที่ผมคาดการณ์อนาคตไว้นะครับ

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดเห็นกันยังไงบ้างครับ?



ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่