ปมศึกพี่น้อง #ณรงค์เดช - 'ณพ ณรงค์เดช' เปิดใจหมดเปลือก

🔴 ปมศึกพี่น้อง #ณรงค์เดช
🔴 'ณพ ณรงค์เดช' เปิดใจหมดเปลือก



อ่านข่าว  : https://thunhoon.com/narongdetchbrotherswar-page1-03092025
ชมคลิปสัมภาษณ์ ณพ โดยทันหุ้น : https://thunhoon.com/live-hottopic-familyinheritance-02092025

.
“ณพ  ณรงค์เดช” เปิดใจศึกพี่น้อง จากผลประโยชน์ “วินด์เอนเนอร์ยี่” ยืนยันเป็นคนลงทุนเอง  จำได้ดีมีการประกาศตัดขาดตนจากครอบครัวและขอไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำ แต่เมื่อธุรกิจเดินได้จะขอรับประโยชน์ ยันศาลชี้แล้วตนไม่ได้ปลอมลายเซ็นต์ รับคดีความทำให้เงินปันผล 3.7 พันล้านบาท ถูกอายัด ห่วงผลงาน RML หลังขาดทุนต่อเนื่อง แนะทุกครอบครัวที่ขัดแย้งพยายามพูดคุยกันให้จบ “อย่ามาศาล”

นายณพ ณรงค์เดช เปิดใจถึงมหากาพย์ความขัดแย้งในตระกูลณรงค์เดช โดยระบุว่า จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งที่สำคัญคือ บริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WEH (โรงไฟฟ้าพลังงานลม) โดยเมื่อปี 2558 ตนได้เห็นโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการ WEH ซึ่งขณะนั้นเจ้าของเดิมมีปัญหาคดีความและธนาคารไม่ปล่อยกู้ ตนได้ชวนครอบครัวร่วมลงทุน แต่กลับถูกมองว่า “เพ้อฝัน” และไม่มีใครร่วมด้วย จึงตัดสินใจลงทุนเองทั้งหมด โดยใช้ทรัพย์สินส่วนตัว รวมถึงที่ดินมรดกของตนเองเป็นหลักประกันในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินกงสีของตระกูล

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 มีแถลงการณ์ของครอบครัว โดย “ตัดเขาออกจากกงสี” และระบุว่าการกระทำของเขาในเรื่อง WEH ครอบครัวไม่เกี่ยวข้องทั้งในอดีตและอนาคต อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจเติบโตและสร้างรายได้ ครอบครัวกลับเข้ามาเรียกร้องส่วนแบ่งในฐานะเจ้าของ โดยที่คุณณพได้ถามกลับไปเรื่องการร่วมลงทุน

จากกรณีดังกล่าว นำไปสู่คดีความมากมาย ทั้งคดีแพ่งและอาญา โดยเฉพาะประเด็นการปลอมลายเซ็นของคุณพ่อ ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า ตนไม่ได้ปลอมลายเซ็น และครอบครัวไม่ได้ร่วมลงทุนใน WEH

ปัจจุบันคดีความยังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ ซึ่งใช้เวลานานตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน ผลจากคดีนี้ ทำให้ เงินปันผลของ WEH กว่า 3,700 ล้านบาท ของถูกอายัดตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน และยังไม่รวมดอกเบี้ยและโอกาสในการลงทุนที่เสียไป ซึ่งในฐานะนักลงทุนการใส่เงินลงทุนไปควรมีผลตอบแทน

🔴 ห่วง RML

นายณพ ยังได้ตั้งคำถามถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งครอบครัวได้นำสินทรัพย์ เคพีเอ็นแลนด์  ที่ตนมีส่วนถือหุ้นมาแลกหุ้น บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ด้วยต้นทุนที่ 1.80 บาท  ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยบริหารเคพีเอ็นแลนด์ แต่เมื่อเกิดปัญหาขัดแย้งจึงถูกโหวตให้ออกจากตำแหน่งกรรมการของเคพีเอ็นแลนด์

อย่างไรก็ดีจากผลประกอบการของ RML ที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 ขาดทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท และสองไตรมาสแรกของปีนี้ขาดทุนประมาณ 400 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.14 บาทต่อหุ้น ในฐานะนักลงทุนอยากเรียกร้องให้ผู้บริหาร RML ออกมาชี้แจงแผนธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น

🔴 ใช้สิทธิ์ฟ้องเรื่องมรดก

นอกจากนี้ยังมีประเด็นคือเรื่องการจัดการมรดกของคุณแม่ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้วที่มรดกยังไม่ได้รับการจัดการตามความประสงค์ของคุณแม่ และตนเพิ่งได้เข้ามาเป็นผู้จัดการมรดกร่วมเมื่อปี 2566 หลังจากที่ร้องขอ มีการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องร้องกรณีที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์มรดก และศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษคู่กรณีในบางคดีแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์

ความขัดแย้งเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะการที่ตนและลูกๆ ถูกห้ามไม่ให้เข้าพบคุณพ่อเกษม ณรงค์เดช รวมถึงไม่สามารถเข้าบ้านณรงค์เดชได้ ซึ่งตนคิดถึงคุณพ่อมาก และลูกๆ ก็คิดถึงคุณปู่ เชื่อว่าปัญหาของพี่น้องไม่ควรส่งผลกระทบถึงรุ่นหลาน

@ แนะแก้ปมขัดแย้งอย่ามาศาล

สำหรับแนวทางการแก้ไขสู่ความปรองดอง การพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาต้องอยู่บนพื้นฐานของ หลักเกณฑ์และกติกาตามกฎหมาย โดยไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว และแนะนำให้ทุกครอบครัวที่ประสบปัญหาความขัดแย้งพยายามพูดคุยกันให้จบ “อย่ามาศาล” แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการจนกว่าจะมีความชัดเจน

และย้ำว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดคือการปกป้องสิทธิ์ของตนเองและลูกๆ ไม่ได้ต้องการในสิ่งที่ไม่ได้เป็นของตนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่