คิดเห็นกันยังไงกับคำกล่าวนี้ "คนจีนใช้รถทำงานเพราะรถไม่ใช่สิ่งที่แสดงสถานะ" แต่คนไทย "รถเป็นทุกสิ่งทุกและสถานะทางสังคม"

"ตลาดรถยนต์ในไทยแตกต่างกับจีน คนจีนใช้รถแล้วทิ้งเพื่อซื้อใหม่ง่าย เพราะรถไม่ใช่สิ่งที่แสดงสถานะ แต่คือม้างาน จึงใช้ไม่ถนอมนัก
แต่ไทย รถเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัว ทั้งการลงทุน การใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวก และสถานะทางสังคม"

เสถียรสิทธิ พรบุญยรัตน์ Associate Director อิปซอสส์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงการใช้รถของคนจีนและคนไทย


อิปซอสส์ เผย 'ราคา' เหตุผลใหญ่คนไทยซื้อ 'รถยนต์อีวีแบรนด์จีน'

ยุคทุนจีนผงาด แบรนด์จีนเบ่งบานทุกตลาด รวมถึง "รถยนต์อีวี" กำลังเขย่าบัลลังก์รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ระยะยาวการปรับตัว เข้าใจ Pain point ฟังเสียงความต้องการผู้บริโภค การเงินแกร่ง เดิมพันเสี่ยงวัด "แพ้-ชนะ" เลือดซามูไร-ชาติมังกร

บริษัท อิปซอสส์ จำกัด (Ipsos Ltd.) ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค ได้เปิดตัวรายงานชุด “Thailand Auto Trend-The Rise of Pure Electric Cars” รถไฟฟ้ากับการพลิกโฉมอนาคตยานยนต์ของประเทศ

รายงานดังกล่าว ได้ศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้เริ่มเข้ามาเป็นตัวพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย อีกทั้งมองแนวโน้มและการตอบรับของตลาดและกลุ่มผู้ใช้รถ รวมถึงปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเติบโต และ ลักษณะการแข่งขันในตลาดรถไฟฟ้า โดยมีแบรนด์ใหม่ๆ ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้แข่งขันมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยที่ลงตัวทั้งนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และการรุกตลาดอย่างจริงจังของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน

เสถียรสิทธิ พรบุญยรัตน์ Associate Director อิปซอสส์ (ประเทศไทย) ฉายภาพว่า กระแสความร้อนแรงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรืออีวีมีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เปิดศักราชปี 2568 เกิดการเขย่าครั้งใหญ่ของวงการรถยนต์ เมื่อปิดฉากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นนอล มอเตอร์โชว์ 2025 หรือมอเตอร์โชว์ แบนด์ “บีวายดี” ยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน สามารถโกยยอจองขึ้นแซงฮอนด้า และโตโยต้า ครองอันดับ 1 กวาดไป 10,353 คัน ตามด้วยโตโยต้า 9615 คัน จีเอซี ไอออน 7,018 คัน ดีพพอล 6,589 คัน และฮอนด้า 5,948 คัน

ความน่าสนใจรถยนต์โดยรวมแม้ยอดขายจะลดลงถึงระดับที่ไม่เคยเห็นาก่อนตั้งแต่ปี 2552 จากอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ธนาคารเข้มการปล่อยสินเชื่อ แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)กลับเติบโตต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรกปี 2568 ยอดขายรถยนต์พลังงานทางเลือก(xEV)ทั้ง รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี(BEV) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน(PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด(HEV) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 67,000 คัน สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งถึง 7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือยอดขายกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40.2% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในไตรมาสดังกล่าว โดยปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน การเติบโตนี้คือรถยนต์ไฮบริด (HEV) ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกถึง 62% สะท้อนช่วงเปลี่ยนผ่านที่อาจเกิดขึ้นไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ


อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1200245

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่