ท่าน สนช. ครับ อย่าดันทุรัง อย่าตะแบง อย่าทำผิดซะเองเลยครับ หล่อข้อร้อง

คำถามพ่วงของท่านน่ะ  ชัดครับ  ว่า

“ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”


ชัดนะครับ  ว่า   การพิจารณาให้ความเห็นชอบเลือกบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี

คือการโหวต   คือการลงมติเลือก

มันคนละเรื่องครับ  กับการเสนอชื่อ



แต่ตอนนี้  พวกท่านกำลังตะแบง  อ้างว่าตีความคำถามพ่วงอย่างกว้างได้  ว่าการให้ความเห็นชอบ คือการเสนอชื่อได้
จะเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 59  ให้ ส.ว. มีอำนาจ "เสนอชื่อ" ผู้ที่ควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ

"โหวต"  กับ  "เสนอชื่อ"   มันคนละเรื่องนะครับ

แล้วจะมาตีความแบบตะแบงไปทำไม

พอเถอะครับ   อายประชาชนคนหล่ออย่างผมสักนิดเถอะครับ
หล่อขอร้อง

เป็นการหลอกลวงประชาชนนะครับ
ไหนพวกท่านว่าต้องเคารพประชาชน

ตอนลงประชามติบอกว่าขอมีอำนาจร่วมโหวตเลือกนายกฯ
แต่พอประชามติผ่าน  จะมาบอกว่ามีอำนาจเสนอชื่อได้

น่าอายนะครับ



หรือเมืองไทยมีมาตรฐานทางการตีความกฎหมายแบบตามใจผู้มีอำนาจไปแล้ว ?

อย่างมาตรา 68  รัฐธรรมนูญ 50   ที่บัญญัติไว้ชัด
ว่าการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุด
แต่ก็มีการตีความว่าจะยื่นผ่านอัยการสูงสุด หรือยื่นต่อศาล รธน. โดยตรงเลยก็ได้  เพื่อเป้าหมายทางการเมือง

เล่นเอาตัวบทกฎหมาย  เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญไม่มีความหมาย
ขึ้นกับความต้องการของผู้มีอำนาจในการใช้กฎหมายไปซะ





ท่าน สนช. ครับ  ก่อนการเลือกตั้ง  พวกท่านก็ลาออกจาก สนช. แน่ ๆ
เพื่อรอรับการแต่งตั้งเป็น ส.ว. สรรหา

การออกมาตะแบง  ขอมีอำนาจในการเสนอชื่อนายกฯ นี่
ประชาชนเขาจะมองนะครับ  ว่าพวกท่านกำลังเล่นบท "พลอยพยัก"  ให้เข้าตากรรมการ

จะได้ไม่พลาดตำแหน่ง ส.ว. แต่งตั้ง



อายสักนิดเถอะครับ