บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๑๘)

ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณริมแม่โขง, คุณ หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ CAN LIVE, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณจูน กานต์จิรา, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค, คุณดาว Lady Star 919, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ

บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑  http://pantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓  http://pantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔  http://pantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕  http://pantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖  http://pantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗  http://pantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘  http://pantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙  http://pantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐ http://pantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑ http://pantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒ http://pantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓ http://pantip.com/topic/35437896
บทที่ ๑๔ http://pantip.com/topic/35447627
บทที่ ๑๕ http://pantip.com/topic/35454229
บทที่ ๑๖ http://pantip.com/topic/35460996
บทที่ ๑๗ http://pantip.com/topic/35467701


บทที่ ๑๘



    “กริชแน่ะ เอาไปเป็นเพื่อนอีกสักคน เรื่องเข้าสวนเข้าไร่ล่ะก็ เจ้ากริชถนัดนัก ถ้าวันไหนหายไปนาน โน่น…ไปตามหาในสวนโน่นแหละ” เสียงพูดถึงเด็กชายซึ่งกำลังยืดตัวทำให้ร่างกายดูผอมเก้งก้างนั้นบ่งบอกถึงความเอ็นดูชัดแจ้ง

    คนถูกพูดถึงนั่งพับเพียบสงบเสงี่ยมอยู่หน้าบันไดขึ้นระเบียง หน้าก้มต่ำคอยรับคำสั่ง ไอรีนเหลียวหลังไปดู ก็พอดีสบนัยน์ตาอ่อนโยนซึ่งเพิ่งเงยขึ้นมองตรงมา ฝ่ายนั้นหลบวูบกลับลงหาพื้นไม้ดังเดิม คราวนี้ก้มงุดจนศีรษะแทบติดพื้นเลยทีเดียว

    “มีงานอะไรต้องทำให้เสร็จเสียก่อนรึเปล่าล่ะฮึ กริช”

    บ้านหลังนี้มีเด็กอยู่หลายคน มีทั้งเด็กซึ่งเป็นลูกบ่าว และเด็กซึ่งเป็นลูกหลานทางฝ่ายคุณหญิงละออ เด็กทุกคนได้รับมอบหมายหน้าที่เล็กๆ  น้อยๆให้ทำกันคนละอย่างสองอย่าง เด็กผู้ชายคนนี้ต่างจากเด็กคนอื่นตรงที่ว่าเป็นหลานทางฝ่ายเจ้าคุณทหาร ไม่ใช่ทางฝ่ายคุณหญิง จึงมักโดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆ

    ศีรษะได้รูปสวยเงยกลับขึ้นนิดหนึ่ง หากก็ยังคงก้มหน้าก้มตาดูพื้นอยู่เช่นเดิม ตอบไม่ค่อยเต็มเสียงสักเท่าไรนัก

    “กระผมรดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วขอรับ”

    "เวลาพูดกับผู้ใหญ่น่ะ เงยหน้าพูด อย่าหลบหน้าหลบตาอย่างนั้น เคยสอน จำไม่ได้แล้วรึ" คุณหญิงสูงวัยผู้ใจดีเอ่ยเตือนมากกว่าตำหนิ

    นัยน์ตาแจ่มใส อ่อนโยน ล้อมกรอบด้วยขนตายาว เรียงเส้นอ่อนหยับราวอิสตรี กลับเงยขึ้นอีกครั้ง ตาคู่เดียวกันนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นกำลังใจให้ไอรีนได้อย่างน่าประหลาด ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเองอาจไม่รู้เสียด้วยซ้ำ

    บ่ายจัดวันนั้นขณะกำลังวุ่นอยู่ในเรือนครัวเพื่อทำของว่างเลี้ยงนายทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของสามี บ่าววัยสาวซึ่งเป็นต้นห้องของคุณวิไลเข้ามาบอกว่า

    "คุณวิไลให้คุณนายขึ้นไปหาเจ้าค่ะ"

    ไอรีนหนาวเยือกตลอดสันหลังเมื่อได้ยินชื่อนั้น นับแต่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็หลายวันเข้านี่แล้ว ยังไม่เคยปะหน้าน้องสาวของสามีแบบจังๆ เช่นคืนแรกอีกเลย บ่อยครั้งที่คิดว่าควรเป็นฝ่ายทำความรู้จักก่อนในฐานที่อ่อนวัยกว่า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าสักที อีกอย่างคุณวิไลไม่ออกจากห้องมาให้เห็นเลย จึงตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าควรทำอย่างไร ไม่แน่ใจว่าควรขอเข้าไปพบในห้องดีหรือไม่ ว่าไปแล้วรามเองก็ไม่เคยแนะนำให้รู้จักใครอื่นซึ่งอยู่ร่วมบ้าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอที่จะทำความรู้จักใครต่อใครเอาเอง เขาถือว่าเธอเข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาของเขา เป็นหน้าที่ของคนอื่นซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ที่จะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเธอเอง

    ว่าไปแล้วนั่นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากเย็นอะไร คนสำคัญที่ไอรีนสมควรรู้จักและฝากเนื้อฝากตัว ก็ได้พบและรู้จักหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงผู้เป็นแม่สามี หรือคุณกนก ซึ่งรามเรียกน้า ในความรู้สึกของเธอ สองคนนี้เท่านั้นที่เป็นคนสำคัญในบ้าน ส่วนบ่าวไพร่และเด็กๆ เมื่ออยู่ไปนานวันเข้าก็ค่อยๆ รู้ชื่อทีละคนสองคน

    คนหนึ่งซึ่งไอรีนเห็นว่ามีความสำคัญอยู่พอสมควร...ในฐานะที่เป็นน้องของสามี...คือคุณวิไล แต่หล่อนก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันกับใครเขาเลย จึงได้ปล่อยเลยตามเลยมาเสียนานวัน

    อันที่จริงแล้วเธอก็ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ เองด้วย ใบหน้าซึ่งไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยนั้นทำให้ขยาดได้ทุกครั้งที่คิดจะเข้าไปหา อีกอย่างก็ค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าเข้าไปหาคุณวิไลในห้องส่วนตัว คงต้องไปเจอผู้หญิงคนนั้นด้วย นั่นยิ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ยืดการเผชิญหน้าออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

    คุณกนกซึ่งกำลังปรุงแกงไก่หม้อใหญ่อยู่บนเตาเหลียวขวับมามองคนพูด สีหน้าซึ่งปกติเรียบเฉยอยู่เป็นนิตย์คราวนี้บึ้งตึงจนดูน่ากลัว หากก็ไม่ได้เอ่ยปากคัดค้านอะไรอย่างที่ไอรีนหวัง จึงจำต้องวางมือจากแป้งซึ่งกำลังนวดเพื่อทำแป้งสิบ ล้างมือกับน้ำสะอาดในอ่างข้างตัว ขยับลุกจากยกพื้น แล้วตามบ่าวของคุณวิไลออกไปแต่โดยดี

    หญิงสาวคนที่นั่งเป็นสง่าอยู่บนพรมหนานุ่มสวมเสื้อแพรสีปูนแห้ง ขับผิวขาวนวลราวแตงร่มใบให้ดูซีดเซียวกว่าปกติ ซิ่นไหมยกเชิงลายดอกเป็นสีเดียวกัน ใบหน้าซึ่งโดดเด่นด้วยผมทรงชิงเกิ้ลตามสมัยนิยมปั้นปึ่งจนคนเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูเข่าอ่อน บ่าวสาวซึ่งนำขึ้นมายอบตัวหลีกทางให้เข้าไปก่อน

    ไอรีนก้าวพ้นธรณีประตูแล้วลงคุกเข่า คลานเข้าไปจนถึงขอบพรม ก่อนลงนั่งพับเพียบ ประนมมือขึ้นไหว้ผู้ซึ่งนั่งวางท่าสง่า ตัวเอนน้อยๆ อิงหมอนขวาน จากหางตาสาวน้อยสังเกตเห็น 'ผู้หญิงคนนั้น' กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่หน้าตั่งเตี้ยๆ แต่เมื่อไม่อยากหันไปมอง จึงไม่รู้ว่าทำอะไร

    วิไลไม่แสดงท่าทีรับรู้การแสดงความเคารพนั้น ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนซึ่งตัวเรียกให้ขึ้นมาหาได้มาถึงแล้ว และกำลังนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ตรงหน้า หล่อนยังคงพลิกดูนิตยสารซึ่งกางอยู่บนพรมอย่างสนอกสนใจ

    เมื่ออึดอัดเต็มที ไอรีนจึงจำต้องส่งเสียงให้รู้

    "เวียงลงไปบอกว่าคุณวิไลต้องการพบดิฉัน"

    ความเงียบในห้องทำให้รู้สึกว่าเสียงที่พูดออกไปฟังดูเหมือนดังผิดปกติ การแสดงออกราวกับเธอเป็นอากาศธาตุเช่นนั้นทำให้ประหวั่นพรั่นพรึง...ราวเด็กเล็กๆ ที่ทำความผิดร้ายแรงแล้วมานั่งคอยฟังผู้ใหญ่กำหนดบทลงโทษ คิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรต่อไปในเมื่อฝ่ายนั้นยังไม่แสดงอากัปกิริยาใดๆ ว่ารับรู้ จะมองไปทางซ้ายซึ่งผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ก็ยิ่งไม่อยากทำ ไม่อยากเห็นใบหน้าซึ่งคอยเตือนความจำว่าหล่อนเคยเป็นอะไรของสามีมาก่อน ทั้งที่รู้ว่าหล่อนกำลังจ้องมองไม่วาง

    นานทีเดียวกว่าเจ้าของห้องจะละสายตาจากรูปวาดแบบเสื้อผ้าทันสมัยในนิตยสารฝรั่ง แล้วเงยหน้าขึ้นมอง สายตาเย็นชาพินิจพิจารณาใบหน้าอ่อนละมุนของคนซึ่งตัวเรียกให้มาพบ ขัดใจอยู่ลึกๆ กับเครื่องหน้าบอบบาง ตาสีน้ำตาลกลมโตใสแจ๋ว จมูกเล็กๆ โด่งงาม ริมฝีปากดูนุ่มละมุน ผิวแก้มบางใสนวลเนียนออกชมพูแผ่วจาง ไม่ว่าจะพิศส่วนใดก็หมดจดงดงามไปเสียหมด ไม่เพียงเท่านั้น ยังผุดผาดไปทั้งเนื้อทั้งตัว อดคิดไม่ได้ว่าอย่างนี้นี่เล่าพี่ชายจึงได้หลงใหลเสียนักหนา

    วิไลสะกดกลั้นความความขุ่นมัวในหัวอกอย่างลำบากยากเย็น

    "ถ้าไม่ให้บ่าวไปตาม ก็คงไม่โผล่หน้ามาให้เห็นสินะ" จงใจใช้น้ำเสียงทั้งตำหนิ ทั้งเสียดสี เพื่อระบายความคับแค้นที่เริ่มคุกรุ่น

"ไม่มีใครเคยสอนหล่อนบ้างรึอย่างไรว่าไปอาศัยอยู่บ้านใคร ก็สมควรต้องฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าของบ้าน" เสียงที่พูดเยียบเย็นจนแทบจะทำให้คนฟังกลายเป็นน้ำแข็งได้เลยทีเดียว

    ไอรีนร้อนวูบแล้วเย็นวาบไปทั้งหน้าราวจับไข้ อ้อมๆ แอ้มๆ จะอธิบาย

    "ดิฉัน..."

    หากถูกขัดจังหวะเสียก่อนด้วยเสียงตวาด

    "ว่าไงนะ พูดดังๆ ไม่เป็นรึอย่างไร"

    สาวน้อยสะดุ้งสุดตัว ใจเต้นโครมคราม พยายามอย่างที่สุดที่จะบังคับเสียงพูดไม่ให้สั่น

    "เป็นค่ะ"  

    "เป็นก็พูดดังๆ" เสียงตำหนิทรงอำนาจ สายตาชิงชังไม่ละจากใบหน้าเผือดสีของอีกฝ่าย "หล่อนรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร"

    "ทราบค่ะ"

    "หล่อนรู้ว่าฉันเป็นใคร"

    ริมฝีปากบอบบางของคนถูกถามสั่นระริก เสียงตอบตะกุกตะกัก ทั้งเกรงกลัว ทั้งอับอายคนอื่นซึ่งนั่งฟังอยู่รอบด้าน

    "คุณวิไลเป็นน้องสาวของคุณรามค่ะ"

    "เมื่อรู้ก็ดีแล้ว"  

    เพียงเท่านั้นเอง น้องสาวต่างมารดาของรามลดสายตาลงดูนิตยสารบนพื้นพรมต่อ ไม่ให้ความสนใจคนซึ่งเรียกขึ้นมาทั้งเพื่อข่มขู่และเยาะเย้ยอีกต่อไป ราวร่างน้อยๆ ซึ่งห่อเหี่ยวลงตรงหน้านั้นเลือนหายไปจากสายตาเรียบร้อยแล้ว

    ไอรีนก้มหน้าดูพื้นห้อง กลั้นน้ำตาอย่างสุดความสามารถ คิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรต่อไป อยากจะออกไปจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็ยังไม่กล้าเมื่อยังไม่ได้รับอนุญาต

    จนเสียงตวาดดังขึ้นอีก

    "มีอะไรอีก"

    ร่างน้อยๆ ผวา เงยหน้ากลับขึ้นมองคนพูด งุนงงต่อคำถามนั้น พึมพำคำตอบอย่างไม่เข้าอกเข้าใจ

    "ไม่มีค่ะ"

    "ไม่มีแล้วยังนั่งเสนอหน้าอยู่อีกทำไม ไปได้แล้ว"

    สาวน้อยรีบประนมมือไหว้เพื่อบอกลา แล้วถอยหลัง คลานกลับออกไปจากห้อง

    บันไดลงชั้นล่างพร่าเลือนเมื่อน้ำตาเอ่อท้น ใช้หลังมือปาดลวกๆ แล้วก้าวยาวๆ ออกประตูหลัง ก้มหน้าก้มตาลงบันไดตึกอย่างเสียขวัญ

    พอเงยหน้าขึ้นมองทางเพื่อจะกลับเรือนครัว ก็ประสบเข้ากับนัยน์ตาคู่หนึ่งซึ่งกำลังมองมาพอดิบพอดี นัยน์ตาคู่นั้นอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ และสะท้อนความห่วงใยเต็มเปี่ยม

    ไอรีนไม่แน่ใจว่านั่นเป็นความคิดของตัวเพื่อปลอบใจตัวเอง หรือเป็นจริงเช่นนั้น รู้แต่เพียงว่าสายตาที่เป็นมิตรแบบนั้นทำให้เต็มตื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ในท่ามกลางความแห้งแล้งว้าเหว่ราวเพิ่งเดินผ่านทะเลทราย นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่เธอต้องการ

    พอรู้สึกตัว ร่างผอมเก้งก้างก็ทรุดลงคุกเข่ากับพื้นหญ้า ไอรีนยิ้มให้ทั้งน้ำตา กำลังใจมาเป็นกอง เด็กชายยิ้มตอบ แล้วหลบสายตาลงดูพื้นหญ้าเสีย

    คุณกนกไม่อยู่เสียแล้วเมื่อสาวน้อยกลับไปถึงเรือนครัว นางไวกำลังปั้นแป้งสิบ นางมองนายสาวอย่างไม่สบายใจนัก แต่ก็ไม่กล้าถามว่าถูกเรียกตัวขึ้นไปด้วยเรื่องอะไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่