...................................................................
... เขามีรูปกายงดงาม ฝีมือเก่งกาจเหนือใคร อีกทั้งได้รับพลังจากของวิเศษจนมีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนทั่วแผ่นดินกลับเรียกหาเขาเป็นจอมมาร หากชีวิตนับพันปีของเขาช่างไร้ความหมาย จนกระทั่ง..วันหนึ่งประตูมิติเปิดกว้าง ส่งเธอมาหล่นตุ๊บลงตรงหน้า ..
...................................................................
(◕ᴗ◕✿) ตำนานรักท่านจอมมาร (◕ᴗ◕✿)
- P3-
พันธะสัญญาจอมมาร
(◡‿◡✿) (◠‿◠✿) (◡‿◡✿) (◠‿◠✿) (◡‿◡✿) (◠‿◠✿)
“ อ้ายหยู...ข้าจำได้แล้ว เจ้าก็คือเด็กผู้หญิงน้อยคนนั้น ใช่ไหม ? “
น้ำเสียง…เข้มแข็งและทรงพลังอำนาจ หากแต่ยังเปี่ยมด้วยความรักความคะนึงหา
นั่นเป็นเสียงปีศาจจริงหรือ ?
คราวนี้หลี่จื่อเสียะชักเริ่มลังเลไม่แน่ใจ ปีศาจที่ไหนจะมีน้ำเสียงที่อันอบอุ่นและอ่อนโยนปานนี้ ?
หรือว่าเมื่อสักครู่เขาตาฝาด ร่างตะคุ่มสีดำร่างนั้น อาจจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่เป็นผู้ติดตามของเถ้าแก่หลี่ก็ได้ ชายฉกรรจ์พวกนั้นก็ล้วนแต่งกายด้วยสูทสีดำด้วยนี่นา
เด็กชายปลุกปลอบกำลังใจ ค่อยๆเยี่ยมหน้าโผล่ออกมาจากหลังโขดหิน เพื่อมองภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง ลำธารในส่วนนี้ดูเหมือนจะคอดแคบกว่าบริเวณอื่น มีความกว้างเพียงแค่สี่ห้าวา ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นคนผู้นั้นได้อย่างชัดตา
ร่างนั้นสูงตระหง่านอกผึ่งผายลำตรงตั้ง แขนขายาวไหล่บ่ากว้าง ผมสีดำเหยียดยาวสยายลงประแผ่นหลัง คาดรัดศีรษะไว้ด้วยแถบศิราภรณ์สีทอง อาภรณ์ยาวรุ่มร่ามแบบโบราณสีดำสนิทดั่งรัตติกาล มีเข็มขัดสลักลวดลายเป็นเกล็ดเหลืองอร่าม ดูไปคล้ายมังกรทองขดอยู่รอบเอว ขับเน้นให้ยิ่งดูสมส่วนงดงามสมชายชาติอาชาไนย บวกกับบุคลิกท่วงท่างามสง่าและเข้มแข็งดั่งนักรบแห่งเทพก็ไม่ปาน ทำให้เด็กชายอดยกมื้อขยี้ตาเบาๆไม่ได้ ถามตนเองในใจ
โลกนี้ยังมีปีศาจที่งามสง่าปานนี้หรือ ?
หากบอกว่านั่นหรือเทพเจ้าหรือเซียนวิเศษเหินจากฟ้าลงมาเยือนโลกหล้า กลับจะน่าเชื่อถือมากกว่า !
อีกฝ่ายแม้เพียงยืนผินหลังให้ ทั่วทั้งร่างก็ยังแผ่ประกายรังสีสะกดข่มสรรพชีวิตทั่วหล้าให้รู้สึกยอมสยบศิโรราบ ในใจของเด็กน้อยพลันบังเกิดความเลื่อมใสเขาขึ้นมาอย่างประหลาด ความหวาดกลัวต่างๆจางหายจากหัวใจไปราวปลิดทิ้ง หากที่เข้ามาแทนคือความรู้สึกเคารพและยำเกรง
จิตใจที่สงบลงทำให้เด็กชายค่อยสังเกตเห็นร่างเล็กๆอีกร่าง ซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนแผ่นหินเบื้องหน้าของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่อาจเห็นร่างนั้นได้ชัด แต่จากเสื้อผ้าชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน และรองเท้าหนังอย่างดีสีแดงซึ่งหุ้มสูงเกือบครึ่งน่องคู่นั้น หลี่จื่อเสียะก็จำได้ในทันที
คุณหนูไอดาเลีย !
เด็กหญิงนอนนิ่งราวกับไม่รู้สึกตัว เกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วบุรุษลึกลับในอาภรณ์ยาวสีดำผู้นั้นจะทำร้ายเธอหรือไม่ ?
แต่ดูเหมือนจะไม่ !
คำตอบราวกับวาบเข้ามาในความคิดของเด็กชายอย่างรวดเร็ว เมื่อแลเห็นร่างสูงผู้นั้นยอบกายลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้น แขนข้างหนึ่งยื่นออกไปช้อนประคองลำตัวท่อนบนของเธอขึ้นมาพาดให้เอนพิงกับเข่าข้างที่ตั้งชันกับพื้นอย่างทนุถนอม มืออีกข้างซึ่งถือผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ค่อยๆซับไปบนใบหน้างามน่ารัก ซอกคอและแขนของเธออย่างเบามือ
“ อ้ายหยู.. ตอนนั้น..เจ้าคงไปพบข้าครั้งแรกในสภาพนี้สินะ เสียดายเหลือเกินที่ข้าไม่รู้ว่าเป็นเจ้า มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือ อ้ายหยูที่รักของข้า.. หรือเพราะเป็นแบบนี้ หรือว่าเพราะเวลานี้.. เจ้ากำลังไปพบข้าในตอนนั้นอยู่ใช่ไหม? ”
อีกฝ่ายสนทนากับร่างเล็กไร้สติสัมปชัญญะในวงแขนด้วยประโยคอันสับสน หลี่จื่อเสียะรับฟังจนสมองมึนงง ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแม้แต่น้อย ใครกันคือ
“อ้ายหยู” หรือว่านั่นเป็นชื่อจีนของคุณหนู งั้นก็นับว่าเขาเพิ่งรู้จริงๆ ไม่เคยได้ยินมีใครบอกเลย
เพียงแต่มีบางสิ่งที่เด็กชายรู้สึกว่ามันแปลกพิกล ท่าทีที่บุรุษลึกลับผู้นั้นปฏิบัติต่อคุณหนุไอดาเลีย ไฉนช่างดูคล้ายอากัปกิริยาที่บุรุษหนึ่งปฏิบัติตัวต่อหญิงที่ตนรักสุดหัวใจก็ไม่ปาน เพียงแต่ในอ้อมแขนนั่นเป็นเพียงเด็กหญิงวัยหกเจ็ดขวบเท่านั้น ไม่ได้การ..หรือว่าคนผู้นั้นเป็นพวกจิตวิตถาร ?
ความคิดนี้พออุบัติ ความรู้สึกเคารพเลื่อมใสต่ออีกฝ่ายในตอนแรก ก็ค่อยๆเจือจางลง เห็นคนผู้นั้นวางผ้าเช็ดหน้าในมือลงข้างๆกาย จากนั้นยื่นปลายนิ้วเรียวยาวขาวละอียดประดุจหยกเนื้อดี ค่อยๆไล้ลูบเบาๆไปบนกรอบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อย พลางทอดถอนใจกล่าวอย่างสะทกสะท้อน
“ ที่รักของข้า ไฉนเจ้าช่างดูอ่อนแอและบอบบางน่าเวทนาอะไรขนาดนี้ รู้ไหม ใจข้าอยากปกป้องดูแลอยู่ข้างกายเจ้านับตั้งแต่วินาทีนี้เลย เพียงแต่ข้ายังไม่สามารถอยู่กับเจ้า ณ กาลเวลานี้ได้ รอนะ..อีกสิบสี่ปีเท่านั้น อีกสิบสี่ปีแล้วเราจะได้เจอกัน แล้วตอนนั้นข้าจะไปอยู่เคียงข้างเจ้า ไปทุกลมหายใจเข้าออกของเจ้า รอข้านะอ้ายหยู โปรดจงรับรู้ไว้..ทุกอย่างข้าล้วนทำเพื่อเจ้า เพื่อเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น.. อ้ายหยู ! ”
สองสามประโยคตอนท้าย โน้มศีรษะลงใกล้ร่างน้อยในวงแขน ลดเสียงเบาราวกระซิบบอกเบาๆที่ข้างหูของเธอ
หลี่จื่อเสียะแอบมองอยู่ถึงตรงนี้ ก็รู้สึกทนทานไม่ได้อีกต่อไป บุรุษรูปงามจิตวิตถารผู้นั้น กำลังจะลวนลามคุณหนูของเขาแล้วหรือ ช่างน่าอับอายยิ่งนัก เสียทีที่หลงชื่นชมในตอนแรก ไม่ว่าจะเทพหรือปีศาจแต่หากมาทำเรื่องราวบัดสีแบบนี้กับเด็กหญิงตัวเล็กๆที่น่าสงสารผู้นั้น เขารู้สึกยอมไม่ได้จริงๆ
ความโกรธที่ปิดงำความกลัวเกรงไปชั่วคราว เด็กชายผุดลุกขึ้นตวาดก้องอย่างลืมตัว
“ เฮ้ย.. หยุดนะ ห้ามแกทำแบบนั้นกับเธอ ! “
ในเสียงร้องมือขวาคว้าก้อนหินกำถนัดมือก้อนหนึ่ง ขว้างซัดออกไปหมายเล็งใส่กลางหลังของอีกฝ่าย การซัดหินเข้าใส่เป้าเป็นเกมที่เขาถนัด เวลาเล่นแข่งขันกับเด็กๆในหมู่บ้านเขามักคว้าชัยชนะเสมอ ฝีมือการซัดก้อนหินของเขาจัดอยู่ในระดับแม่นยำ ยิ่งระยะสี่ห้าวาแบบนี้เรียกว่าแทบไม่เคยพลาด
เวลานี้เขาก็มั่นใจว่าไม่พลาดเป้า เพียงแต่รอบกายของฝ่ายตรงข้ามราวกับมีปราการปกป้องไร้สภาพชนิดหนึ่ง หินก้อนนั้นพอพุ่งเข้าไปใกล้ในระยะหนึ่งก้าว ก็ถูกปราการพลังกลุ่มนั้นกระแทกใส่จนกระดอนกลับ แล้วเหินพุ่งเข้าหาคนขว้างแทน
เด็กชายใจหายวาบ ยามคับขันฉุกละหุก รีบเบี่ยงกายหลบ ทว่าถึงแม้สามารถหลบหินก้อนนั้นได้ แต่ก็เสียหลักร่วงตกลงจากโขดหิน หล่นตูมลงในลำธาร
ยังดีที่ธารนั้นสายนี้ลึกแค่สะเอวของเขา จึงสามารถยันตัวเองขึ้นจากน้ำ หยัดยืนกลางลำธาร ยกมือขึ้นลูบน้ำบนใบหน้าพลางมองขึ้นไปบนฝั่ง เห็นคุณหนูไอดาเลียยังคงนอนราบอยู่บนแผ่นหิน ส่วนบุรุษลึกลับชุดดำมิทราบไปไหนเสียแล้ว
เด็กชายเพิ่งงงงันวูบ พลันรู้สึกถึงมือเรียวใหญ่ที่ข้างแข็งและเย็นยะเยียบดุจคีมน้ำแข็ง ยื่นปราดตะปบอยู่บนต้นคอ พร้อมกับสุมเสียงกระด้างเย็นชา
“ เด็กน้อยช่างไม่รู้จักที่ตาย กล้าลงมือลอบทำร้ายคนรึ ? ”
อีกฝ่ายเคลื่อนกายมาอยู่ข้างหลังเขาตอนไหน ไม่รู้ตัวจริงๆ ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและไร้เสียงดุจสายลม เด็กชายแม้รู้สึกหวั่นกลัวแต่ก็ไม่ลนลานอีกต่อไป เมื่อฉุกคิดว่าไหนๆวันนี้ก็ต้องตาย งั้นก็ขอด่าเจ้าคนหรือเทพหรือปีศาจผู้นี้ให้สาสมใจสักครั้งก็แล้วกัน
“ เจ้าตัวบัดซบ ไอ้จิตวิตถาร ถ้าแกกล้าล่วงอะไรคุณหนูของฉันแม้สักขุมขน ฉันก็ขอเสี่ยงชีวิตกับแก ตายเป็นตายซีวะ ตายก็ดี ฉันจะได้เป็นปีศาจมาหลอกหลอนตามฆ่าแก ! ”
หึหึ ...!
เสียงหัวเราะในลำคอแม้ยังเย็นยะเยือก แต่รังสีแห่งความตายที่แผ่ออกมาจากร่างของอีกฝ่ายคล้ายบางเบาลง
กระทั่งสุ้มเสียงต่อไปที่เอ่ยถาม ก็ไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่เคยเป็น
“ เด็กน้อย.. เจ้าชื่ออะไร ?”
“ หลี่...จื่อเสียะ ”
“ หลี่..จื่อ..เสียะ .. ที่แท้ก็เป็นเจ้าเอง ”
อีกฝ่ายพึมพำในลำคอ..ราวกับจดจำชื่อนี้ได้ และระลึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาทำความเข้าใจอย่างช้าๆ
ที่แท้เรื่องราวมันคงเป็นเช่นนี้เองสินะ..!
“ หลี่จื่อเสียะ.. เอาเถอะ ถึงแม้สิ่งที่เจ้ากระทำเมื่อสักครู่จะมีความผิดสมควรตาย แต่เห็นแก่จิตใจที่มุ่งปกป้องอ้ายหยูของข้า ข้าจะถือว่าเป็นความดีที่เข้ามาลบล้างโทษตายได้ ..”
“ คุณ..รู้จักผมเหรอ คุณเป็นใครกันแน่ ? ”
“ ก่อนหน้านั้นข้าเป็นใครเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แต่เพียงว่าต่อแต่นี้ไป ข้าคือเจ้านายของเจ้า เป็นเจ้าของชีวิตและวิญญาณของเจ้า...จำได้ ”
“ อ่ะ..แกจะทำอะไรฉัน ? ”
มือเรียวใหญ่ขาวละเอียดที่ตะปบอยู่บนต้นคอเล็กๆ ค่อยผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะประกบนิ้วชี้นิ้วกลาง และจี้ไปบนท้ายท้อยของเด็กชาย ตวัดไปมาอย่างรวดเร็ว ปรากฏแสงสีทองเป็นตัวอักษรโบราณห้าคำ ลากยาวตั้งแต่ศีรษะจนมาถึงกลางหลัง ร่างเล็กยืนตัวแข็งทื่อไม่อาจทั้งขัดขืนหรือส่งเสียง จวบจนตัวอักษรสีทองทั้งห้าคำนั้น จมหายเข้าไปในร่างกาย เด็กน้อยค่อยสะท้านเฮือกขึ้นทั้งร่างราวกับเจ็บปวด
“ หลี่จื่อเสียะจงฟังคำสั่ง นับแต่นี้ไปเจ้าจะต้องปกป้องดูแลอ้ายหยูของข้า ด้วยชีวิตของเจ้า และห้ามเจ้าพุดบอกใครถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ .. สิบสี่ปีข้างหน้า .. หากเจ้าสามารถกระทำภารกิจนี้ได้ดี หลังจากที่ข้าเสร็จสิ้นพันธะสัญญาแล้ว อีกสิบสี่ปี ข้ารับปากจะปลดเปลื้องพันธนาการนี้ให้กับเจ้า .. เป็นรางวัล ”
กล่าวจบค่อยแบฝ่ามือออก ทาบไปกับกลางหลังของเด็กชาย แล้วแสงสีเหลืองทองวาบหนึ่ง ก็แผ่เข้าไปในร่างเล็กนั้น อาการสั่นสะท้านของทาสตัวน้อยจึงค่อยหยุดนิ่ง ก่อนจะล้มระทวยลงหมดสติไป แขนยาวแข็งแรงของผู้เป็นนายพลันยื่นออกไปรับไว้ ตวัดเบาๆไปข้างหน้า ผลักร่างเด็กชายลอยไปยังริมลำธารอีกฝั่งราวไร้น้ำหนัก แล้วใช้พลังอีกส่วนช่วยชะลอการส่งลงวางนอนไปกับพื้นอย่างนิ่มนวล
(◕ᴗ◕✿) (◕◡◕✿) (◕ᴗ◕✿) (◕◡◕✿) (◕ᴗ◕✿) (◕◡◕✿) (◕ᴗ◕✿) (◕◡◕✿)
.
(◕ᴗ◕✿) ตำนานรักท่านจอมมาร (P3-4) (◕ᴗ◕✿)
... เขามีรูปกายงดงาม ฝีมือเก่งกาจเหนือใคร อีกทั้งได้รับพลังจากของวิเศษจนมีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนทั่วแผ่นดินกลับเรียกหาเขาเป็นจอมมาร หากชีวิตนับพันปีของเขาช่างไร้ความหมาย จนกระทั่ง..วันหนึ่งประตูมิติเปิดกว้าง ส่งเธอมาหล่นตุ๊บลงตรงหน้า ..
...................................................................
“ อ้ายหยู...ข้าจำได้แล้ว เจ้าก็คือเด็กผู้หญิงน้อยคนนั้น ใช่ไหม ? “
น้ำเสียง…เข้มแข็งและทรงพลังอำนาจ หากแต่ยังเปี่ยมด้วยความรักความคะนึงหา
นั่นเป็นเสียงปีศาจจริงหรือ ?
คราวนี้หลี่จื่อเสียะชักเริ่มลังเลไม่แน่ใจ ปีศาจที่ไหนจะมีน้ำเสียงที่อันอบอุ่นและอ่อนโยนปานนี้ ?
หรือว่าเมื่อสักครู่เขาตาฝาด ร่างตะคุ่มสีดำร่างนั้น อาจจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่เป็นผู้ติดตามของเถ้าแก่หลี่ก็ได้ ชายฉกรรจ์พวกนั้นก็ล้วนแต่งกายด้วยสูทสีดำด้วยนี่นา
เด็กชายปลุกปลอบกำลังใจ ค่อยๆเยี่ยมหน้าโผล่ออกมาจากหลังโขดหิน เพื่อมองภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง ลำธารในส่วนนี้ดูเหมือนจะคอดแคบกว่าบริเวณอื่น มีความกว้างเพียงแค่สี่ห้าวา ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นคนผู้นั้นได้อย่างชัดตา
ร่างนั้นสูงตระหง่านอกผึ่งผายลำตรงตั้ง แขนขายาวไหล่บ่ากว้าง ผมสีดำเหยียดยาวสยายลงประแผ่นหลัง คาดรัดศีรษะไว้ด้วยแถบศิราภรณ์สีทอง อาภรณ์ยาวรุ่มร่ามแบบโบราณสีดำสนิทดั่งรัตติกาล มีเข็มขัดสลักลวดลายเป็นเกล็ดเหลืองอร่าม ดูไปคล้ายมังกรทองขดอยู่รอบเอว ขับเน้นให้ยิ่งดูสมส่วนงดงามสมชายชาติอาชาไนย บวกกับบุคลิกท่วงท่างามสง่าและเข้มแข็งดั่งนักรบแห่งเทพก็ไม่ปาน ทำให้เด็กชายอดยกมื้อขยี้ตาเบาๆไม่ได้ ถามตนเองในใจ
โลกนี้ยังมีปีศาจที่งามสง่าปานนี้หรือ ?
หากบอกว่านั่นหรือเทพเจ้าหรือเซียนวิเศษเหินจากฟ้าลงมาเยือนโลกหล้า กลับจะน่าเชื่อถือมากกว่า !
อีกฝ่ายแม้เพียงยืนผินหลังให้ ทั่วทั้งร่างก็ยังแผ่ประกายรังสีสะกดข่มสรรพชีวิตทั่วหล้าให้รู้สึกยอมสยบศิโรราบ ในใจของเด็กน้อยพลันบังเกิดความเลื่อมใสเขาขึ้นมาอย่างประหลาด ความหวาดกลัวต่างๆจางหายจากหัวใจไปราวปลิดทิ้ง หากที่เข้ามาแทนคือความรู้สึกเคารพและยำเกรง
จิตใจที่สงบลงทำให้เด็กชายค่อยสังเกตเห็นร่างเล็กๆอีกร่าง ซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนแผ่นหินเบื้องหน้าของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่อาจเห็นร่างนั้นได้ชัด แต่จากเสื้อผ้าชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน และรองเท้าหนังอย่างดีสีแดงซึ่งหุ้มสูงเกือบครึ่งน่องคู่นั้น หลี่จื่อเสียะก็จำได้ในทันที
คุณหนูไอดาเลีย !
เด็กหญิงนอนนิ่งราวกับไม่รู้สึกตัว เกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วบุรุษลึกลับในอาภรณ์ยาวสีดำผู้นั้นจะทำร้ายเธอหรือไม่ ?
แต่ดูเหมือนจะไม่ !
คำตอบราวกับวาบเข้ามาในความคิดของเด็กชายอย่างรวดเร็ว เมื่อแลเห็นร่างสูงผู้นั้นยอบกายลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้น แขนข้างหนึ่งยื่นออกไปช้อนประคองลำตัวท่อนบนของเธอขึ้นมาพาดให้เอนพิงกับเข่าข้างที่ตั้งชันกับพื้นอย่างทนุถนอม มืออีกข้างซึ่งถือผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ค่อยๆซับไปบนใบหน้างามน่ารัก ซอกคอและแขนของเธออย่างเบามือ
“ อ้ายหยู.. ตอนนั้น..เจ้าคงไปพบข้าครั้งแรกในสภาพนี้สินะ เสียดายเหลือเกินที่ข้าไม่รู้ว่าเป็นเจ้า มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือ อ้ายหยูที่รักของข้า.. หรือเพราะเป็นแบบนี้ หรือว่าเพราะเวลานี้.. เจ้ากำลังไปพบข้าในตอนนั้นอยู่ใช่ไหม? ”
อีกฝ่ายสนทนากับร่างเล็กไร้สติสัมปชัญญะในวงแขนด้วยประโยคอันสับสน หลี่จื่อเสียะรับฟังจนสมองมึนงง ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแม้แต่น้อย ใครกันคือ “อ้ายหยู” หรือว่านั่นเป็นชื่อจีนของคุณหนู งั้นก็นับว่าเขาเพิ่งรู้จริงๆ ไม่เคยได้ยินมีใครบอกเลย
เพียงแต่มีบางสิ่งที่เด็กชายรู้สึกว่ามันแปลกพิกล ท่าทีที่บุรุษลึกลับผู้นั้นปฏิบัติต่อคุณหนุไอดาเลีย ไฉนช่างดูคล้ายอากัปกิริยาที่บุรุษหนึ่งปฏิบัติตัวต่อหญิงที่ตนรักสุดหัวใจก็ไม่ปาน เพียงแต่ในอ้อมแขนนั่นเป็นเพียงเด็กหญิงวัยหกเจ็ดขวบเท่านั้น ไม่ได้การ..หรือว่าคนผู้นั้นเป็นพวกจิตวิตถาร ?
ความคิดนี้พออุบัติ ความรู้สึกเคารพเลื่อมใสต่ออีกฝ่ายในตอนแรก ก็ค่อยๆเจือจางลง เห็นคนผู้นั้นวางผ้าเช็ดหน้าในมือลงข้างๆกาย จากนั้นยื่นปลายนิ้วเรียวยาวขาวละอียดประดุจหยกเนื้อดี ค่อยๆไล้ลูบเบาๆไปบนกรอบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อย พลางทอดถอนใจกล่าวอย่างสะทกสะท้อน
“ ที่รักของข้า ไฉนเจ้าช่างดูอ่อนแอและบอบบางน่าเวทนาอะไรขนาดนี้ รู้ไหม ใจข้าอยากปกป้องดูแลอยู่ข้างกายเจ้านับตั้งแต่วินาทีนี้เลย เพียงแต่ข้ายังไม่สามารถอยู่กับเจ้า ณ กาลเวลานี้ได้ รอนะ..อีกสิบสี่ปีเท่านั้น อีกสิบสี่ปีแล้วเราจะได้เจอกัน แล้วตอนนั้นข้าจะไปอยู่เคียงข้างเจ้า ไปทุกลมหายใจเข้าออกของเจ้า รอข้านะอ้ายหยู โปรดจงรับรู้ไว้..ทุกอย่างข้าล้วนทำเพื่อเจ้า เพื่อเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น.. อ้ายหยู ! ”
สองสามประโยคตอนท้าย โน้มศีรษะลงใกล้ร่างน้อยในวงแขน ลดเสียงเบาราวกระซิบบอกเบาๆที่ข้างหูของเธอ
หลี่จื่อเสียะแอบมองอยู่ถึงตรงนี้ ก็รู้สึกทนทานไม่ได้อีกต่อไป บุรุษรูปงามจิตวิตถารผู้นั้น กำลังจะลวนลามคุณหนูของเขาแล้วหรือ ช่างน่าอับอายยิ่งนัก เสียทีที่หลงชื่นชมในตอนแรก ไม่ว่าจะเทพหรือปีศาจแต่หากมาทำเรื่องราวบัดสีแบบนี้กับเด็กหญิงตัวเล็กๆที่น่าสงสารผู้นั้น เขารู้สึกยอมไม่ได้จริงๆ
ความโกรธที่ปิดงำความกลัวเกรงไปชั่วคราว เด็กชายผุดลุกขึ้นตวาดก้องอย่างลืมตัว
“ เฮ้ย.. หยุดนะ ห้ามแกทำแบบนั้นกับเธอ ! “
ในเสียงร้องมือขวาคว้าก้อนหินกำถนัดมือก้อนหนึ่ง ขว้างซัดออกไปหมายเล็งใส่กลางหลังของอีกฝ่าย การซัดหินเข้าใส่เป้าเป็นเกมที่เขาถนัด เวลาเล่นแข่งขันกับเด็กๆในหมู่บ้านเขามักคว้าชัยชนะเสมอ ฝีมือการซัดก้อนหินของเขาจัดอยู่ในระดับแม่นยำ ยิ่งระยะสี่ห้าวาแบบนี้เรียกว่าแทบไม่เคยพลาด
เวลานี้เขาก็มั่นใจว่าไม่พลาดเป้า เพียงแต่รอบกายของฝ่ายตรงข้ามราวกับมีปราการปกป้องไร้สภาพชนิดหนึ่ง หินก้อนนั้นพอพุ่งเข้าไปใกล้ในระยะหนึ่งก้าว ก็ถูกปราการพลังกลุ่มนั้นกระแทกใส่จนกระดอนกลับ แล้วเหินพุ่งเข้าหาคนขว้างแทน
เด็กชายใจหายวาบ ยามคับขันฉุกละหุก รีบเบี่ยงกายหลบ ทว่าถึงแม้สามารถหลบหินก้อนนั้นได้ แต่ก็เสียหลักร่วงตกลงจากโขดหิน หล่นตูมลงในลำธาร
ยังดีที่ธารนั้นสายนี้ลึกแค่สะเอวของเขา จึงสามารถยันตัวเองขึ้นจากน้ำ หยัดยืนกลางลำธาร ยกมือขึ้นลูบน้ำบนใบหน้าพลางมองขึ้นไปบนฝั่ง เห็นคุณหนูไอดาเลียยังคงนอนราบอยู่บนแผ่นหิน ส่วนบุรุษลึกลับชุดดำมิทราบไปไหนเสียแล้ว
เด็กชายเพิ่งงงงันวูบ พลันรู้สึกถึงมือเรียวใหญ่ที่ข้างแข็งและเย็นยะเยียบดุจคีมน้ำแข็ง ยื่นปราดตะปบอยู่บนต้นคอ พร้อมกับสุมเสียงกระด้างเย็นชา
“ เด็กน้อยช่างไม่รู้จักที่ตาย กล้าลงมือลอบทำร้ายคนรึ ? ”
อีกฝ่ายเคลื่อนกายมาอยู่ข้างหลังเขาตอนไหน ไม่รู้ตัวจริงๆ ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและไร้เสียงดุจสายลม เด็กชายแม้รู้สึกหวั่นกลัวแต่ก็ไม่ลนลานอีกต่อไป เมื่อฉุกคิดว่าไหนๆวันนี้ก็ต้องตาย งั้นก็ขอด่าเจ้าคนหรือเทพหรือปีศาจผู้นี้ให้สาสมใจสักครั้งก็แล้วกัน
“ เจ้าตัวบัดซบ ไอ้จิตวิตถาร ถ้าแกกล้าล่วงอะไรคุณหนูของฉันแม้สักขุมขน ฉันก็ขอเสี่ยงชีวิตกับแก ตายเป็นตายซีวะ ตายก็ดี ฉันจะได้เป็นปีศาจมาหลอกหลอนตามฆ่าแก ! ”
หึหึ ...!
เสียงหัวเราะในลำคอแม้ยังเย็นยะเยือก แต่รังสีแห่งความตายที่แผ่ออกมาจากร่างของอีกฝ่ายคล้ายบางเบาลง
กระทั่งสุ้มเสียงต่อไปที่เอ่ยถาม ก็ไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่เคยเป็น
“ เด็กน้อย.. เจ้าชื่ออะไร ?”
“ หลี่...จื่อเสียะ ”
“ หลี่..จื่อ..เสียะ .. ที่แท้ก็เป็นเจ้าเอง ”
อีกฝ่ายพึมพำในลำคอ..ราวกับจดจำชื่อนี้ได้ และระลึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาทำความเข้าใจอย่างช้าๆ
ที่แท้เรื่องราวมันคงเป็นเช่นนี้เองสินะ..!
“ หลี่จื่อเสียะ.. เอาเถอะ ถึงแม้สิ่งที่เจ้ากระทำเมื่อสักครู่จะมีความผิดสมควรตาย แต่เห็นแก่จิตใจที่มุ่งปกป้องอ้ายหยูของข้า ข้าจะถือว่าเป็นความดีที่เข้ามาลบล้างโทษตายได้ ..”
“ คุณ..รู้จักผมเหรอ คุณเป็นใครกันแน่ ? ”
“ ก่อนหน้านั้นข้าเป็นใครเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แต่เพียงว่าต่อแต่นี้ไป ข้าคือเจ้านายของเจ้า เป็นเจ้าของชีวิตและวิญญาณของเจ้า...จำได้ ”
“ อ่ะ..แกจะทำอะไรฉัน ? ”
มือเรียวใหญ่ขาวละเอียดที่ตะปบอยู่บนต้นคอเล็กๆ ค่อยผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะประกบนิ้วชี้นิ้วกลาง และจี้ไปบนท้ายท้อยของเด็กชาย ตวัดไปมาอย่างรวดเร็ว ปรากฏแสงสีทองเป็นตัวอักษรโบราณห้าคำ ลากยาวตั้งแต่ศีรษะจนมาถึงกลางหลัง ร่างเล็กยืนตัวแข็งทื่อไม่อาจทั้งขัดขืนหรือส่งเสียง จวบจนตัวอักษรสีทองทั้งห้าคำนั้น จมหายเข้าไปในร่างกาย เด็กน้อยค่อยสะท้านเฮือกขึ้นทั้งร่างราวกับเจ็บปวด
“ หลี่จื่อเสียะจงฟังคำสั่ง นับแต่นี้ไปเจ้าจะต้องปกป้องดูแลอ้ายหยูของข้า ด้วยชีวิตของเจ้า และห้ามเจ้าพุดบอกใครถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ .. สิบสี่ปีข้างหน้า .. หากเจ้าสามารถกระทำภารกิจนี้ได้ดี หลังจากที่ข้าเสร็จสิ้นพันธะสัญญาแล้ว อีกสิบสี่ปี ข้ารับปากจะปลดเปลื้องพันธนาการนี้ให้กับเจ้า .. เป็นรางวัล ”
กล่าวจบค่อยแบฝ่ามือออก ทาบไปกับกลางหลังของเด็กชาย แล้วแสงสีเหลืองทองวาบหนึ่ง ก็แผ่เข้าไปในร่างเล็กนั้น อาการสั่นสะท้านของทาสตัวน้อยจึงค่อยหยุดนิ่ง ก่อนจะล้มระทวยลงหมดสติไป แขนยาวแข็งแรงของผู้เป็นนายพลันยื่นออกไปรับไว้ ตวัดเบาๆไปข้างหน้า ผลักร่างเด็กชายลอยไปยังริมลำธารอีกฝั่งราวไร้น้ำหนัก แล้วใช้พลังอีกส่วนช่วยชะลอการส่งลงวางนอนไปกับพื้นอย่างนิ่มนวล
.