ฉันพบคุณตาใจ๋ (ตาใจ๋เป็นเพื่อนบ้านเก่าแก่ของยาย) โดยบังเอิญที่คันนาใกล้กับตุ๊ข้าว(โรงเก็บข้าวเปลือก) เก่าใกล้บ้านเมื่อวันก่อน
เพราะฉันไปหาที่ถ่ายรูปตัวเองอย่างม่วนอ๊กม่วนใจ๋แบบชิคๆ แนวๆ กับกล้องคอมแพคเก่าๆเครื่องนึงซึ่งฉันคิดว่ามันเท่ห์มากๆล่ะ
ตอนนั้นฉันกำลังสนุกกับการจัดฉากประดิษฐ์คิดท่าแปลกๆในการถ่ายรูปตัวเอง ตาใจ๋ซึ่งกำลังนำคราดไปถางหญ้าที่ปิดทางน้ำ
เข้านาเพื่อเตรียมปลูกต้นกล้า ก็เอ่ยปากมาทักทายฉันเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ผู้คนแถวบ้านชอบมองฉันแปลกๆเรื่องการถ่ายรูป
ตัวเองอย่างบ้าคลั่งและเริ่มคุ้นชินกับพฤติกรรมของฉันบ้างแล้ว
แต่วันนี้ตาใจ๋เอ่ยประโยคร้องขอให้ฉันทำสิ่งหนึ่งให้เป็นของขวัญในวันครบรอบวัย 76 ปีของแก
" วาดฮูปตาให้หน่อยสิ " ตาใจ๋พูดภาษาถิ่นเหนือ
" มาถ่ายรูปกับผมดีกว่าคุณตา ชิคๆ รับรองว่างาม "
" ช่วยวาดรูปตา ที่มีดวงตาสองข้างให้เหมือนสมัยหนุ่มๆได้ก่อ ..... "
. . .
" ได้ครับตา "
ว่าแล้วตาใจ๋ก็เดินนำฉันมาที่บ้าน เพื่อจะเอารูปสมัยหนุ่มๆมาให้ดูตัวอย่าง เป็นรูปติดบัตรประชาชนใบเล็กๆ
ในรูปเป็นชายหนุ่มในวัยไม่เกิน 40 ปี ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งมาเบื้องหน้าอย่างดุดัน
" เอาฮูปนี้ "
ฉันคุ้นเคยกับบ้านตาใจ๋เป็นอย่างดีรวมถึงครอบครัวลูกหลานของตาใจ๋แทบทุกคนเพราะเติบโตมาพร้อมๆกัน วัยไล่เลี่ยกัน
ฉะนั้นเมื่อฉันเห็นแสงแดดลอดส่องผ่านชานเรือนไม้ที่บ้านตาใจ๋ ฉันจึงได้ไอเดีย! นำความประทับใจหลายๆอย่างเมื่อครู่มารวมกัน
แล้วขอใช้สถานที่เป็นทริปถ่ายรูปเที่ยวบ้านตาใจ๋ไปในตัวเลย อิอิ
.
.
.
.
ก่อนไปเที่ยวบ้านตาใจ๋ ฉันขออวดรูปสุดแสนธรรมดาที่ถ่ายก่อนเจอตาใจ๋ที่ตุ๊ข้าวให้ชมก่อน
ฉันขี้เกียจแต่งภาพจึงขอนำเสนอในแสงแบบธรรมชาติๆ ละกันเนอะคับ
ในระหว่างนั้นสายตาของฉันก็เห็นตาใจ๋กำลังง่วนๆ อยู่ที่นาของแก
แกไถคราดอย่างขะมักเขม้น อาชีพหลักของตาใจ๋คือเป็นเกษตรกร ซึ่งทำมานานนับ 50 ปีล่วงมา
ขอเริ่มทริปเที่ยวบ้านตาใจ๋ ณ บัดนาว ได้เลย
บ้านตาใจ๋ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน ปะแจ่ม โกศัยนครธานี ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อ หมู่บ้านทุ่งน้ำใส
เป็นหมู่บ้านชาวเหนือเล็กๆบนเนินสูง ที่มีความเป็นอยู่และวัฒนธรรมที่สวยงาม
.
.
นี่คือหน้าบ้านของตาใจ๋
รั้วไม้เก่าทอดยาวแบ่งอาณาเขตบริเวณบ้าน ซึ่งดูสวยงามตามแบบวิถีชาวบ้าน
สมัยนี้หาชมได้ยากนัก มีตะไคร่เขียวๆขึ้นนิดๆ ดูงามแบบล้านนาทีเดียว
ที่บ้านของตาใจ๋ และเกือบทุกครัวเรือนในหมู่บ้านประกอบอาชีพทำงานหัตถกรรม สานแอ๊บข้าว ขาย
ซึ่งเป็นภาชนะใส่ข้าวเหนียวนึ่งที่ทำจากไม้ไผ่ มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
ฉันเคยเรียนสานแอ๊บข้าวกับคุณยาย ซึ่งเป็นขั้นตอนเดียวที่ฉันทำได้นิดหน่อย
สานไปได้สักพัก ลวดลายเริ่มพันกันปนเป ฉันว่าฉันสานผิดแบบซะแล้ว ตาใจ๋ ช่วยข๋อยแน
ย้ายมาตรงชานบ้านตาใจ๋ ออกแบบมาได้เก๋ทีเดียว มีแสงแดดลอดผ่าน มีพื้นที่โล่งกว้างไว้ตากตอก ตากของแห้งต่างๆ
ฉันว่ามันสวยดีในส่วนนี้ คลาสสิคมากๆ แต่ช่วงฝนบางทีฝนก็สาดเข้ามาเปียกเหมือนกันนะ
ครัวมะเก่าบ้านตาใจ๋ ยังคงใช้ฟืนไฟในการประกอบอาหาร ฉันเคยมาร่วมรับประทานอาหารหลายมื้อที่นี่
แม่หลวงพร ภรรยาของตาใจ๋ทำอาหารอร่อยใช้ได้ ฉันว่าห้องครัวดูขลังทีเดียว
เติ๋น คือพื้นที่อีกส่วนหนึ่งของบ้าน ยกพื้นสูงเปิดโล่งให้เชื่อมต่อกับชานเรือน เป็นมุมมงคลไว้หวนรำลึกนึกถึงบรรพบุรุษ
เปลี่ยนบรรยากาศย้ายลงมาด้านล่างใต้ถุนบ้านกันดีกว่า ภาพในวัยเด็กของฉันสนุกกับที่นี่มากๆ
เปลญวนที่ห้อยแขวนไว้นอนพัก พักผ่อนกาย เป็นที่นิยมของชาวบ้านในละแวกนี้มานาน
ตรงมุมด้านหนึ่งของบ้าน ตาใจ๋หาฟืนมาจากไหนฉันไม่แน่ใจ แต่เมื่อได้ไม้ทำฟืนแล้วก็จะใช้ขวานผ่าฟืน=โบ๊ะหลัว
เป็นกองๆเพื่อสะดวกในการนำไปใช้สอย
ฉันดูจริงจังกับการโบ๊ะหลัวกองนี้ ทำได้อย่างเนียนแต่ไม่มีใครเชื่อว่าฉันทำเป็น
ฉันว่าหน้าที่นี้ไม่ค่อยเหมาะกับฉันเท่าไหร่ อิอิ
หญ้ารกหน่อยแต่ก็สวยดี ฉันขอแอ๊คท่าถ่ายรูปอย่างเดียวละกัน
ตรงนี้เป็นกองไม้ไผ่จำนวนมาที่ซื้อมาเพื่อเตรียมไว้ทำแอ๊บข้าว ตาใจ๋จะใช้มีดพร้าคู่ใจ
สับไม้ไผ่เป็นปล้องๆที่นี่ ก่อนนำไปผ่าซีกในขั้นตอนต่อไปอีกที
เสร็จแล้ว รูปวาดของฉันที่วาดให้ตาใจ๋ ถึงแม้จะวาดไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก
แต่ฉันก็วาดออกมาจากใจทำอย่างเต็มที่ ภาพชายหนุ่มผู้มีดวงตาครบทั้งสองข้างในวันนั้น
ฉายแววสดใสอีกครั้งผ่านรูปวาดสีจางๆ ถูกแขวนไว้ที่ข้างฝาบ้าน
ปล. ตาใจ๋เลี้ยงหมาเพศเมียตัวโตชื่อ น้ำตาล สีน้ำตาลสมชื่อ นางชอบเห่าและไม่ค่อยเป็นมิตรกับแมวน้อยเลย (นางกัดแมว)
ขอบคุณและสวัสดีครับที่รับชม ^^
ฉันไปแอ่วบ้านคุณตา ใจ๋ มาตะวาวันซืน
เพราะฉันไปหาที่ถ่ายรูปตัวเองอย่างม่วนอ๊กม่วนใจ๋แบบชิคๆ แนวๆ กับกล้องคอมแพคเก่าๆเครื่องนึงซึ่งฉันคิดว่ามันเท่ห์มากๆล่ะ
ตอนนั้นฉันกำลังสนุกกับการจัดฉากประดิษฐ์คิดท่าแปลกๆในการถ่ายรูปตัวเอง ตาใจ๋ซึ่งกำลังนำคราดไปถางหญ้าที่ปิดทางน้ำ
เข้านาเพื่อเตรียมปลูกต้นกล้า ก็เอ่ยปากมาทักทายฉันเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ผู้คนแถวบ้านชอบมองฉันแปลกๆเรื่องการถ่ายรูป
ตัวเองอย่างบ้าคลั่งและเริ่มคุ้นชินกับพฤติกรรมของฉันบ้างแล้ว
แต่วันนี้ตาใจ๋เอ่ยประโยคร้องขอให้ฉันทำสิ่งหนึ่งให้เป็นของขวัญในวันครบรอบวัย 76 ปีของแก
" วาดฮูปตาให้หน่อยสิ " ตาใจ๋พูดภาษาถิ่นเหนือ
" มาถ่ายรูปกับผมดีกว่าคุณตา ชิคๆ รับรองว่างาม "
" ช่วยวาดรูปตา ที่มีดวงตาสองข้างให้เหมือนสมัยหนุ่มๆได้ก่อ ..... "
. . .
" ได้ครับตา "
ว่าแล้วตาใจ๋ก็เดินนำฉันมาที่บ้าน เพื่อจะเอารูปสมัยหนุ่มๆมาให้ดูตัวอย่าง เป็นรูปติดบัตรประชาชนใบเล็กๆ
ในรูปเป็นชายหนุ่มในวัยไม่เกิน 40 ปี ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งมาเบื้องหน้าอย่างดุดัน
" เอาฮูปนี้ "
ฉันคุ้นเคยกับบ้านตาใจ๋เป็นอย่างดีรวมถึงครอบครัวลูกหลานของตาใจ๋แทบทุกคนเพราะเติบโตมาพร้อมๆกัน วัยไล่เลี่ยกัน
ฉะนั้นเมื่อฉันเห็นแสงแดดลอดส่องผ่านชานเรือนไม้ที่บ้านตาใจ๋ ฉันจึงได้ไอเดีย! นำความประทับใจหลายๆอย่างเมื่อครู่มารวมกัน
แล้วขอใช้สถานที่เป็นทริปถ่ายรูปเที่ยวบ้านตาใจ๋ไปในตัวเลย อิอิ
.
.
.
.
ก่อนไปเที่ยวบ้านตาใจ๋ ฉันขออวดรูปสุดแสนธรรมดาที่ถ่ายก่อนเจอตาใจ๋ที่ตุ๊ข้าวให้ชมก่อน
ฉันขี้เกียจแต่งภาพจึงขอนำเสนอในแสงแบบธรรมชาติๆ ละกันเนอะคับ
ในระหว่างนั้นสายตาของฉันก็เห็นตาใจ๋กำลังง่วนๆ อยู่ที่นาของแก
แกไถคราดอย่างขะมักเขม้น อาชีพหลักของตาใจ๋คือเป็นเกษตรกร ซึ่งทำมานานนับ 50 ปีล่วงมา
ขอเริ่มทริปเที่ยวบ้านตาใจ๋ ณ บัดนาว ได้เลย
บ้านตาใจ๋ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน ปะแจ่ม โกศัยนครธานี ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อ หมู่บ้านทุ่งน้ำใส
เป็นหมู่บ้านชาวเหนือเล็กๆบนเนินสูง ที่มีความเป็นอยู่และวัฒนธรรมที่สวยงาม
.
.
นี่คือหน้าบ้านของตาใจ๋
รั้วไม้เก่าทอดยาวแบ่งอาณาเขตบริเวณบ้าน ซึ่งดูสวยงามตามแบบวิถีชาวบ้าน
สมัยนี้หาชมได้ยากนัก มีตะไคร่เขียวๆขึ้นนิดๆ ดูงามแบบล้านนาทีเดียว
ที่บ้านของตาใจ๋ และเกือบทุกครัวเรือนในหมู่บ้านประกอบอาชีพทำงานหัตถกรรม สานแอ๊บข้าว ขาย
ซึ่งเป็นภาชนะใส่ข้าวเหนียวนึ่งที่ทำจากไม้ไผ่ มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
ฉันเคยเรียนสานแอ๊บข้าวกับคุณยาย ซึ่งเป็นขั้นตอนเดียวที่ฉันทำได้นิดหน่อย
สานไปได้สักพัก ลวดลายเริ่มพันกันปนเป ฉันว่าฉันสานผิดแบบซะแล้ว ตาใจ๋ ช่วยข๋อยแน
ย้ายมาตรงชานบ้านตาใจ๋ ออกแบบมาได้เก๋ทีเดียว มีแสงแดดลอดผ่าน มีพื้นที่โล่งกว้างไว้ตากตอก ตากของแห้งต่างๆ
ฉันว่ามันสวยดีในส่วนนี้ คลาสสิคมากๆ แต่ช่วงฝนบางทีฝนก็สาดเข้ามาเปียกเหมือนกันนะ
ครัวมะเก่าบ้านตาใจ๋ ยังคงใช้ฟืนไฟในการประกอบอาหาร ฉันเคยมาร่วมรับประทานอาหารหลายมื้อที่นี่
แม่หลวงพร ภรรยาของตาใจ๋ทำอาหารอร่อยใช้ได้ ฉันว่าห้องครัวดูขลังทีเดียว
เติ๋น คือพื้นที่อีกส่วนหนึ่งของบ้าน ยกพื้นสูงเปิดโล่งให้เชื่อมต่อกับชานเรือน เป็นมุมมงคลไว้หวนรำลึกนึกถึงบรรพบุรุษ
เปลี่ยนบรรยากาศย้ายลงมาด้านล่างใต้ถุนบ้านกันดีกว่า ภาพในวัยเด็กของฉันสนุกกับที่นี่มากๆ
เปลญวนที่ห้อยแขวนไว้นอนพัก พักผ่อนกาย เป็นที่นิยมของชาวบ้านในละแวกนี้มานาน
ตรงมุมด้านหนึ่งของบ้าน ตาใจ๋หาฟืนมาจากไหนฉันไม่แน่ใจ แต่เมื่อได้ไม้ทำฟืนแล้วก็จะใช้ขวานผ่าฟืน=โบ๊ะหลัว
เป็นกองๆเพื่อสะดวกในการนำไปใช้สอย
ฉันดูจริงจังกับการโบ๊ะหลัวกองนี้ ทำได้อย่างเนียนแต่ไม่มีใครเชื่อว่าฉันทำเป็น
ฉันว่าหน้าที่นี้ไม่ค่อยเหมาะกับฉันเท่าไหร่ อิอิ
หญ้ารกหน่อยแต่ก็สวยดี ฉันขอแอ๊คท่าถ่ายรูปอย่างเดียวละกัน
ตรงนี้เป็นกองไม้ไผ่จำนวนมาที่ซื้อมาเพื่อเตรียมไว้ทำแอ๊บข้าว ตาใจ๋จะใช้มีดพร้าคู่ใจ
สับไม้ไผ่เป็นปล้องๆที่นี่ ก่อนนำไปผ่าซีกในขั้นตอนต่อไปอีกที
เสร็จแล้ว รูปวาดของฉันที่วาดให้ตาใจ๋ ถึงแม้จะวาดไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก
แต่ฉันก็วาดออกมาจากใจทำอย่างเต็มที่ ภาพชายหนุ่มผู้มีดวงตาครบทั้งสองข้างในวันนั้น
ฉายแววสดใสอีกครั้งผ่านรูปวาดสีจางๆ ถูกแขวนไว้ที่ข้างฝาบ้าน
ปล. ตาใจ๋เลี้ยงหมาเพศเมียตัวโตชื่อ น้ำตาล สีน้ำตาลสมชื่อ นางชอบเห่าและไม่ค่อยเป็นมิตรกับแมวน้อยเลย (นางกัดแมว)
ขอบคุณและสวัสดีครับที่รับชม ^^