รายงาน: ให้ผู้บริโภคตัดสินใจ!!!!
สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
หลัง กสทช.จัดให้มีการประชุมหารือกลุ่มย่อย หรือ Focus Group เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา "การควบคุมอัตราค่าบริการโดยคิดเป็นวินาที" กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นในวงการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทันที
โดยผู้ประกอบการค่ายโทรศัพท์มือถือมีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรคิดอัตราค่าบริการแบบเฉลี่ยต่อหน่วยของแต่ละบริการ การคิดราคาค่าบริการควรเกิดขึ้นจากการแข่งขันในกลไกตลาดไม่ใช่เกิดจากการกำกับดูแลของหน่วยงาน
ตัวแทนจาก "บริษัท ทรูมูฟ เอช"ระบุว่า หาก กสทช.กำหนดค่าบริการแบบวินาที จะทำให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกในการเลือกใช้บริการแพ็กเกจที่คุ้มค่าตามรูปแบบการใช้งานของตนเองอย่างแท้จริง และไม่สอดคล้องกับการแข่งขันเสรีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่จะส่งผลกระทบกับลูกค้าจำนวนมาก ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน
นอกจากนี้แนวทางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ที่มีการเปิดเสรีทางบริการโทรคมนาคมนั้นจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือไม่มีการบังคับให้ต้องมีการคิดค่าบริการเป็นวินาทีในทุกแพ็กเกจ แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการแข่งขันของตลาด
ส่วนตัวแทนจากบริษัท "แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส" หรือ "เอไอเอส"เสนอว่า ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อาจส่งผลเป็นการจำกัดทางเลือกของผู้บริโภคท้ายที่สุดอาจส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งอาจทำให้ผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ
สอดคล้องกับ ค่ายดีแทค เห็นว่าการควบคุมอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามกฎเกณฑ์นี้จะส่งผลกระทบถึงผู้ใช้บริการไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากไม่มีแพ็กเกจที่เหมาะสมต่อความต้องการของตนเอง ควรให้กลไกการแข่งขันเป็นตัวกำหนดความหลากหลายแพ็กเกจและอัตราที่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้ที่มีการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคที่ต้องการให้ กสทช.มากำหนดราคาเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค หรือผู้ใช้โทรศัพท์เพราะเกรงว่าหากให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาดนั้นจะทำให้เอกชนผู้ให้บริการเอาเปรียบหรือคิดราคาที่สูงนั้น ซึ่งความคิดดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามหากให้เอกชนกำหนดราคาตามแพ็กเกจกันเอง จะทำให้อัตราราคาค่าบริการถูกกว่าให้หน่วยงานของรัฐกำหนดราคาตายตัว เพราะเอกชนจะแข่งขันกันเองที่จะเสนอในราคาที่ชักจูงให้ประชาชนเข้ามาเลือกใช้บริการของภาคเอกชนแต่ละค่าย
อย่างไรก็ตาม เรื่องอัตราค่าบริการ ควรปล่อยให้เป็นไปตามความพึงพอใจของผู้บริโภค ไม่ควรสร้างกฎเกณฑ์ หรือตีกรอบ กำหนดให้ทุกอย่างตายตัว การคิดค่าบริการควรจะมีหลากหลายรูปแบบให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ควรเปิดให้เอกชนแข่งขันกันอย่างเสรีเป็นไปตามกลไกตลาด ควรให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจ!!!!!
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 6)
ค่าโทรเป็นวินาที ค่ายมือถือ เห็นด้วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจ!!!!
รายงาน: ให้ผู้บริโภคตัดสินใจ!!!!
สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
หลัง กสทช.จัดให้มีการประชุมหารือกลุ่มย่อย หรือ Focus Group เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา "การควบคุมอัตราค่าบริการโดยคิดเป็นวินาที" กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นในวงการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทันที
โดยผู้ประกอบการค่ายโทรศัพท์มือถือมีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรคิดอัตราค่าบริการแบบเฉลี่ยต่อหน่วยของแต่ละบริการ การคิดราคาค่าบริการควรเกิดขึ้นจากการแข่งขันในกลไกตลาดไม่ใช่เกิดจากการกำกับดูแลของหน่วยงาน
ตัวแทนจาก "บริษัท ทรูมูฟ เอช"ระบุว่า หาก กสทช.กำหนดค่าบริการแบบวินาที จะทำให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกในการเลือกใช้บริการแพ็กเกจที่คุ้มค่าตามรูปแบบการใช้งานของตนเองอย่างแท้จริง และไม่สอดคล้องกับการแข่งขันเสรีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่จะส่งผลกระทบกับลูกค้าจำนวนมาก ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน
นอกจากนี้แนวทางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ที่มีการเปิดเสรีทางบริการโทรคมนาคมนั้นจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือไม่มีการบังคับให้ต้องมีการคิดค่าบริการเป็นวินาทีในทุกแพ็กเกจ แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการแข่งขันของตลาด
ส่วนตัวแทนจากบริษัท "แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส" หรือ "เอไอเอส"เสนอว่า ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อาจส่งผลเป็นการจำกัดทางเลือกของผู้บริโภคท้ายที่สุดอาจส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งอาจทำให้ผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ
สอดคล้องกับ ค่ายดีแทค เห็นว่าการควบคุมอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามกฎเกณฑ์นี้จะส่งผลกระทบถึงผู้ใช้บริการไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากไม่มีแพ็กเกจที่เหมาะสมต่อความต้องการของตนเอง ควรให้กลไกการแข่งขันเป็นตัวกำหนดความหลากหลายแพ็กเกจและอัตราที่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้ที่มีการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคที่ต้องการให้ กสทช.มากำหนดราคาเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค หรือผู้ใช้โทรศัพท์เพราะเกรงว่าหากให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาดนั้นจะทำให้เอกชนผู้ให้บริการเอาเปรียบหรือคิดราคาที่สูงนั้น ซึ่งความคิดดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามหากให้เอกชนกำหนดราคาตามแพ็กเกจกันเอง จะทำให้อัตราราคาค่าบริการถูกกว่าให้หน่วยงานของรัฐกำหนดราคาตายตัว เพราะเอกชนจะแข่งขันกันเองที่จะเสนอในราคาที่ชักจูงให้ประชาชนเข้ามาเลือกใช้บริการของภาคเอกชนแต่ละค่าย
อย่างไรก็ตาม เรื่องอัตราค่าบริการ ควรปล่อยให้เป็นไปตามความพึงพอใจของผู้บริโภค ไม่ควรสร้างกฎเกณฑ์ หรือตีกรอบ กำหนดให้ทุกอย่างตายตัว การคิดค่าบริการควรจะมีหลากหลายรูปแบบให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ควรเปิดให้เอกชนแข่งขันกันอย่างเสรีเป็นไปตามกลไกตลาด ควรให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจ!!!!!
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 6)