อธิบายความ
น้ำผึ้งผสมกับรสฝาดเก็บไว้นานเข้าก็เป็นรสฝาด. น้ำอ้อยผสม
กับรสขื่นเก็บไว้นานเข้าก็เป็นรสขื่น แต่สัปปิ (เนยใส) เก็บไว้นานแม้ละสี
และกลิ่นก็ไม่ละรส เพราะฉะนั้น เนยใสนั้นนั่นแหละ จึงชื่อว่า หวานโดย
ส่วนเดียว.
บทว่า ติตฺตกํ (ขม) ได้แก่ ใบสะเดาเป็นต้น. บทว่า กฏุกํ (เผ็ด)
ได้แก่ รสขิงและพริกไทยเป็นต้น. บทว่า โลณิกํ (เค็ม) ได้แก่ เกลือธรรมชาติ
เป็นต้น. บทว่า ขาริกํ (ขื่น) ได้แก่ รสมะอึและหน่อไม้เป็นต้น. บทว่า
ลมฺพิลํ (เฝื่อน) ได้แก่ พุทรา มะขามป้อม และมะขวิดเป็นต้น. บทว่า
กสาวํ. (ฝาด) ได้แก่ มะขามป้อมเป็นต้น. รสแม้ทั้งหมดเหล่านี้ ตรัสไว้ด้วย
อำนาจวัตถุ แต่ในนิทเทสนี้ พึงทราบว่ารสตรัสไว้โดยชื่อมีเปรี้ยวเป็นต้นแต่
วัตถุนั้น ๆ.
ความจากพระไตรปิฎก
บทว่า สาทุ (อร่อย) ได้แก่ รสที่น่าปรารถนา?
น้ำผึ้งผสมกับรสฝาดเก็บไว้นานเข้าก็เป็นรสฝาด. น้ำอ้อยผสม
กับรสขื่นเก็บไว้นานเข้าก็เป็นรสขื่น แต่สัปปิ (เนยใส) เก็บไว้นานแม้ละสี
และกลิ่นก็ไม่ละรส เพราะฉะนั้น เนยใสนั้นนั่นแหละ จึงชื่อว่า หวานโดย
ส่วนเดียว.
บทว่า ติตฺตกํ (ขม) ได้แก่ ใบสะเดาเป็นต้น. บทว่า กฏุกํ (เผ็ด)
ได้แก่ รสขิงและพริกไทยเป็นต้น. บทว่า โลณิกํ (เค็ม) ได้แก่ เกลือธรรมชาติ
เป็นต้น. บทว่า ขาริกํ (ขื่น) ได้แก่ รสมะอึและหน่อไม้เป็นต้น. บทว่า
ลมฺพิลํ (เฝื่อน) ได้แก่ พุทรา มะขามป้อม และมะขวิดเป็นต้น. บทว่า
กสาวํ. (ฝาด) ได้แก่ มะขามป้อมเป็นต้น. รสแม้ทั้งหมดเหล่านี้ ตรัสไว้ด้วย
อำนาจวัตถุ แต่ในนิทเทสนี้ พึงทราบว่ารสตรัสไว้โดยชื่อมีเปรี้ยวเป็นต้นแต่
วัตถุนั้น ๆ.
ความจากพระไตรปิฎก