ขอพูดก่อนนะครับว่าผมก็ก็อปเขามาอีกทีหนึ่ง อาจมีประโยชน์ต่อตัวชูการ์ฯและผู้เลี้ยงด้วยนะครับ
เริ่มเลยนะครับอาจยาวไปหน่อยแต่ได้ความรู้ใหม่ๆแน่นอน ซูก้าร์จะมีระยะหย่านมนาน เฉลี่ยแล้วอย่างน้อยสุดก็ประมาณสองเดือนครึ่ง นานสุดก็ข้ามปี เพราะฉนั้นคนที่คิดจะเลี้ยงก็ต้องดูว่าหย่านมหรือยัง เมื่อนำมาเลี้ยงก็อาจจะต้องให้นมทดแทนสำหรับลูกสัตว์ ผมแนะนำนมทดแทนคุณภาพดีในหมาและแมว หากโตสักครึ่งปีไปแล้ว จะพิจารณาให้นมแพะก็อาจจะได้ ให้ไปอ่านเรื่องการให้นมทดแทนในลูกสัตว์ครับ และอย่าเชื่อตามคำโฆษณากันมากครับ
เหตุผลในการเลือกอาหารนั้น มันมาจากตรงที่ว่าซูการ์ไกลเดอร์มันเป็นสัตว์ประเภทไหน กินอะไร...
พวกนี้เป็นมาร์ซูเปี้ยน ตามธรรมชาติมันจะกินแมลงเป็นหลัก พูดกันตรงๆ ซูการ์ไกลเดอร์คือ insectivore แต่ในเว็บพวกฝรั่งส่วนใหญ่ก็บอกว่า ห้ามให้แมลงมาก ให้เป็นทรีทกินเสริมเท่านั้น เพราะแมลงไขมันมาก ก็จริงครับ แต่เราจะเชื่อใครกันดี ตามต่อครับ... พอในฤดูหนาวที่หาแมลงกินยาก พวกนี้ถึงจะหันมากินยางของต้นยูคาลิปหรือต้นอะคาเซีย พวกนี้จะมีน้ำตาลอยู่ หรือจะกินพวกน้ำหวานของดอกไม้ได้ ซึ่งในการเลี้ยงเราก็สามารถให้น้ำผึ้งหรือพวกน้ำหวานจากเกสร หรือเนกตาร์ทั้งหลายได้
พอคนพยายามจะเลี้ยงเอง มันก็เลยเพี้ยนๆหน่อย โดยเฉพาะเว็บดังๆของฝรั่งสองสามเว็บ ก็บอกกันไปเรื่อยเปื่อย จนผมก็เคยงงเหมือนกัน
อาหาร ... หากจะยึดตามคนเลี้ยงของฝรั่งทั่วไปคือ
ใช้น้ำผึ้งถ้วยครึ่งผสมกับน้ำอุ่นสองถ้วย ตีไข่ให้แตกแล้วเอามาผสมกัน จึงเอาไปผสมกับ HPW (*hihg protein wombaroo diet) ซึ่งบ้านเราไม่มีขาย ตรงนี้แหละที่คนก็พยายามเอาซีเรียลอาหารเลี้ยงเด็กอ่อน เช่น ซีรีแลค ชนิดที่มีโปรตีนสูงเข้ามาใช้แทนตัวนี้ หลังจากนั้นก็ยังผสมเข้ากับพวกกากน้ำผึ้งหรือรัง หรือกากเกสรดอกไม้อีกสองช้อน...
ยังไม่หมดเท่านั้น ... จากอาหารที่ผสมในส่วนนั้น พวกฝรั่งเขาก็จะหั่นผลไม้และผักละเอียดอย่างละหนึ่งช้อนโต๊ะ เอามาผสมกับอาหารที่เตียมไว้ข้างบนหนึ่งอีกหนึ่งช้อนโต๊ะ ก็ได้อาหารสำหรับเจ้าซูการ์แล้ว
จะเห็นว่าข้างบนไม่มีแมลงเลย แต่เขาจะให้แมลงเสริม สัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครังครับ
หากจะเอาสูตรของซีเรียลอาหารเด็กเลย ก็ถือว่ายอมรับได้ นักวิชาการบางคนใช้
คือใช้น้ำอุ่น ๑๕๐ มล ผสมน้ำผึ้ง ๑๕๐ มล ผสมให้เข้ากัน ตีไข่ใส่หนึ่งฟอง ตีให้ละเอียด แล้วจึงใส่ซีเรียลลงไป ๒๕ มก สุดท้ายก็ผสมไตมินแร่ธาตุลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ ส่วนนี้เตรียมเป็นครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมด
ไม่ต้องมีผลไม้ หรือผักอีก (ซูการ์ไม่ใช่สัตว์กินพืช แต่กินน้ำหวานจากผลไม้ที่ให้น้ำหวานมาก จริงไหมครับ ผลไม้จึงให้เสริมได้ แต่ถามว่าจำเป็นไหม ก็ไม่จำเป็น หากเตรียมน้ำผึ้งอย่างข้างบนไว้แล้ว)
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ข้างต้นนั้นเป็นอาหารแค่ครึ่งเดียวที่เตรียมเท่านั้นเอง ส่วนที่สำคัญสำหรับซูการ์ไกเดอร์ที่เป็น insectivore ก็คือ อาหารสำหรับมันโดยตรง อีกห้าสิบเปอร์เซนต์
ก็มาถึงที่คุณถามว่า บางที่เขาให้อาหารแมว แต่ก็คนมาค้าน ก็เป็นเรื่องปกติครับ ก็เหมือนคนค้านเรื่องการกินแมลงของซูการ์เหมือนกัน
ส่วนที่คุณต้องหามาเติมในอาหารอีก ๕๐% นี้ คืออาหารสำหรับสัตว์กินแมลงโดยตรง ซึ่งคุณหาในเมืองไทยไม่ได้แน่ แต่คุณหาอาหารสำหรับคาร์นิวอร์หรือสัตว์กินเนื้อได้ ซึ่งคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน และเป็นที่ยอมรับ ฝรั่งกลุ่มหนึ่งจึงหันมาเลือกใช้อาหารแมวคุณภาพดี ซึ่งคล้ายกับที่เลี้ยงเม่นแคระนิยม แต่เพราะอาหารแมวไม่ได้มีองค์ประกอบที่เราต้องการอย่างเดียว มีองค์ประกอบอย่างอื่นอีก
ผมจึงแนะนำว่า เอา คาร์นิวอร์แคร์ ไปใช้ ตัวนี้ผลิตออกมาสำหรับสัตว์กินแมลงและสัตว์กินเนื้อโดยตรง เมืองไทยมีแล้ว
เอามาผสมให้ครบร้อย แล้วป้อนซูการ์ได้เลย
อย่างไรก็ตาม บางคนให้สลับกันไปเป็นวันๆ คือไม่ได้ทำการผสมกันไปตามสูตรที่ผมเอามาให้
เขาจะผสมพวกแมลงต่างๆเข้าด้วยกัน แล้วผสมกับอาหารพวกสัตว์กินแมลงหรือคาร์นิวอร์แคร์ แล้วให้
หรือวันต่อมาเขาก็อาจจะให้ พวกเนกตาร์หรือน้ำหวานต่างๆ
วันต่อมาเขาก็จะให้ผลไม้และผักรวม
อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าของจะลองไปพิจารณาดูครับ
ลืมย้ำ... อ่านแล้วคงเห็นว่าซีรีแลคไม่ใช่อาหารหลักนะครับ สงสารซูการ์เมืองไทยจริงๆ กวักมือชาวบ้านมาอ่านกันหน่อยนะครับ และบอกพวกที่เลี้ยงขาย หรือหามาขายว่า อัพเดตสักหน่อย จะดูดีกว่านี้เยอะเลย จะทำให้ซูการ์มีสุขภาพที่ดีเหมาะสมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามหากจะให้แมลง เยอะก็ไม่ดี อาหารแมวเองก็มีไขมันมาก แต่ไม่ใช่ให้ไม่ได้ แต่ควรจะเป็นส่วนผสมในอาหารทั้งหมด ผมยังเน้นไปที่คาร์นิวอร์แคร์ ตัวนี้จะช่วยแทนได้ทั้งหมด
ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับ หวังว่าคงเป็นความรู้ใหม่ๆให้ผู้เลี้ยงทุกคนนะครับ ถือซะว่าเราแชร์ความรู้กันนะครับ ขอบคุณครับ
อยากขอแชร์ความรู้ให้ผู้เลี้ยงชูการ์ฯ หลายๆคนได้รับรู้ไว้ ผมเชื่อว่าคุณต้องไม่เคยรู้แน่ อยากช่วยนะครับไม่ได้มีเจตนาใดๆ
เริ่มเลยนะครับอาจยาวไปหน่อยแต่ได้ความรู้ใหม่ๆแน่นอน ซูก้าร์จะมีระยะหย่านมนาน เฉลี่ยแล้วอย่างน้อยสุดก็ประมาณสองเดือนครึ่ง นานสุดก็ข้ามปี เพราะฉนั้นคนที่คิดจะเลี้ยงก็ต้องดูว่าหย่านมหรือยัง เมื่อนำมาเลี้ยงก็อาจจะต้องให้นมทดแทนสำหรับลูกสัตว์ ผมแนะนำนมทดแทนคุณภาพดีในหมาและแมว หากโตสักครึ่งปีไปแล้ว จะพิจารณาให้นมแพะก็อาจจะได้ ให้ไปอ่านเรื่องการให้นมทดแทนในลูกสัตว์ครับ และอย่าเชื่อตามคำโฆษณากันมากครับ
เหตุผลในการเลือกอาหารนั้น มันมาจากตรงที่ว่าซูการ์ไกลเดอร์มันเป็นสัตว์ประเภทไหน กินอะไร...
พวกนี้เป็นมาร์ซูเปี้ยน ตามธรรมชาติมันจะกินแมลงเป็นหลัก พูดกันตรงๆ ซูการ์ไกลเดอร์คือ insectivore แต่ในเว็บพวกฝรั่งส่วนใหญ่ก็บอกว่า ห้ามให้แมลงมาก ให้เป็นทรีทกินเสริมเท่านั้น เพราะแมลงไขมันมาก ก็จริงครับ แต่เราจะเชื่อใครกันดี ตามต่อครับ... พอในฤดูหนาวที่หาแมลงกินยาก พวกนี้ถึงจะหันมากินยางของต้นยูคาลิปหรือต้นอะคาเซีย พวกนี้จะมีน้ำตาลอยู่ หรือจะกินพวกน้ำหวานของดอกไม้ได้ ซึ่งในการเลี้ยงเราก็สามารถให้น้ำผึ้งหรือพวกน้ำหวานจากเกสร หรือเนกตาร์ทั้งหลายได้
พอคนพยายามจะเลี้ยงเอง มันก็เลยเพี้ยนๆหน่อย โดยเฉพาะเว็บดังๆของฝรั่งสองสามเว็บ ก็บอกกันไปเรื่อยเปื่อย จนผมก็เคยงงเหมือนกัน
อาหาร ... หากจะยึดตามคนเลี้ยงของฝรั่งทั่วไปคือ
ใช้น้ำผึ้งถ้วยครึ่งผสมกับน้ำอุ่นสองถ้วย ตีไข่ให้แตกแล้วเอามาผสมกัน จึงเอาไปผสมกับ HPW (*hihg protein wombaroo diet) ซึ่งบ้านเราไม่มีขาย ตรงนี้แหละที่คนก็พยายามเอาซีเรียลอาหารเลี้ยงเด็กอ่อน เช่น ซีรีแลค ชนิดที่มีโปรตีนสูงเข้ามาใช้แทนตัวนี้ หลังจากนั้นก็ยังผสมเข้ากับพวกกากน้ำผึ้งหรือรัง หรือกากเกสรดอกไม้อีกสองช้อน...
ยังไม่หมดเท่านั้น ... จากอาหารที่ผสมในส่วนนั้น พวกฝรั่งเขาก็จะหั่นผลไม้และผักละเอียดอย่างละหนึ่งช้อนโต๊ะ เอามาผสมกับอาหารที่เตียมไว้ข้างบนหนึ่งอีกหนึ่งช้อนโต๊ะ ก็ได้อาหารสำหรับเจ้าซูการ์แล้ว
จะเห็นว่าข้างบนไม่มีแมลงเลย แต่เขาจะให้แมลงเสริม สัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครังครับ
หากจะเอาสูตรของซีเรียลอาหารเด็กเลย ก็ถือว่ายอมรับได้ นักวิชาการบางคนใช้
คือใช้น้ำอุ่น ๑๕๐ มล ผสมน้ำผึ้ง ๑๕๐ มล ผสมให้เข้ากัน ตีไข่ใส่หนึ่งฟอง ตีให้ละเอียด แล้วจึงใส่ซีเรียลลงไป ๒๕ มก สุดท้ายก็ผสมไตมินแร่ธาตุลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ ส่วนนี้เตรียมเป็นครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมด
ไม่ต้องมีผลไม้ หรือผักอีก (ซูการ์ไม่ใช่สัตว์กินพืช แต่กินน้ำหวานจากผลไม้ที่ให้น้ำหวานมาก จริงไหมครับ ผลไม้จึงให้เสริมได้ แต่ถามว่าจำเป็นไหม ก็ไม่จำเป็น หากเตรียมน้ำผึ้งอย่างข้างบนไว้แล้ว)
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ข้างต้นนั้นเป็นอาหารแค่ครึ่งเดียวที่เตรียมเท่านั้นเอง ส่วนที่สำคัญสำหรับซูการ์ไกเดอร์ที่เป็น insectivore ก็คือ อาหารสำหรับมันโดยตรง อีกห้าสิบเปอร์เซนต์
ก็มาถึงที่คุณถามว่า บางที่เขาให้อาหารแมว แต่ก็คนมาค้าน ก็เป็นเรื่องปกติครับ ก็เหมือนคนค้านเรื่องการกินแมลงของซูการ์เหมือนกัน
ส่วนที่คุณต้องหามาเติมในอาหารอีก ๕๐% นี้ คืออาหารสำหรับสัตว์กินแมลงโดยตรง ซึ่งคุณหาในเมืองไทยไม่ได้แน่ แต่คุณหาอาหารสำหรับคาร์นิวอร์หรือสัตว์กินเนื้อได้ ซึ่งคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน และเป็นที่ยอมรับ ฝรั่งกลุ่มหนึ่งจึงหันมาเลือกใช้อาหารแมวคุณภาพดี ซึ่งคล้ายกับที่เลี้ยงเม่นแคระนิยม แต่เพราะอาหารแมวไม่ได้มีองค์ประกอบที่เราต้องการอย่างเดียว มีองค์ประกอบอย่างอื่นอีก
ผมจึงแนะนำว่า เอา คาร์นิวอร์แคร์ ไปใช้ ตัวนี้ผลิตออกมาสำหรับสัตว์กินแมลงและสัตว์กินเนื้อโดยตรง เมืองไทยมีแล้ว
เอามาผสมให้ครบร้อย แล้วป้อนซูการ์ได้เลย
อย่างไรก็ตาม บางคนให้สลับกันไปเป็นวันๆ คือไม่ได้ทำการผสมกันไปตามสูตรที่ผมเอามาให้
เขาจะผสมพวกแมลงต่างๆเข้าด้วยกัน แล้วผสมกับอาหารพวกสัตว์กินแมลงหรือคาร์นิวอร์แคร์ แล้วให้
หรือวันต่อมาเขาก็อาจจะให้ พวกเนกตาร์หรือน้ำหวานต่างๆ
วันต่อมาเขาก็จะให้ผลไม้และผักรวม
อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าของจะลองไปพิจารณาดูครับ
ลืมย้ำ... อ่านแล้วคงเห็นว่าซีรีแลคไม่ใช่อาหารหลักนะครับ สงสารซูการ์เมืองไทยจริงๆ กวักมือชาวบ้านมาอ่านกันหน่อยนะครับ และบอกพวกที่เลี้ยงขาย หรือหามาขายว่า อัพเดตสักหน่อย จะดูดีกว่านี้เยอะเลย จะทำให้ซูการ์มีสุขภาพที่ดีเหมาะสมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามหากจะให้แมลง เยอะก็ไม่ดี อาหารแมวเองก็มีไขมันมาก แต่ไม่ใช่ให้ไม่ได้ แต่ควรจะเป็นส่วนผสมในอาหารทั้งหมด ผมยังเน้นไปที่คาร์นิวอร์แคร์ ตัวนี้จะช่วยแทนได้ทั้งหมด
ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับ หวังว่าคงเป็นความรู้ใหม่ๆให้ผู้เลี้ยงทุกคนนะครับ ถือซะว่าเราแชร์ความรู้กันนะครับ ขอบคุณครับ