คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
แยก 2 ประเด็นนะครับ
1. ประเด็นเรื่องทำไมจึงระบุว่าให้พลังงานเป็น 0 kcal ได้
มีกฎหมายบัญญัติอนุญาตไว้ให้สำหรับอาหารที่ให้พลังงานน้อยกว่า 5 kcal ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
ให้ระบุว่า ปราศจาก หรือ ไม่มี พลังงาน ได้ครับ
อ่านตารางในหน้า 37 ลิงค์นี้นะครับ
http://www.centrallabthai.com/web/uploadfiles/pdf/MOPH_182_27032012.pdf
2. คุณเข้าใจผิดเรื่อง aspartame นะครับ
aspartame ให้พลังงานครับ โดยคร่าวๆก็คือ 4 kcal/g เหมือนโปรตีนอื่นทั่วๆไป
รายละเอียดขอยกมาจากที่เคยตอบครั้งก่อนๆนะครับ
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
http://pantip.com/topic/34092214/comment3
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32609040/comment12
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32599274/comment11
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32581308/comment6
1. สารให้ความหวานเทียม / น้ำตาลเทียม ครับ
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
1. ประเด็นเรื่องทำไมจึงระบุว่าให้พลังงานเป็น 0 kcal ได้
มีกฎหมายบัญญัติอนุญาตไว้ให้สำหรับอาหารที่ให้พลังงานน้อยกว่า 5 kcal ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
ให้ระบุว่า ปราศจาก หรือ ไม่มี พลังงาน ได้ครับ
อ่านตารางในหน้า 37 ลิงค์นี้นะครับ
http://www.centrallabthai.com/web/uploadfiles/pdf/MOPH_182_27032012.pdf
2. คุณเข้าใจผิดเรื่อง aspartame นะครับ
aspartame ให้พลังงานครับ โดยคร่าวๆก็คือ 4 kcal/g เหมือนโปรตีนอื่นทั่วๆไป
รายละเอียดขอยกมาจากที่เคยตอบครั้งก่อนๆนะครับ
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
http://pantip.com/topic/34092214/comment3
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32609040/comment12
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32599274/comment11
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
-----------------------------------------------------------
http://pantip.com/topic/32581308/comment6
1. สารให้ความหวานเทียม / น้ำตาลเทียม ครับ
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
แสดงความคิดเห็น
สอบถามว่า สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 0 kcal จริงหรือ ?
ยี่ห้อนี้เลยครับ บรรทัดแรกเลย 0 calorie sweetener per stick
ส่วนประกอบที่เขียนไว้คือ
1. Lactose 96.1%
2. Aspartame 3.6%
3. Silicon Dioxide 0.3% (รวม 100% พอดี)
เข้าใจว่า Aspartame กับ Silicon Dioxide ไม่ให้พลังงาน
แต่ Lactose ก็น่าจะให้พลังงาน 4 kcal ต่อ 1 กรัมเหมือน Carbohydrate ตัวอื่นๆรึเปล่าครับ
** แก้ไขเพิ่มเติม ** Aspartame ก็ให้พลังงานเท่าโปรตีน นั่นคือ 4 kcal ต่อ 1 กรัมเหมือนกัน
1 ซองเล็กยี่ห้อนี้ 1 กรัม = Lactose 0.961 g, Aspartame 0.036 g, Silicon Dioxide 0.003 g
ดังนั้นก็น่าจะได้พลังงาน = (0.961 + 0.036) x 4 = 3.988 kcal ต่อ 1 ซอง (ปัดเป็น 4 kcal / 1 ซอง)
สินค้าถูกเคลมว่า 1 ซอง ความหวานเทียบเท่าน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา (1 ชช. = 15 kcal)
ดังนั้น 1 ซอง 4 kcal จึงเทียบเท่า น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 30 kcal
ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง = 30-4 = 26 kcal นั่นเองครับ
เพิ่มเติมจากด้านล่างอีกนิด
ทีแรกผมสงสัยว่าทำไมเค้าเคลมว่า 0 kcal ทั้งๆที่คำนวณออกมาได้ราวๆ 4 kcal ต่อซอง
ข้างล่างเฉลยละครับว่า "ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง" นั่นคือ 5 kcal ครับ