เตรียมพร้อมรับมือ กับการตกงานตอนอายุใกล้ 40 แบบไม่ทันตั้งตัว

สวัสดีครับ

ตอนแรกก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีมั้ย เนื่องจากมันไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำสำหรับตัวเองมากนัก

แต่เห็นกระทู้ห้องสีลม สินธร มีกระทู้แนว ๆ ตกงาน โดนปลด เพราะเศรฐกิจไม่ดีมาเรื่อย ๆ ตอนแรก ก็คิดว่ามโนกันไปเอง
แต่บริษัท ที่ผมเคยทำงาน เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นบริษัทข้ามชาติ มีสาขาทั่วโลก รายได้ต่อปี หลักแสนล้านบาท
วันดีคืนดีก็เรียก พนักงานมาคุย ทีล่ะคน บอกว่าบริษัทเรามีนโยบายใหม่ มาจากบริษัทแม่ คือ แผนดำเนินการธุรกิจของเราเปลี่ยนไป
เราต้องลดคนลงบางส่วน ship หาย แล้ว นี่มันเรื่องอะไร นี่เรากำลังจะโดน layoff จริง ๆ หรือ

- ตั้งสติ ยอมรับความจริง
ณ เวลานั้น ทำอะไรไม่ได้แล้ว มีหนังสือ มาให้เซ็นตรงหน้า เซ็นรับ แล้วก็รับเงินค่าชดเชยไป หรือ จะไม่เซ็น ก็ต้องไปฟ้องกรมแรงงานเอาเอง
จุด ๆ นั้น ให้ใจเย็น ๆ ลองพิจรณา เอกสารที่เค้าให้เราเซ็น ค่าชดเชย ค่าตอบแทน ต่าง ๆ ว่ามัน สอดคล้องกับอายุงานเรามั้ย คือ ถ้าได้เกินกฏหมาย
แรงงานกำหนดก็ถือว่า ได้โบนัสกลางปีไปก็แล้วกัน ฮ่าๆ แต่ ถ้า มันไม่สัมพันธ์กับอายุงาน เราอย่าพึ่งเซ็น คุยกันให้ชัดเจน ว่ามัน ขาดตก ไปตรงไหน
เพราะถ้าเซ็นไปแล้วมาฟ้องร้องทีหลัง จะยาก

ในเมื่อมันมาถึงจุดนี้ คุณไม่ต้องไปยื้อ ไปอ้อนวอน จุดนี้คือมันจบแล้ว เพราะจริง ๆ เค้าคงคุยกันมาก่อนแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะไปดราม่า
ส่วนตัวผม อึ้งไปแค่พักนึง แล้วก็พยายามเรียกสติกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เกิน 1 ชม
คุณก็พ้นสภาพ พนักงานแล้ว เก็บของกลับบ้านเลย ณ ตอนนั้น ทันที

-น้ำตาแห่งความทุกข์ ความสิ้นหวัง ความเสียใจ
หลายคนทีบ้าน รถ ต้องผ่อน มี เมีย ลูก พ่อ แม่ ที่ต้องดูแล หลายคนน้ำตามันไหลออกมาเอง แบบไม่ทันตั้งตัว จากตรงไปจะทำอย่างไร
จะอยู่อย่างไร บางคน อายุ 40-50 จะไปหางานใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และบางคนทำงานในส่วนงานที่ specialist มาก คือ ถ้าออกจากที่นี่ไป
ก็มีไม่กี่ที่ ที่จะไปทำงานได้ แล้วเค้าจะเปิดรับคนเมื่อไหร่ล่ะ คงรอไม่ได้ เมื่อปากทาง มันไม่เคยหยุดรอ  ตรงนี้ อย่าพึ่งประเมินตัวเองต่ำไป
ถึงแม้มันจะยาก แต่ ทุกอย่างมันมีทางออกเสมอ

- จัดการเงินชดเชย อย่างมีระเบียบ
เงินที่ได้จากการเลิกจ้าง อย่าพึ่งเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ลองทำรายการที่จำเป็นออกมา เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตร แล้วลองมา weight ดู
ว่าเงินที่เหลือนี้จะเอาไปจ่ายอะไรก่อน ที่จำป็นจริง ๆ ในช่วง ที่ยังหางานไม่ได้ ส่วนตัวผม ค่าบ้าน อันนี้ต้องจ่าย ส่วนค่ารถ ผมยอมเสียเครดิตไปก่อน
จ่ายช้าไป แต่อย่าเกินสามเดือน หรือ ถ้าคิดว่า ไม่ไหวจริง ๆ รีบขายออกไปก่อน ที่เหลือก็ใช้เป็นค่ากิน ค่าของใช้จำเป็น

-ลืมอดีตให้หมด
ถึงตอนนี้ ลืมไปให้หมดว่า อดีตเราเคยยิ่งใหญ่ เคยเก่ง เวลานี้ พยายามมองไปข้างหน้า หางานอะไรก็ได้ ให้ไวที่สุด อาจจะตรง หรือ ไม่ตรงกับสายงาน
อะไรก็ได้ มองทุกอย่างเป็นโอกาส อย่ารอโอกาส แต่จงเดินไปหาโอกาส

-กลางคืนที่แสนยาวนาน
ใครที่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาที่ลำบากยากนี้ อาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่สำหรับผม ช่วงแรก ๆ ถึงกับ นอนไม่หลับเป็นอาทิตย์ คือมันง่วงน่ะ แต่พอหลับตา
สมองมันก็คิดนั่น คิดนี่ ไปเรื่อย สิ่งที่พอจะช่วยได้ ก็คือ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ พยายาม ใช้หลักธรรมะ เข้าช่วย ทุกอย่าง มีเกิด มีดับ
เกิดมาตัวเปล่า ก็ไปตัวเปล่า คนเราเกิดมาทุกคนก็ต้องตาย จะตายช้า หรือ เร็ว ยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะฉนั้นอย่าไปยึดติด

- ใช้ชีวิตให้เรียบง่าย
จากที่เคยใช้ของดี มีราคา อะไรไม่จำเป็นก็ขายไปให้หมด เคยกินของดี ราคาแพง ก็ปรับตัว มากินของธรรมดา นั่งรถเมล์บ้าง รถสาธารณะบ้าง

มีต่อครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่