กับแถลงการณ์ "ถลกหนังหน้า" สำนักตัวเอง ของสาวกจานบิน ในปฏิบัติการ "ทัพหน้า" สกัด DSI ไม่ให้ค้นจับ "สมีโย" วานซืน
"บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้วค่อยมอบตัว"!
เป็นมอตโต ขนาด "นายชูชาติ ศรีแสง" อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ต้องโพสต์เฟซบุ๊ก "Chuchart Srisaeng" ว่า
"แถลงการณ์ของคณะศิษย์พระธัมมชโย ที่ระบุว่า พระธัมมชโยควรเข้ามอบตัวก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้ว
โดยอ้างว่า การที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมทำให้ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพในกระบวนยุติธรรม นั้น
แสดงให้เห็นว่า บุคคลเหล่านี้ เป็นพวกเดียวกัน ที่อยู่ในกลุ่มการเมืองใด เพียงหวังรอให้กลุ่มอำนาจตนกลับมา เพื่อประโยชน์ทางคดี ที่อาจดำเนินการให้มีการสั่งไม่ฟ้อง หรือ ถอนฟ้อง พระธัมมชโย ได้
และ ที่กล่าวว่าพระธัมมชโย ควรเข้ามอบตัว ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้วเท่านั้น เพราะการที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมทำให้ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพในกระบวนยุติธรรม
ถือว่าเป็นการประกาศตัวออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้อย่างชัดแจ้งว่า บุคคลเหล่านี้เป็นพวกเดียวกัน ที่อยู่ในกลุ่มการเมือง และ เป็นกลุ่มการเมือง ที่บุคคลในกลุ่มจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะคำพิพากษาของศาล ที่ทำให้ตนเองไม่ได้รับประโยชน์
ดังเช่นที่มีผู้ไปประกาศต่อชาวโลก ไม่ยอมรับคำพิพากษาศาลยุติธรรมของประเทศไทย เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกบุคคลคนนั้น และบุคคลเหล่านี้ ต้องการหลักประกันความยุติธรรม เฉพาะกรณีที่พวกเขาต้องการดำเนินคดีแก่บุคคลอื่นเท่านั้น
ดังนั้น ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ที่คณะศิษย์ของพระธัมมชโยต้องการ ก็คงจะเป็นประชาธิปไตย ที่สามารถดำเนินการให้อัยการสูงสุดถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโยถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลอาญา
ทั้งๆ ที่ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาจนใกล้ที่จะมีคำพิพากษาอยู่แล้ว อันเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่อัยการสูงสุดได้กระทำเช่นนั้น
และครั้งนี้ก็คงคาดหวังว่า ถ้ากลุ่มของพวกตนได้กลับมามีอำนาจอีก ก็อาจสามารถดำเนินการให้มีการสั่งไม่ฟ้อง หรือหากฟ้องไปแล้ว ก็อาจดำเนินการให้มีการถอนฟ้องเช่นเดียวกับคดีก่อนได้อีก
และนี่คือสาระสำคัญที่เป็นเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ฉบับนี้ ครับ"
นี่แหละ.........
ผลที่ได้จากปฏิบัติการเชิงนวดให้น่วมก่อนนาบของ DSI ต่อสมีโย ที่นำเอา "พุทธธรรม" ไปยำเป็นสินค้า "สวรรค์-อายตนนิพพาน" ลวงโลก
นี่เพียงนวดแรก
อะไรๆ ที่มะลำ-เมลือง ซ่อนในคราบเหลืองโล้น ค่อยโผล่ให้ชาวบ้าน "รู้เช่น-เห็นชาติ" แล้วมั้ยล่ะ
โพสต์ของท่านสุชาติ ผมอ่านจากข่าวสารออนไลน์ทีนิวส์ เห็นสาระที่ควรชี้ให้สังคมเห็นชัดๆ จึงลอกมาให้อ่านกัน
คงจำกันได้ ปี ๒๕๔๑ สมัยรัฐบาล "ชวน หลีกภัย"
สมีโยเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ข้อหายักยอกที่ดินและเงินบริจาควัด มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ใกล้ชิดสีกา และอวดอุตริมนุสธรรม
สืบพยานในศาลถึง ๗ ปี เหลือพยานจำเลยอีก ๒ นัด ก็จะจบ พร้อมมีคำพิพากษา เรียกว่า คุกเห็นรำไร เข้าไปครึ่งขาแล้ว
ที่ขาโตตอนนี้ คงเป็นวิบากกรรมจากครั้งนั้นด้วยแหละ ผมว่า?
แต่พอมาถึงเดือนสิงหา ๔๙ สมัยรัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร"
พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ๕ ซึ่งเป็นโจทก์ ก็ขอถอนฟ้องจำเลย คือ ธัมมชโย และนายถาวร พรหมถาวร ลูกศิษย์
๒๒ สิงหา ๔๙ ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ สมีโยจึงใหญ่และอู้ฟู่ คู่ระบอบทักษิณเรื่อยมา!
นี่แหละ....การ "รอให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ก่อน ค่อยมอบตัว" ตามนัยแถลงการณ์แก๊งสมีโย มันเป็นแบบนี้
แบบที่ "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" คือ "ประชาธิปไตยใต้ระบอบทักษิณ" เท่านั้น ที่ทำได้-สั่งได้
ฉะนั้น ในอีกวรรคของแถลงการณ์ที่ว่า.....
"การที่จะรอเวลาให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็ใกล้จะถึงอยู่แล้ว ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและประชาคมโลก จึงไม่ได้เป็นการล่าช้าต่อการดำเนินคดีและเกิดความเสียหายต่อรูปคดีแต่ประการใด” นั้น
ชัดแจ้ง-แดงแจ๋ ไม่แดงแค่หาง แต่แดง "คลุมเหลือง" ทั้งตัว
ที่ไม่มอบตอนนี้ ก็รอ "ประชาธิปไตยทักษิณ" เพราะมีแต่ประชาธิปไตยทักษิณเท่านั้น จะทำให้พ้นคดี-พ้นข้อหาได้
"ใกล้จะถึงอยู่แล้ว"...........
หมายถึง "จะรอดอยู่แล้ว" รอเพียงเลือกตั้งวันไหน ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ที่จะทำให้สมีโยรอด ก็มาวันนั้น
ฉะนั้น จึงไม่แปลก ในขณะรัฐบาลเดินตรงตามกฎหมายกับสมีโย จำเป็นอยู่เองที่ "แก๊งแดงร่วมเหลือง"
คือแก๊งการเมืองระบอบทักษิณ ต้องออกตีรุกรัฐบาล
ทางหนึ่ง พัวพันดึงขา หวังชะลอการบุกถลกจีวรสมีโย
อีกทาง ปลุกเร้า-เป่าหู ให้ประชามติล้ม เพื่อร่นเลือกตั้งเร็วขึ้น ด้วยมั่นใจว่า
เลือกตั้งวันไหน "แก๊งแดงระบอบทักษิณ" ก็มาวันนั้น!
แม่ชี คุณยายอะไรนั่น ปัดระเบิดได้......
แต่ประชาธิปไตยระบอบทักษิณนี่แหละ ปัดคดี-ปัดคุกได้!
ด้วยตรรกะคิดของสมีโยนี้ การกระด้าง-กระเดื่องต่อกฎหมายบ้านเมือง ด้วยไม่ยอมมอบตัว นั่น...เป็นการ "เจริญรอยตาม" ระบอบทักษิณ
ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ .........
ทั้งพรรครัฐบาล ทั้งประธานสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา เมื่อต้องคดี
ก็ประกาศ "ไม่ยอมรับอำนาจศาล"
เหมือนสมีโย พอคดีมาถึงคอ-ถึงขา ก็ตีลีลาอารยะถ่อยเถื่อน รอประชาธิปไตย ไม่ยอมรับอำนาจกฎหมาย!
ก็ประจักษ์ชัด สมีโย-เจ้าลัทธิธรรมกาย มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงราชอาณาจักร กระด้างกระเดื่อง วางตนเหนืออำนาจ-เหนือกฎหมายบ้านเมือง
การขึ้นบัญชีดำ ห้ามออกนอกประเทศขณะนี้ ก็ไม่แน่ใจว่า แท้จริงแล้ว สมีโยยังนอนตีนโตอยู่ในสำนักหรือไม่?
ไม่มีขบวนการพาเล็ดลอดออกไป ไม่มี ฮ.ร่อนลงในอาณาจักรพื้นที่ ๒,๐๐๐-๔,๐๐๐ ไร่ รับตัวเตลิดไปแล้ว?
เพราะหลังจากวันเกิด ๒๒ เม.ย.๕๙ .......
ไม่มีใครเคยเห็นตัว และไม่มีใครยืนยันได้ว่า "สมีโย" ยังนอนตีนโต ป่วย ๘ โรค อยู่ในรัฐอิสระนั้น?
การอายัดทรัพย์ ทั้งบัญชีสมีโย บัญชีมูลนิธิต่างๆ บัญชีวัด และบัญชี ผู้มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยง
ก็ยังไม่ได้ทำ?!
และในทางควรเป็น แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย คือ ในความเป็น "รัฐบาลสงฆ์"
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เหมือนนายกรัฐมนตรีสงฆ์
คณะกรรมการมหาเถรสมาคม เหมือนคณะรัฐมนตรี
แต่ปรากฏว่า อาณาจักรธรรมกาย และตัวเจ้าสำนัก คือสมีโย แสดงพฤติกรรมเหนือกฎหมายรัฐบาลสงฆ์ เหนือกฎหมายรัฐบาลบ้านเมือง
เป็นภาพลบ-เสื่อมเสีย เป็นตัวอย่างเลว ทั้งทางพุทธจักรและอาณาจักร
แต่ รัฐบาลสงฆ์.........
โดยนายกฯ สงฆ์ และคณะรัฐมนตรีสงฆ์ ไม่รู้ร้อน-รู้หนาว ไม่เอาอ่าว-เอาทะเล อะไรทั้งสิ้น!?
ไฟไหม้หลังคาวัด ยังไม่ทำหน้าที่เอื้อเฟื้อพระพุทธศาสนา แต่กลับเรียกร้อง ฮือหา เอากันแต่ว่า.....
เมื่อไหร่จะสถาปนาเป็นพระสังฆราช?
ถ้าธรรมเครื่องคุ้มครองโลก คือ "หิริ-โอตตัปปะ" ไม่มีในใจ เฉพาะตำแหน่ง ถึงมีไป ก็รักษาพุทธศาสน์-ชาติ-ประเทศ ไม่ได้หรอก
หรือผู้ปกครองสงฆ์ เข้าใจคำว่า "พระพุทธศาสนา" เหมือนที่ "ดร.ลีลาวดี วัชโรบล" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย สาวกตัวแม่ธรรมกาย โพสต์ว่า.......
"ลีไม่เข้าใจจริงๆ เลยนะคะ ทำไมถึงมีคนเชื่อว่า หลวงพ่อขายบุญขายสวรรค์ ..แล้วยังมาตามด่า หรือโพสต์ข้อความกระแนะกระแหน ในเพจนี้_ เอาจริงๆ เลยนะคะ ลีอ่านแล้วขำนะคะ ..พวกเรา ชาววัด รักและศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงช่วยกันสละทรัพย์ให้ท่านนำมาสร้างวัดแห่งนี้เพื่อให้เป็นโรงเรียนสอนศีลธรรมหรือสถานที่ ที่ใช้ฝึกใจให้ชาวพุทธผู้มีปัญญามาสั่งสมประสบการณ์ด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา _
เหตุการณ์วันนี้_เป็นประวัติศาสตร์การสร้างบารมีที่พวกเราภาคภูมิใจ เรามาปกป้องหลวงพ่อเพราะเราไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมในประเทศตอนนี้
'ไม้บรรทัดเบี้ยวๆ จะมาวัดให้ตรง.. มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ'
..อย่ามาดูถูกหัวใจชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา รักความถูกต้องและยุติธรรมเลยค่ะ (ขอแอบคิดในใจ-ความใสก็คนละเบอร์แล้วค่ะ_)
เพราะมาถึงวันนี้ ทุกคนทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน ...เป็นไงเป็นกัน_ อย่างเบิกบานและอบอุ่นใจค่ะ"
สมีโย คือตัวพระพุทธศาสนา
การปกป้องโจรเหลือง คือการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
การตั้งกำแพงมนุษย์ ต่อต้านการจับโจร คือการสร้างบารมี
ประทานกราบเรียนถาม......
นี้คือนโยบาย "รัฐบาลรักษาการสมเด็จช่วง"........
รอการมาโปรดของรัฐบาลประชาธิปไตยสมบูรณ์ อย่างนั้นหรือขอรับ...พระคุณเจ้า?
ที่มา
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%A3%E0%B8%AF-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81
ลับ-ลวง-พราง 'พุทธะมหาเถรฯ' ครึกครื้น-ฮาครืนกันมาก....... โดย เปลว สีเงิน
"บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้วค่อยมอบตัว"!
เป็นมอตโต ขนาด "นายชูชาติ ศรีแสง" อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ต้องโพสต์เฟซบุ๊ก "Chuchart Srisaeng" ว่า
"แถลงการณ์ของคณะศิษย์พระธัมมชโย ที่ระบุว่า พระธัมมชโยควรเข้ามอบตัวก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้ว
โดยอ้างว่า การที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมทำให้ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพในกระบวนยุติธรรม นั้น
แสดงให้เห็นว่า บุคคลเหล่านี้ เป็นพวกเดียวกัน ที่อยู่ในกลุ่มการเมืองใด เพียงหวังรอให้กลุ่มอำนาจตนกลับมา เพื่อประโยชน์ทางคดี ที่อาจดำเนินการให้มีการสั่งไม่ฟ้อง หรือ ถอนฟ้อง พระธัมมชโย ได้
และ ที่กล่าวว่าพระธัมมชโย ควรเข้ามอบตัว ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้วเท่านั้น เพราะการที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมทำให้ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพในกระบวนยุติธรรม
ถือว่าเป็นการประกาศตัวออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้อย่างชัดแจ้งว่า บุคคลเหล่านี้เป็นพวกเดียวกัน ที่อยู่ในกลุ่มการเมือง และ เป็นกลุ่มการเมือง ที่บุคคลในกลุ่มจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะคำพิพากษาของศาล ที่ทำให้ตนเองไม่ได้รับประโยชน์
ดังเช่นที่มีผู้ไปประกาศต่อชาวโลก ไม่ยอมรับคำพิพากษาศาลยุติธรรมของประเทศไทย เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกบุคคลคนนั้น และบุคคลเหล่านี้ ต้องการหลักประกันความยุติธรรม เฉพาะกรณีที่พวกเขาต้องการดำเนินคดีแก่บุคคลอื่นเท่านั้น
ดังนั้น ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ที่คณะศิษย์ของพระธัมมชโยต้องการ ก็คงจะเป็นประชาธิปไตย ที่สามารถดำเนินการให้อัยการสูงสุดถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโยถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลอาญา
ทั้งๆ ที่ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาจนใกล้ที่จะมีคำพิพากษาอยู่แล้ว อันเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่อัยการสูงสุดได้กระทำเช่นนั้น
และครั้งนี้ก็คงคาดหวังว่า ถ้ากลุ่มของพวกตนได้กลับมามีอำนาจอีก ก็อาจสามารถดำเนินการให้มีการสั่งไม่ฟ้อง หรือหากฟ้องไปแล้ว ก็อาจดำเนินการให้มีการถอนฟ้องเช่นเดียวกับคดีก่อนได้อีก
และนี่คือสาระสำคัญที่เป็นเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ฉบับนี้ ครับ"
นี่แหละ.........
ผลที่ได้จากปฏิบัติการเชิงนวดให้น่วมก่อนนาบของ DSI ต่อสมีโย ที่นำเอา "พุทธธรรม" ไปยำเป็นสินค้า "สวรรค์-อายตนนิพพาน" ลวงโลก
นี่เพียงนวดแรก
อะไรๆ ที่มะลำ-เมลือง ซ่อนในคราบเหลืองโล้น ค่อยโผล่ให้ชาวบ้าน "รู้เช่น-เห็นชาติ" แล้วมั้ยล่ะ
โพสต์ของท่านสุชาติ ผมอ่านจากข่าวสารออนไลน์ทีนิวส์ เห็นสาระที่ควรชี้ให้สังคมเห็นชัดๆ จึงลอกมาให้อ่านกัน
คงจำกันได้ ปี ๒๕๔๑ สมัยรัฐบาล "ชวน หลีกภัย"
สมีโยเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ข้อหายักยอกที่ดินและเงินบริจาควัด มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ใกล้ชิดสีกา และอวดอุตริมนุสธรรม
สืบพยานในศาลถึง ๗ ปี เหลือพยานจำเลยอีก ๒ นัด ก็จะจบ พร้อมมีคำพิพากษา เรียกว่า คุกเห็นรำไร เข้าไปครึ่งขาแล้ว
ที่ขาโตตอนนี้ คงเป็นวิบากกรรมจากครั้งนั้นด้วยแหละ ผมว่า?
แต่พอมาถึงเดือนสิงหา ๔๙ สมัยรัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร"
พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ๕ ซึ่งเป็นโจทก์ ก็ขอถอนฟ้องจำเลย คือ ธัมมชโย และนายถาวร พรหมถาวร ลูกศิษย์
๒๒ สิงหา ๔๙ ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ สมีโยจึงใหญ่และอู้ฟู่ คู่ระบอบทักษิณเรื่อยมา!
นี่แหละ....การ "รอให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ก่อน ค่อยมอบตัว" ตามนัยแถลงการณ์แก๊งสมีโย มันเป็นแบบนี้
แบบที่ "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" คือ "ประชาธิปไตยใต้ระบอบทักษิณ" เท่านั้น ที่ทำได้-สั่งได้
ฉะนั้น ในอีกวรรคของแถลงการณ์ที่ว่า.....
"การที่จะรอเวลาให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็ใกล้จะถึงอยู่แล้ว ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและประชาคมโลก จึงไม่ได้เป็นการล่าช้าต่อการดำเนินคดีและเกิดความเสียหายต่อรูปคดีแต่ประการใด” นั้น
ชัดแจ้ง-แดงแจ๋ ไม่แดงแค่หาง แต่แดง "คลุมเหลือง" ทั้งตัว
ที่ไม่มอบตอนนี้ ก็รอ "ประชาธิปไตยทักษิณ" เพราะมีแต่ประชาธิปไตยทักษิณเท่านั้น จะทำให้พ้นคดี-พ้นข้อหาได้
"ใกล้จะถึงอยู่แล้ว"...........
หมายถึง "จะรอดอยู่แล้ว" รอเพียงเลือกตั้งวันไหน ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ที่จะทำให้สมีโยรอด ก็มาวันนั้น
ฉะนั้น จึงไม่แปลก ในขณะรัฐบาลเดินตรงตามกฎหมายกับสมีโย จำเป็นอยู่เองที่ "แก๊งแดงร่วมเหลือง"
คือแก๊งการเมืองระบอบทักษิณ ต้องออกตีรุกรัฐบาล
ทางหนึ่ง พัวพันดึงขา หวังชะลอการบุกถลกจีวรสมีโย
อีกทาง ปลุกเร้า-เป่าหู ให้ประชามติล้ม เพื่อร่นเลือกตั้งเร็วขึ้น ด้วยมั่นใจว่า
เลือกตั้งวันไหน "แก๊งแดงระบอบทักษิณ" ก็มาวันนั้น!
แม่ชี คุณยายอะไรนั่น ปัดระเบิดได้......
แต่ประชาธิปไตยระบอบทักษิณนี่แหละ ปัดคดี-ปัดคุกได้!
ด้วยตรรกะคิดของสมีโยนี้ การกระด้าง-กระเดื่องต่อกฎหมายบ้านเมือง ด้วยไม่ยอมมอบตัว นั่น...เป็นการ "เจริญรอยตาม" ระบอบทักษิณ
ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ .........
ทั้งพรรครัฐบาล ทั้งประธานสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา เมื่อต้องคดี
ก็ประกาศ "ไม่ยอมรับอำนาจศาล"
เหมือนสมีโย พอคดีมาถึงคอ-ถึงขา ก็ตีลีลาอารยะถ่อยเถื่อน รอประชาธิปไตย ไม่ยอมรับอำนาจกฎหมาย!
ก็ประจักษ์ชัด สมีโย-เจ้าลัทธิธรรมกาย มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงราชอาณาจักร กระด้างกระเดื่อง วางตนเหนืออำนาจ-เหนือกฎหมายบ้านเมือง
การขึ้นบัญชีดำ ห้ามออกนอกประเทศขณะนี้ ก็ไม่แน่ใจว่า แท้จริงแล้ว สมีโยยังนอนตีนโตอยู่ในสำนักหรือไม่?
ไม่มีขบวนการพาเล็ดลอดออกไป ไม่มี ฮ.ร่อนลงในอาณาจักรพื้นที่ ๒,๐๐๐-๔,๐๐๐ ไร่ รับตัวเตลิดไปแล้ว?
เพราะหลังจากวันเกิด ๒๒ เม.ย.๕๙ .......
ไม่มีใครเคยเห็นตัว และไม่มีใครยืนยันได้ว่า "สมีโย" ยังนอนตีนโต ป่วย ๘ โรค อยู่ในรัฐอิสระนั้น?
การอายัดทรัพย์ ทั้งบัญชีสมีโย บัญชีมูลนิธิต่างๆ บัญชีวัด และบัญชี ผู้มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยง
ก็ยังไม่ได้ทำ?!
และในทางควรเป็น แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย คือ ในความเป็น "รัฐบาลสงฆ์"
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เหมือนนายกรัฐมนตรีสงฆ์
คณะกรรมการมหาเถรสมาคม เหมือนคณะรัฐมนตรี
แต่ปรากฏว่า อาณาจักรธรรมกาย และตัวเจ้าสำนัก คือสมีโย แสดงพฤติกรรมเหนือกฎหมายรัฐบาลสงฆ์ เหนือกฎหมายรัฐบาลบ้านเมือง
เป็นภาพลบ-เสื่อมเสีย เป็นตัวอย่างเลว ทั้งทางพุทธจักรและอาณาจักร
แต่ รัฐบาลสงฆ์.........
โดยนายกฯ สงฆ์ และคณะรัฐมนตรีสงฆ์ ไม่รู้ร้อน-รู้หนาว ไม่เอาอ่าว-เอาทะเล อะไรทั้งสิ้น!?
ไฟไหม้หลังคาวัด ยังไม่ทำหน้าที่เอื้อเฟื้อพระพุทธศาสนา แต่กลับเรียกร้อง ฮือหา เอากันแต่ว่า.....
เมื่อไหร่จะสถาปนาเป็นพระสังฆราช?
ถ้าธรรมเครื่องคุ้มครองโลก คือ "หิริ-โอตตัปปะ" ไม่มีในใจ เฉพาะตำแหน่ง ถึงมีไป ก็รักษาพุทธศาสน์-ชาติ-ประเทศ ไม่ได้หรอก
หรือผู้ปกครองสงฆ์ เข้าใจคำว่า "พระพุทธศาสนา" เหมือนที่ "ดร.ลีลาวดี วัชโรบล" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย สาวกตัวแม่ธรรมกาย โพสต์ว่า.......
"ลีไม่เข้าใจจริงๆ เลยนะคะ ทำไมถึงมีคนเชื่อว่า หลวงพ่อขายบุญขายสวรรค์ ..แล้วยังมาตามด่า หรือโพสต์ข้อความกระแนะกระแหน ในเพจนี้_ เอาจริงๆ เลยนะคะ ลีอ่านแล้วขำนะคะ ..พวกเรา ชาววัด รักและศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงช่วยกันสละทรัพย์ให้ท่านนำมาสร้างวัดแห่งนี้เพื่อให้เป็นโรงเรียนสอนศีลธรรมหรือสถานที่ ที่ใช้ฝึกใจให้ชาวพุทธผู้มีปัญญามาสั่งสมประสบการณ์ด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา _
เหตุการณ์วันนี้_เป็นประวัติศาสตร์การสร้างบารมีที่พวกเราภาคภูมิใจ เรามาปกป้องหลวงพ่อเพราะเราไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมในประเทศตอนนี้
'ไม้บรรทัดเบี้ยวๆ จะมาวัดให้ตรง.. มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ'
..อย่ามาดูถูกหัวใจชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา รักความถูกต้องและยุติธรรมเลยค่ะ (ขอแอบคิดในใจ-ความใสก็คนละเบอร์แล้วค่ะ_)
เพราะมาถึงวันนี้ ทุกคนทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน ...เป็นไงเป็นกัน_ อย่างเบิกบานและอบอุ่นใจค่ะ"
สมีโย คือตัวพระพุทธศาสนา
การปกป้องโจรเหลือง คือการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
การตั้งกำแพงมนุษย์ ต่อต้านการจับโจร คือการสร้างบารมี
ประทานกราบเรียนถาม......
นี้คือนโยบาย "รัฐบาลรักษาการสมเด็จช่วง"........
รอการมาโปรดของรัฐบาลประชาธิปไตยสมบูรณ์ อย่างนั้นหรือขอรับ...พระคุณเจ้า?
ที่มา
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%A3%E0%B8%AF-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81