สวัสดีค่ะ...
อาจจะฟังดูน้ำเน่าหรือซ้ำกับเรื่องของคนอื่นก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ทนๆ อ่านให้หน่อย
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน...
เหตุเกิดตอนที่เราอายุ 16 ปี เราเรียนสายอาชีพที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในอุดรฯ สาเหตุที่เลือกเรียนสายนี้ก็เพราะ... ไม่มีเหตุผลค่ะ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเรียนสายนี้ ตอนแรกมาสมัครเพราะเพื่อนชวน เพื่อนคนนั้นเราเพิ่งสนิทกันได้ไม่นาน
และเพื่อนคนนั้นก็ชิ่งหนีเราไปเรียนสายสามัญ...
เราเลยต้องใช้ชีวิตในรั้ววิยาลัยเพียงคน จริงๆ จะว่าคนเดียวก็ไม่ถูก เราก็มีเพื่อนที่เรียนที่นี่เหมือนกัน แต่คนละสาขาวิชา เราเรียนการโรงแรม ที่นี่มีแต่คนสวยๆ แล้วก็สาวประเภทสองจำนวนมาก อาจจะเพราะเราหน้าตาขี้เหร่มั้งเลยไม่มีเพื่อนคบเลย ผ่านไปสามวันที่เราใช้ชีวิตคนเดียว เดินไปกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียว นั่งคนเดียว กลับบ้าคนเดียว ไม่พูดคุยหรือสุงสิงกับใคร(จริงๆ นิสัยเราก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ) จนมาวันหนึ่งก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทำความรู้จักเรา เธอชื่อแก๊ซ เป็นผู้หญิงตัวเล็กขี้เล่น เราคุยกันถูกคอกันมาก(เพราะชอบอ่านนิยายเหมือนกัน) แล้วเราก็สนิทกันในเวลาแค่วันเดียว แต่แล้วก็มีเหตุให้เราต้องแยกห้องกัน เราคิดตั้งแต่แรกก่อนที่จะเจอแก๊ซแล้วว่าจะย้ายสาขาเรียน ครูให้เด็กที่ติด EP (English Program) อยู่ห้องหนึ่ง เรากับแก๊ซต่างก็ติดห้องอีพีด้วยกันทั้งคู่ ...แต่เราก็สละสิทธิ์ให้คนอื่นไป เพราะยังไงๆ ตัวเองก็จะย้ายสาขาเรียนอยู่แล้ว หลังจากนั้นเราก็คุยกันน้อยลง จนทุกวันนี้เดินผ่านหน้ากันก็ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลยค่ะ
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้ย้ายสาขาเรียน เรายังเรียนการโรงแรมเหมือนเดิม กลัวเหมือนกันว่าแก๊ซจะเข้าใจผิดคิดว่าเราไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ไม่อยากสนิทกับเธอ เพราะเราได้ไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องย้ายสาขาแล้ว แต่อาจารย์บอกให้คิดดีๆ ก่อน หลังจากวันนั้นก็ทำให้เราได้เจอกับ 'เธอ' เธอคนที่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่อยากย้ายแผนก...
เธอชื่อเฟิร์น เธอย้ายมาจากสาขาการตลาด เราคุยกันครั้งแรกตอนที่เธอถูกเพื่อนในกลุ่มทิ้งให้อยู่ในวิทยาลัยคนเดียว ตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยง เพื่อนบางคนก็ออกไปกินข้าวข้างนอก เธอคือคนที่เดินเข้ามาคุยกับเรา ซื้อมะม่วงดอง มะยมดองมานั่งกินไปด้วยระหว่างที่คุย แต่เราไม่ได้กินหรอก เราไม่ค่อยชอบของหมักดองน่ะ เฟิร์นเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง เอาแต่ใจบ้างเป็นบางครั้ง ถึงแม้จะปากเสียไปบางครั้งก็เหอะ ความรู้สึกตอนนั้นคือเราคิดกับกันแค่เพื่อน เฟิร์นแนะนำให้เพื่อนในกลุ่มของเธอให้เรารู้จัก แต่ว่าเราก็ยังไม่ค่อยพูดอยู่ดี เราสองสนิทกันเร็วมาก อาจจะไม่เร็วเท่าตอนที่สนิทกับแก๊ซ แต่ความรู้สึกสนิทมันก็มากกว่ายังไงไม่รู้ เราสองคนชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลาเดินไปกินก็ชอบจับมือกัน กินเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน บ่อยครั้งที่เฟิร์นงอแงเราก็จะเป็นคนปลอบ แม้ในตอนที่เฟิร์นเอาแต่ใจตัวเอง เราก็จะเป็นคนตามใจเธอเสมอ จนบ่อยครั้งที่เพื่อนในกลุ่มแซวว่าเราเป็น 'ผัวเมียกัน' ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับคำแซวพวกนี้หรอก เพราะเพื่อนกันตามใจกันคงไม่ได้ผิดอะไร จนกระทั่ง...
วันที่เฟิร์นเล่าว่าเคยรักคนๆ หนึ่งมาก เขาเป็นทอม ถึงแม้ว่าจะเลิกกันไปนานแล้ว แต่เธอก็ยังคิดถึงเขาอยู่ เราไม่คิดเลยว่าคำพูดพวกนั้นมันจะทำให้เราหายใจติดขัด โหวงเหวงแปลกๆ ไม่รู้สิ มันอาจจะเป็นคนโรคหวงเพื่อนสนิทก็ได้มั้ง เฟิร์นเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดมันอย่างนั้น แต่เธอก็เป็นคนขี้เล่นด้วยไง เราก็เลยไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่พูดกับเราว่า 'ชอบเรา' มันคือเรื่องจริงหรือเรื่องล้อเล่น....
หลังจากนั้นเธอก็พูดกับเราบ่อยๆ ประมาณว่า 'เป็นแฟนกันนะ' 'เป็นแฟนกันเถอะ' อะไรประมาณนี้ บางครั้งก็แอบจุ๊บแก้ม จุ๊บปากเราอยู่บ่อยๆ เวลานอนดูทีวี เฟิร์นก็ชอบนอนกอดเรา จนเราเริ่มที่จะใจอ่อน ตอนนั้นเรา...เราไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ว่ามันคืออะไร เรารู้แค่ว่ารู้สึกดีที่ได้อยู่กับเฟิร์น ซึ่งความรู้สึกดีเหล่านี้มันอาจกำลังบอกกับเราว่า 'เราชอบเฟิร์น' ไปแล้วก็ได้
เราคิดตลอดว่ามันจะเป็นไปได้ไง ผู้หญิงกับผู้หญิงเนี่ยนะ? แล้วเราก็ไม่ใช่ไม่เคยรู้สึกแอบรักผู้ชายมาก่อน ตอนที่เราอยู่ ม.2 เราก็แอบชอบเพื่อนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน เราจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี และตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่ เพียงแค่เราไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่เรา...รู้สึกกับคนที่ชื่อเฟิร์น
จากเพื่อนกันแค่ปีเดียวก็กลายมาเป็นสองปี จากสองปีกลายเป็นสามปี ความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่เราไม่กล้าที่จะบอกให้เจ้าตัวรู้ เราแค่อยากรอเวลาเพื่อให้เราได้มั่นใจอีกสักครั้งว่าเราชอบเฟิร์นจริงๆ แต่เราคงรอเวลานานไปมั้ง ถึงบอกตอนนี้มันก็คงสายไปแล้ว... เธอมีแฟนแล้ว
เธอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแอน เป็นรุ่นพี่พวกเราปีหนึ่ง เรารู้เรื่องเพราะเห็นสถานะในเฟสบุ๊คของเธอ เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง พี่เขานิสัยดีมาก เรารู้สึกอิจฉาผู้หญิงที่ชื่อแอนนิดๆ ที่ได้ความรักจากเฟิร์น ได้ใช้ควำว่าแฟนร่วมกันกับเฟิร์น ได้เป็นคนที่ยืนจับมือเฟิร์นทั้งที่มันควรจะเป็นเรา...
ถ้าเราบอกความรู้สึกกับเธอไปตอนนั้น เรื่องราวมันก็คงจะจบลงตรงที่เราได้เป็นแฟนกัน หรือไม่ก็เลิกเป็นเพื่อนกัน แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ เรารู้สึกว่าเราคิดผิดมากที่ไม่บอกเธอ ถึงแม้ว่าบอกไปแล้วเธอจะเลิกเป็นเพื่อนกันก็เถอะ แต่มันก็ยังดีกว่าแอบรักเขาอยู่อย่างนี้ อยู่ใกล้แค่นี้ แต่ก็ไม่สามารถบอกให้เธอรู้ได้ ทุกวันนี่เราก็ทำตัวปกติค่ะ จับมือกันเหมือนเดิม แต่ไม่บ่อยครั้ง เราก็คงไม่บอกความรู้สึกออกไปให้เธอได้รู้หรอก เพราะถ้าบอกไปแล้วเธอมีปัญหากับแฟน ทะเลาะกับแฟน ร้องไห้เสียใจ เราก็คงไม่สบายใจเท่าไหร่นักหรอก เป็นแบบนี้น่ะ...ดีแล้ว
เราเคยคิดนะว่าฟ้าคงลิขิตให้เราสองคนได้มาพบกัน และตอนนี้เราก็ได้ค้นพบอีกอย่างว่าฟ้าแค่ลิขิตให้ได้พบกันเท่านั้น ไม่ได้ลิขิตให้เกิดมาเพื่อคู่กัน...
มันเศร้าที่เรารักเขา แต่เราไม่มีสิทธิ์อะไรในความเป็นจริง
ก่อนไปขอฝากถึงคนที่แอบรักเพื่อนตัวเองด้วยนะคะ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ายังพอมีโอกาสก็ให้รีบบอกก่อนที่มันสายเหมือนกับเรา โชคดีนะคะทุกคน ^^
เมื่อคำว่า 'เพื่อนรัก' กลายเป็น 'รักเพื่อน' [เล่าจากเรื่องจริงของตัวเอง]
อาจจะฟังดูน้ำเน่าหรือซ้ำกับเรื่องของคนอื่นก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ทนๆ อ่านให้หน่อย
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน...
เหตุเกิดตอนที่เราอายุ 16 ปี เราเรียนสายอาชีพที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในอุดรฯ สาเหตุที่เลือกเรียนสายนี้ก็เพราะ... ไม่มีเหตุผลค่ะ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเรียนสายนี้ ตอนแรกมาสมัครเพราะเพื่อนชวน เพื่อนคนนั้นเราเพิ่งสนิทกันได้ไม่นาน
และเพื่อนคนนั้นก็ชิ่งหนีเราไปเรียนสายสามัญ...
เราเลยต้องใช้ชีวิตในรั้ววิยาลัยเพียงคน จริงๆ จะว่าคนเดียวก็ไม่ถูก เราก็มีเพื่อนที่เรียนที่นี่เหมือนกัน แต่คนละสาขาวิชา เราเรียนการโรงแรม ที่นี่มีแต่คนสวยๆ แล้วก็สาวประเภทสองจำนวนมาก อาจจะเพราะเราหน้าตาขี้เหร่มั้งเลยไม่มีเพื่อนคบเลย ผ่านไปสามวันที่เราใช้ชีวิตคนเดียว เดินไปกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียว นั่งคนเดียว กลับบ้าคนเดียว ไม่พูดคุยหรือสุงสิงกับใคร(จริงๆ นิสัยเราก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ) จนมาวันหนึ่งก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทำความรู้จักเรา เธอชื่อแก๊ซ เป็นผู้หญิงตัวเล็กขี้เล่น เราคุยกันถูกคอกันมาก(เพราะชอบอ่านนิยายเหมือนกัน) แล้วเราก็สนิทกันในเวลาแค่วันเดียว แต่แล้วก็มีเหตุให้เราต้องแยกห้องกัน เราคิดตั้งแต่แรกก่อนที่จะเจอแก๊ซแล้วว่าจะย้ายสาขาเรียน ครูให้เด็กที่ติด EP (English Program) อยู่ห้องหนึ่ง เรากับแก๊ซต่างก็ติดห้องอีพีด้วยกันทั้งคู่ ...แต่เราก็สละสิทธิ์ให้คนอื่นไป เพราะยังไงๆ ตัวเองก็จะย้ายสาขาเรียนอยู่แล้ว หลังจากนั้นเราก็คุยกันน้อยลง จนทุกวันนี้เดินผ่านหน้ากันก็ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลยค่ะ
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้ย้ายสาขาเรียน เรายังเรียนการโรงแรมเหมือนเดิม กลัวเหมือนกันว่าแก๊ซจะเข้าใจผิดคิดว่าเราไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ไม่อยากสนิทกับเธอ เพราะเราได้ไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องย้ายสาขาแล้ว แต่อาจารย์บอกให้คิดดีๆ ก่อน หลังจากวันนั้นก็ทำให้เราได้เจอกับ 'เธอ' เธอคนที่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่อยากย้ายแผนก...
เธอชื่อเฟิร์น เธอย้ายมาจากสาขาการตลาด เราคุยกันครั้งแรกตอนที่เธอถูกเพื่อนในกลุ่มทิ้งให้อยู่ในวิทยาลัยคนเดียว ตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยง เพื่อนบางคนก็ออกไปกินข้าวข้างนอก เธอคือคนที่เดินเข้ามาคุยกับเรา ซื้อมะม่วงดอง มะยมดองมานั่งกินไปด้วยระหว่างที่คุย แต่เราไม่ได้กินหรอก เราไม่ค่อยชอบของหมักดองน่ะ เฟิร์นเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง เอาแต่ใจบ้างเป็นบางครั้ง ถึงแม้จะปากเสียไปบางครั้งก็เหอะ ความรู้สึกตอนนั้นคือเราคิดกับกันแค่เพื่อน เฟิร์นแนะนำให้เพื่อนในกลุ่มของเธอให้เรารู้จัก แต่ว่าเราก็ยังไม่ค่อยพูดอยู่ดี เราสองสนิทกันเร็วมาก อาจจะไม่เร็วเท่าตอนที่สนิทกับแก๊ซ แต่ความรู้สึกสนิทมันก็มากกว่ายังไงไม่รู้ เราสองคนชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลาเดินไปกินก็ชอบจับมือกัน กินเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน บ่อยครั้งที่เฟิร์นงอแงเราก็จะเป็นคนปลอบ แม้ในตอนที่เฟิร์นเอาแต่ใจตัวเอง เราก็จะเป็นคนตามใจเธอเสมอ จนบ่อยครั้งที่เพื่อนในกลุ่มแซวว่าเราเป็น 'ผัวเมียกัน' ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับคำแซวพวกนี้หรอก เพราะเพื่อนกันตามใจกันคงไม่ได้ผิดอะไร จนกระทั่ง...
วันที่เฟิร์นเล่าว่าเคยรักคนๆ หนึ่งมาก เขาเป็นทอม ถึงแม้ว่าจะเลิกกันไปนานแล้ว แต่เธอก็ยังคิดถึงเขาอยู่ เราไม่คิดเลยว่าคำพูดพวกนั้นมันจะทำให้เราหายใจติดขัด โหวงเหวงแปลกๆ ไม่รู้สิ มันอาจจะเป็นคนโรคหวงเพื่อนสนิทก็ได้มั้ง เฟิร์นเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดมันอย่างนั้น แต่เธอก็เป็นคนขี้เล่นด้วยไง เราก็เลยไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่พูดกับเราว่า 'ชอบเรา' มันคือเรื่องจริงหรือเรื่องล้อเล่น....
หลังจากนั้นเธอก็พูดกับเราบ่อยๆ ประมาณว่า 'เป็นแฟนกันนะ' 'เป็นแฟนกันเถอะ' อะไรประมาณนี้ บางครั้งก็แอบจุ๊บแก้ม จุ๊บปากเราอยู่บ่อยๆ เวลานอนดูทีวี เฟิร์นก็ชอบนอนกอดเรา จนเราเริ่มที่จะใจอ่อน ตอนนั้นเรา...เราไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ว่ามันคืออะไร เรารู้แค่ว่ารู้สึกดีที่ได้อยู่กับเฟิร์น ซึ่งความรู้สึกดีเหล่านี้มันอาจกำลังบอกกับเราว่า 'เราชอบเฟิร์น' ไปแล้วก็ได้
เราคิดตลอดว่ามันจะเป็นไปได้ไง ผู้หญิงกับผู้หญิงเนี่ยนะ? แล้วเราก็ไม่ใช่ไม่เคยรู้สึกแอบรักผู้ชายมาก่อน ตอนที่เราอยู่ ม.2 เราก็แอบชอบเพื่อนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน เราจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี และตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่ เพียงแค่เราไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่เรา...รู้สึกกับคนที่ชื่อเฟิร์น
จากเพื่อนกันแค่ปีเดียวก็กลายมาเป็นสองปี จากสองปีกลายเป็นสามปี ความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่เราไม่กล้าที่จะบอกให้เจ้าตัวรู้ เราแค่อยากรอเวลาเพื่อให้เราได้มั่นใจอีกสักครั้งว่าเราชอบเฟิร์นจริงๆ แต่เราคงรอเวลานานไปมั้ง ถึงบอกตอนนี้มันก็คงสายไปแล้ว... เธอมีแฟนแล้ว
เธอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแอน เป็นรุ่นพี่พวกเราปีหนึ่ง เรารู้เรื่องเพราะเห็นสถานะในเฟสบุ๊คของเธอ เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง พี่เขานิสัยดีมาก เรารู้สึกอิจฉาผู้หญิงที่ชื่อแอนนิดๆ ที่ได้ความรักจากเฟิร์น ได้ใช้ควำว่าแฟนร่วมกันกับเฟิร์น ได้เป็นคนที่ยืนจับมือเฟิร์นทั้งที่มันควรจะเป็นเรา...
ถ้าเราบอกความรู้สึกกับเธอไปตอนนั้น เรื่องราวมันก็คงจะจบลงตรงที่เราได้เป็นแฟนกัน หรือไม่ก็เลิกเป็นเพื่อนกัน แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ เรารู้สึกว่าเราคิดผิดมากที่ไม่บอกเธอ ถึงแม้ว่าบอกไปแล้วเธอจะเลิกเป็นเพื่อนกันก็เถอะ แต่มันก็ยังดีกว่าแอบรักเขาอยู่อย่างนี้ อยู่ใกล้แค่นี้ แต่ก็ไม่สามารถบอกให้เธอรู้ได้ ทุกวันนี่เราก็ทำตัวปกติค่ะ จับมือกันเหมือนเดิม แต่ไม่บ่อยครั้ง เราก็คงไม่บอกความรู้สึกออกไปให้เธอได้รู้หรอก เพราะถ้าบอกไปแล้วเธอมีปัญหากับแฟน ทะเลาะกับแฟน ร้องไห้เสียใจ เราก็คงไม่สบายใจเท่าไหร่นักหรอก เป็นแบบนี้น่ะ...ดีแล้ว
เราเคยคิดนะว่าฟ้าคงลิขิตให้เราสองคนได้มาพบกัน และตอนนี้เราก็ได้ค้นพบอีกอย่างว่าฟ้าแค่ลิขิตให้ได้พบกันเท่านั้น ไม่ได้ลิขิตให้เกิดมาเพื่อคู่กัน...
มันเศร้าที่เรารักเขา แต่เราไม่มีสิทธิ์อะไรในความเป็นจริง
ก่อนไปขอฝากถึงคนที่แอบรักเพื่อนตัวเองด้วยนะคะ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ายังพอมีโอกาสก็ให้รีบบอกก่อนที่มันสายเหมือนกับเรา โชคดีนะคะทุกคน ^^