คดีที่เป็นประเด็นถกเถียงมาตลอด โดยส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งได้เป็น 2 ฝ่าย คือคนรัก และคนเกลียด
ข่าวล่าสุดที่เย็บ 100กว่าเข็มก็น่าเห็นใจ แต่อีกข่าวที่น่าหดหู่ใจ คือข่าวพ่อค้าข้าวมันไก่ พ่อค้าผิดตามกฎหมาย
และรับบทลงโทษตามกฎหมายแล้ว แต่!! แม่กับลูกทำผิดอะไร กลายเป็นจำเลยสังคม น่าจะให้โอกาสเค้าบ้าง
ใช่ที่ว่าสุนัขที่ตายไปไม่มีโอกาสร้องขอชีวิต แต่เขาก็ไม่ใช่คนทำ คนที่ทำให้ครอบครัวเขาพังทลาย ไม่ใจแคบ
โหดร้ายกว่าเหรอ ที่ทำให้ครอบครัวหนึ่งเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้ เอาล่ะเกริ่นมาพอละ ที่นี้มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
เป็นการลองตั้งบทกฎหมาย ที่อาจจะทำให้ทุกฝ่ายเห็นต้องกัน ถ้ามีอะไรแนะนำช่วยเสริมหน่อยนะครับ
กฎหมาย (สำหรับสุนัขมีเจ้าของ)
1.หากสุนัขมีเจ้าของ ประพฤติตน ให้มีผู้ได้รับความเสียหาย เจ้าของสุนัข จะต้องถูกปรับ ตามจำนวนเงินที่กำหนด
และสุนัขตัวนั้น จะต้องถูกกักขัง(จำคุก) โดยสามารถประกันตัวได้ หากผ่านเวลาที่กำหนดไว้ และเงินในส่วนนี้
จะนำมาเพื่อการพัฒนาดูแลสุนัขที่ถูกนำมากักขังในการสร้างสถานที่ต่างๆ เพื่อนำสุนัขมาไว้ เป็นการดัดนิสัยสุนัข
และบังคับเจ้าของให้ดูแลสุนัขให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงที่รักต้องถูกกักขัง ไม่เช่นนั้นสำหรับคนมีเงิน เขาจะคิดว่า
หากสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แค่จ่ายเงินก็จบแล้ว
2.สุนัขที่ถูกกักขัง เจ้าของต้องดูแลเอง ในการหาน้ำหรืออาหารมาให้ เพราะในเมื่อทำให้ผู้อื่นเสียเวลาโดยไม่จำเป็นได้
ตนเอง ก็ต้องสละเวลาได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้เสียหาย อาจสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเวลา รายได้ ร่างกาย ฯลฯ
โดยที่เจ้าของสุนัข จะไม่ต้องเสียอะไรเลย หากดูแลสุนัขให้ดี ถ้าไม่อยากให้สัตว์ของตนและตนเองลำบากแบบนี้
ก็ต้องดูแลให้ดีไม่ก่อให้เกิดปัญหาละนะ
3.เจ้าของต้องชดเชยค่าเสียหาย ให้แก่ผู้เสียหาย ตามจำนวนเงินที่เหมาะสม แต่วงเงิน ต้องไม่ต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาล
โดยอ้างอิงจากใบเสร็จการรักษา ส่วนค่าทำขวัญ ค่าสูญเสียรายได้ ค่าสูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ แล้วแต่
จะตกลงกัน โดยต้องพึงสำนึกว่า รายได้ที่จำเป็นของแต่ละครอบครัวไม่เท่ากัน และการเสียรายได้วันหนึ่งของบางครอบครัว
อาจทำให้พวกเขาต้องลำบากทั้งครอบครัว แต่ทางที่ดี พึงระวังไม่ให้เกิดเรื่องจะดีกว่า
4.การกระทำแบบนี้ เป็นการเพิ่มความรับผิดชอบให้แก่ผู้เลี้ยงสุนัข ปัญหาที่เกิด มักมาจากผู้เลี้ยงที่ไร้ความรับผิดชอบ
และคนแบบนี้มีเยอะมากในสังคม จะได้คัดกรอง ผู้ที่สามารถดูแลให้ดีได้มากขึ้นด้วยและปรับนิสัยคนเลี้ยงให้ระวังขึ้น
และยังเป็นการหาเงินทุนในการดูแลสุนัข ที่มีมาก จนดูแลไม่ไหวไปในตัวด้วย จากค่าปรับ ค่าประกันต่างๆ ทั้งนี้ ยังน่าจะ
เป็นการลดอัตราการทำร้ายสุนัขลงด้วย เพราะทั้งเจ้าของและสุนัข ต่างได้รับบทลงโทษทั้งคู่ ซึ่งผู้เสียหาย
น่าจะพึงพอใจบ้างไม่มากก็น้อย อาจทำให้ใจเย็นลง
กฎหมาย (สำหรับสุนัขจรจัด ไม่มีเจ้าของ หาผู้ดูแลไม่ได้)
1.ในเมื่อมีการปรับ กรณีทำร้ายสุนัขถึง 40,000 บาท ก็ต้องมีเงิน สำหรับสร้างสถานที่กักขังประจำจังหวัด
หากสุนัขตัวใด สร้างความเสียหาย ให้แก่ผู้อื่น และถูกฟ้องร้อง จะต้องถูกกักขังตามสมควร และปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
เป็นการดัดนิสัยสุนัข ให้รู้ว่า หากทำแบบนี้จะต้องลำบาก
2.การดูแลสุนัขในกรณีนี้ จะมาจากเงิน ค่าปรับ และเงินบริจาคจากสมาคมต่างๆ เพื่อให้พวกเขาพอมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง
ส่วนผู้ดูแล ให้คัดมาจากคนรักสัตว์ จะได้เข้าใจและช่วยเหลืออะไรๆได้
3.สุนัขทุกตัว ที่ถูกจับมา จะถูกทำการบันทึกข้อมูล ลักษณะรูปร่าง ที่อยู่ อุปนิสัย และคดีที่เคยก่อ เพื่อติดตามผล
ซึ่งหากถูกปล่อยตัวกลับแล้วก่อคดีอีกก็เพิ่มเวลาที่กักขังให้มากขึ้น
4.เปิดให้ประชาชน สามารถรับสุนัขที่ถูกจับไปเลี้ยงได้ เมื่อถูกกักขังในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ต้องบันทึกข้อมูล
ในการขอรับเป็นเจ้าของ เพื่อตรวจสอบหากก่อปัญหาซ้ำ และเพื่อให้เจ้าของตั้งใจดูแลและรับผิดชอบหากก่อปัญหา
ส่วนกรณีทารุณกรรมสัตว์ ทำร้ายสัตว์ ก็ตามพรบ.
โอเค ก็ประมาณนี้ จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาให้ฆ่าหมากัน จนทะเลาะกัน และจะได้ไม่มาถามหาความรับผิดชอบต่อกัน
ขอแค่มีความรับผิดชอบ สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นเอง
ตรงไหนไม่โอเค ก็ขอคำแนะนำ ช่วยกันคิดด้วยแล้วกันนะครับ จะได้ลดปัญหาการทะเลาะกันของคนกับคนด้วย
เรื่องคดีหมาๆ เอาแบบนี้ดีมั้ย??
ข่าวล่าสุดที่เย็บ 100กว่าเข็มก็น่าเห็นใจ แต่อีกข่าวที่น่าหดหู่ใจ คือข่าวพ่อค้าข้าวมันไก่ พ่อค้าผิดตามกฎหมาย
และรับบทลงโทษตามกฎหมายแล้ว แต่!! แม่กับลูกทำผิดอะไร กลายเป็นจำเลยสังคม น่าจะให้โอกาสเค้าบ้าง
ใช่ที่ว่าสุนัขที่ตายไปไม่มีโอกาสร้องขอชีวิต แต่เขาก็ไม่ใช่คนทำ คนที่ทำให้ครอบครัวเขาพังทลาย ไม่ใจแคบ
โหดร้ายกว่าเหรอ ที่ทำให้ครอบครัวหนึ่งเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้ เอาล่ะเกริ่นมาพอละ ที่นี้มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
เป็นการลองตั้งบทกฎหมาย ที่อาจจะทำให้ทุกฝ่ายเห็นต้องกัน ถ้ามีอะไรแนะนำช่วยเสริมหน่อยนะครับ
กฎหมาย (สำหรับสุนัขมีเจ้าของ)
1.หากสุนัขมีเจ้าของ ประพฤติตน ให้มีผู้ได้รับความเสียหาย เจ้าของสุนัข จะต้องถูกปรับ ตามจำนวนเงินที่กำหนด
และสุนัขตัวนั้น จะต้องถูกกักขัง(จำคุก) โดยสามารถประกันตัวได้ หากผ่านเวลาที่กำหนดไว้ และเงินในส่วนนี้
จะนำมาเพื่อการพัฒนาดูแลสุนัขที่ถูกนำมากักขังในการสร้างสถานที่ต่างๆ เพื่อนำสุนัขมาไว้ เป็นการดัดนิสัยสุนัข
และบังคับเจ้าของให้ดูแลสุนัขให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงที่รักต้องถูกกักขัง ไม่เช่นนั้นสำหรับคนมีเงิน เขาจะคิดว่า
หากสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แค่จ่ายเงินก็จบแล้ว
2.สุนัขที่ถูกกักขัง เจ้าของต้องดูแลเอง ในการหาน้ำหรืออาหารมาให้ เพราะในเมื่อทำให้ผู้อื่นเสียเวลาโดยไม่จำเป็นได้
ตนเอง ก็ต้องสละเวลาได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้เสียหาย อาจสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเวลา รายได้ ร่างกาย ฯลฯ
โดยที่เจ้าของสุนัข จะไม่ต้องเสียอะไรเลย หากดูแลสุนัขให้ดี ถ้าไม่อยากให้สัตว์ของตนและตนเองลำบากแบบนี้
ก็ต้องดูแลให้ดีไม่ก่อให้เกิดปัญหาละนะ
3.เจ้าของต้องชดเชยค่าเสียหาย ให้แก่ผู้เสียหาย ตามจำนวนเงินที่เหมาะสม แต่วงเงิน ต้องไม่ต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาล
โดยอ้างอิงจากใบเสร็จการรักษา ส่วนค่าทำขวัญ ค่าสูญเสียรายได้ ค่าสูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ แล้วแต่
จะตกลงกัน โดยต้องพึงสำนึกว่า รายได้ที่จำเป็นของแต่ละครอบครัวไม่เท่ากัน และการเสียรายได้วันหนึ่งของบางครอบครัว
อาจทำให้พวกเขาต้องลำบากทั้งครอบครัว แต่ทางที่ดี พึงระวังไม่ให้เกิดเรื่องจะดีกว่า
4.การกระทำแบบนี้ เป็นการเพิ่มความรับผิดชอบให้แก่ผู้เลี้ยงสุนัข ปัญหาที่เกิด มักมาจากผู้เลี้ยงที่ไร้ความรับผิดชอบ
และคนแบบนี้มีเยอะมากในสังคม จะได้คัดกรอง ผู้ที่สามารถดูแลให้ดีได้มากขึ้นด้วยและปรับนิสัยคนเลี้ยงให้ระวังขึ้น
และยังเป็นการหาเงินทุนในการดูแลสุนัข ที่มีมาก จนดูแลไม่ไหวไปในตัวด้วย จากค่าปรับ ค่าประกันต่างๆ ทั้งนี้ ยังน่าจะ
เป็นการลดอัตราการทำร้ายสุนัขลงด้วย เพราะทั้งเจ้าของและสุนัข ต่างได้รับบทลงโทษทั้งคู่ ซึ่งผู้เสียหาย
น่าจะพึงพอใจบ้างไม่มากก็น้อย อาจทำให้ใจเย็นลง
กฎหมาย (สำหรับสุนัขจรจัด ไม่มีเจ้าของ หาผู้ดูแลไม่ได้)
1.ในเมื่อมีการปรับ กรณีทำร้ายสุนัขถึง 40,000 บาท ก็ต้องมีเงิน สำหรับสร้างสถานที่กักขังประจำจังหวัด
หากสุนัขตัวใด สร้างความเสียหาย ให้แก่ผู้อื่น และถูกฟ้องร้อง จะต้องถูกกักขังตามสมควร และปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
เป็นการดัดนิสัยสุนัข ให้รู้ว่า หากทำแบบนี้จะต้องลำบาก
2.การดูแลสุนัขในกรณีนี้ จะมาจากเงิน ค่าปรับ และเงินบริจาคจากสมาคมต่างๆ เพื่อให้พวกเขาพอมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง
ส่วนผู้ดูแล ให้คัดมาจากคนรักสัตว์ จะได้เข้าใจและช่วยเหลืออะไรๆได้
3.สุนัขทุกตัว ที่ถูกจับมา จะถูกทำการบันทึกข้อมูล ลักษณะรูปร่าง ที่อยู่ อุปนิสัย และคดีที่เคยก่อ เพื่อติดตามผล
ซึ่งหากถูกปล่อยตัวกลับแล้วก่อคดีอีกก็เพิ่มเวลาที่กักขังให้มากขึ้น
4.เปิดให้ประชาชน สามารถรับสุนัขที่ถูกจับไปเลี้ยงได้ เมื่อถูกกักขังในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ต้องบันทึกข้อมูล
ในการขอรับเป็นเจ้าของ เพื่อตรวจสอบหากก่อปัญหาซ้ำ และเพื่อให้เจ้าของตั้งใจดูแลและรับผิดชอบหากก่อปัญหา
ส่วนกรณีทารุณกรรมสัตว์ ทำร้ายสัตว์ ก็ตามพรบ.
โอเค ก็ประมาณนี้ จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาให้ฆ่าหมากัน จนทะเลาะกัน และจะได้ไม่มาถามหาความรับผิดชอบต่อกัน
ขอแค่มีความรับผิดชอบ สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นเอง
ตรงไหนไม่โอเค ก็ขอคำแนะนำ ช่วยกันคิดด้วยแล้วกันนะครับ จะได้ลดปัญหาการทะเลาะกันของคนกับคนด้วย