เล่าประสบการณ์จากเด็กที่ถูกรังแกที่รอเวลาที่จะเอาคืนแต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้ทำ

เรืองนี้เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วครับแต่จำฝังใจมากๆ หลายๆอย่างในอตีตมันก็เลือนรางไปตามเวลา
แต่บางเรื่องมันก็ฝังใจยากจะลืมครับ ย้อนกลับไป ประมาณ 16-17 ปีก่อน
เดิมทีคนรอบข้างผู้หลักผู้ใหญ่มักจะเล่าว่าผมเป็นเด็กร่าเริงช่างพูดชอบถามชอบคุย ซึ่งผมก็จำได้นิดๆหน่อยๆแค่นั้น

แล้วตอนประถมไม่รู้เริ่มจากตอนไหนผมมักจะโดนแกล้งประจำเนื่องด้วยแต่ก่อนผมจะเป็นคนช่างพูดช่างถามและบวกกับด้วยความตัวเล็กที่สุดในห้อง
และจะแต่งตัวเรียบร้อยตลอดไม่ชอบเล่นกีฬาแรงน้อย และไม่ชอบแกล้งใครเลย ผมจะโดนแกล้งตลอดเนื่องด้วยที่แรงน้อยด้วยแล้วมีเรื่องชกต่อยที่ไรจะแพ้และร้องไห้ตลอด และพอผมเอาไปบอกพ่อแม่ก็มักจะโดนว่าจะตลอด ว่าโดนแกล้งก่อนก็ทนสิ คือผมพูดไม่ได้ผมทนแล้วมันโดนตบผมก็ปัดมือออกแล้วเดินหนีมันก็ตามมาแกล้งต่อพอผมเดินหนีมันก็ตามมาแกล้งตอนมันยั่วจนผมฟิวขาดจนมีเรื่องชกต่อย ผมเล่าให้ใครฟังไม่ได้เลย

ตัวหัวโจ๊กที่คอยแกล้งผมมันชื่อ "ไอ้ ม." (นามสมมุติ) มันแกล้งผมคนเดียวไม่พอก็มักจะชวนเพื่อนๆมันมาแกล้งเรื่อยๆ จนทุกวันที่ผมไปโรงเรียนเหมือนนรกที่อย่างน้อยๆ 1 สัปดาห์ผมต้องโดนแกล้งไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง ครูก็จะเป็นผมโดนแกล้งจนเหมือนผมกลายเป็นเด็กมีปัญหามีอะไรก็บอกว่าผมมักจะผิดตลอด ครั้งที่เลวร้ายที่สุดคือผมจะก็คือเด็กผู้ชายทั้งของมากระทืบผมโดยตัวนำคือ "ไอ้ ม." (นามสมมุติ) ผมได้แต่เก็บคองอเข่า ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปไวๆ
ความคับแค้นใจมันสั่งสมไม่หยุดผมเกลียดมัน ผมแค้นมัน ผมทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้มันไปให้พ้นๆจากชีวิตผม ผมทำแม้กระทั้งจุดธูปแช่งมัน อยากหนีอยากจบ อยากไปให้มันพ้นๆ ผมโคตรเกลียดเพื่อนในห้องมากๆที่เห็นผมเป็นตัวตลก ผมแทบไม่อยากมีเพื่อน

ผมโดนแกล้งทุกวันจากเด็กที่ร่าเริง ผมเริ่มเงียบ เก็บตัวไม่คุยกับใคร ผมกลัวการเข้าสังคม ผมไม่กล้าสบตาผู้คน มันกลายเป็นเป็นเรื่องฝังใจไปตลอด
ผมเข้ามัธยม ผมมีเพื่อนน้อยมากๆ ผมไม่เคยไว้ใจใครเลย ผมปิดไปเลย ไม่อยากจะเปิดใจกับใครเพราะความกลัวมันฝังใจ
ต่อมาจากคนที่มองโลกในแง่ดี ผมกลายเป็นคนอารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียวง่าย แต่บางครั้งรู้สึกหดหู่เศร้า หงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล
อยากหาที่ระบายหาที่ลงซักที่ บางครั้งก็จะต่อยผนังต่อยประตูทุกครั้งที่โมโห

หลายๆคนคงรู้จักหมาพาฟลอฟ นะครับ มันวางเงื่อนไขให้ผมเป็นคนขี้ขลาด จากความกลัวก็เป็นความแค้น ม.ปลายร่างกายผมเปลี่ยนไปผมสูงขึ้น
มหาลัยผมออกกำลังกาย  ผมสร้างกล้ามเนื้อเป้าหมายเดียวผมจะต้องให้มันหมอบใต้เท้าผมให้ได้ ผมเกลียดมันผมแค้นมันมากๆ ผมจำชื่อได้ดี
แต่ผมจำนามสกุลมันได้ไม่ชัด จนเมื่อวันก่อนผมสืบหาจากชื่อจริง และผมก็หาจนเจอ

ผมเจอมันแล้ว ผมยิ้มและหัวเราะแบบสะใจ ผมจะต้องเอามันคืนผมจะปั่นหัวมันเสียสติจะเอาให้มันสำนึก ผมหา Facebook มันจนเจอ
ผมดูประวัติดูการโพสมัน ผมพลาดไปได้ไงมันอยู่มหาลัยเดียวกับผม เจ๋งมากมันเปิดเป็นสาธารณะหมดเลย  
ไอ้โง่อย่างมันคงปิดไม่เป็น (อย่างน้อยที่ผมเหนือกว่ามันคือการเรียน) ผมสืบหาข้อมูลมันเรื่อยๆ จนผมสะดุดกับบางอย่าง
Facebook มันไม่มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี ก.ค. 2015 ช่างมัน ผมตามจากเพื่อนมัน ผมลองสุ่มเข้าไปในเฟสเพื่อนมัน
ลองเลื่อนๆดูไปในช่วงที่เฟส "ไอ้ ม." หยุดเคลื่อนไหว สิ่งที่ผมพบคือ "ไอ้ ม." มันตายแล้วครับ ผมไม่รู้มันตายเพราะอะไรผมไม่อยากใส่ใจ
ผมไม่รู้สึกเสียใจที่มันตาย แต่ผมก็ไม่สะใจที่มันตาย ผมเสียดายที่ไม่ได้เอาคืนมัน มันทำกับผมไว้เยอะแต่มันกลับชิงตายไปก่อน
ผมรู้สึกเคว้งๆ เพราะทุกอย่างที่ผมทำมาทั้งการออกกำลัง การฟิตร่างกายเหมือนสูญเปล่า แต่อีกใจหนึ่งมันเหมือนผ่อนคลายลง
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะให้อภัยมันได้ยังไงมันรู้สึกแย่มากๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ความคิดทั้งหมดอาจจะออกไปทางด้านลบบ้างผมก็น้อมรับคำติเตียนทุกคำครับ

ที่จริงเรื่องนี้ผมเก็บไว้ในใจนานมาก จนผมเห็นเพจโหลกแดงแชร์เรื่องเด็กพิเศษถูกรังแก มันกระตุ้นความรู้สึกด้านลบของผม
ผมเกลียดเด็กพวกนี้มาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่