The Second SPRING in SEOUL (28.04-06.05) , too good to be true :D

The Second Spring in SEOUL
28.04.16-06.05.16
(รูปเยอะมากเลยนะคะ บอกไว้ก่อน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้ววววหลังจากหายไปนาน ครบปีพอดิบพอดีตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว
ฮี่ฮี่ เราไปเกาหลีมาอีกแล้วค่ะ  แต่ครั้งนี้ไม่ได้พกมนุษย์ป้าที่บ้านไปด้วยนะ
ทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมดห้าคนเหมือนเดิมค่ะ แต่เปลี่ยนจากมนุษย์ป้าเป็นอาจุมม่าแทน ฮ่าๆๆๆๆ

จริงๆแล้วเราไม่มีอะไรจะเล่ามากเท่าไหร่ เพราะทริปนี้ส่วนมากจบที่การช็อปปิ้งซะเยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แต่เราอยากเขียนกระทู้ อย่างน้อยก็เก็บไว้ดูเอง อ่านเองเวลาคิดถึง ฮิ้วววววว
พอเวลาผ่านไปสิ่งที่เราเล่าไว้ก็เป็นเหมือนเงาสะท้อนตัวเราในอดีต หลายครั้งที่เราอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนแล้วทบทวนเจอว่าเราโตขึ้น
หรืออย่างน้อยก็ทำให้เรากลับไปนึกถึงโมเม้นท์นั้นแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข

พูดเพ้อเจ้ออะไรยาวมากกกกก ฮ่าๆๆๆ เริ่มได้ค่ะ...

ข้ามเรื่องเครื่องบินเนอะ ไปพูดเรื่องที่พักกัน คราวก่อนเราพักเกสท์เฮ้าส์อาจุมม่าแถวJongno ครั้งนี้ลองเปลี่ยนบ้าง
(ไม่ใช่อาจุมม่าไม่ดีนะ เรารักอาจุมม่า รักหลานชายอาจุมม่าแต่ว่าอยากลองหลายๆ แบบ) เราคุยกับพี่นางบอกเรื่องที่พักใน Airbnb
เราสงสัยเลยลองเข้าไปดู เฮ้ยยยมันดีอะแก คือได้ฟีลเหมือนเราอยู่บ้านตัวเอง บ้านเพื่อนไรงี้เลยนะ ลองหาดูเรื่อยๆ
คุยกับเจ้าของบ้านหลายๆเจ้า ก็มาลงเอยที่บ้านออนนี่ ซึ่งอยู่ย่านHongdaeแหละ
เหมาะมากกับวัยรุ่นวัยใสอย่างพวกเรา(เหรออออวะะะะะ)
คุยไปคุยมา ถามทุกอย่างจนพอใจ ก็ตกลง กดจอง จ่ายตังค์ มีที่พักแล้ว พร้อมเดินทางมาก..

ขอเล่าความประทับใจการจองที่พักผ่านAirbnbหน่อยนึง(ไม่ได้อะไร ไม่ได้ส่วนลด ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรเลย)
รีวิวที่ผู้เข้าพักเขียนถึงที่พักค่อนข้างจริงเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ แล้วก็ไม่ใช่ใครไปเขียนก็ได้นะคะ ต้องเข้าพักจริงเท่านั้น
จากที่เราอ่านรีวิวของคนที่พักก่อนเราก็เป็นประโยชน์มากต่อการตัดสินใจ เพราะบางทีรูปถ่ายที่เจ้าของลงไว้ก็อาจจะสวยงามเกินจริง
บรรยายสวยหรู บลาบลา เราเลือกที่พักจากหลายปัจจัย อย่างแรกต้องใกล้ Airport Bus stop ไม่ก็ AREX
เพราะทุกคนมีกระเป๋าใบใหญ่มาก ที่พักต้องใกล้แบบเดินได้ไม่หอบ อย่างที่สองต้องอยู่ย่านHongdae Edae Sinchon ประมานนี้
เนื่องจากพวกเราตั้งใจจะไปลองคลับHongdaeสักหน่อย หลังจากจองที่พักเสร็จ เราก็ติดต่อกับเจ้าของบ้านตลอด
ถามทุกอย่างซึ่งนึกได้ทีละอย่าง หลังๆคุยจนกลายเป็นเพื่อนกันไปเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้ประทับใจมากๆ ขออะไรออนนี่มีให้ทุกอย่าง..
อ้อ มีpocket wifiให้ฟรีด้วยนะ


     บ้านออนนี่ ที่พักของเรา เย้!!!!(ขอยืมรูปห้องจากAirbnb ส่วนวิวเราจากห้องเราถ่ายเองค่ะ)

วันเดินทาง..
มีความกังวลหลายอย่างเนื่องจากช่วงนี้ตม.เกาหลีเคร่งมากกับคนไทย.. แล้วอาจุมม่าสองคนของเราพาสปอร์ตหน้าขาว
แต่พวกเราก็เตรียมเอกสารไปครบมากคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และทุกคนผ่านฮะ ไม่มีอะไรเลย
ผ่านด่านตม.>>รับกระเป๋า>>รับpocket wifi>>ขึ้นรถไฟไปบ้านออนนี่

ระหว่างทางเข้าโซลเราดูเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุด เป็นความรู้สึกเหมือนกำลังกลับบ้านหลังจากที่ห่างหายไปนาน ฮ่าๆๆๆๆๆ
เว่อร์มากบอกเลย แต่มีความสุขมากจริงๆ.. ดีใจที่ได้กลับมาอีกนะ
เพื่อนๆ ก็ถ่ายรูปอย่างเมามัน ระหว่างนั้นก็มองข้างทางไปเรื่อยๆ พร้อมกับพูดคุยกันในความสะอาดสะอ้าน
ตึกรามบ้านช่องที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ต้นไม้เขียวชอุ่ม อ้อ ตอนนี้เป็นหน้าสปริง ฉะนั้นมองไปทางไหนก็เขียวไปหมดเลย
ดอกไม้ก็เยอะด้วยค่ะ ครั้งที่แล้วอากาศหนาวกว่าช่วงนี้นะคะ ตอนนี้อุ่นขึ้นมากแล้ว  ซึ่งดีมากเพราะเราชอบใส่กางเกงขาสั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

เราไม่มีที่นั่งบนรถไฟแหละเพราะกระเป๋าห้าคนใบใหญ่ๆ ทั้งนั้น เก็บในที่เก็บไม่พอต้องยืนจับไว้ไม่งั้นกะเป๋าวิ่งหนีค่ะ
ตอนแรกก็ยืนชิวๆนะ สักพักเริ่มเมื่อยขาเพราะมันนานอยู่เหมือนกัน.. ในโบกี้ๆนึงจะมีที่นั่งสำหรับคนแก่
เรายืนอยู่ตรงข้ามแล้วมีฮาราบอจีนั่งอยู่ แกน่าจะทำงานที่สนามบินแหละ แกกวักมือเรียกเราแล้วก็เคาะๆตรงที่นั่งข้างแก
เราก็ส่ายหน้าแล้วยิ้ม แต่ฮาราบอจีก็ยังพยักหน้าบอกให้เราไปนั่ง เราเลยเดินไปนั่งข้างแก ฮ่าๆๆๆๆ ขอบคุณค่ะที่เรียกหนู
แกคงสงสารที่เรายืนนาน ทำท่าเมื่อยขาให้แกเห็นด้วยแหละ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
     นี่คือฮาราบอจีใจดีคนนั้นค่ะ(เพื่อนเราแอบกดมารัวๆ ขอโทษนะคะฮาราบอจี)

เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานีHongik ทางออก3 ตามที่ออนนี่บอก พอขึ้นบันไดเลื่อนมาเงิบค่ะ หลงทิศทาง จะเดินไปไหนต่อ
มองซ้ายมองขวา เอ้ย เค้าส่งเมล์มาบอกแล้วนี่นาว่าต้องไปทางไหน.. หันซ้ายทีนึง เห้ยยยแก ทางเข้าอพาร์ทเม้นท์อยู่ตรงนี้เลย
คือขึ้นมาจากสถานี มองซ้ายมือ เดินสิบก้าวถึงแล้วบ้านเรา!!!! อะไรจะใกล้ขนาดนี้ ด้านล่างมีคาเฟ่ด้วยนะ ร้านน่านั่งน่ารักมาก
คนเต็มเลยอ่ะ คนเกาหลีนิยมมานั่งแช่ในคาเฟ่กันจริงๆ คาเฟ่เยอะพอกับร้านสะดวกซื้ออ่ะค่ะ
ที่สำคัญนะ ร้านนี้บาริสต้าดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกทั้งอปป้าและออนนี่เลย
ใครผ่านไป ฝากไปเยี่ยมบาริสต้าด้วยนะคะ ฮี่ฮี่


     Cafe Comma ร้านนี้มีสาขาเยอะเลย ตกแต่งเหมือนๆ กันทุกสาขาเลยค่ะ(สาขาที่เราเจอนะ)

ออนนี่ทิ้งคีย์การ์ดไว้ในPostbox แล้วก็ส่งรหัสเปิดประตูให้เราทางkakao ที่พักปลอดภัยดีมากค่ะ มีรปภ.24ชม.
วันแรกที่ไปถึง งง กับการเปิดประตูมาก อะไรจะซับซ้อนขนาดนี้ ออกจากลิฟท์เจอประตู มีสองฝั่ง ล็อกทั้งสอง
คือยืนกันอยู่นานมาก ทำไมเปิดไม่ได้ มันต้องเอาคีย์การ์ดไปแปะกับเครื่องที่อยู่ตรงหน้าลิฟท์ก่อน ประตูถึงจะปลดล็อก
พอถึงหน้าห้องก็ยืนอยู่อีกนานมากทำไมกดรหัสไปแล้วประตูไม่เปิด.. ไฟตรงเครื่องกดรหัสก็ไม่ติด...
เริ่มจะโวยวายกันแล้วเพื่อนเราก็เลยลองกดดูบ้าง อ๋อมันต้องใส่เครื่องหมาย*ด้วย คือที่จริงเค้าก็บอกมาแล้ว
แต่เซ่อเองแหละ .. ก็ที่บ้านหนูไม่มีนี่นาาาา T^T


     มีความเซ่อซ่าาาา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พอเปิดประตูได้ก็สำรวจห้องกัน เก็บข้าวของ เอาเสื้อผ้าออกมาแขวน บ้านออนนี่มีทุกอย่างเตรียมไว้เรียบร้อย
ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ผ้าห่มสำรอง ไม้แขวนเสื้อ โลชั่น แชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ ร่ม ทีวี home wifi pocket wifi
ตู้เย็น เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว กระทะ จานชามช้อนส้อม เครื่องซักผ้า(ซึ่งใช้ไม่เป็น) ครบค่ะ
ทุกคนพอใจกับบ้านออนนี่นะคะ น่าอยู่ สะอาด สะดวกมากด้วย ห้องก็น่ารัก ไม่คับแคบ


     Tourist Information Car หน้าบ้านออนนี่
เราใช้บริการหลายครั้งเลย ขอแผนที่เค้า เค้าก็ถามว่าจะไปไหน พอบอกเค้าก็วาดแผนที่จากจุดที่เราอยู่พร้อมอธิบายให้ด้วย
ดีมากกกกกกกก น่ารัก ใจดี ซึ่งก็อาจจะทำไปเพราะหน้าที่ แต่เค้าเต็มใจช่วยมากจริงๆนะคะ สัมผัสได้ ฮ่าๆๆๆๆ
นางพูดกันได้หลายภาษาเลย ก่อนจะตอบก็ถามเราว่า Are you chinese ? เราก็ Noooooooooo! i am thai!! แล้วก็ยิ้มให้ทีนึง
(ที่ถามเพราะเค้าจะได้ตอบเราเป็นภาษาจีนนั่นเอง) ก็เลยบอกนางไปว่า Tell me in english ka ติดพูดค่ะลงท้ายตลอดเลย..
ใครไปเที่ยวเกาหลี เจอทัวร์ริสอินฟอร์เมชั่นเข้าไปถามได้เลยนะคะ ช่วยได้เยอะมากจริงๆ อย่างน้อยก็ขอแผนที่ก็ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่