ประสบการณ์ตรงจาก โรงเรียนแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี ที่เปิดการสอนอนุบาล-มัธยมปลาย อาคารเรียนประถม ชั้น 3 ห้อง ป.3/2
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ตัวผมต้องตรวจข้อสอบนักเรียนแล้วกรอกคะแนน สถานที่ๆผมเลือกตรวจข้อสอบคือ ตึกประถม ต้องขออธิบายว่า ตึกประถมจะมีทั้งหมด 4 ชั้น ห้องที่ผมใช้ตรวจข้อสอบคือห้องดนตรีไทยซึ่งอยู่ชั้นที่ 3 เป็นห้องสุดท้ายที่ติดกับบันไดทางขึ้นบันไดชั้น 4 ส่วนอีกฝั่งสุดทางเดินจะเป็นห้อง ป.3/1, 3/2, 3/3 4/1 4/2 และสุดทางเดินทางนี้ก็จะเป็นห้องดนตรีไทยของผมเอง
ช่วงเวลาที่ผมขึ้นไปคือเวลาทุ่มครึ่ง 19.30 น ครับ ก่อนจะขึ้นไปผมได้โทรนัดแนะกับครูอังกฤษ(เพื่อนร่วมบ้านพักครูที่นอนห้องห้องเดียวกับผมเรามาบรรจุพร้อมกัน)
ผมบอกครูอังกฤษไปว่า เห้ย เดี๋ยวเอ็งกลับมาจากฝั่งมัธยมช่วยขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนพี่บนห้องดนตรีไทยหน่อยดิ กลัวผีหลอก พูดไปก็ขำไป เพราะจริงๆผมกลัวพวกโจรขโมยมากกว่าตอนนั้น
ครูอังกฤษก็รับปากว่า เดี๋ยวผมจอดรถเสร็จผมจะขึ้นไป หลังจากตกลงนัดแนะกันเสร็จแล้ว ผมก็ไขประตูตึกขึ้นไป ก่อนจะเดินขึ้นผมก็ดึงประตูทางขึ้นตึกงับลงไว้ เผื่อเวลาใครเปิดและขึ้นมาจะได้ยินเสียงก่อน พอเข้าห้องดนตรีไทยผมเปิดไฟทุกดวงในห้องแล้วก็ลงกลอนประตูกดล็อคลูกบิดเพื่อความปลอดภัย ระหว่างตรวจข้อสอบก็เปิดเพลงดนตรีไทยบ้างสตริงบ้างแล้วแต่อารมณ์ ตรวจไปก็ดูนาฬิกาไป จน 2 ทุ่มครึ่ง ครูอังกฤษก็ยังไม่มา ผมก็ตรวจข้อสอบไปเรื่อย ตรวจเพลินจนลืมความกลัวต่างๆทั้งเรื่องผีเรื่องโจรไป จนเวลาล่วงไปนานเท่าไรไม่รู้ ผมเริ่มได้ยินเสียงจากนอกเป็นเสียงคนทุบประตู แต่เสียงมันอยู่ไกลๆ ต้องบอกแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 6 ห้อง เสียงทุบประตู 3 ที ไกลๆลอยมา ตอนแรกผมก็ไม่คิดคิดว่าหูแว่ว กำลังเพลินกับการตรวจแล้วก็กรอกคะแนนและบวกกับเปิดเพลงไปด้วย จนเสียงมันเริ่มชัดขึ้นๆ เหมือนมันไล่ทุบ บานละ 3 ทีตามห้องแล้วก็เว้นระยะแปบนึงแล้วก็เริ่มทุบต่อ เสียงทุบประตูไล่มาจนใกล้เข้ามา ผมเริ่มเอะใจ โจรป่าววะ เลยลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ประตูแล้วก้มส่องไปตรงซอกประตูตรงใกล้ๆลูกบิด มองออกไป จะบอกก่อนว่าทั้งทางที่มองไปมีแค่ไฟจากสนามหญ้าสาดมาเล็กน้อยแค่พอเห็นเพดานทางเดิน ผมก็หยีตาก็ไม่เห็นใคร แต่เสียงมันก็ยังเคาะไล่มาแล้วเงียบลงตรงหน้าห้อง ป.4/2
ซึ่งเป็นห้องเรียนก่อนถึงห้องผมแค่ 4-5 ก้าวเอง ตอนนั้นผมจ้องดูว่าเสียงมาจากไหนใครเคาะ หรือครูอังกฤษมันแกล้งเราวะ จังหวะที่คิดอยู่ เสียงทุบประตูทุบมันก็ดังขึ้นอีก3 ที ปัง ปัง ปัง ตรงหน้าห้อง ป.4/2 ผมสะดุ้งดึงตัวออกจากประตู ถอยหลังเดินกลับมาที่เก้าอี้ หยิบโทรศัพท์โทรหาครูอังกฤษ พอครูอังกฤษรับ
ผมถามว่า เห้ย อยู่ไหนเนี่ย จะขึ้นมายังวะ
ครูอังกฤษก็ตอบกลับมาว่า พี่ ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่ แปบๆเดี๋ยวขึ้นไป
ผมก็ตอบ เออ ไม่ต้องขึ้นมา เดี๋ยวพี่จะลงละ ครูอังกฤษก็ตอบแค่ ครับๆ แล้ววางสายไป ผมเก็บคอมใส่กระเป๋า ยกมือไหว้พ่อแก่ในห้องดนตรีไทย ปิดไฟแล้วรีบเดินฝ่าความมืดจากชั้น 3 ลงไปข้างล่างกลับบ้านพัก
นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรกที่ผมเจอครับ
ผ่านมา หลายเดือนอยู่ ตอนเลิกสอนเวลา 4 โมงเย็น ครูๆในตึกประถม มี3-4คน แกชวนผมไปกินไอติมสแวนเซ่นที่โลตัส โดยผมเป็นคนขับ หลังจากกินกันเสร็จระหว่างที่กำลังขับกลับมาโรงเรียน
พี่ครูภาษาอังกฤษ แกพูดขึ้นว่า โอ๊ต เดี๋ยวพอถึงตึกประถม ขึ้นไปเป็นเพื่อนพี่หยิบหมวกกันน็อคหน่อย
พี่ลืมไว้ห้องวิชาการ (ชั้น 2 )
ผมก็ตอบว่า ครับ พอดีเลยผมก็ลืมสายชาจโทรศัพท์ไว้ที่ห้องดนตรีไทย (ชั้น3) ได้มีเพื่อนขึ้นตึก
พอมาถึงจอดรถหน้าตึกตอนนั้นเป็นเวลา 6 โมงเย็น ครูที่ไม่มีธุระก็แยกย้ายกันกลับ เหลือผมกับพี่ครูอังกฤษเดินไปหน้าตึกประถม จังหวะที่ผมกำลังก้มจะไขประตูทางขึ้นตึก
พี่ครูอังกฤษแกก็พูดขึ้นว่า โอ๊ต พี่ไม่ขึ้นตึกละนะ นี่ไงหมวกกันน็อคพี่อยู่หน้ารถ พี่ก็ลืมไปว่าหยิบลงมาแล้ว
พูดจบแกก็สวมหมวกกันน็อคแล้วบอกผมว่า งั้นพี่ไปละนะ แกก็บิดมอไซไปเลย
ตอนนั้นผมก็คิด เอ้า เอาไงดีวะ ขี้เกียจเปิดประตู คือประตูมันเปิดยากปิดยาก ผมเลยตัดสินใจไม่ขึ้น เพราะกะไปยืมสายชาจครูๆในบ้านพักแทน
แต่เหมือนมีกรรมมาบดบัง พอครูบ้านพักกลับมาครบ ทุกคนดันใช้ไอโฟนหมดทุกคน มีผมเป็นสาวกแอนดรอยคนเดียว ตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มจะ 3 ทุ่ม เลยยืนคิดแปบนึงจะขึ้นไปหยิบ หรือจะเดินไปซื้อใหม่ที่ร้านไม่ไกลบ้านพัก สุดท้ายรู้สึกเสียดายเงิน เพราะตึกประถมมันอยู่ตรงหน้าบ้านพักผมเอง เดินแค่ไม่ถึง 10 ก้าวดีก็ถึงประตูทางขึ้น แถมผมก็มีกุญแจไขตึกด้วย คิดได้ก็หยิบผ้าขนหนูพาดบ่า เสื้อก็ไม่ได้ใส่ มีแต่กางเกงบ๊อกเซอตัวเดียว พระก็ไม่ได้ห้อย รีบเดินไปไขประตูทางขึ้น ก่อนขึ้นบันไดผมก็ดึงประตูเลื่อนลงงับไว้ ระหว่างทางเดิน ด้วยความกลัวลึกๆ เลยเปิดไฟตามบันไดทางเดิน ถึงชั้น 2 ก็เปิด ถึงทางพักเลี้ยวผมก็เปิด เปิดให้หมดเลย กลัวผี พอขึ้นมาถึงหน้าห้องดนตรีไทย ผมตกใจแว๊บนึง เพราะผมได้ยินเสียงอังกะลุงดังออกมาจากในห้อง แต่มันไม่ได้ดังเป็นเพลง มันดังแบบสั่นพร้อมกันหลายเสียง ตอนนั้นเริ่มกลัว แต่ก็ทำใจคิดว่า เออ ในห้องมีเครื่องดนตรี มีพ่อแก่ พ่อแก่ไม่หลอกกูหรอก พอทำใจได้ก็บิดลูกบิดเข้าไป แล้วเอามือรีบเปิดสวิตไฟทันที แล้วมองไปทางอังกะลุง ใจผมหล่นวูบ อังกะลุงจะวางติดหน้าต่าง 4 ตัว(อังกะลุงรางจะนำอังกะลุงหลายๆตัวมาเรียงร้อยในกล่อง) มันมีอยู่ตัวนึงตรงกลาง มันสั่นๆ แล้วมีเสียง ผมยืนช็อคแปบนึงตั้งสติแหงนมองเพดาน มีพัดลมเพดานตัวนึงตัวหมุนมันเสียแล้วมันดันไปหยุดตรงอังกะลุงพอดี (เด็กนักเรียนปิดแต่ไฟแต่ลืมสับเบรคเกอร์พัดลมเลยไม่ดับ) ผมโล่งใจ หมุนปิดพัดลมทุกตัว แล้วรีบหยิบสายชาจ ก่อนออกจากห้องผมก็ยกมือไหว้พ่อแก่กับเครื่องดนตรีอีกครั้ง สับไฟลง เดินออกมาเอาแม่กุญแจคล้องประตู จังหวะที่หันหลังให้ห้องดนตรีกำลังจะเดินลงบันได ผมก็เอามือจะไปปิดไฟหน้าห้องทางลงบันได แต่หูมันดันได้ยินเสียง ประตู เอี๊ยดยาวๆ จากที่ไกลออกไป ผมเลยเดินถอยจากบันทางลงขึ้นมามองสุดทางเดิน
ผมเห็นประตูห้อง ป.3/2 ฝั่งที่ติดทางขึ้นบันได ซึ่งห่างจากผมไป 3 ห้อง ค่อยเปิดออกบานนึงช้าๆ อธิบายว่าทางเดินทางนั้นไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ไฟจากสนามหญ้าสาดมาเห็นแค่เพดาน กับทางเดินสลัวๆ ตอนแรกผมก็ตั้งสติคิดในทางที่ดีว่า ประตูกลอนมันคงหลวมไม่ก็ลูกบิดเสีย ผมเลยกะจะเดินไปปิดให้ แต่พอผมก้าวขาไปได้ก้าวเดียว ประตูมันอีกบานคู่กันก็เปิดออกตามและเปิดจนสุด ตอนนั้นผมยืนช็อคละ เหมือนเวลามันหยุดนิ่ง พอมันเปิดสุดมันก็เงียบ แต่แค่แว๊บเดียว มันมีเสียงตามมาดัง แกร๊ก ใช่ครับ เสียงลงกลอนประตู ถ้าเราเปิดประตูสุดแล้วเราต้องลงกลอนเพื่อไม่ให้ลมพัดประตูปิดกลับไป ใจผมหายแว๊บแล้ว กำลังจะหันเดินกลับมาที่บันไดทางลง อยู่ๆไฟในห้อง ป.3/2 มันเปิดครับ ตอนนั้นผมก็เหมือนเริ่มใจชื้นสงสัยครูประจำชั้นห้องนั้นเค้าลืมของเลยกะจะเดินไปทักทาย จังหวะที่เดินไปใกล้ถึงห่างกันแค่ห้องเดียว
ประตูถัดมาของห้อง ป.3/2 ก็กำลังเปิดออกช้าๆ จนเกือบจะสุด แต่ผมไม่เห็นมือคนเปิดครับ มันเปิดออกมาเอง
พอประตูเปิดสุดจนชิดผนังละ เสียงลงกลอนประตูก็ดังขึ้น แกร๊ก ตอนนั้นผมหันหลังเดินกลับมาเอามือปิดไฟทางเดินหน้าห้องดนตรีทำเหมือนว่าผมไม่ได้เห็นอะไร แล้วเดินลงบันได เดินช้าๆ ไม่กล้าวิ่งเพราะกลัวตกบันได ระหว่างทางก็แสนจะทรมานต้องแวะปิดตามทางเดินที่ผมเปิดไว้ตามทาง พอลงมาจะถึงประตูหน้าทางขึ้นชั้น 1 ผมกระโดดเลย 6-7 ขั้นลงมาชนประตูเหล็กดังโครม แต่ตอนนั้นไม่มีความเจ็บละ รีบดันประตูขึ้น มันดันติดพับบนอีก มันเป็นประตูเหล็กแบบพับ รนไปหมด พอเปิดได้ก็ต้องงับลงให้เข้าล็อค มันก็ไม่ลงอีกยิ่งทำยิ่งรน สวิตไฟข้างล่างก็หาไม่เจอเพราะกลัวอยู่ แต่โชคดี หมาที่จรจัด 3 ตัว ที่ผมเลี้ยงไว้ที่บ้านพักครู มันคงได้ยินเสียงผมชนประตูเหล็ก มันวิ่งจากบ้านพักมายืนหน้าตึกพอดี ผมเลยหายกลัวไปนิดหน่อย ตั้งสติได้ก็ค่อยๆงับประตูลงแล้วล็อค มายืนหอบตรงสนามหญ้าหน้าตึก ตอนนั้นก็พยายามคิดในทางที่ดีต่อว่า มีครูขึ้นไปไหม ยืนรอพักนึงก็ไม่เห็นใครลง เลยเดินกลับบ้านพัก ชาจโทรศัพท์ไว้ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เปิดโทรศัพท์ดูกลุ่มไลน์โรงเรียนว่ามีครูคนไหนติดอยู่บนตึกไหม เพราะมีหลายครั้งจะมีครูที่ทำงานเลิกเย็น แล้วภารโรงไม่รู้แกล็อคประตูทางขึ้นสองฝั่ง ก็ต้องเป็นผมนี่แหละไปไขให้บ่อยๆ สรุปกลุ่มไลน์เงียบกริ๊บ ผมเลยเดินออกมายืนหน้าบ้านครู แล้วแหงนขึ้นไปชั้น 3 ทางขวาสุด เห็นไฟยังเปิดอยู่ แต่แค่แปบเดียวไฟห้อง ป.3/2 ก็ดับต่อหน้าต่อตา แล้วก็ตามด้วยเสียงปิดประตูปัง เวลาตอนนั้นเป็นเวลา 5 ทุ่มพอดี
ลิ๊งรายการเดอะช็อค
https://youtu.be/6iEt9a5MJug?si=300DREbag3KSJ6fS
เรื่องเล่าสยองขวัญ ป.3/2 รบกวนเพื่อสมาชิกฟัง และแนะนำเพิ่มเติมครับ
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ตัวผมต้องตรวจข้อสอบนักเรียนแล้วกรอกคะแนน สถานที่ๆผมเลือกตรวจข้อสอบคือ ตึกประถม ต้องขออธิบายว่า ตึกประถมจะมีทั้งหมด 4 ชั้น ห้องที่ผมใช้ตรวจข้อสอบคือห้องดนตรีไทยซึ่งอยู่ชั้นที่ 3 เป็นห้องสุดท้ายที่ติดกับบันไดทางขึ้นบันไดชั้น 4 ส่วนอีกฝั่งสุดทางเดินจะเป็นห้อง ป.3/1, 3/2, 3/3 4/1 4/2 และสุดทางเดินทางนี้ก็จะเป็นห้องดนตรีไทยของผมเอง
ช่วงเวลาที่ผมขึ้นไปคือเวลาทุ่มครึ่ง 19.30 น ครับ ก่อนจะขึ้นไปผมได้โทรนัดแนะกับครูอังกฤษ(เพื่อนร่วมบ้านพักครูที่นอนห้องห้องเดียวกับผมเรามาบรรจุพร้อมกัน)
ผมบอกครูอังกฤษไปว่า เห้ย เดี๋ยวเอ็งกลับมาจากฝั่งมัธยมช่วยขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนพี่บนห้องดนตรีไทยหน่อยดิ กลัวผีหลอก พูดไปก็ขำไป เพราะจริงๆผมกลัวพวกโจรขโมยมากกว่าตอนนั้น
ครูอังกฤษก็รับปากว่า เดี๋ยวผมจอดรถเสร็จผมจะขึ้นไป หลังจากตกลงนัดแนะกันเสร็จแล้ว ผมก็ไขประตูตึกขึ้นไป ก่อนจะเดินขึ้นผมก็ดึงประตูทางขึ้นตึกงับลงไว้ เผื่อเวลาใครเปิดและขึ้นมาจะได้ยินเสียงก่อน พอเข้าห้องดนตรีไทยผมเปิดไฟทุกดวงในห้องแล้วก็ลงกลอนประตูกดล็อคลูกบิดเพื่อความปลอดภัย ระหว่างตรวจข้อสอบก็เปิดเพลงดนตรีไทยบ้างสตริงบ้างแล้วแต่อารมณ์ ตรวจไปก็ดูนาฬิกาไป จน 2 ทุ่มครึ่ง ครูอังกฤษก็ยังไม่มา ผมก็ตรวจข้อสอบไปเรื่อย ตรวจเพลินจนลืมความกลัวต่างๆทั้งเรื่องผีเรื่องโจรไป จนเวลาล่วงไปนานเท่าไรไม่รู้ ผมเริ่มได้ยินเสียงจากนอกเป็นเสียงคนทุบประตู แต่เสียงมันอยู่ไกลๆ ต้องบอกแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 6 ห้อง เสียงทุบประตู 3 ที ไกลๆลอยมา ตอนแรกผมก็ไม่คิดคิดว่าหูแว่ว กำลังเพลินกับการตรวจแล้วก็กรอกคะแนนและบวกกับเปิดเพลงไปด้วย จนเสียงมันเริ่มชัดขึ้นๆ เหมือนมันไล่ทุบ บานละ 3 ทีตามห้องแล้วก็เว้นระยะแปบนึงแล้วก็เริ่มทุบต่อ เสียงทุบประตูไล่มาจนใกล้เข้ามา ผมเริ่มเอะใจ โจรป่าววะ เลยลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ประตูแล้วก้มส่องไปตรงซอกประตูตรงใกล้ๆลูกบิด มองออกไป จะบอกก่อนว่าทั้งทางที่มองไปมีแค่ไฟจากสนามหญ้าสาดมาเล็กน้อยแค่พอเห็นเพดานทางเดิน ผมก็หยีตาก็ไม่เห็นใคร แต่เสียงมันก็ยังเคาะไล่มาแล้วเงียบลงตรงหน้าห้อง ป.4/2
ซึ่งเป็นห้องเรียนก่อนถึงห้องผมแค่ 4-5 ก้าวเอง ตอนนั้นผมจ้องดูว่าเสียงมาจากไหนใครเคาะ หรือครูอังกฤษมันแกล้งเราวะ จังหวะที่คิดอยู่ เสียงทุบประตูทุบมันก็ดังขึ้นอีก3 ที ปัง ปัง ปัง ตรงหน้าห้อง ป.4/2 ผมสะดุ้งดึงตัวออกจากประตู ถอยหลังเดินกลับมาที่เก้าอี้ หยิบโทรศัพท์โทรหาครูอังกฤษ พอครูอังกฤษรับ
ผมถามว่า เห้ย อยู่ไหนเนี่ย จะขึ้นมายังวะ
ครูอังกฤษก็ตอบกลับมาว่า พี่ ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่ แปบๆเดี๋ยวขึ้นไป
ผมก็ตอบ เออ ไม่ต้องขึ้นมา เดี๋ยวพี่จะลงละ ครูอังกฤษก็ตอบแค่ ครับๆ แล้ววางสายไป ผมเก็บคอมใส่กระเป๋า ยกมือไหว้พ่อแก่ในห้องดนตรีไทย ปิดไฟแล้วรีบเดินฝ่าความมืดจากชั้น 3 ลงไปข้างล่างกลับบ้านพัก
นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรกที่ผมเจอครับ
ผ่านมา หลายเดือนอยู่ ตอนเลิกสอนเวลา 4 โมงเย็น ครูๆในตึกประถม มี3-4คน แกชวนผมไปกินไอติมสแวนเซ่นที่โลตัส โดยผมเป็นคนขับ หลังจากกินกันเสร็จระหว่างที่กำลังขับกลับมาโรงเรียน
พี่ครูภาษาอังกฤษ แกพูดขึ้นว่า โอ๊ต เดี๋ยวพอถึงตึกประถม ขึ้นไปเป็นเพื่อนพี่หยิบหมวกกันน็อคหน่อย
พี่ลืมไว้ห้องวิชาการ (ชั้น 2 )
ผมก็ตอบว่า ครับ พอดีเลยผมก็ลืมสายชาจโทรศัพท์ไว้ที่ห้องดนตรีไทย (ชั้น3) ได้มีเพื่อนขึ้นตึก
พอมาถึงจอดรถหน้าตึกตอนนั้นเป็นเวลา 6 โมงเย็น ครูที่ไม่มีธุระก็แยกย้ายกันกลับ เหลือผมกับพี่ครูอังกฤษเดินไปหน้าตึกประถม จังหวะที่ผมกำลังก้มจะไขประตูทางขึ้นตึก
พี่ครูอังกฤษแกก็พูดขึ้นว่า โอ๊ต พี่ไม่ขึ้นตึกละนะ นี่ไงหมวกกันน็อคพี่อยู่หน้ารถ พี่ก็ลืมไปว่าหยิบลงมาแล้ว
พูดจบแกก็สวมหมวกกันน็อคแล้วบอกผมว่า งั้นพี่ไปละนะ แกก็บิดมอไซไปเลย
ตอนนั้นผมก็คิด เอ้า เอาไงดีวะ ขี้เกียจเปิดประตู คือประตูมันเปิดยากปิดยาก ผมเลยตัดสินใจไม่ขึ้น เพราะกะไปยืมสายชาจครูๆในบ้านพักแทน
แต่เหมือนมีกรรมมาบดบัง พอครูบ้านพักกลับมาครบ ทุกคนดันใช้ไอโฟนหมดทุกคน มีผมเป็นสาวกแอนดรอยคนเดียว ตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มจะ 3 ทุ่ม เลยยืนคิดแปบนึงจะขึ้นไปหยิบ หรือจะเดินไปซื้อใหม่ที่ร้านไม่ไกลบ้านพัก สุดท้ายรู้สึกเสียดายเงิน เพราะตึกประถมมันอยู่ตรงหน้าบ้านพักผมเอง เดินแค่ไม่ถึง 10 ก้าวดีก็ถึงประตูทางขึ้น แถมผมก็มีกุญแจไขตึกด้วย คิดได้ก็หยิบผ้าขนหนูพาดบ่า เสื้อก็ไม่ได้ใส่ มีแต่กางเกงบ๊อกเซอตัวเดียว พระก็ไม่ได้ห้อย รีบเดินไปไขประตูทางขึ้น ก่อนขึ้นบันไดผมก็ดึงประตูเลื่อนลงงับไว้ ระหว่างทางเดิน ด้วยความกลัวลึกๆ เลยเปิดไฟตามบันไดทางเดิน ถึงชั้น 2 ก็เปิด ถึงทางพักเลี้ยวผมก็เปิด เปิดให้หมดเลย กลัวผี พอขึ้นมาถึงหน้าห้องดนตรีไทย ผมตกใจแว๊บนึง เพราะผมได้ยินเสียงอังกะลุงดังออกมาจากในห้อง แต่มันไม่ได้ดังเป็นเพลง มันดังแบบสั่นพร้อมกันหลายเสียง ตอนนั้นเริ่มกลัว แต่ก็ทำใจคิดว่า เออ ในห้องมีเครื่องดนตรี มีพ่อแก่ พ่อแก่ไม่หลอกกูหรอก พอทำใจได้ก็บิดลูกบิดเข้าไป แล้วเอามือรีบเปิดสวิตไฟทันที แล้วมองไปทางอังกะลุง ใจผมหล่นวูบ อังกะลุงจะวางติดหน้าต่าง 4 ตัว(อังกะลุงรางจะนำอังกะลุงหลายๆตัวมาเรียงร้อยในกล่อง) มันมีอยู่ตัวนึงตรงกลาง มันสั่นๆ แล้วมีเสียง ผมยืนช็อคแปบนึงตั้งสติแหงนมองเพดาน มีพัดลมเพดานตัวนึงตัวหมุนมันเสียแล้วมันดันไปหยุดตรงอังกะลุงพอดี (เด็กนักเรียนปิดแต่ไฟแต่ลืมสับเบรคเกอร์พัดลมเลยไม่ดับ) ผมโล่งใจ หมุนปิดพัดลมทุกตัว แล้วรีบหยิบสายชาจ ก่อนออกจากห้องผมก็ยกมือไหว้พ่อแก่กับเครื่องดนตรีอีกครั้ง สับไฟลง เดินออกมาเอาแม่กุญแจคล้องประตู จังหวะที่หันหลังให้ห้องดนตรีกำลังจะเดินลงบันได ผมก็เอามือจะไปปิดไฟหน้าห้องทางลงบันได แต่หูมันดันได้ยินเสียง ประตู เอี๊ยดยาวๆ จากที่ไกลออกไป ผมเลยเดินถอยจากบันทางลงขึ้นมามองสุดทางเดิน
ผมเห็นประตูห้อง ป.3/2 ฝั่งที่ติดทางขึ้นบันได ซึ่งห่างจากผมไป 3 ห้อง ค่อยเปิดออกบานนึงช้าๆ อธิบายว่าทางเดินทางนั้นไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ไฟจากสนามหญ้าสาดมาเห็นแค่เพดาน กับทางเดินสลัวๆ ตอนแรกผมก็ตั้งสติคิดในทางที่ดีว่า ประตูกลอนมันคงหลวมไม่ก็ลูกบิดเสีย ผมเลยกะจะเดินไปปิดให้ แต่พอผมก้าวขาไปได้ก้าวเดียว ประตูมันอีกบานคู่กันก็เปิดออกตามและเปิดจนสุด ตอนนั้นผมยืนช็อคละ เหมือนเวลามันหยุดนิ่ง พอมันเปิดสุดมันก็เงียบ แต่แค่แว๊บเดียว มันมีเสียงตามมาดัง แกร๊ก ใช่ครับ เสียงลงกลอนประตู ถ้าเราเปิดประตูสุดแล้วเราต้องลงกลอนเพื่อไม่ให้ลมพัดประตูปิดกลับไป ใจผมหายแว๊บแล้ว กำลังจะหันเดินกลับมาที่บันไดทางลง อยู่ๆไฟในห้อง ป.3/2 มันเปิดครับ ตอนนั้นผมก็เหมือนเริ่มใจชื้นสงสัยครูประจำชั้นห้องนั้นเค้าลืมของเลยกะจะเดินไปทักทาย จังหวะที่เดินไปใกล้ถึงห่างกันแค่ห้องเดียว
ประตูถัดมาของห้อง ป.3/2 ก็กำลังเปิดออกช้าๆ จนเกือบจะสุด แต่ผมไม่เห็นมือคนเปิดครับ มันเปิดออกมาเอง
พอประตูเปิดสุดจนชิดผนังละ เสียงลงกลอนประตูก็ดังขึ้น แกร๊ก ตอนนั้นผมหันหลังเดินกลับมาเอามือปิดไฟทางเดินหน้าห้องดนตรีทำเหมือนว่าผมไม่ได้เห็นอะไร แล้วเดินลงบันได เดินช้าๆ ไม่กล้าวิ่งเพราะกลัวตกบันได ระหว่างทางก็แสนจะทรมานต้องแวะปิดตามทางเดินที่ผมเปิดไว้ตามทาง พอลงมาจะถึงประตูหน้าทางขึ้นชั้น 1 ผมกระโดดเลย 6-7 ขั้นลงมาชนประตูเหล็กดังโครม แต่ตอนนั้นไม่มีความเจ็บละ รีบดันประตูขึ้น มันดันติดพับบนอีก มันเป็นประตูเหล็กแบบพับ รนไปหมด พอเปิดได้ก็ต้องงับลงให้เข้าล็อค มันก็ไม่ลงอีกยิ่งทำยิ่งรน สวิตไฟข้างล่างก็หาไม่เจอเพราะกลัวอยู่ แต่โชคดี หมาที่จรจัด 3 ตัว ที่ผมเลี้ยงไว้ที่บ้านพักครู มันคงได้ยินเสียงผมชนประตูเหล็ก มันวิ่งจากบ้านพักมายืนหน้าตึกพอดี ผมเลยหายกลัวไปนิดหน่อย ตั้งสติได้ก็ค่อยๆงับประตูลงแล้วล็อค มายืนหอบตรงสนามหญ้าหน้าตึก ตอนนั้นก็พยายามคิดในทางที่ดีต่อว่า มีครูขึ้นไปไหม ยืนรอพักนึงก็ไม่เห็นใครลง เลยเดินกลับบ้านพัก ชาจโทรศัพท์ไว้ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เปิดโทรศัพท์ดูกลุ่มไลน์โรงเรียนว่ามีครูคนไหนติดอยู่บนตึกไหม เพราะมีหลายครั้งจะมีครูที่ทำงานเลิกเย็น แล้วภารโรงไม่รู้แกล็อคประตูทางขึ้นสองฝั่ง ก็ต้องเป็นผมนี่แหละไปไขให้บ่อยๆ สรุปกลุ่มไลน์เงียบกริ๊บ ผมเลยเดินออกมายืนหน้าบ้านครู แล้วแหงนขึ้นไปชั้น 3 ทางขวาสุด เห็นไฟยังเปิดอยู่ แต่แค่แปบเดียวไฟห้อง ป.3/2 ก็ดับต่อหน้าต่อตา แล้วก็ตามด้วยเสียงปิดประตูปัง เวลาตอนนั้นเป็นเวลา 5 ทุ่มพอดี
ลิ๊งรายการเดอะช็อค
https://youtu.be/6iEt9a5MJug?si=300DREbag3KSJ6fS