ผมมีสมาชิกพันทิพอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและเครียดมาก เลยขอถอดล็อกอิน
ผมและแฟนอายุ 25 คบกันตั้งแต่เรียน ปวช. เกือบ 10 ปีแล้วที่เราคบกัน
ผมเหมือนลูกนอกคอก แม่ผมไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ ผมต้องจ่ายค่าเรียนเอง ไปโรงเรียนแม่ก็แทบไม่เคยให้เงินเลย ให้ผม 50บ้าง
บางวันก็ไม่ให้ แต่น้องชายน้องสาว ได้อาทิตย์ละ 1000 ขอเพิ่มได้ขอเรียนอะไรจ่ายให้หมด จนผมคิดว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ผมจึงอยากบวชอยากให้จิตใจสงบมากกว่านี้ ชีวิตมันเศร้าจริงๆ เวลาผมอยู่กับธรรมะทำให้ผมสบายใจ แต่เนื่องจากครอบครัวไม่ยอมให้บวช ผมจึงบวชไม่ได้
แม่ผมไม่ชอบแฟนผมเลยสักนิดเดียว แขวะสารพัด
แม่ผมกำลังขายบ้านเดี่ยวหลังเก่าชั้นเดียว อายุ 40 ปีได้ ผมขอแม่อาศัยก่อนถ้าขายได้จะย้ายออก(แม่ผมอยู่บ้านอื่น) ผมอยู่กับแฟนสองคนที่บ้านเก่าไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรเลย มีแต่พัดลมและเตียง แฟนบ่นทุกวันว่าร้อน แต่ผมนอนได้นะผมไม่ชอบนอนแอร์อยู่แล้วบ่นทุกวันเข้าเธอจึงบอกจะให้แม่รูดบัตรให้ แต่เธอไม่มีตังผ่อนนะ ผมต้องผ่อนเอง ด้วยความเป็นห่วงผมจึงยอมผ่อนให้ และให้มาติดในบ้าน ก่อนติดผมขอแม่ว่าจะติดแอร์ในบ้าน แม่บอกว่า "กำแพงมันไม่ดีแล้วนะถ้าเจาะอะไรมากๆมันจะร้าวแกรับผิดชอบนะ" ผมจึงบอกแฟนๆก็ยังยืนยันว่าอยากจะติดผมจึงติดให้เธอ ราคา 22000 เมื่อช่างมาติดเริ่มเจาะกำแพงเริ่มร้าวจริงๆ กระเบื้องแตก ผมก็เข้าใจว่ามันเก่าแล้วร้าวเป็นแนวยาว ติดเสร็จก็สมใจเธอ จากนั้น 1 เดือนก็ขอทีวีอีกราคา 37000 ผมก็ตกลงผ่อนให้บัตรแม่เธอ อีก 2 อาทิตย์ ขออีกเครื่องซักผ้า 14000 ผมก็ผ่อนให้เธอ
ตอนนี้ใกล้เข้าพรรษาแล้ว ผมจึงขอแม่บวชที่วัดทางภาคอีสาน ขอทุกวันจนพ่อคุยกับแม่และแม่ยอมให้บวช แต่!! "ต้องจ่ายเองทั้งหมด" (ผมขอตั้งแต่ช่วง กลางๆมีนาคมมีเวลาเตรียมตัว 4 เดือน)
ตอนแรกแค่ ขอบวช แต่ไม่รู้จะบวชที่ไหน ดี เมื่อไม่นานมานี้ตกลงจะบวชที่ วัดทางอีสาน ติดต่อเรียบร้อยแล้ว
และแล้วเวลาเลวร้ายก็มาถึง ผมตัดสินใจบวชแฟนก็อยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้เพราะผมไม่อยู่แล้ว แฟนผมไปทำงาน แม่มาที่บ้านคุยเรื่องบวช
และแม่ก็เห็นกำแพงที่เป็นรอยร้าวยาวกระเบื้องแตก โดนเจาะกำแพง แม่หันมาถามผม "ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม" "บ้านกำลังจะขาย เขามาเห็นกำแพงร้าวแบบนี้ใครจะอยากอยู่ ใครจะกล้าซื้อ" ผมก็ได้แต่เงียบ แม่บอกจัดการด้วยนะ
ผมจึงคุยกับแฟนว่าเธอหาช่างมาปิดรอยร้าวกับรอยแตกได้ไหม ผมไม่มีเงินแล้ว กลัวไม่มีเงินบวชผมรอเวลานี้มาหลายปีแล้ว
แฟนจึงคุยกับแม่เขา
ตัวอย่างการสนทนา ยกตัวอย่างแฟนผมชื่อ A
แม่แฟน :: ลูกเห็นรอยร้าวไหม ?
ผม :: เห็นครับ
แม่แฟน :: งั้นลูกบอกแม่ลูกให้ซ่อมเองนะ
ผม :: แม่ผมบอกว่ามันจะร้าว แต่แรกแล้วแต่ A ยืนยันจะติดเพราะเขาร้อน
แม่แฟน :: ลูกลูกผู้ชายไหม ?
ผม :: ครับ
แม่แฟน :: งั้นลูกก็ซ่อมกำแพงเองนะ
ผม :: แอร์กับทีวี เครื่องซักผ้า ผมก็ออกให้แล้วนะครับ ผมไม่อยากได้แต่แรกเลยด้วย
แม่แฟน :: แกจะโยนปัญหาใส่ A ตลอดเลยเหรอ แอร์มันอยู่บ้านแกนะ แกก็ต้องผ่อนสิ
ผม :: ผมไม่ได้โยนครับ ผมก็มีปัญหาเหมือนกัน เข้าใจผมหน่อยนะ
แม่แฟน :: ใครๆก็คิดว่าปัญหาตัวเองใหญ่ทั้งนั้น คนอื่นเขาก็มีปัญหาเหมือนกัน
ผม :: ใช่ครับ ผมต้องหาตังเองทุกอย่าง แม่เข้าใจผมหน่อยนะ ผมกลัวถ้าผมมีปัญหากับแม่ผม ผมจะไม่ได้บวช
แม่แฟน :: ลูกจะหนีไปบวชไง อย่ามาอ้างเลย อายุ 18 19 20 ไมไม่บวช มาบวชไรตอนนี้ ตอนผ่อนของ
ผม :: ผมต้องเรียนครับ
แม่แฟน :: ไม่เกี่ยวอย่าอ้าง แมนๆหน่อย รับปากป่าวว่าจะรับผิดชอบเอง
ผม :: ไม่รับครับ
แม่แฟน :: แกเอาลูกฉันไปบู้ ยี่บู้ยำแล้วจะมาพูดแบบนี้เหรอ ?
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: บ้านฉันก็มีปัญหาเหมือนกัน ฉันหนีตามผู้ชายตอนเด็กๆ ปัญหาของลูกมันน้อยไป
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: ถ้าไม่บอกแม่ให้จัดการเอง ฉันซ่อมเองก็ได้แล้ว ก็สึกมาแล้ว เลิกยุ่งกับ A ไปเลยนะฉันไม่ชอบคนไม่มีความรับผิดชอบ
ผม :: แม่จะไปรู้อะไร แม่ไม่เคยมาโดนแบบผมตั้งแต่เด็กๆนิครับ (โมโห)
แม่แฟน :: ฉันไม่อยากฟังเรื่องของแก
ผม :: แต่แม่ก็ต้องรู้ไงครับ ว่าชีวิตผมเป็นอย่างไร ปัญหาเป็นอย่างไร
แม่แฟน :: ลูกพูดจาแย่มากนะ
ผม :: เหมือนกันครับ A ก็ด่าแม่ผมทุกวัน
แม่แฟน :: ฉันไม่เคยสอนให้ลูกฉันไปด่าใคร
ผม :: ครับแต่ก็ด่าทุกวันครับ
แม่แฟน :: งั้นฉันซ่อมเอง อโหสิกรรมให้นะ แล้วอย่าได้เจอะเจอกันอีก
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: แต่ฉันไม่รับปากนะว่าจะไปวันไหน
ผม :: ครับ
แม่ผมก็แรง ไม่ชอบแฟนเอามากๆ บางทีก็ด่าแฟนผมเสียๆหายๆ
แม่แฟนก็แรงมากๆ เขามาเจอกันตบกันชัวๆ ตอนมาเอาของ
แฟนชอบด่าแม่ผมว่า ปากดี,ไม่ใช่แม่แกจะตบให้และ,อยากตบแม่แกว่ะ,แม่กวนส้นteen จังเลยนะ 9ล9
ของที่แม่เขารูดผมไม่เคยอยากได้ไรเลยสักชิ้น ผมผ่อนให้ แอร์ ผ่อน 3 เดือน ทีวี ผ่อน 2 เดือน เครื่องซักผ้าผ่อน 2 เดือน
แม่ผมบอกแต่แรกแล้วว่ากำแพงจะมีปัญหาเพราะจะขายบ้าน แต่แฟนก็จะติดท่าเดียว สุดท้ายพัง
ผมควรทำไงดี ซ่อมเองหรือให้แม่เขาซ่อม หรือให้แม่ผมซ่อม
-แม่ผมไม่ซ่อมให้แน่ๆ(ทุกวันนี้เขาก็เกลียดแฟนผมเต็มทนละ) เขาพูด 2-3 รอบว่ากำแพงจะพัง
-ผมไม่อยากได้ไรเลยแต่แรก แต่ผ่อนให้แฟนเพราะแฟนอยากได้
-แม่แฟน แกต้องซ่อมเองฉันจะเอาของๆฉันคืนพอ
ที่ผมไม่ซ่อมเพราะ ไม่มีเงินผมต้องออกเองค่าบวชทุกอย่างเลย แค่นี้ก็ไม่พอแล้ว และผมก็ไม่ได้อยากได้ไรด้วยผ่อนไป แล้วหลายบาทแฟนก็ได้ไปผมยังต้องซ่อมอีกเหรอ ?
ผมอยากรู้ว่าผม ควรทำไงดีซ่อมให้ หรือยังไง เพราะแม่ผมก็เตือนหลายรอบแล้วว่าจะพัง หรือให้เขาซ่อมเองเพราะอยากได้เอง
เขาบอกของอยู่บ้านผมๆ ต้องผ่อน ผมไม่อยากได้เลยจริงๆ ผ่อนให้เพราะแฟนอยากได้ ของพวกนี้เขาก็เอากลับไปใช้บ้านแม่แฟนทุกอย่าง
บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ แต่สำหรับผมไม่เลย ผมหาเงินเองเงินก็ได้นิดเดียว ผมกลัวว่าถ้าไปมีปัญหากับแม่ผม งานบวชผมจะล่มอีก สำหรับผมๆว่ามันไม่ยุติธรรม ผมไม่อยากได้ แถมต้องผ่อนให้ สุดท้ายบ้านพังผมต้องรับผิดชอบอีกเหรอ หรือว่าผมมองในมุมมองของผมมากเกินไป ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะ ผมเครียดจริงๆ ถ้าหลายๆคนคิดว่าผมควรซ่อมให้ ผมก็จะซ่อม
ต่อ คห.22 นะครับ
เสริมนิดนึง
เงินเดือนผม 15000
:: ผ่อนแอร์ 2200 (ผ่อนให้แฟน)
:: ทีวี 3700 (ผ่อนให้แฟน) (ตั้งแต่ซื้อมาผมแทบไม่เคยดู ไม่เกิน 5 ครั้งเล่นแต่คอม)
:: เครื่องซักผ้า (หารกัน) 11xx (หารกัน)
:: เก็บค่าบวช 2000 (เริ่มเก็บตั้งแต่ มีนาคม)
ที่เหลือก็ ค่ากินในบ้านผมออก ค่าน้ำไฟหารกัน
เงินเดือนแฟน 12000
:: ค่าดัดฟันเธอ 1000
:: ค่าผ่อนโทรศัพท์เธอเอง 2xxx (จำไม่ได้)
ที่เหลือก็ ไม่รู้เธอเอาไปทำไรบ้าง มีหาร น้ำไฟ เครื่องซักผ้า
ปล.เธอขอให้ผมซื้อให้แต่ผมไม่มีเงินสด เลยให้แม่เธอรูดให้ แต่ให้ผมผ่อนทุกเดือนกับแม่เธอ
ปล2. "ของทุกอย่างที่ผมผ่อนให้ เธอได้หมดทุกอย่าง"
-ผมขอแม่จะบวชตั้งนานแล้วก่อนช่วงเดือน มีนาคม ก็เลยเก็บตังรอ
-ตอนกำแพงร้าว ผมก็คุยกับแฟนแล้ว บอกว่าเป็นไงบอกแล้วว่าติดไม่ได้ยังจะติดแฟนตกลง วันขายบ้านได้จะรับผิดชอบ เพราะเขาอยากได้เอง แต่พอไปคุยกับแม่เขา แม่เขาบอกไม่เกี่ยวกันเขาจะไม่รับผิดชอบ เขาบอกของอยู่ในบ้านผมๆ ก็ต้องผ่อน ไม่สนว่าจะอยากได้ไหม พาลูกเขามาลำบากก็ต้องรับผิดชอบ
-ผมออกจากงานตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่แล้วๆ เพราะต้องนุ่งขาวห่มขาวก่อนบวช 15 วัน เธอก็บอกว่าจะรับผิดชอบ เธอก็คุยกับแม่เธอแล้ว
แต่แม่เธอดัน บอกฉันไม่สน เอาของๆเขาคืนมาก็พอ(เขารูด ผมผ่อน) ฉันไม่รับผิดชอบ
-ตอนนี้ผมไม่มีรายได้เลยไง ผมถึงเดือดร้อนเรื่องกำแพง เพราะปัญหามันเกิดหลังจากผมออกจากงานแล้ว ตอนแรกแฟนก็บอกจะทำให้ตอนย้ายแล้ว เขารั้นเอง แต่แม่เขาไม่ยอม
**ที่ผมอยู่บ้านแม่เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน เมื่อก่อนเคยอยู่ข้างนอก ค่าเช่าห้องกับค่าน้ำไฟ แพงกว่าบ้านปกติอีกเดือนละ 3000-4000
อยู่บ้านแม่แค่ 1200 เอง ถ้ามีทางเลือกมากกว่านี้ผมก็ไม่อยู่บ้านนี้หรอก
** ถ้าคนมีเงินปัญหาเรื่องนี้จะเล็กนิดเดียว ผมเหลือเงินเก็บแค่ 13000 เองยังไม่ได้ซื้อของไรเลย ไม่อยากขอใคร และไม่อยากขอวัดด้วย ที่เรื่องมันร้อนเพราะ งานบวชก็ใกล้จัดแล้วกลัวงานจะล่ม
แม่เขาจะใช้คำเดิมๆ คือ ไม่แมนเลย กำแพงร้าวไม ไม่รับผิดชอบเอง ไม่แมนนะทำแบบนี้ ทำไมไม่เสียสละทำเพื่อ A ไม่รัก A เหรอ ?
ถ้าผมมีตังทุกอย่างคงแมน
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ผมจ่ายให้ทุกอย่างแล้ว ของที่ผมผ่อนเขาก็เอาไปใช้เองให้ พี่น้องแฟนใช้ แอร์ เครื่องซักผ้าทีวี เขาอยากได้ก็เอาไป แต่ไม่แฟร์ตรงที่ผมก็จ่ายให้แล้ว แฟนผมก็ทำเต็มที่แล้ว แต่แม่เขาไม่ยอมเอง ของๆผมเขาก็เอาไปให้พี่น้องเขาใช้แล้ว ถ้าเพื่อนๆ สมาชิกคิดว่า ผมควรหยุดงานบวชที่จะถึงแล้วไปซ่อมกำแพง แล้วไปสมัครงานใหม่ และบวชปี หน้าผมก็โอเค ผมอยากให้มันแฟร์ทั้งสองฝ่ายเพราะ ผมก็มองจุดๆเดียว ผมไม่เข้าใจจุดๆที่แม่แฟนเขามอง ผมควรเอาไงดี
แม่ผมกับแม่แฟนจะตบกัน,แถมโดนบังคับให้เลิก หาว่าเราหนีปัญหาไปบวช
ผมและแฟนอายุ 25 คบกันตั้งแต่เรียน ปวช. เกือบ 10 ปีแล้วที่เราคบกัน
ผมเหมือนลูกนอกคอก แม่ผมไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ ผมต้องจ่ายค่าเรียนเอง ไปโรงเรียนแม่ก็แทบไม่เคยให้เงินเลย ให้ผม 50บ้าง
บางวันก็ไม่ให้ แต่น้องชายน้องสาว ได้อาทิตย์ละ 1000 ขอเพิ่มได้ขอเรียนอะไรจ่ายให้หมด จนผมคิดว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ผมจึงอยากบวชอยากให้จิตใจสงบมากกว่านี้ ชีวิตมันเศร้าจริงๆ เวลาผมอยู่กับธรรมะทำให้ผมสบายใจ แต่เนื่องจากครอบครัวไม่ยอมให้บวช ผมจึงบวชไม่ได้
แม่ผมไม่ชอบแฟนผมเลยสักนิดเดียว แขวะสารพัด
แม่ผมกำลังขายบ้านเดี่ยวหลังเก่าชั้นเดียว อายุ 40 ปีได้ ผมขอแม่อาศัยก่อนถ้าขายได้จะย้ายออก(แม่ผมอยู่บ้านอื่น) ผมอยู่กับแฟนสองคนที่บ้านเก่าไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรเลย มีแต่พัดลมและเตียง แฟนบ่นทุกวันว่าร้อน แต่ผมนอนได้นะผมไม่ชอบนอนแอร์อยู่แล้วบ่นทุกวันเข้าเธอจึงบอกจะให้แม่รูดบัตรให้ แต่เธอไม่มีตังผ่อนนะ ผมต้องผ่อนเอง ด้วยความเป็นห่วงผมจึงยอมผ่อนให้ และให้มาติดในบ้าน ก่อนติดผมขอแม่ว่าจะติดแอร์ในบ้าน แม่บอกว่า "กำแพงมันไม่ดีแล้วนะถ้าเจาะอะไรมากๆมันจะร้าวแกรับผิดชอบนะ" ผมจึงบอกแฟนๆก็ยังยืนยันว่าอยากจะติดผมจึงติดให้เธอ ราคา 22000 เมื่อช่างมาติดเริ่มเจาะกำแพงเริ่มร้าวจริงๆ กระเบื้องแตก ผมก็เข้าใจว่ามันเก่าแล้วร้าวเป็นแนวยาว ติดเสร็จก็สมใจเธอ จากนั้น 1 เดือนก็ขอทีวีอีกราคา 37000 ผมก็ตกลงผ่อนให้บัตรแม่เธอ อีก 2 อาทิตย์ ขออีกเครื่องซักผ้า 14000 ผมก็ผ่อนให้เธอ
ตอนนี้ใกล้เข้าพรรษาแล้ว ผมจึงขอแม่บวชที่วัดทางภาคอีสาน ขอทุกวันจนพ่อคุยกับแม่และแม่ยอมให้บวช แต่!! "ต้องจ่ายเองทั้งหมด" (ผมขอตั้งแต่ช่วง กลางๆมีนาคมมีเวลาเตรียมตัว 4 เดือน)
ตอนแรกแค่ ขอบวช แต่ไม่รู้จะบวชที่ไหน ดี เมื่อไม่นานมานี้ตกลงจะบวชที่ วัดทางอีสาน ติดต่อเรียบร้อยแล้ว
และแล้วเวลาเลวร้ายก็มาถึง ผมตัดสินใจบวชแฟนก็อยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้เพราะผมไม่อยู่แล้ว แฟนผมไปทำงาน แม่มาที่บ้านคุยเรื่องบวช
และแม่ก็เห็นกำแพงที่เป็นรอยร้าวยาวกระเบื้องแตก โดนเจาะกำแพง แม่หันมาถามผม "ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม" "บ้านกำลังจะขาย เขามาเห็นกำแพงร้าวแบบนี้ใครจะอยากอยู่ ใครจะกล้าซื้อ" ผมก็ได้แต่เงียบ แม่บอกจัดการด้วยนะ
ผมจึงคุยกับแฟนว่าเธอหาช่างมาปิดรอยร้าวกับรอยแตกได้ไหม ผมไม่มีเงินแล้ว กลัวไม่มีเงินบวชผมรอเวลานี้มาหลายปีแล้ว
แฟนจึงคุยกับแม่เขา
ตัวอย่างการสนทนา ยกตัวอย่างแฟนผมชื่อ A
แม่แฟน :: ลูกเห็นรอยร้าวไหม ?
ผม :: เห็นครับ
แม่แฟน :: งั้นลูกบอกแม่ลูกให้ซ่อมเองนะ
ผม :: แม่ผมบอกว่ามันจะร้าว แต่แรกแล้วแต่ A ยืนยันจะติดเพราะเขาร้อน
แม่แฟน :: ลูกลูกผู้ชายไหม ?
ผม :: ครับ
แม่แฟน :: งั้นลูกก็ซ่อมกำแพงเองนะ
ผม :: แอร์กับทีวี เครื่องซักผ้า ผมก็ออกให้แล้วนะครับ ผมไม่อยากได้แต่แรกเลยด้วย
แม่แฟน :: แกจะโยนปัญหาใส่ A ตลอดเลยเหรอ แอร์มันอยู่บ้านแกนะ แกก็ต้องผ่อนสิ
ผม :: ผมไม่ได้โยนครับ ผมก็มีปัญหาเหมือนกัน เข้าใจผมหน่อยนะ
แม่แฟน :: ใครๆก็คิดว่าปัญหาตัวเองใหญ่ทั้งนั้น คนอื่นเขาก็มีปัญหาเหมือนกัน
ผม :: ใช่ครับ ผมต้องหาตังเองทุกอย่าง แม่เข้าใจผมหน่อยนะ ผมกลัวถ้าผมมีปัญหากับแม่ผม ผมจะไม่ได้บวช
แม่แฟน :: ลูกจะหนีไปบวชไง อย่ามาอ้างเลย อายุ 18 19 20 ไมไม่บวช มาบวชไรตอนนี้ ตอนผ่อนของ
ผม :: ผมต้องเรียนครับ
แม่แฟน :: ไม่เกี่ยวอย่าอ้าง แมนๆหน่อย รับปากป่าวว่าจะรับผิดชอบเอง
ผม :: ไม่รับครับ
แม่แฟน :: แกเอาลูกฉันไปบู้ ยี่บู้ยำแล้วจะมาพูดแบบนี้เหรอ ?
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: บ้านฉันก็มีปัญหาเหมือนกัน ฉันหนีตามผู้ชายตอนเด็กๆ ปัญหาของลูกมันน้อยไป
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: ถ้าไม่บอกแม่ให้จัดการเอง ฉันซ่อมเองก็ได้แล้ว ก็สึกมาแล้ว เลิกยุ่งกับ A ไปเลยนะฉันไม่ชอบคนไม่มีความรับผิดชอบ
ผม :: แม่จะไปรู้อะไร แม่ไม่เคยมาโดนแบบผมตั้งแต่เด็กๆนิครับ (โมโห)
แม่แฟน :: ฉันไม่อยากฟังเรื่องของแก
ผม :: แต่แม่ก็ต้องรู้ไงครับ ว่าชีวิตผมเป็นอย่างไร ปัญหาเป็นอย่างไร
แม่แฟน :: ลูกพูดจาแย่มากนะ
ผม :: เหมือนกันครับ A ก็ด่าแม่ผมทุกวัน
แม่แฟน :: ฉันไม่เคยสอนให้ลูกฉันไปด่าใคร
ผม :: ครับแต่ก็ด่าทุกวันครับ
แม่แฟน :: งั้นฉันซ่อมเอง อโหสิกรรมให้นะ แล้วอย่าได้เจอะเจอกันอีก
ผม :: (เงียบ)
แม่แฟน :: แต่ฉันไม่รับปากนะว่าจะไปวันไหน
ผม :: ครับ
แม่ผมก็แรง ไม่ชอบแฟนเอามากๆ บางทีก็ด่าแฟนผมเสียๆหายๆ
แม่แฟนก็แรงมากๆ เขามาเจอกันตบกันชัวๆ ตอนมาเอาของ
แฟนชอบด่าแม่ผมว่า ปากดี,ไม่ใช่แม่แกจะตบให้และ,อยากตบแม่แกว่ะ,แม่กวนส้นteen จังเลยนะ 9ล9
ของที่แม่เขารูดผมไม่เคยอยากได้ไรเลยสักชิ้น ผมผ่อนให้ แอร์ ผ่อน 3 เดือน ทีวี ผ่อน 2 เดือน เครื่องซักผ้าผ่อน 2 เดือน
แม่ผมบอกแต่แรกแล้วว่ากำแพงจะมีปัญหาเพราะจะขายบ้าน แต่แฟนก็จะติดท่าเดียว สุดท้ายพัง
ผมควรทำไงดี ซ่อมเองหรือให้แม่เขาซ่อม หรือให้แม่ผมซ่อม
-แม่ผมไม่ซ่อมให้แน่ๆ(ทุกวันนี้เขาก็เกลียดแฟนผมเต็มทนละ) เขาพูด 2-3 รอบว่ากำแพงจะพัง
-ผมไม่อยากได้ไรเลยแต่แรก แต่ผ่อนให้แฟนเพราะแฟนอยากได้
-แม่แฟน แกต้องซ่อมเองฉันจะเอาของๆฉันคืนพอ
ที่ผมไม่ซ่อมเพราะ ไม่มีเงินผมต้องออกเองค่าบวชทุกอย่างเลย แค่นี้ก็ไม่พอแล้ว และผมก็ไม่ได้อยากได้ไรด้วยผ่อนไป แล้วหลายบาทแฟนก็ได้ไปผมยังต้องซ่อมอีกเหรอ ?
ผมอยากรู้ว่าผม ควรทำไงดีซ่อมให้ หรือยังไง เพราะแม่ผมก็เตือนหลายรอบแล้วว่าจะพัง หรือให้เขาซ่อมเองเพราะอยากได้เอง
เขาบอกของอยู่บ้านผมๆ ต้องผ่อน ผมไม่อยากได้เลยจริงๆ ผ่อนให้เพราะแฟนอยากได้ ของพวกนี้เขาก็เอากลับไปใช้บ้านแม่แฟนทุกอย่าง
บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ แต่สำหรับผมไม่เลย ผมหาเงินเองเงินก็ได้นิดเดียว ผมกลัวว่าถ้าไปมีปัญหากับแม่ผม งานบวชผมจะล่มอีก สำหรับผมๆว่ามันไม่ยุติธรรม ผมไม่อยากได้ แถมต้องผ่อนให้ สุดท้ายบ้านพังผมต้องรับผิดชอบอีกเหรอ หรือว่าผมมองในมุมมองของผมมากเกินไป ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะ ผมเครียดจริงๆ ถ้าหลายๆคนคิดว่าผมควรซ่อมให้ ผมก็จะซ่อม
ต่อ คห.22 นะครับ
เสริมนิดนึง
เงินเดือนผม 15000
:: ผ่อนแอร์ 2200 (ผ่อนให้แฟน)
:: ทีวี 3700 (ผ่อนให้แฟน) (ตั้งแต่ซื้อมาผมแทบไม่เคยดู ไม่เกิน 5 ครั้งเล่นแต่คอม)
:: เครื่องซักผ้า (หารกัน) 11xx (หารกัน)
:: เก็บค่าบวช 2000 (เริ่มเก็บตั้งแต่ มีนาคม)
ที่เหลือก็ ค่ากินในบ้านผมออก ค่าน้ำไฟหารกัน
เงินเดือนแฟน 12000
:: ค่าดัดฟันเธอ 1000
:: ค่าผ่อนโทรศัพท์เธอเอง 2xxx (จำไม่ได้)
ที่เหลือก็ ไม่รู้เธอเอาไปทำไรบ้าง มีหาร น้ำไฟ เครื่องซักผ้า
ปล.เธอขอให้ผมซื้อให้แต่ผมไม่มีเงินสด เลยให้แม่เธอรูดให้ แต่ให้ผมผ่อนทุกเดือนกับแม่เธอ
ปล2. "ของทุกอย่างที่ผมผ่อนให้ เธอได้หมดทุกอย่าง"
-ผมขอแม่จะบวชตั้งนานแล้วก่อนช่วงเดือน มีนาคม ก็เลยเก็บตังรอ
-ตอนกำแพงร้าว ผมก็คุยกับแฟนแล้ว บอกว่าเป็นไงบอกแล้วว่าติดไม่ได้ยังจะติดแฟนตกลง วันขายบ้านได้จะรับผิดชอบ เพราะเขาอยากได้เอง แต่พอไปคุยกับแม่เขา แม่เขาบอกไม่เกี่ยวกันเขาจะไม่รับผิดชอบ เขาบอกของอยู่ในบ้านผมๆ ก็ต้องผ่อน ไม่สนว่าจะอยากได้ไหม พาลูกเขามาลำบากก็ต้องรับผิดชอบ
-ผมออกจากงานตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่แล้วๆ เพราะต้องนุ่งขาวห่มขาวก่อนบวช 15 วัน เธอก็บอกว่าจะรับผิดชอบ เธอก็คุยกับแม่เธอแล้ว
แต่แม่เธอดัน บอกฉันไม่สน เอาของๆเขาคืนมาก็พอ(เขารูด ผมผ่อน) ฉันไม่รับผิดชอบ
-ตอนนี้ผมไม่มีรายได้เลยไง ผมถึงเดือดร้อนเรื่องกำแพง เพราะปัญหามันเกิดหลังจากผมออกจากงานแล้ว ตอนแรกแฟนก็บอกจะทำให้ตอนย้ายแล้ว เขารั้นเอง แต่แม่เขาไม่ยอม
**ที่ผมอยู่บ้านแม่เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน เมื่อก่อนเคยอยู่ข้างนอก ค่าเช่าห้องกับค่าน้ำไฟ แพงกว่าบ้านปกติอีกเดือนละ 3000-4000
อยู่บ้านแม่แค่ 1200 เอง ถ้ามีทางเลือกมากกว่านี้ผมก็ไม่อยู่บ้านนี้หรอก
** ถ้าคนมีเงินปัญหาเรื่องนี้จะเล็กนิดเดียว ผมเหลือเงินเก็บแค่ 13000 เองยังไม่ได้ซื้อของไรเลย ไม่อยากขอใคร และไม่อยากขอวัดด้วย ที่เรื่องมันร้อนเพราะ งานบวชก็ใกล้จัดแล้วกลัวงานจะล่ม
แม่เขาจะใช้คำเดิมๆ คือ ไม่แมนเลย กำแพงร้าวไม ไม่รับผิดชอบเอง ไม่แมนนะทำแบบนี้ ทำไมไม่เสียสละทำเพื่อ A ไม่รัก A เหรอ ?
ถ้าผมมีตังทุกอย่างคงแมน
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ผมจ่ายให้ทุกอย่างแล้ว ของที่ผมผ่อนเขาก็เอาไปใช้เองให้ พี่น้องแฟนใช้ แอร์ เครื่องซักผ้าทีวี เขาอยากได้ก็เอาไป แต่ไม่แฟร์ตรงที่ผมก็จ่ายให้แล้ว แฟนผมก็ทำเต็มที่แล้ว แต่แม่เขาไม่ยอมเอง ของๆผมเขาก็เอาไปให้พี่น้องเขาใช้แล้ว ถ้าเพื่อนๆ สมาชิกคิดว่า ผมควรหยุดงานบวชที่จะถึงแล้วไปซ่อมกำแพง แล้วไปสมัครงานใหม่ และบวชปี หน้าผมก็โอเค ผมอยากให้มันแฟร์ทั้งสองฝ่ายเพราะ ผมก็มองจุดๆเดียว ผมไม่เข้าใจจุดๆที่แม่แฟนเขามอง ผมควรเอาไงดี