สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ
เรา "เคย" เป็นพนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่งของจังหวัดทางภาคเหนือ
ตอนนี้เราออกมาแล้วค่ะ เพราะ ทนไม่ไหวกับการกระทำหลายๆ อย่าง ที่ทางโรงแรมทำ
แต่ ยังมีเพื่อนของเราที่ยังโดนอยู่เรื่อยๆ เราเลยอยากสอบถามผู้รู้ ว่ามีทางไหนพอช่วยได้บ้างไหม
ขอเริ่มเลยนะคะ ..
ในตอนแรกที่เราสนใจสมัครเข้าโรงแรมแห่งนี้ เพราะในเวปสมัครงานบอกไว้ว่า Reception เงินเดือน 12000 - 15000 บาท เราก็สนใจมาก จึงไปสมัคร
พอสมัคร .. ทางโรงแรมก็บอกว่า คงให้ไม่ได้ ให้ได้แค่ 10000 บาทในช่วงโปร แต่ถ้าผ่านโปร จะพิจารณาอีกที เราก็โอเค ..
ทำไปได้ 2-3 วัน ได้มีการเซ็นต์สัญญา โดย ..
พนง. จะโดนหักค่าประกัน (โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) เท่ากับเงินเดือน @ 500 บาท เราก็ยังโอเค ..
เนื่องจาก โรงแรมนี้เป็น โรงแรมเปิดใหม่ค่ะ
เราสอบถามเรื่อง Service charge ตั้งแต่วันสัมภาษณ์ ทาง เมเนเจอร์บอกว่า จะพิจารณาอีกที ตามผลประกอบการของโรงแรม
พอผ่านไปอีก 2 เดือน เราก็ถามอีก เค้าเลยทำหนังสือออกมาให้พนักงานทุกคนเซ็นต์ โดยบอกว่า ..
Service charge จะมีต่อเมื่อ โรงแรม มี Occupancy หรือ อัตราการเข้าพักของลูกค้า เกิน 80 เปอร์เซ็น เป็นต้นไป (ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับ โรงแรมเปิดใหม่) แต่ถ้าอัตราการเข้าพักไม่ถึงที่ตั้งไว้ จะให้เดือน พย. 2016 เป็นต้นไป (ตอนนั้นเราถามตอนเดือน กพ.)
เราก็ยังโอเค ..
ที่นี่ระบบการทำงานแปลกค่ะ .. เนื่องจากเราเคยผ่านงานโรงแรมมาบ้าง เราเลยสามารถเปรียบเทียบได้
- พนักงานบัญชีและฝ่ายบุคคล เป็นคนๆ เดียวกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว ฝ่ายบุคคลจะเป็นคนที่ พนักงานสามารถปรึกษาเวลามีปัญหาได้ แต่ที่นี่ห้ามค่ะ ถ้าเคาะประตูดังไป, เข้ามาส่งตังค์เร็วไป/ช้าไป จะโดนด่าทุกๆ กรณี แล้วแต่อารมณ์ ณ ตอนนั้น ของเค้าค่ะ
- Sales, PR, Reservation Manager เป็นคนๆ เดียวกัน
- ที่นี่บริหารแบบ พี่น้อง คือ .. ลูกพี่ทำโรงแรม เลยเอาลูกน้องมาบริหารงาน (ซึ่งไม่เคยบริหารงานโรงแรมมาก่อน) ฉะนั้น การทำงาน จะทำงานแบบ งูๆ ปลาๆ คิดอะไรได้ ก็เอาอันนั้น
- ด้วยการบริหารงานแบบพี่น้อง ทำให้ในตำแหน่งเดียวกัน พนักงานอีกคนเงินเดือน 10000 ส่วนคนที่เป็นคนรู้จักเงินเดือน 30000 โดยไม่ทำงานอะไรเลย คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
- ที่นี่มีคณะผู้บริหารเยอะมากค่ะ เราๆ ชาวพนักงาน จะเรียกกันว่า คณะผู้บริหาร เพราะเป็นบรรดาลูกน้องทั้งหมด เดินไป เดินมา สั่งโน่นนั่นนี่ ไม่ทำตามก็ไม่ได้ ฟ้องลูกพี่ทันที พนักงานก็จะโดนว่า
ที่นี่หน้าที่ทุกอย่าง จะตกมาอยู่ที่ Reception หมดเลยค่ะ
นอกเหนือจากหน้าที่หลักๆ ที่เราต้องทำแล้ว ยังมี ..
ยกกระเป๋า (อันนี้เข้าใจ เพราะบางโรงแรมก็เป็น แต่ที่นี่ไม่ยอมรับ Bell Boy เพราะไม่อยากเปลืองงบค่ะ)
โบกรถ / ย้ายรถ (ถ้ารถเป็นอะไร พนักงานจ่าย)
บางทีต้องไปส่งลูกค้าที่ สนามบินด้วย เพราะบรรดาลูกน้องเกี่ยงกันไม่อยากไป ผลสุดท้าย ฟร้อนต้องไป
Reception จะแบ่งงานเป็นทั้งหมด 3 กะค่ะ -- กะเช้า กะบ่าย และกะดึก
ตอนนี้เหลือพนักงาน 3 คน ไว้ประจำแต่ละกะ
ซึ่งทางโรงแรมไม่ยอมรับคนเพิ่ม ทำให้พนักงานไม่มีทางได้หยุดกันแน่ๆ เพราะ ถ้าหยุด ก็จะไม่มีคนมาแทน
เพื่อนเราทนไม่ไหวแล้วค่ะ
จะออกก็กลัวโดนหักเงิน
จะอยู่ ก็ไม่ได้หยุดเลย บางคนทำงานยาว ครึ่งเดือนไม่ได้หยุดเลยค่ะ
พอมีทางไหน
ให้เพื่อนเราออกมาให้เร็วที่สุดโดยไม่โดนหักเงินเดือนได้ไหมคะ ??
ในฐานะพนักงาน เมื่อถูกนายจ้างเอาเปรียบ ควรทำอย่างไรดีคะ??
เรา "เคย" เป็นพนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่งของจังหวัดทางภาคเหนือ
ตอนนี้เราออกมาแล้วค่ะ เพราะ ทนไม่ไหวกับการกระทำหลายๆ อย่าง ที่ทางโรงแรมทำ
แต่ ยังมีเพื่อนของเราที่ยังโดนอยู่เรื่อยๆ เราเลยอยากสอบถามผู้รู้ ว่ามีทางไหนพอช่วยได้บ้างไหม
ขอเริ่มเลยนะคะ ..
ในตอนแรกที่เราสนใจสมัครเข้าโรงแรมแห่งนี้ เพราะในเวปสมัครงานบอกไว้ว่า Reception เงินเดือน 12000 - 15000 บาท เราก็สนใจมาก จึงไปสมัคร
พอสมัคร .. ทางโรงแรมก็บอกว่า คงให้ไม่ได้ ให้ได้แค่ 10000 บาทในช่วงโปร แต่ถ้าผ่านโปร จะพิจารณาอีกที เราก็โอเค ..
ทำไปได้ 2-3 วัน ได้มีการเซ็นต์สัญญา โดย ..
พนง. จะโดนหักค่าประกัน (โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) เท่ากับเงินเดือน @ 500 บาท เราก็ยังโอเค ..
เนื่องจาก โรงแรมนี้เป็น โรงแรมเปิดใหม่ค่ะ
เราสอบถามเรื่อง Service charge ตั้งแต่วันสัมภาษณ์ ทาง เมเนเจอร์บอกว่า จะพิจารณาอีกที ตามผลประกอบการของโรงแรม
พอผ่านไปอีก 2 เดือน เราก็ถามอีก เค้าเลยทำหนังสือออกมาให้พนักงานทุกคนเซ็นต์ โดยบอกว่า ..
Service charge จะมีต่อเมื่อ โรงแรม มี Occupancy หรือ อัตราการเข้าพักของลูกค้า เกิน 80 เปอร์เซ็น เป็นต้นไป (ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับ โรงแรมเปิดใหม่) แต่ถ้าอัตราการเข้าพักไม่ถึงที่ตั้งไว้ จะให้เดือน พย. 2016 เป็นต้นไป (ตอนนั้นเราถามตอนเดือน กพ.)
เราก็ยังโอเค ..
ที่นี่ระบบการทำงานแปลกค่ะ .. เนื่องจากเราเคยผ่านงานโรงแรมมาบ้าง เราเลยสามารถเปรียบเทียบได้
- พนักงานบัญชีและฝ่ายบุคคล เป็นคนๆ เดียวกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว ฝ่ายบุคคลจะเป็นคนที่ พนักงานสามารถปรึกษาเวลามีปัญหาได้ แต่ที่นี่ห้ามค่ะ ถ้าเคาะประตูดังไป, เข้ามาส่งตังค์เร็วไป/ช้าไป จะโดนด่าทุกๆ กรณี แล้วแต่อารมณ์ ณ ตอนนั้น ของเค้าค่ะ
- Sales, PR, Reservation Manager เป็นคนๆ เดียวกัน
- ที่นี่บริหารแบบ พี่น้อง คือ .. ลูกพี่ทำโรงแรม เลยเอาลูกน้องมาบริหารงาน (ซึ่งไม่เคยบริหารงานโรงแรมมาก่อน) ฉะนั้น การทำงาน จะทำงานแบบ งูๆ ปลาๆ คิดอะไรได้ ก็เอาอันนั้น
- ด้วยการบริหารงานแบบพี่น้อง ทำให้ในตำแหน่งเดียวกัน พนักงานอีกคนเงินเดือน 10000 ส่วนคนที่เป็นคนรู้จักเงินเดือน 30000 โดยไม่ทำงานอะไรเลย คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
- ที่นี่มีคณะผู้บริหารเยอะมากค่ะ เราๆ ชาวพนักงาน จะเรียกกันว่า คณะผู้บริหาร เพราะเป็นบรรดาลูกน้องทั้งหมด เดินไป เดินมา สั่งโน่นนั่นนี่ ไม่ทำตามก็ไม่ได้ ฟ้องลูกพี่ทันที พนักงานก็จะโดนว่า
ที่นี่หน้าที่ทุกอย่าง จะตกมาอยู่ที่ Reception หมดเลยค่ะ
นอกเหนือจากหน้าที่หลักๆ ที่เราต้องทำแล้ว ยังมี ..
ยกกระเป๋า (อันนี้เข้าใจ เพราะบางโรงแรมก็เป็น แต่ที่นี่ไม่ยอมรับ Bell Boy เพราะไม่อยากเปลืองงบค่ะ)
โบกรถ / ย้ายรถ (ถ้ารถเป็นอะไร พนักงานจ่าย)
บางทีต้องไปส่งลูกค้าที่ สนามบินด้วย เพราะบรรดาลูกน้องเกี่ยงกันไม่อยากไป ผลสุดท้าย ฟร้อนต้องไป
Reception จะแบ่งงานเป็นทั้งหมด 3 กะค่ะ -- กะเช้า กะบ่าย และกะดึก
ตอนนี้เหลือพนักงาน 3 คน ไว้ประจำแต่ละกะ
ซึ่งทางโรงแรมไม่ยอมรับคนเพิ่ม ทำให้พนักงานไม่มีทางได้หยุดกันแน่ๆ เพราะ ถ้าหยุด ก็จะไม่มีคนมาแทน
เพื่อนเราทนไม่ไหวแล้วค่ะ
จะออกก็กลัวโดนหักเงิน
จะอยู่ ก็ไม่ได้หยุดเลย บางคนทำงานยาว ครึ่งเดือนไม่ได้หยุดเลยค่ะ
พอมีทางไหน
ให้เพื่อนเราออกมาให้เร็วที่สุดโดยไม่โดนหักเงินเดือนได้ไหมคะ ??