[CR] พาไปชิมอาหารอิตาเลียนร้าน "The Sodoh Higashiyama Kyoto" หน้าวัดโคดาจิ เมืองเกียวโต

สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชิมร้านอาหารอิตาเลี่ยน The Sodoh ร้านดังของชาวญี่ปุ่นที่เมืองเกียวโตกันค่ะ เราเพิ่งเขียนรีวิวเป็นครั้งแรกและสมัครสมาชิกใหม่เพื่อตั้งกระทู้นี้ค่ะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ

ขอเกริ่นนำก่อนว่า เราเป็นนักเรียนอยู่โตเกียวค่ะ เคยมาเที่ยวเกียวโตสัก 3-4 รอบแล้ว ทุกรอบก็จะทานอาหารญี่ปุ่นตามทาง และเน้นเก็บหลายๆวัดเป็นหลักค่ะ อย่างพวกวัดเงิน วัดทอง วัดแถวอาราชิยาม่า ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ

คราวนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกียวโตกับนาราอย่างละวันกับเพื่อนคนจีนอีกหนึ่งคนค่ะ เป็นช่วงซากุระบานพอดีค่ะ เราคุยกันว่าอยากเที่ยวโซนฮิกาชิยาม่า เพราะเพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำว่าเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโตและมีความเป็นญี่ปุ่นแท้มากที่สุดแห่งหนึ่งในเกียวโตค่ะ วันนั้นเราจึงใช้เวลาทั้งวันอยู่ในโซนนี้ เที่ยวสองวัดค่ะ คือวัดโคดาจิ และวัดคิโยมิซึค่ะ (ป.ล. กระทู้นี้จะมีรูปสถานที่ท่องเที่ยวน้อยหน่อยนะคะ เน้นแนะนำร้านอาหารค่า) ร้าน The Sodoh นี้บังเอิญเดินไปเจอระหว่างเที่ยวและประทับใจจึงอยากมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

เริ่มเลยนะคะ!

ตอนเช้าเรานั่งชินคันเซ็นมาถึงแล้วก็ไปเที่ยวที่วัดโคดาจิค่ะ วัดนี้เป็นหนึ่งในวัดดังช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมี light up ตอนกลางคืนจะสวยมากค่ะ การเดินทางสะดวกค่ะ คืออยู่ไม่ไกลจากสถานีเกียวโตประมาน 10 นาที


ข้างๆวัด เห็นวิวเจดีย์ยาซากะ กับบ้านโบราณ และซากุระ ได้บรรยากาศดีค่ะ


ทางขึ้นวัดค่ะ ร่มรื่นมาก


หน้าวัด


เที่ยววัดเสร็จก็ออกมาเดินเล่นข้างหน้าวัดกันต่อ เราชอบโซนรอบๆวัดมากค่ะ เหมือนเมืองโบราณ บ้านหรือร้านต่างๆทำด้วยไม้ และถนนทางเดินกว้างดีค่ะ


เดินเล่นหน้าวัด เที่ยงพอดี หิวค่ะ! 55555 เราเลยเดินหาร้านอาหาร ก็ไปสะดุดตากับที่นี่ค่ะ อยู่ตรงสี่แยกซอยหน้าวัดพอดี ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นร้านอาหารค่ะ เห็นข้างหน้าร้านคนเยอะเลยเข้าไปดูบ้าง


ดูจากหน้าร้านแล้วเหมือนบ้านซามูไร หรือบ้านคนมีตระกูลของที่นี่ค่ะ


ไม่เข้าใจว่าคือร้านอะไร แต่ว่าดูขลังและเท่ห์ดีค่ะ


แล้วก็เหลือบไปเห็นป้ายนี้ อ๋อร้านอาหารนี่เอง 555555 ด้วยความหิว เลยกระโจนเข้าร้านนี้ค่ะ
เข้าไปในร้านก็พบกับบรรยากาศประมาณนี้ค่ะ เหมือนหลงเข้าไปอยู่ในบ้านสวนสมัยก่อนของชาวญี่ปุ่น แต่ตกแต่งได้ร่วมสมัยและเก๋มากค่ะ ร้านใหญ่พอสมควรเลย พอเข้าไปเห็นเมนูอาหารและการแต่งกายของพนักงานจึงรู้ว่าเป็นอาหารอิตาเลียนค่ะ วันนั้นเรากำลังเลี่ยนอาหารญี่ปุ่นพอดี แล้วร้านเก๋มาก คิวก็ไม่ยาวลงตัวกับความหิวพอดีจึงตัดสินใจทานแวะทานที่นี่กันค่ะ วันนั้นเราไปเจอพนักงานที่ร้านคนไทยคนนึงด้วยค่ะ น้องน่ารักมากค่ะ เป็นพนักงานประจำที่นี่ได้ปีกว่าแล้ว เค้าเล่าให้ฟังว่าร้านนี้เดิมเป็นบ้านของจิตรกรญี่ปุ่นชื่อดังที่รวยมากค่ะ ภายหลังร้านได้ทำการเช่าและปรับปรุงที่นี่ให้เป็นร้านอาหารอิตาเลียน น้องว่าตั้งแต่ทำงานที่นี่มาแทบจะไม่เจอคนไทยเลย เราน่าจะเป็นคนที่สอง!!!! (เราเดาว่าก็หน้าร้านดูไม่เหมือนร้านอาหารเลยน่ะสิ หึๆ!!)


หนึ่งในภาพเขียนของจิตรกรท่านนี้ค่ะ ทราบมาว่ามูลค่าเป็นล้านเยน แต่เราเข้าไม่ถึงค่ะ 555555



มี open kitchen ด้วยนะคะ อยากบอกว่าพนักงานที่นี่แซบมากค่ะ หน้าตาดีตั้งแต่ผู้จัดการยันพนักงานเลย นี่ก็ช่วยเสริมบรรยากาศในการทานอาหารไปอีก 55555


การตกแต่งของชั้นสองค่ะ


วิวจากชั้นสองค่ะ บริเวณร้านยังมีหลายส่วนด้วยค่ะ เช่น อาคารที่ใช้จัดงานปาร์ตี้แต่งงาน  ห้องงานเลี้ยงบริษัท เป็นต้น น้องเล่าว่าร้าน The Sodoh นี้เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโตค่ะ (ภายหลังทานเสร็จเราถึงเช็คว่าที่นี่เป็นร้านดังของย่านนี้ค่ะ ในTableog ซึ่งเป็นเว็ปรีวิวร้านอาหารสำหรับคนญี่ปุ่นนั้นได้คะแนนถึง3.6แน่ะ เพื่อนคนญี่ปุ่นเคยบอกว่าร้านไหนได้ถึง 3.5 แปลว่าอร่อยมาก เพราะคนญี่ปุ่นวัฒนธรรมการกินอาหารเค้าพิถีพีถันมากค่ะ)


เล่าเรื่องอาหารบ้างค่ะ วันนั้นเราสั่ง course ชื่อ The Chef ค่ะ ด้วยความหิว ราคา 2,800 เยน ได้ 5 อย่าง (ราคาอาหารของที่นี่ เทียบกับคุณภาพและปริมาณ เราว่าคุ้มเลยค่ะ course ถูกสุด ชื่อ Classic 1,500 เยน ได้ 3 อย่าง ระดับกลางชื่อ The Chef ราคา 2,800 เยน คอร์สพรีเมียมสุดชื่อ The Sodoh ค่ะราคา 5,500 เยน  ได้ 7 อย่าง สามารถเลือกได้ตามความหิวและงบประมาณค่ะ อาหารของที่นี่น้องบอกว่าจะปรับเปลี่ยนทุกๆเดือนเพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่หลากหลายค่ะ)



จานแรก Appetizer เป็นสลัดเป็ดและสตอเบอร์รี่ค่ะ รสชาติกำลังดีเลย รสเปรี้ยวหวานของสตอร์เบอรี่ตัดกับน้ำสลัดและเป็นเป็นอย่างดีค่ะ เป็ดเนื้อนุ่ม โรยเกลือนิดๆทานกับซอสอร่อยมากค่ะ


จานต่อมาเป็นพาสต้าปลาหมึกผัดดอกคาโนลาในซอสมะเขือเทศค่ะ ส่วนตัวเราชอบจานนี้ที่สุดถ้าไม่รวมขนมหวานนะคะ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี ผักคล้ายๆบล็อกโคลี่ค่ะ ปลาหมึกผัดกับซอสมะเขือเทศรสชาติกลมกล่อมมากค่ะ พิมพ์ไปก็น้ำลายไหลค่ะ


จานนี้คือจานหลักที่เราเลือกค่ะ หมูอบคิริชิม่าและหน่อไม้ฝรั่ง จานนี้ก็โอเคระดับหนึ่งนะคะ หมูรสชาติใช้ได้เลยแต่สำหรับเราเนื้อแน่นไปหน่อยค่ะ เราชิมของเพื่อนที่เป็นเนื้อแกะแล้วชอบจานนั้นมากกว่าค่ะ 5555


แกะย่างซอสซัลซ่าค่ะ จานนี้ของเพื่อนอร่อยดี เราไม่ชอบทานแกะยังชอบเลยค่ะ ไม่เหม็นคาวเลย เนื้อนุ่มและซอสเข้มข้นดีค่ะ


ตบท้ายด้วยขนมหวานจานโปรดของเราค่ะ อร่อยมากกกกกก สตอเบอร์รี มิลเฟยกับไอศกรีมเชอร์เบทค่ะ ส่วนcrackerกรอบเคลือบน้ำตาลหวานๆข้างนอกทานกับครีม สตอเบอร์รี่และไอศกรีม รสชาติหวานกรุบกรอบอมเปรี้ยวนิดๆ ชื่นใจมากค่ะ สตอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นนี่หวานอยู่แล้ว ทานเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ


ชาร้อนแก้เลี่ยนค่ะ หรือจะสั่งกาแฟก็ได้ค่ะแล้วแต่ชอบเลย
ตอนจ่ายเงินได้ยินจากน้องที่ร้านว่าตอนนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่นพิเศษจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 นี้ค่ะ ว่าหากลูกค้าบอกรหัสโปรโมชั่นกับพนักงานว่า Wonderful Kyoto จะได้รับ 1 free drink อะไรก็ได้ในเมนูเครื่องดื่มของทางร้านเพิ่มจาก course ที่สั่งด้วยค่ะ!


ก่อนออกจากร้านเอารูปพนักงานสุดหล่อของร้านมาฝากค่ะ ที่นี่ของเค้าดีจริงๆค่ะ อยากกลับไปเยี่ยม เอ้ย ทานอีก 55555
พอทานเสร็จก็เดินเล่นรอบๆสวนในบริเวณร้าน สวยมากค่ะ


มีคู่รักญี่ปุ่นมาถ่ายรูปพรีเว้ดดิ้งในร้านนี้พอดี ที่นี่เค้ารับจัดงานแต่งงานในโบสถ์ภายในร้าน และจัดงานปาร์ตี้งานแต่งด้วยนะคะ ชุดเจ้าสาวสวยอลังการงานสร้างมากค่ะ



บริเวณในร้านใหญ่มาก มีบ่อปลาและโคมไฟหินด้วยค่ะ ตอนกลางคืนน่าจะโรแมนติก



ทานเสร็จอิ่มตื้อ พร้อมเที่ยวต่อค่ะ ออกมาจากร้านก็เดินเลี้ยวขวาไปยังวัดคิโยมิซึได้เลยประมาน 10-20 นาทีถึงค่ะ



แดดออกพอดี ซากุระสวยมากค่ะ อดถ่ายรูปไม่ได้



ถึงแล้วค่ะคิโยมิซึ เที่ยวเสร็จก็เย็นแล้วก็กลับที่พักกันค่ะ วันนี้ฟินอาหารกลางวันและย่านฮิกาชิยาม่ามากค่ะ เดี๋ยววันนี้พักที่เกียวโตหนึ่งคืนแล้วพรุ่งนี้เช้าไปนาราต่อค่ะ

ฝากรีวิวของนาราด้วยนะคะ กระทู้นี้พิมพ์รายละเอียดอะไรผิดไปขออภัยด้วยนะคะ มือใหม่ค่า
ชื่อสินค้า:   Italian Food
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่