ถ้าคุณเจอสถานการแบบนี้ คุณจะทำยังไง

ถ้าธุรกิจที่คุณสร้างมาพังลง ที่กำลังจะถูกแบงก์ยึด เหลือตังส์ติดตัวแค่ 4 หมื่น กับหนี้สินที่ต้องจ่ายอีก 12 ล้าน ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เจ้านายคนเก่าผม
ทำธุรกิจมูลค่าขยับขึ้นถึง พันล้าน ต่อปี
พอล้ม มันล้มแรงครับ หนักมากครับ  มีหนี้การค้าหลายร้อยล้านบาท
ทั้งโดนธนาคารเจ้าหนี้ ปรับโครงส้รางหนี้ ยึดทรัพย์สิน
เจ้าหนี้การค้ารุมฟ้องร้อง


แต่เจ้านายผมเป็นสตรีแกร่งครับ
ไม่ทิ้งลูกน้อง ไม่ทิ้งบริษัท  ให้พนักงานตัดสินใจเลือกทางเดินเองได้
ใครอยู่ก็ดูแลทุกคน แต่อาจจะได้ไม่เท่ากับบริษัทอื่น
เธอเจรจากับเจ้าหนี้ทุกราย
เจ้าไหน เจรจาได้ ก็ทะยอยจ่าย  
เจ้าไหน เลือกใช้พิธีการเจรจาทางศาล ก็สู้กันที่ศาล

เจ้านายผมขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อหาลู่ทางธุรกิจ สินค้าใหม่ๆ
เพราะถ้ายังขืนอยู่ในธุรกิจเดิม ไม่มีทางฟื้นกลับมาได้แน่นอน
ศาลเมตตาอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ แต่ต้องกลับมารายงานตัวตามกำหนด
ท่าเดินทางไปต่างประเทศ ดูงาน หาสินค้าเข้ามาให้ลูกน้องที่ไทยขาย
เงินติดตัวแทบไม่มี ใช้วงเงินบัตรเครดิตของสามี เป็นค่าใช้จ่ายที่ต่างประเทศ

ท่านใช้เวลาฝ่าฟันมรสุมอยู่หลายปี ใช้ชีวิตส่สนมากอยู่ต่างประเทศ ขณะที่มีธุรกิจอยู่ที่ไทย
ท่านเดินทางเข้า-ออก ประเทศ เดือนละหลายเที่ยว เพือสร้างธุรกิจ
ชีวิตมีขึ้น มีลง เมื่อสินค้านวตกรรมมันมีผลต่อชีวิตคนทั้งชาติ และทั้งโลก
ด้วยวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจ กอร์ปกับเป็นคนพูดความจริงทั้งกับคู่ค้า ลูกค้า นายธนาคาร และลูกน้อง
แม้ชีวิตจะติดลบอยู่ใต้สะดือทะเล แต่ก็มีคนเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงให้การสนับสนุน
ใช้เวลาผ่านไปไม่ถึง7ปี ท่านสามารถคืนหนี้ให้เจ้าหนี่ที่ยอมเจรจาครบทุกราย
ส่วนรายที่เลือกใช้วิธีการทางศาล .... ศาลตัดสินให้ท่านชนะคดี

สิ้นปีที่ผ่านมา พนักงานที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านมา ... รับโบนัสกันเต็มๆ บางคนบ้าน บางคนรถ

ที่เล่าให้ฟัง .... มันมีหลายแง่มุมให้คุณได้คิด  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้สู้ต่อ

เป็นกำลังใจให้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่