ธนาคารไทยพานิชย์ เก็บดอกเบี้ยรายวันโดยไม่แจ้ง แบบนี้เรียกว่าโดนโกงไหมคะ

ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะคะ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่โดนมากับตัวเองและก็เสียความรู้มาก ไม่มีใครมารับผิดชอบเลย เรื่องอาจจะยาวหน่อยนะคะ
  เริ่มเรื่องนะคะ เหตุการณ์มีอยู่ว่าดิฉันซื้อรถต่อมาจาก เจ้าของเดิมในวันที่ 23 พ.ค.2556 เพราะเจ้าของเดิมมีปัญหาทางการเงินผ่อนต่อไม่ไหว เลยให้ดิฉันมาผ่อนต่อ ดิฉันก็เลยติดต่อกับทางธนาคารไทยพานิชย์ ถึงยอดเงินที่ยังคงค้างชำระโดยธนาคารฯได้แจ้งยอดเงินมาประมาณ 6 หมื่นกว่า ดิฉันก็เลยไปชำระให้แล้วถามทางธนาคารว่ามียอดค้างใดๆอีกหรือไม่ธนาคารแจ้งว่าไม่มียอดค้างแล้ว โดยทั้งหมดนี้ไม่มีการโอนสัญญาจะซื้อจะขายแต่อย่างใดเพราะดิฉันกับคนที่ขายต่อให้เชื่อใจกันทุกอย่างไม่มีปัญหา

  ทุกอย่างก็ผ่อนกันมาด้วยดีเดือนละ 19803 บาทโดยธนาคารจะโทรมาที่ดิฉันทุกเดือนบอกว่ายอดถึงกำหนดชำระแล้ว (วันที่ 14 ของทุกเดือน) ชำระได้ไม่เกินวันที่ 20 ดิฉันก็จะรีบไปชำระตลอดไม่เคยค้างไม่เคยติด และทุกๆเดือนเจ้าหน้าธนาคารก็จะโทรมาเป็นกิจวัตร ทุกครั้งดิฉันก็จะถามว่ามียอดค้างอะไรไหมคะ อีกกี่เดือนจะหมดคะ ถามอย่างนี้ตลอด

  ตอนหลังธนาคารจะใช้ส่งข้อความพร้อมกับโทรมายืนยันวันส่งอีกที

เดือน ก.พ.59 ก็ส่งพร้อมโทรมาถามว่าสะดวกวันไหนดิฉันก็บอกว่า ไม่วันที่18 ก็19 ก.พ.เพราะถ้าเกินนี้เดี๋ยวโดนค่าปรับ

[img](null)[/img]

  พอเดือน มี.ค. 59 วันที่ 15 ได้รับข้อความว่ากรุณาชำระเงินจำนวน 9.999 E+10 เจ้ก็สงสัยว่าคืออะไร ก็โทรไปถามธนาคารว่าหมายความว่าอะไรค่ะ ธนาคารก็บอกว่าคุณไม่ใช่คู่สัญญาเราไม่สามารถให้ข้อมูลได้ค่ะ เราก็เข้าใจ แต่ก็ยังอยากรู้ว่ามันคืออะไรตอบหน่อยได้ไหม ธนาคารปฏิเสธการให้ข้อมูล

  ดิฉันก็เลยบอกว่างั้นรอดีกว่าถ้าต้องชำระเงิน เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ธนาคารก็จะโทรมาแล้วค่อยถามก็ได้ ก็รอๆๆๆ ก็ไม่มีใครโทรมาเลย จึงโทรไปหาเจ้าของรถว่า คุณวันดีได้รับเอกสารจากธนาคารบ้างไหม หนูจะได้รู้ยอดการชำระ คุณวันดีบอกว่าตั้งแต่ที่ดิฉันกับ คุณวันดีไปติดต่อทำเรื่องเปลี่ยนคู่สัญญา (แต่สุดท้ายไม่ได้เปลี่ยนเพราะเรื่องเยอะมากกก)คุณวันดีไม่เคยได้รับเอกสารเรื่องรถอีกเลย จะว่าไปรษณีย์ไม่ส่งก็ไม่ได้เพราะรถมีโดนจับความเร็วอยู่หลายครั้ง คุณวันดีก็โทรมาหาดิฉันให้ไปเสียค่าปรับทุกครั้ง

  [img](null)[/img]

รอๆๆๆธนาคารโทรมาก็ไม่มีใครโทร โทรไปถามคุณวันดี ว่าธนาคารโทรหาไหม  คุณวันดีก็บอกว่าไม่มีใครโทรหาเลย
สุดท้ายดิฉันก็อดรนทนไม่ไหว กลัวมีปัญหาจึงได้ดำเนินการต่างๆเพื่อที่จะโอน โดยเดินทางไปหาคุณวันดีที่ จ.อ่างทอง เพื่อให้คุณวันดีเซ็นเอกสารมอบอำนาจ คุณวันดีก็เซ็นมาทุกอย่าง ดิฉันจึงเดินทางไปที่ธนาคารไทยพานิชย์ (ชิดลม) เพื่อขอปิดบัญชีและขอมัดจำเล่มออกไปโอนเอง ธนาคารแจ้งว่าเงินมัดจำเล่มจะโอนเข้าบัญชี คุณวันดี นะดิฉันก็โอเค ไม่มีปัญหา เพราะคุยกับคุณวันดีได้ไม่มีปัญหา

บทสรุปของเรื่อง :: เจ้าหน้าที่ธนาคารเช็คเอกสารทำเรื่องปิดยอดแล้วแจ้งว่าไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์เพื่อปิดบัญชี เป็นจำนวนเงิน 59,764.42 บาท เงิบสิงานนี้มีตังไปแค่ หมื่นกว่าบาท

[img](null)[/img]

ทำไงล่ะไม่คิดไม่ฝันช็อคไป 3 วิ ตั้งสติเอาข้อความให้เจ้าหน้าที่ดูว่าแล้วถามว่า "ขอโทษนะคะข้อความนี้คืออะไรคะ ทำไมไม่เห็นแจ้งเลยอ่ะค่ะว่ามียอดค้างอยู่ขนาดนี้ " เจ้าหน้าที่ธนาคารดูแล้วก็คีย์ระบบ แล้วก็เงียบไป 3 วิ จึงหันกลับมาตอบว่า "คือค่าปิดบัญชี " ดิฉันก็ยังไม่หายสงสัยจึงถามอีกทำไมเยอะจังถ้ามียอดค้างทำไมไม่แจ้งมาล่ะคะ เจ้าหน้าที่ธนาคารตัดบทว่า "ไปชำระค่ะตามใบนี้ จบแล้วค่อยมาดำเนินการมัดจำเล่ม"

ดิฉันก็เลยลุกออกมาจากเคาน์เตอร์แล้วโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารถามว่าคือค่าอะไรค่ะ ขอรายละเอียดหน่อยได้ไหม ดอกเบี้ยอะไร ค้างส่งจากเจ้าของเดิมหรืออะไร เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า" เอาเบอร์ติดต่อนี้ไปนะ 081-9346××× ชื่อคุณประพันธ์ เป็นคนที่ดูแลบัญชีนี้อยู่
สรุปว่าธนาคารดูเองไหมเนี้ย ก็ไม่ว่าอะไร ดิฉันก็โทรไปถามคุณประพันธ์ว่ามันคือค่าอะไรบ้างค่ะ ได้รับคำตอบว่าเป็นค่าเบี้ยปรับ 16000 กว่าๆ ดิฉันก็อึ้งปรับอะไรว่ะ ไหนธนาคารบอกไม่มี ก็เลยถามอีกว่าแล้วที่เหลือคือค่าอะไร คุณประพันธ์ก็อึ้งไปนิด แล้วตอบว่าค่าที่ยังค้าง ???สรุปค้างอะไรงง ขอรายละเอียดได้ไหม อืม..คำถามที่ถามกลับมาว่าจะปิดบัญชีวันนี้ (7/4/59)เลยไหมครับ ดิฉันยังงงก็เลยบอกว่าคงเป็นพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวอย่างไรเขาจะลดให้ เราก็ดีใจเลยรอเขาโทรกลับมา สรุปเขาลดให้ 3000 แต่ต้องโอนภายในวันนี้นะ (8/4/59) ดิฉันก็อืม..ก็ได้


ด้วยความเป็นคนที่ขี้สงสัยเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อธนาคารนี้ก็ได้รับความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือธนาคารนี้แย่ ส่งเอกสารล่าช้า หรือไม่ส่งเลย ดิฉันก็เลยคิดว่าไม่ได้การแล้ว วันนี้จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง วันนี้คอลเซ็นเตอร์ให้ข้อมูลมา (ไม่ต้องถามนะว่าใช้วิธีไหน ในเมื่อบอกกันดีๆไม่ได้ ) เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าคุณขาดส่งมา 25 วันของเดือน มี.ค.59  อ่าวๆๆๆๆ เฮียแล้วไง คุณต้องเสียดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้า 355.42 บาท +ค่างวด 19803 อืมมมม ทำไมไม่บอกดิฉันมาตั้งแต่แรกว่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยขาดส่งแม้แต่งวดเดียวและไม่ปล่อยให้เกินด้วย
ก็เลยถามว่าเอ้าแล้วอย่างนี้เป็นความผิดคนส่งเหรอที่ต้องเสียค่าปรับ 355.42 แล้วถ้าเราไม่ตามจะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มไปอีกเท่าไหร่ จะต้องค้างส่งอีกเหรอมีค่าติดตามอีกใช่ไหม?? ธนาคารตอบไม่ได้

วันนี้ดิฉันต้องไปจ่ายตัง 20,158.42 เครดีนะที่ไหวตัวทันเก็บเงินไว้ส่วนนึง ไม่งั้นถ้าดิฉันไม่ตามจะเกิดไรขึ้น
สรุปเสียเงินเพิ่ม 355.42 ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาคือเจ้าหน้าที่ธนาคารตั้งเยอะแยะ จะกรุณาสละเวลามาเคลียมาดูยอด ส่งข้อมูลที่ถูกต้อง ชี้แจงรายละเอียด ให้แก่ลูกค้านี่จะรบกวนเวลาของเจ้าหน้าที่
ธนาคารมากใช่ไหม คุณๆทั้งหลายถึงแจ้งดิฉันไม่ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนคุณๆโทรมาได้ทุกเดือนเป็นเวลาหลายปี พอรถจะส่งหมดนี่คุณๆสะดุดเลยเหรอค่ะ เราไม่ใช่คนร่ำรวยต้องคอยเจียดเงินเดือนทุกเดือนกับค่าขายของมาเป็นค่าผ่อนรถ แล้วถ้าเป็นตาสีตาสา ไม่รู้เรื่องอะไรปล่อยไปเลยตามเลย จะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มอีกเท่าไร

เตือนลูกค้าธนาคารไทยพานิชย์นะคะ อย่านิ่งนอนใจถ้าธนาคารเงียบไปอย่าคิดว่าทุกอย่างเรียบร้อย เพราะคุณๆจะเสียดอกเบี้ยรายวันอย่างที่เราเจอ และที่สำคัญธนาคารไม่รับผิดเลยค่ะ
เรื่องราวเป็นแบบนี้ เขาแอบคิดดอกเบี้ยรายวันโดยไม่บอกเรา เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก และคิดว่าองค์กรนี่ทำลายความรู้สึกดีที่มีของฉันมาก ผิดหวังค่ะ


ขอบคุณที่อ่านและรับฟังค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่