สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท ภูมิใจนำเสนอการรีวิวเน้นกินเที่ยวในประเทศเป็นครั้งแรก ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ จขกท เคยได้ไปเยือนภูเก็ตเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีที่แล้ว และเจอประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี เนื่องจากโดนฟันหัวแบะ จขกท เลยฝังใจไม่คิดกลับไปภูเก็ตอีกเลย แต่แล้วอยู่ๆจขกท ก็มีเหตุให้ได้ไปเที่ยวภูเก็ตอีก เพราะนอกจากลาออกจากงาน น้องสาว จขกท ยังไปได้งานที่ภูเก็ต และร่างกายต้องการทะเล เลยถือโอกาสนี้ไปเยือนภูเก็ตอีกครั้งพร้อมกับคุณยาย กระทู้นี้เน้นกินๆเที่ยวๆ แบบ on budget ด้วยนะคะ

เร่ิมจากต้นกุมภา จขกท ได้จองตั๋วโปรจาก air asia ในราคาพันต้นต่อเที่ยว รวมค่าเครื่องบินสองคน ประมาณ 5,000 ต้นๆ จากนั้นเริ่มการจองโรงแรม จาก booking.com จขกท เลือกพักในเมือง เพราะราคาถูกกว่าที่อื่น แถมในเมืองอาหารการกินอร่อยที่สุดเลยค่ะ confirm ไปไหนก็ง่าย และการพักในเมืองจะประหยัดงบกว่าการพักตามชายหาดค่ะ

จขกท ได้ทำการจองที่ Na Siam Guesthouse ในราคา พันต้น เพราะพักสามคน ถือว่าเป็นโรงแรมที่ใหม่ ที่ตั้งถือว่าอยู่ในกลางเมืองเก่า ใกล้ร้านอาหารดังๆ ถนนคนเดิน บรรดาตึกสไตล์ไชนีส โปรตุกีส attractions ต่างๆ เดินเท้าไปได้เลยค่ะ

สิ่งที่ขาดไม่ได้ ขอบอกเลยว่า ครีมกันแดดชั้นเทพ SPF & PA+++ เอาขั้นสูงสุดไปเลย ไอ้ที่ว่าทาทุกสองชั่วโมงอย่าไปเชื่อค่ะ ทามันทุกชั่วโมงเลยเพราะแดดสุดแสนจะแรง

มาเริ่มกันเลยค่ะ อันนี้เป็น itinerary 4 วันของเรา จขกท คราวที่แล้ววนๆอยู่ในภูเก็ตไปตามหาด แต่ไม่ได้ไปเกาะ จขกท เลยจ้องจะไปเกาะเฮ (coral Island) และเกาะรายา (หรือเกาะราชา) เพราะเป็นเกาะกิจกรรม

วันที่ 1 ไปถึงเย็นๆ เดินสำรวจเมือง หาอาหารอร่อยทาน
วันที่ 2 เน้น กิน ถ่ายรูป ในตัวเมืองช่วงเช้า ช่วงบ่ายถึงเย็น เช่ารถแท๊กซี่ไปหาดกะตะ หาดในหาน แหลมพรหมเทพ หาดราไวย์ เดินถนนคนเดินในเย็น   วันอาทิตย์
วันที่ 3 เกาะเฮ เกาะรายา
วันที่ 4 เก็บตกของกินในเมือง

วันแรก

จขกท ไปไฟล์ทบ่ายไปถึงภูเก็ตร่วมๆ 4 โมงเย็นค่ะ

ที่สนามบินภูเก็ต แทบจะไม่มี มินิบัสหรือรถตู้แบบแชร์วิ่งไปในเมืองภูเก็ตเลย เพราะส่วนมากเค้าเน้นชาวต่างชาติที่พักตามหาดชื่อดัง อย่าง กะตะ กะรน ป่าตองมากกว่า คนบอกให้จขกท เรียกแท๊กซี่ซึ่งราคา 650 THB one way เป็น fixed rate จขกท ใจจริงก็แอบคิดนะว่าบริการสาธารณะในภูเก็ตน่าจะทำได้ดีกว่านี้มากกว่า แท๊กซี่มิเตอร์ทุกคัน ไม่มีใครเปิดมิเตอร์เลย อย่างว่าละเมืองท่องเที่ยว ออกจากสนามบินอาคาร 1 เลี้ยวซ้ายไปทางอาคาร 2 จะเป็นที่ขึ้น airport bus ค่ะ แต่ไม่มีรถบัสแล้ว ที่ภูเก็ตใช้รถตู้แทนถ้าใครพลาดรอบนี้ต้องรอต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมง ซึ่งบางทีมันก็ลำบากนะ ทางคนเก็บเงินได้แจ้งว่า ทางสนามบินจะกลับมาใช้รถบัสเหมือนเดิมสิ้นเดือนเมษาค่ะ เส้นทางคือจาก สนามบิน ไปสุดทางที่ ขนส่งเก่า จขกทเลยถามว่าขอลงตรงถนนดีบุก ตรงเมืองเก่าได้ไหม ซึ่งคนขับตอบว่าผ่าน เหมือนฟ้ามาโปรด ค่าโดยสารคิดคนละ 100 บาทค่ะ


เมื่อมาถึง เช็คอินเรียบร้อย แชะภาพสักสองสามรูป รร ค่อนข้างใหม่มาก แต่ไม่มีบริการอาหารเช้า ซึ่งเข้าทางจขกท อยู่แล้วเพราะมีลิสต์รายการร้านอาหารที่จะตามไปชิมกันอยู่แล้ว


อาหารเย็นวันนี้ จขกท เริ่มที่ร้านโชติรสค่ะ ร้านอาหารท้องถิ่น รสชาติดี ราคาสมเหตุสมผล จานใหญ่ ให้เยอะ สรุปคือประทับใจ รสชาติดีราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ ไปกันสามคน จขกท สั่งไป 6 อย่าง บ้าไปแล้ว ทานกันแทบไม่หมด ตอนสั่ง จขกท ไม่ทันมองรีบสั่งแต่จริงๆแล้วดูเมนูไม่เห็นราคานะคะ บางทีควรถามก่อน แต่ตอนจ่ายตังค์ประทับใจมาก ทั้งหมดจ่ายราคา 1,500 บาทสำหรับ สามคนหกจาน


ผัดหมี่แกงปู จขกท สั่งแบบไม่เผ็ด ปูเป็นชิ้นๆก้อนๆ สะใจมาก หมี่ให้เยอะมาก ชามละ 500 ได้


หมูฮ้อง (หมูเคึ่ยวกับเครื่องเทศคล้ายพะโล้ น้ำขลุกขลิก) ทานกับเส้นหมี่ อร่อยขั้นเทพ ใบเหลียงผัดไข่ นี่เราไม่ค่อยโดนนะ เหมือนจะได้ใส่เต้าเจี้ยว เราเลยคิดว่ารสชาติออกแปลกๆนิดนึง


กุ้งราดซอสมะขาม ราคา ประมาณ 480 กุ้งตัวโตมาก ให้เยอะมาก เนื่องจากกุ้งตัวใหญ่เนื้ออาจจะเหนียว


ยังมีเต้าหู้ทอด จิ้มกับน้ำจิ้มแบบภูเก็ต (น้ำส้มสายชู ใส่ใบกุ่ยช่าย) และน้ำจิ้มเปรี้ยวๆเผ็ด ลืมถ่ายรูปมาค่ะ หิวเกิน แต่อยากบอกว่าอร่อยมากเลย และสั่งข้าวผัดกุ้งจานเล็กหนึ่งจาน หนึ่งจานเล็กสำหรับเราคือทานได้สองคน คือมันใหญ่มาก จขกท ให้ 9/10

เบ็ดเสร็จ ราคาอย่างที่บอกไป ไม่แพงอย่างที่คิด รสชาติ คุณภาพเราว่าเกินราคา ใน tripadvisor บอกว่าปิดไปแล้วจริงๆยังไม่ปิดนะคะ

กินอ่ิมมาก ท้องตึงหนังตาหย่อน แน่นอน ก่อนกลับ จขกท ไปเดินดูเมืองเก่าตอนกลางคืน กลางคืนในเมืองเงียบเชียบ แม้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็ดีว่าคนไม่พลุกพล่าน

เมืองเก่าตอนกลางคืน ตรงถนนกระบี่ เปิดแสงไฟ รับกับตึกสไตล์ไชนีส โปรตุกีสอย่างมาก


ตึกของธนาคารกสิกรนี่อย่างหรูให้ตายเถอะ