เจอดีที่สะพานท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

กระทู้คำถาม
กระทู้แรกนะครับ ผิดถูกยังไงต้องขออภัย.

  ปกติผมเที่ยวกลางคืนบ่อยครับ วัยรุ่นส่วนมากก็จะเที่ยวเตร่ในตัว อ. เนื่องจากหัวค่ำจะมีคนพลุ่กพล่าน หลังจากเข้าช่วงดึกทุกอย่างจะเงียบสนิทเลยครับ ซึ่งเหมาะกับการขี่รถมอไซต์แต่งซิ่ง จะเหลือก็แต่ร้านอาหารโต้รุ่งที่มีประมานซัก 7-8 ร้าน  เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
    เนื่องจากบ้านผมอยู่ไกลจากตัวอำเภอไม่มากนัก ใช้เวลาขี่รถประมาน 45 นาที ผมมากับเพื่อนสองคน ขอใช้ชื่อย่อว่า น. แล้วกันครับ วางแผนกันไว้ว่าจะซื้อของที่ 7-11(แถวบ้านผมไม่มี)
ผมกับ น. ก็ขี่รถตามปกติเหมือนทุกๆ วัน แต่วันนั้นเป็นวันพระครับ (วันพระที่ผ่านมา) ซึ่งตอนนั้นเงียบมาก เงียบชนิดที่ว่าไม่มีรถคันอื่นเลย และความซวยก็มาถึงครับ ช่วงนั้นผมกับ น. อยู่เขตหวายเหนียว ต้องข้ามสะพานท่ามะกาไปครับ เวลาตอนนั้นประมาณเที่ยงคืน บรรยากาศมันเย็นแปลกๆ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมก็ขี่รถขึ้นบนสะพานตามปกติครับ พอถึงช่วงกลางสะพาน
ผมเห็นยายแก่ๆ คนหนึ่ง ถือถุงพลาสติกใหญ่ๆ เหมือนคนเก็บขยะขาย นึกออกไหมครับ ผมก็สถาม น. ดูว่าเห็นไหม มันก็บอกว่าเห็นครับ ผมเลยบอกกับ น. ว่าลองจอดถามยายแกดูไหม น. ตอบมาว่า จะจอดทำไมขี่เลยไปเลย ผมก็ทำตามครับ
พอถึง 7-11ก็ซื้อของปกติ จังหวะที่ผมกำลังจ่ายเงิน น. ก็พูดขึ้นว่าๆ เห้ยๆ ยายคนนั้นนี่หว่า
ผมก็หันไปดูครับ แต่ไม่เห็นอะไรเลย น. ก็บอกว่า เมื่อกี้ยังเห็นเดินผ่านหน้าร้านไปเลย ผมก็ไม่เอะใจอะไรครับ หลังจากซื้อเสร็จก็นั่งกินหน้า 7-11 เลย กำลังกินอยู่ดีๆ น. ก็บอกว่า เห้ย ทำไมยายเดินเร็วนักวะ ผมก็คิดเออใ่ช่แหะ จากกลางสะพานถึง 7-11ก็ไกลพอสมควร ยายน่าจะไม่เดินเร็วขนาดนี้ ผมกับ น. ก็เกิดกลัวขึ้นมา จะกลับทางเดิมต้องข้ามสะพานอีกรอบ จะอ้อมก็ไกล ผมเลยตัดสินใจกลับทางเดิม แต่รถดันสตาทไม่ติด ผมกับ น. ก็พยายามจนติด แล้ว น.ก็บอกว่า ว่าใช่ป่าววะ ผมก็ไม่ได้ตอบครับ ก็พากันกลับ พอจะถึงสะพานใจมันเต้นแรงๆ ยังไงไม่รู้
พอขึ้นสะพานมาเห็นยายอยู่ที่เดิมฝั่งเดิมเลยครับ น. ก็สะกิดผมแล้วบอกว่า มองอะไรไปสิ
ผมก็บอกว่า ยายคนนั้นไงไม่เห็นเหรอ น. ตอบว่าไม่เห็นครับ เท่านั้นแหละ คงนึกภาพออกนะครับ
บิดแบบไม่คิดชีวิตเลย มองกระจกหลังเห็นยายเดินแบบถอยหลังมา ขอบอกว่าเดินเร็วมากนะครับ ผมก็รีบบิดขึ้นอีกจนพ้นระยะสะพาน ผมก็หันไปถาม น. ว่าเห็นเหมือนกันไหม น. บอกว่าเห็นครับ แถมมันยังฉี่แตกอีกด้วย มันบอกเกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แล้วก็กลับบ้านทั้งสภาพนั้นเลยครับ กลับบ้านมาเล่าให้พ่อ-แม่ ฟังพ่อบอกว่า รู้ว่าเป็นวันพระแล้วจะออกจากบ้านตอนกลางคืนทำไม หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ออกจากบ้านตอนกลางคืนในวันพระอีก แบบว่าเข็ดนะครับ วันธรรมดาก็ไม่อยากจะออก กลัว.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่