ชื่อกระทู้อาจจะงง
คือผมเนี่ยคิดไว้ตลอดว่าอยากมีเพื่อนดีๆเพื่อนสนิทซักคนก็ยังดี ผมอยากมีเพื่อนสนิท หรือเพื่อนๆดีๆ มากเลยครับ
เวลามีปัญหาอะไรก็มาคุยกันได้ แต่ผมไม่สามารถระบายอะไรได้เลย แม้แต่กับพ่อและแม่ เลยต้องเก็บมาตีกันในหัวคนเดียวตลอด
แต่ที่เข้ามาส่วนใหญ่มาแนวหาผลประโยชน์กันมากกว่า พอหมดประโยชน์ก็ไม่ค่อยคุยกันอะไรอีกเลย
ผมไม่ค่อยกล้าเข้าหาคนอื่นด้วยแหละ เลยเอาแต่รอให้เขาเข้ามา พอไม่มีก็มาจิตตกแบบนี้ อยู่ในห้องเรียนก็ทำได้แค่ เอาหูฟัง
ยัดเข้าหู ฟัง คนเดียวไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
จะจบ ม.หก อยู่แล้ว คิดแล้วเศร้า
ผมเคยคิดว่า เราลองทำตัวแบบอื่นดีไหม คนอื่นจะได้มาคุยกับเราบ้าง มีเพื่อนบ้าง แต่คิดแล้ว มันไม่ใช่
ทำแล้วรู้สึกไม่ดี เท่าไร หรือไม่ก็ไม่ชิน เลยไม่ทำ เป็นตัวเราแบบนี้แหละ เลยไม่ค่อยมีเพื่อนละมั้ง
คิดว่า ตอนประถมอาจจะเป็น ตอนที่สนุกที่สุดแล้ว เพราะไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ได้ หวังอะไรมากมาย
พอโตขึ้น เรารู้จักคนมากมายหลายแบบ ผิดหวังกับเพื่อนมาเยอะ ไล่ตามเขาอยู่ตลอด พอไม่ทันก็โดนทิ้ง
ผมไม่มีความสำคัญให้เพื่อนคนไหนนึกถึงเลย แต่ผมไม่ได้เกเร นิสัย แย่ๆอะไรหรอกนะ ปกติ
อันนี้ผมคิดด้วยตัวเองนะ ว่า การที่ผมเป็นเพศที่สามแต่ไม่ได้แสดงออก แต่ทุกคนก็รู้ว่าเป็น จะคบเพื่อนผู้ชายก็คบไม่สุด
จะคบผู้หญิงก็ ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ในสังคมบ้านนอกอย่างเราอะนะ ไม่ได้อยากโดนล้อ ไม่ได้อยากให้เรียกเราว่า นั่นนี่
ผมว่าคบเพื่อนผู้ชายมันสนุกดี ฟังเขาคุยกันตลกดี เฮฮาน่าคบ แต่เขาไม่คิดเหมือนเรา นั่นสิ ต่างกับผู้หญิงซึ่งคุยกันอะไรไม่รู้
555555
ผมยอมรับสภาพแบบนี้ ว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ไม่ได้ไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ได้โกหกตัวเอง
แต่ลึกๆแล้วอยากได้เพื่อนที่ยอมรับสภาพเราแบบนี้ซะมากกว่า คุยกันปกติ ชวนไปเที่ยวเป็นกลุ่มบ้าง
คิดไปคิดมา เหมือนตัวเองเป็นเหมือน ปลาผิดน้ำ อยู่ผิดที่ อะไรแบบนี้ตลอด
ในหัวสับสบกันไปหมด เลยทำได้แค่หาความสนุกในโลกออนไลน์ แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
บางทีก็อยากโลกสวย ไม่คิดลบกับตัวเอง มองอะไรก็เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ มีดอกเบ่งบาน มีแห้งบ้าง
สงสัยผมจะต้องพบจิตแพทย์.....
เมื่อไม่มีเพื่อนดีๆ ควรจะปรับตัวยังไงให้อยู่กับตัวเองได้
คือผมเนี่ยคิดไว้ตลอดว่าอยากมีเพื่อนดีๆเพื่อนสนิทซักคนก็ยังดี ผมอยากมีเพื่อนสนิท หรือเพื่อนๆดีๆ มากเลยครับ
เวลามีปัญหาอะไรก็มาคุยกันได้ แต่ผมไม่สามารถระบายอะไรได้เลย แม้แต่กับพ่อและแม่ เลยต้องเก็บมาตีกันในหัวคนเดียวตลอด
แต่ที่เข้ามาส่วนใหญ่มาแนวหาผลประโยชน์กันมากกว่า พอหมดประโยชน์ก็ไม่ค่อยคุยกันอะไรอีกเลย
ผมไม่ค่อยกล้าเข้าหาคนอื่นด้วยแหละ เลยเอาแต่รอให้เขาเข้ามา พอไม่มีก็มาจิตตกแบบนี้ อยู่ในห้องเรียนก็ทำได้แค่ เอาหูฟัง
ยัดเข้าหู ฟัง คนเดียวไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
จะจบ ม.หก อยู่แล้ว คิดแล้วเศร้า
ผมเคยคิดว่า เราลองทำตัวแบบอื่นดีไหม คนอื่นจะได้มาคุยกับเราบ้าง มีเพื่อนบ้าง แต่คิดแล้ว มันไม่ใช่
ทำแล้วรู้สึกไม่ดี เท่าไร หรือไม่ก็ไม่ชิน เลยไม่ทำ เป็นตัวเราแบบนี้แหละ เลยไม่ค่อยมีเพื่อนละมั้ง
คิดว่า ตอนประถมอาจจะเป็น ตอนที่สนุกที่สุดแล้ว เพราะไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ได้ หวังอะไรมากมาย
พอโตขึ้น เรารู้จักคนมากมายหลายแบบ ผิดหวังกับเพื่อนมาเยอะ ไล่ตามเขาอยู่ตลอด พอไม่ทันก็โดนทิ้ง
ผมไม่มีความสำคัญให้เพื่อนคนไหนนึกถึงเลย แต่ผมไม่ได้เกเร นิสัย แย่ๆอะไรหรอกนะ ปกติ
อันนี้ผมคิดด้วยตัวเองนะ ว่า การที่ผมเป็นเพศที่สามแต่ไม่ได้แสดงออก แต่ทุกคนก็รู้ว่าเป็น จะคบเพื่อนผู้ชายก็คบไม่สุด
จะคบผู้หญิงก็ ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ในสังคมบ้านนอกอย่างเราอะนะ ไม่ได้อยากโดนล้อ ไม่ได้อยากให้เรียกเราว่า นั่นนี่
ผมว่าคบเพื่อนผู้ชายมันสนุกดี ฟังเขาคุยกันตลกดี เฮฮาน่าคบ แต่เขาไม่คิดเหมือนเรา นั่นสิ ต่างกับผู้หญิงซึ่งคุยกันอะไรไม่รู้
555555
ผมยอมรับสภาพแบบนี้ ว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ไม่ได้ไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ได้โกหกตัวเอง
แต่ลึกๆแล้วอยากได้เพื่อนที่ยอมรับสภาพเราแบบนี้ซะมากกว่า คุยกันปกติ ชวนไปเที่ยวเป็นกลุ่มบ้าง
คิดไปคิดมา เหมือนตัวเองเป็นเหมือน ปลาผิดน้ำ อยู่ผิดที่ อะไรแบบนี้ตลอด
ในหัวสับสบกันไปหมด เลยทำได้แค่หาความสนุกในโลกออนไลน์ แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
บางทีก็อยากโลกสวย ไม่คิดลบกับตัวเอง มองอะไรก็เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ มีดอกเบ่งบาน มีแห้งบ้าง
สงสัยผมจะต้องพบจิตแพทย์.....