ผมไม่ได้เชื่อว่าชาติหน้า นรก หรือสวรรค์มีจริงนะครับ
ไม่ใช่เพราะผมอยากขัดแย้งกับศาสนา แต่เพราะผมยังไม่เห็นเหตุผลหรือหลักฐานที่ชัดเจนพอ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย
และเพราะเรากลัวความว่างเปล่าหลังความตาย เราจึงสร้าง “เรื่องเล่า” ขึ้นมาปลอบใจตัวเอง
ว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เกิดใหม่
หรือไม่ก็ได้ไปอยู่ในสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความสุข
ส่วนคนทำผิดจะตกนรก เพื่อให้เรารู้สึกว่าความยุติธรรมยังมีอยู่
แต่มันก็มีคำถามหนึ่งที่ผมคิดเสมอ...
ถ้าชาติหน้ามีจริงจริง แล้วเราจำอะไรไม่ได้เลย —
มันจะมีประโยชน์ตรงไหน?
มันเหมือนเราเริ่มใหม่หมด โดยไม่มีความทรงจำ ไม่มีตัวตนเดิม แล้วแบบนั้น “เราคือคนเดิมจริงหรือ?”
และถ้ามีสวรรค์หรือนรกจริง มันสมเหตุสมผลไหมที่ “การกระทำเพียงไม่กี่สิบปี” จะตัดสินชะตานิรันดร์ของเราไปตลอดกาล?
มนุษย์มีข้อจำกัด มีอารมณ์ มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง แล้วทำไมผลสุดท้ายถึงต้องสุดโต่งขนาดนั้น —
ขึ้นสวรรค์ตลอดกาล หรือตกนรกชั่วนิรันดร์
ผมมองว่า “นรกและสวรรค์” อาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจริง ๆ
แต่มันคือ “ภาพจำลองทางจิตใจ”
นรกคือความทุกข์ที่เราสร้างให้ตัวเองตอนยังมีชีวิต
สวรรค์คือความสงบที่เกิดขึ้นเมื่อใจเราดีและเข้าใจโลก
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้ โดยไม่ต้องตายไปไหนเลย
ขนาดสัตว์โลกบางชนิดอย่างหมา มันไม่รู้จักคำว่าชาติหน้า มันไม่รู้ว่ามีนรกหรือสวรรค์
แต่มันก็ยังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีความสุขในปัจจุบัน
ในขณะที่มนุษย์กลับทุกข์เพราะมัวแต่กลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และอาจไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้บอกว่าศาสนาไม่ดีนะครับ —
ตรงกันข้าม ผมกลับเห็นว่าศาสนาทุกศาสนามีความงดงามในตัวมันเอง
เพียงแต่ผมไม่อยากเชื่อเพราะกลัว ไม่อยากทำดีเพราะอยากได้รางวัล
ผมอยากทำดีเพราะเข้าใจว่า “ชีวิตนี้สั้น และมันมีค่าเกินกว่าจะใช้ไปกับความกลัว”
บางทีสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด อาจไม่ใช่สวรรค์บนฟ้า
แต่คือ “ช่วงเวลาที่เรายังหายใจ และยังมีโอกาสรัก เรียนรู้ และให้อภัย”
ชีวิตนี้แหละ คือสิ่งจริงที่สุดแล้ว
ถ้าชาติหน้า นรก และสวรรค์มีจริง แล้วมันมีประโยชน์อะไร…ถ้าเราจำไม่ได้เลย?
ไม่ใช่เพราะผมอยากขัดแย้งกับศาสนา แต่เพราะผมยังไม่เห็นเหตุผลหรือหลักฐานที่ชัดเจนพอ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย
และเพราะเรากลัวความว่างเปล่าหลังความตาย เราจึงสร้าง “เรื่องเล่า” ขึ้นมาปลอบใจตัวเอง
ว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เกิดใหม่
หรือไม่ก็ได้ไปอยู่ในสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความสุข
ส่วนคนทำผิดจะตกนรก เพื่อให้เรารู้สึกว่าความยุติธรรมยังมีอยู่
แต่มันก็มีคำถามหนึ่งที่ผมคิดเสมอ...
ถ้าชาติหน้ามีจริงจริง แล้วเราจำอะไรไม่ได้เลย —
มันจะมีประโยชน์ตรงไหน?
มันเหมือนเราเริ่มใหม่หมด โดยไม่มีความทรงจำ ไม่มีตัวตนเดิม แล้วแบบนั้น “เราคือคนเดิมจริงหรือ?”
และถ้ามีสวรรค์หรือนรกจริง มันสมเหตุสมผลไหมที่ “การกระทำเพียงไม่กี่สิบปี” จะตัดสินชะตานิรันดร์ของเราไปตลอดกาล?
มนุษย์มีข้อจำกัด มีอารมณ์ มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง แล้วทำไมผลสุดท้ายถึงต้องสุดโต่งขนาดนั้น —
ขึ้นสวรรค์ตลอดกาล หรือตกนรกชั่วนิรันดร์
ผมมองว่า “นรกและสวรรค์” อาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจริง ๆ
แต่มันคือ “ภาพจำลองทางจิตใจ”
นรกคือความทุกข์ที่เราสร้างให้ตัวเองตอนยังมีชีวิต
สวรรค์คือความสงบที่เกิดขึ้นเมื่อใจเราดีและเข้าใจโลก
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้ โดยไม่ต้องตายไปไหนเลย
ขนาดสัตว์โลกบางชนิดอย่างหมา มันไม่รู้จักคำว่าชาติหน้า มันไม่รู้ว่ามีนรกหรือสวรรค์
แต่มันก็ยังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีความสุขในปัจจุบัน
ในขณะที่มนุษย์กลับทุกข์เพราะมัวแต่กลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และอาจไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้บอกว่าศาสนาไม่ดีนะครับ —
ตรงกันข้าม ผมกลับเห็นว่าศาสนาทุกศาสนามีความงดงามในตัวมันเอง
เพียงแต่ผมไม่อยากเชื่อเพราะกลัว ไม่อยากทำดีเพราะอยากได้รางวัล
ผมอยากทำดีเพราะเข้าใจว่า “ชีวิตนี้สั้น และมันมีค่าเกินกว่าจะใช้ไปกับความกลัว”
บางทีสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด อาจไม่ใช่สวรรค์บนฟ้า
แต่คือ “ช่วงเวลาที่เรายังหายใจ และยังมีโอกาสรัก เรียนรู้ และให้อภัย”
ชีวิตนี้แหละ คือสิ่งจริงที่สุดแล้ว