ไปเจอมา เห็นว่าน่าสนใจ เอามาเล่าให้ฟังครับ

ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว
ผูกอย่างไรก็มีปม
เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น
มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า
แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่
ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า
พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย
GSM
เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า
ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย
GSM ใช้
ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า
จะยี่ห้ออะไรก็ปิดนั่นได้มิดเหมือนกัน
เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย
ถ้าเกิดไฟไหม้
กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก
อะไรจะมากกว่ากัน แต่
ผมว่าขนมครก อร่อย และถูกกว่าเป็นไหน ๆ
เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก
อะไรจะมากกว่ากัน แต่
เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อย
แต่พิซซ่าฮัท
ทุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน
ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้
และมันมักจะหายไป
ทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า
ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้
และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ
ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัดกับระบบ
บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน
เพราะงานทำให้เธอมีระบบ
ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต
ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆ ด้วยเหตุผลว่า
ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ
มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า
ถ้าไม่มีพวกเขา
ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า
หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง
แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร
ทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร
คลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง
ผมบอกว่าถ้าไม่มี "ความว่าง" แล้ว "ความมี" ก็ไร้ความหมาย
เพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง
เธอบอกว่าถ้าไม่มี "ความมี" แล้ว ความว่าง" จะมีประโยชน์อะไร
มันคงไร้ความหมายเพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบคนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 100-0 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 0-100
ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่
ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0
เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100
แต่เป็นจาก 100-200
หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา
ผมมองคนที่ความคิด
เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย
ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ
จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ
....
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน
แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอชอบกินไข่แดง
แต่ผมชอบกินไข่ขาว เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้
รักบนเส้นขนาน ...เอามาเล่าสู่กันฟัง
ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว
ผูกอย่างไรก็มีปม
เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น
มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า
แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่
ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า
พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย
GSM
เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า
ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย
GSM ใช้
ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า
จะยี่ห้ออะไรก็ปิดนั่นได้มิดเหมือนกัน
เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย
ถ้าเกิดไฟไหม้
กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก
อะไรจะมากกว่ากัน แต่
ผมว่าขนมครก อร่อย และถูกกว่าเป็นไหน ๆ
เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก
อะไรจะมากกว่ากัน แต่
เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อย
แต่พิซซ่าฮัท
ทุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน
ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้
และมันมักจะหายไป
ทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า
ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้
และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ
ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัดกับระบบ
บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน
เพราะงานทำให้เธอมีระบบ
ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต
ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆ ด้วยเหตุผลว่า
ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ
มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า
ถ้าไม่มีพวกเขา
ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า
หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง
แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร
ทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร
คลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง
ผมบอกว่าถ้าไม่มี "ความว่าง" แล้ว "ความมี" ก็ไร้ความหมาย
เพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง
เธอบอกว่าถ้าไม่มี "ความมี" แล้ว ความว่าง" จะมีประโยชน์อะไร
มันคงไร้ความหมายเพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบคนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 100-0 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 0-100
ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่
ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0
เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100
แต่เป็นจาก 100-200
หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา
ผมมองคนที่ความคิด
เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย
ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ
จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ
....
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน
แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอชอบกินไข่แดง
แต่ผมชอบกินไข่ขาว เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้