คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
1.เบิกค่ารักษาพยาบาล ได้หมดฟรีทั้งรัฐ เอกชน ครอบคลุม ตนเอง พ่อ แม่ ลูก เมีย
- เราว่าอันนี้ดีค่ะ เห็นด้วยนะ
2.ออกค่าหอพักให้ ใครมีบ้านอยู่แล้วก็รับเป็นเงินไป ประมาณ 4000 บาท
- บริษัทที่น้องเราอยู่มีสวัสดิการนี้ค่ะ เเต่ไม่เเน่ใจว่าเท่าไหร่ เราว่าอันนี้ไม่เเปลก พวกผู้บริหารบริษัทข้ามชาติก็มีสวัสดิการนี้
ชอบค่ะ เราว่าควรมีให้พนักงานด้วย
3.มีรถรับส่งทั่วพื้นที่ใกล้เคียง
- เราว่าอันนี้ไม่ต้องก็ได้ เเต่พวก กฟผ หรือ ปตท ก็มีนะ มีรถรับส่ง
4. กับ 5. กับ 6.
เข้างาน หยืดหยุ่นได้ แต่ ต้องทำงานครบ 8 ชม.ตามระเบียบ
ทุกวันจันทร์ และ ศุกร์ ทำงาน แค่ 6 ชม.
หยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่ถ้ามาทำ โอที คูณ 4 ถ้าเป็นวันธรรมดา OT จะคูณ 2.5
- สำหรับเรานะ เราว่าไม่จำเป็นด้วยซ้ำค่ะ ขอให้งานเสร็จตามกำหนดเป็นพอ จะหยุดวันไหน จะทำวันไหน ไปบริหารจัดการเอาเอง
7.บริษัทรับผิดชอบ ค่าโทสับ ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน
- เราว่าดีค่ะ โทรศัพท์ติดต่อผู้ให้บริการในนามหน่วยงาน จะได้สิทธิพิเศษ
ส่วนค่าเดินทางเเละค่าน้ำมัน มีให้ก็ดีค่ะ ยกเว้นว่าจะทำงานที่ไหนก็ได้
8.มีเงินค่าตำแหน่ง และ ค่าอายุงาน
- เห็นด้วย เเต่ควรเพิ่มเยอะนิดนึง เป็นปีละหมื่นจะล่อใจมากๆ
9.มีฟิตเนส สนามกีฬา ห้องผ่อนคลาย ห้องนวด ห้องนอนหลับ (แบบ google)
- ตอนนี้สตาร์ทอัพเเละหลายๆ องค์กร เริ่มมีเเล้วนะคะ
10.ค่าอาหาร ไม่ต้องก็ได้ม้างงง
11. กับ 12. โบนัสกับปรับเงินเดือน ควรมีทุกปีค่ะ ดูตามสภาพเศรษฐกิจนะ
13.วันลาไม่ต้องยุ่งเลย หากให้พนักงานบริหารจัดการเวลากันเอง
14.กองทุนเลี้ยงชีพ 20% ปกติเท่าไหร่เหรอคะ เราไม่รู้เลย
15.รางวัลไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ แม้ไม่ได้ทำเป็นรูปเป็นร่าง แต่แค่กล้าคิดเราก็กล้าให้ (ตามความสามารถ)
- ควรต้องจับต้องได้ เเละทดลองให้ทำด้วยจะดีมาก
16.ลูกน้องประเมินหัวหน้าได้ (ผลคะแนนเป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นเงินเดือน หัวหน้า)
- ที่ทำงานเก่าเรามีนะคะ
17.มีค่าใบ certificate ค่าภาษา ค่าความสามารถ ขอให้มีหลักฐานมาแสดง
- น่าจะต้องดูว่าตำเเหน่งเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เราขอเพิ่มอีกนิดนึง ดูหนังมาหลายเรื่อง จะมีสวัสดิการสำหรับพนักงานที่มีลูกๆ
คือมีสถานเลี้ยงเด็กไว้ในที่ทำงานเลย เพื่อให้พ่อแม่ทำงานได้เต็มที่ เพราะคนทำงานไม่ได้มีเเต่คนโสดนะ
อีกเรื่องคือการเบิกค่าเล่าเรียน เราอยากให้มีในเอกชนก็ดีค่ะ มันจะดึงคนมีฝีมือให้อยู่กับองค์กรนานขึ้นด้วย เพราะค่าเรียนลูกเบิกได้
ส่วนเรื่องเวลางาน อย่างที่บอกไปคืออย่าไปฟิกซ์มาก งานเสร็จ งานโอเค ก็น่าจะพอ
เพราะเอาจริงๆ การนั่งนานๆ อย่างที่หัวหน้างานเเละเจ้าของกิจการชอบให้ลูกน้องทำ
เดี๋ยวนี้ส่งงานก็ส่งผ่านเมล ประชุมก็สไกป์ได้ มันไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะทำไหม
มันเป็นตัวบ่อนทำลายสุขภาพระดับชาติ เเละจริงๆ เเล้วยิ่งพนักงานสุขภาพดี ยิ่งทำงานได้เต็มที่
ไม่งั้นก็จะเป็นออฟฟิศซินโดรมกัน เป็น NICDs กัน ซึ่งมันไม่ควรเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่หรือ
ปล.ถ้าเราเปิดบริษัท เราจะขอเอาทั้งหมดนี้ไปเป็นสวัสดิการนะคะ
- เราว่าอันนี้ดีค่ะ เห็นด้วยนะ
2.ออกค่าหอพักให้ ใครมีบ้านอยู่แล้วก็รับเป็นเงินไป ประมาณ 4000 บาท
- บริษัทที่น้องเราอยู่มีสวัสดิการนี้ค่ะ เเต่ไม่เเน่ใจว่าเท่าไหร่ เราว่าอันนี้ไม่เเปลก พวกผู้บริหารบริษัทข้ามชาติก็มีสวัสดิการนี้
ชอบค่ะ เราว่าควรมีให้พนักงานด้วย
3.มีรถรับส่งทั่วพื้นที่ใกล้เคียง
- เราว่าอันนี้ไม่ต้องก็ได้ เเต่พวก กฟผ หรือ ปตท ก็มีนะ มีรถรับส่ง
4. กับ 5. กับ 6.
เข้างาน หยืดหยุ่นได้ แต่ ต้องทำงานครบ 8 ชม.ตามระเบียบ
ทุกวันจันทร์ และ ศุกร์ ทำงาน แค่ 6 ชม.
หยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่ถ้ามาทำ โอที คูณ 4 ถ้าเป็นวันธรรมดา OT จะคูณ 2.5
- สำหรับเรานะ เราว่าไม่จำเป็นด้วยซ้ำค่ะ ขอให้งานเสร็จตามกำหนดเป็นพอ จะหยุดวันไหน จะทำวันไหน ไปบริหารจัดการเอาเอง
7.บริษัทรับผิดชอบ ค่าโทสับ ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน
- เราว่าดีค่ะ โทรศัพท์ติดต่อผู้ให้บริการในนามหน่วยงาน จะได้สิทธิพิเศษ
ส่วนค่าเดินทางเเละค่าน้ำมัน มีให้ก็ดีค่ะ ยกเว้นว่าจะทำงานที่ไหนก็ได้
8.มีเงินค่าตำแหน่ง และ ค่าอายุงาน
- เห็นด้วย เเต่ควรเพิ่มเยอะนิดนึง เป็นปีละหมื่นจะล่อใจมากๆ
9.มีฟิตเนส สนามกีฬา ห้องผ่อนคลาย ห้องนวด ห้องนอนหลับ (แบบ google)
- ตอนนี้สตาร์ทอัพเเละหลายๆ องค์กร เริ่มมีเเล้วนะคะ
10.ค่าอาหาร ไม่ต้องก็ได้ม้างงง
11. กับ 12. โบนัสกับปรับเงินเดือน ควรมีทุกปีค่ะ ดูตามสภาพเศรษฐกิจนะ
13.วันลาไม่ต้องยุ่งเลย หากให้พนักงานบริหารจัดการเวลากันเอง
14.กองทุนเลี้ยงชีพ 20% ปกติเท่าไหร่เหรอคะ เราไม่รู้เลย
15.รางวัลไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ แม้ไม่ได้ทำเป็นรูปเป็นร่าง แต่แค่กล้าคิดเราก็กล้าให้ (ตามความสามารถ)
- ควรต้องจับต้องได้ เเละทดลองให้ทำด้วยจะดีมาก
16.ลูกน้องประเมินหัวหน้าได้ (ผลคะแนนเป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นเงินเดือน หัวหน้า)
- ที่ทำงานเก่าเรามีนะคะ
17.มีค่าใบ certificate ค่าภาษา ค่าความสามารถ ขอให้มีหลักฐานมาแสดง
- น่าจะต้องดูว่าตำเเหน่งเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เราขอเพิ่มอีกนิดนึง ดูหนังมาหลายเรื่อง จะมีสวัสดิการสำหรับพนักงานที่มีลูกๆ
คือมีสถานเลี้ยงเด็กไว้ในที่ทำงานเลย เพื่อให้พ่อแม่ทำงานได้เต็มที่ เพราะคนทำงานไม่ได้มีเเต่คนโสดนะ
อีกเรื่องคือการเบิกค่าเล่าเรียน เราอยากให้มีในเอกชนก็ดีค่ะ มันจะดึงคนมีฝีมือให้อยู่กับองค์กรนานขึ้นด้วย เพราะค่าเรียนลูกเบิกได้
ส่วนเรื่องเวลางาน อย่างที่บอกไปคืออย่าไปฟิกซ์มาก งานเสร็จ งานโอเค ก็น่าจะพอ
เพราะเอาจริงๆ การนั่งนานๆ อย่างที่หัวหน้างานเเละเจ้าของกิจการชอบให้ลูกน้องทำ
เดี๋ยวนี้ส่งงานก็ส่งผ่านเมล ประชุมก็สไกป์ได้ มันไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะทำไหม
มันเป็นตัวบ่อนทำลายสุขภาพระดับชาติ เเละจริงๆ เเล้วยิ่งพนักงานสุขภาพดี ยิ่งทำงานได้เต็มที่
ไม่งั้นก็จะเป็นออฟฟิศซินโดรมกัน เป็น NICDs กัน ซึ่งมันไม่ควรเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่หรือ
ปล.ถ้าเราเปิดบริษัท เราจะขอเอาทั้งหมดนี้ไปเป็นสวัสดิการนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าวันหนึ่ง คุณมีอำนาจในการกำหนดสวัสดิการความเป็นอยู่ของพนักงานในบริษัท คุณจะให้อะไร.......
ในการ ออกแบบสวัสดิการ ที่อยากให้พนักงานของคุณอยู่กับคุณนานๆและมีความสุขที่สุด
ในหัวข้อ "ถ้าคุณมีอำนาจในการกำหนดสวัสดิการความเป็นอยู่ของพนักงานในบริษัท คุณจะให้อะไรพวกเค้าเหล่านั้นบ้าง"
เงื่อนไข
1.ตั้งอยู่บนโลกแห่งความจริง (ไม่เว่อร์เกินไป)
2.ถ้ามีเหตุผลด้วยยิ่งดี (บอกเหตุผลว่าทำไมต้องมี สวัสดิการแบบนี้)
3.อะไรคือคอนเซปของคุณ (แรงผลักดันให้คุณคิดแบบนี้ คืออะไร)
ถ้าเป็นผม
1.เบิกค่ารักษาพยาบาล ได้หมด ฟรีทั้งรัฐ เอกชน ครอบคลุม ตนเอง พ่อ แม่ ลูก เมีย และ พิเศษกว่านั้น คือ สามารถเพิ่มใครก็ได้ได้อีก 1 คน แล้วแต่ว่าจะให้ใคร
2.ออกค่าหอพักให้ ใครมีบ้านอยู่แล้วก็รับเป็นเงินไป ประมาณ 4000 บาท
3.มีรถรับส่งทั่วพื้นที่ใกล้เคียง
4.เข้างาน หยืดหยุ่นได้ แต่ ต้องทำงานครบ 8 ชม.ตามระเบียบ (เช่น ถ้าเราเมาจากปาร์ตี้ แล้วตื่นไปทำงานตอน 11 โมงเช้า เราก็จะไปเลิกงานอีกทีประมาณ 1 ทุ่ม) หรือ สามารถยืดหยุ่นไปเลย จะเข้าตอนไหนก็ได้ (แบบ google) ใช้ได้บางตำแหน่ง
5.ทุกวันจันทร์ และ ศุกร์ ทำงาน แค่ 6 ชม.
6.หยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่ถ้ามาทำ โอที คูณ 4 ถ้าเป็นวันธรรมดา OT จะคูณ 2.5
7.บริษัทรับผิดชอบ ค่าโทสับ ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน
8.มีเงินค่าตำแหน่ง และ ค่าอายุงาน (ในเรื่องของอายุงาน คือคุณทำงานมานานเท่าไร ก็บวกไป ปีละ พันบาท เช่น ทำงานมา 5 ปี ก็ได้เงินเพิ่ม 5000 ต่างหาก)
9.มีฟิตเนส สนามกีฬา ห้องผ่อนคลาย ห้องนวด ห้องนอนหลับ (แบบ google)
10.อาหารก็เลือกเอาว่าจะซื้อกินเอง หรือ ให้บริษัทจัดการให้ ถ้ากินเองก็จะสบทบเงินค่าอาหารให้วันละ 200 บาท แต่ถ้าให้บริษัทจัดอาหารให้ ก็จะได้บัตรติ๊ดสำหรับเข้าห้องอาหารเฉพาะ ในโซนที่จัดไว้ให้
11.โบนัส ขั้นต่ำ 2 เดือน แล้วแต่ ผลประกอบการ (ขอแค่ไม่กั๊กพนักงาน)
12.ปรับเงินเดือน ปีละ 3 ครั้ง ครั้งแรก มกราคม (1-5%) ครั้งสอง พฤษภาคม (1-7%) ครั้งสาม ธันวาคม (1-10%)
13.วันลา ป่วย ตามจริง ลากิจ 20 ลาพักผ่อนประจำปี 20 ถ้าใครไม่เคยใช้วันลาเลย ก็ทบไปเต็มที่ 60 วัน หรือ จะแลกเป็นเงินก็ได้
14.เปลี่ยนกองทุนเลี้ยงชีพ เป็น ซื้อหุ้นบริษัทในราคาต่ำไป 20-50 % ของเงินเดือน เอาเงินคืนได้เฉพาะตอนลาออก กับ เกษียรอายุ (พนง.จะรู้สึกว่า มีส่วนร่วมกับบริษัท เพียงเท่านี้เงินบริษัทก็มีเงินทุนมาหมุนเวียนได้ต่อ)
15.รางวัลไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ แม้ไม่ได้ทำเป็นรูปเป็นร่าง แต่แค่กล้าคิดเราก็กล้าให้ (ตามความสามารถ)
16.ลูกน้องประเมินหัวหน้าได้ (ผลคะแนนเป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นเงินเดือน หัวหน้า)
17.มีค่าใบ certificate ค่าภาษา ค่าความสามารถ ขอให้มีหลักฐานมาแสดง
18.มีสวัสดิการ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สำหรับคนที่โสด เหงา ก็เอาสัตว์มาเลี้ยงเป็นเพื่อนได้ เบิกค่ารักษาพยาบาลสัตว์ ได้ไม่เกินวงเงิน 50000 บาทต่อปี
19.มีสวัสดิการสำหรับคนมีลูก เช่น บริษัทจัดสถานที่เลี้ยงเด็ก สนามเด็กเล่นได้
20.สวัสดิการเสริมสร้างบุคลิกภาพ เน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้คนเชื่อถือ วงเงินไม่เกิน 50000 ต่อปี (เอาไปศัลยกรรม เสริมโหวงเฮ้ง ก็ว่ากันไป)
21.เงินเดือน เริ่มต้นที่
ป.เอก 26,000
ป.โท 21,000
ป.ตรี 18,000 บาท
ปวส.15,000
ม.6/ปวช. 12,000
แค่นี้ ก็แจ่มละ
คอนเซปของผมคือ "การลงทุนกับคนและแรงจูงใจ คือกำไรที่เราต้องการ"
แล้วคุณละ จะออกแบบอย่างไร
ปล. ความคิดของทุกท่าน ไม่มีผิด ถูก ไม่ว่าร้ายกัน ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้เต็มที่ ร่วมคิดร่วมแชร์ เผลอๆๆ ทางบริษัทเข้ามาอ่านแล้วเอาไปเป็นต้นแบบบริษัทตนเองก็ได้ ใครจะไปรู้