http://pantip.com/topic/34723240 สมาชิกหมายเลข 2923379
2 หลวงพี่บอกว่าความทุกข์จะเกิดต่อเมื่อสอ่งกระทบภายนอกอย่างรุนแรง ทำไมขัดแย้งกัน
-----------------------------------
เมื่อมีสิ่งภายนอกมาที่รุนแรงมากระทบ แล้วจิตเกิดความพอใจ-ไม่พอใจ (เกิดกิเลส) กับมัน ความทุกข์จึงจะเกิดขึ้น (ขออภัยที่ไม่ได้อธิบายให้ละเอียด คิดว่าคนที่เคยศึกษามาแล้วเข้าใจ)
************************************************
1 ตกลงนิพพาน หลวงพี่มีระดับความเย็นต่างกันหรือไม่ ถ้าระดับต่างกัน แปลได้ว่าหลวงพี่บอกว่านิพพานมีความร้อนต่างกัน แปลว่านิพพานร้อนได้ใช่ไหม เพราะเย็นคือร้อนน้อย ร้อนคือเย็นน้อย
-----------------------------------
ความจริงก็คือ ความเย็น (นิพพาน) ไม่มี มีแต่ความร้อน (ความทุกข์) แต่เมื่อความร้อนลดลง แล้วจิตของเราทนได้สบาย เราก็สมมติเรียกว่า เย็น แต่พอ
แต่จะเย็นมากหรือเย็นน้อย มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ความร้อนลดลงมากหรือน้อย (ลักษณะความเย็นของจิตก็เหมือนความเย็นของวัตถุ)
การศึกษาธรรมะ ไม่ใช่ไปติดที่ตัวหนังสือ แต่ให้ดูที่จิตของเราเองว่า เมื่อกิเลสเกิดขึ้น จิตมันทุกข์อย่างไร? เมื่อจิตไม่มีกิเลส แต่มีนิวรณ์ แล้วจิตมันมีทุกข์น้อยลงอย่างไร? และเมื่อจิตไม่มีกิเลสและนิวรณ์ จิตมันไม่มีทุกข์อย่างไร?
สรุปได้ว่า นิพพาน ไม่ได้มีอยู่จริง เป็นแค่การสมมติเรียกสภาวะจิตขณะที่ความทุกข์มันลดน้อยลงเท่านั้น คือลดมาก ลดน้อย ลดชั่วคราว หรือลดถาวร แต่ถ้าไปยึดถือว่ามันมีนิพพานจริงๆ มันก็เลยทำให้งงว่ามันเย็นแค่ไหน? หรือนิพพานยังมีความร้อนอยู่หรือเปล่า? เป็นต้น
นิพพาน (ความเย็น) ไม่ได้มีอยู่จริง
2 หลวงพี่บอกว่าความทุกข์จะเกิดต่อเมื่อสอ่งกระทบภายนอกอย่างรุนแรง ทำไมขัดแย้งกัน
-----------------------------------
เมื่อมีสิ่งภายนอกมาที่รุนแรงมากระทบ แล้วจิตเกิดความพอใจ-ไม่พอใจ (เกิดกิเลส) กับมัน ความทุกข์จึงจะเกิดขึ้น (ขออภัยที่ไม่ได้อธิบายให้ละเอียด คิดว่าคนที่เคยศึกษามาแล้วเข้าใจ)
************************************************
1 ตกลงนิพพาน หลวงพี่มีระดับความเย็นต่างกันหรือไม่ ถ้าระดับต่างกัน แปลได้ว่าหลวงพี่บอกว่านิพพานมีความร้อนต่างกัน แปลว่านิพพานร้อนได้ใช่ไหม เพราะเย็นคือร้อนน้อย ร้อนคือเย็นน้อย
-----------------------------------
ความจริงก็คือ ความเย็น (นิพพาน) ไม่มี มีแต่ความร้อน (ความทุกข์) แต่เมื่อความร้อนลดลง แล้วจิตของเราทนได้สบาย เราก็สมมติเรียกว่า เย็น แต่พอ
แต่จะเย็นมากหรือเย็นน้อย มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ความร้อนลดลงมากหรือน้อย (ลักษณะความเย็นของจิตก็เหมือนความเย็นของวัตถุ)
การศึกษาธรรมะ ไม่ใช่ไปติดที่ตัวหนังสือ แต่ให้ดูที่จิตของเราเองว่า เมื่อกิเลสเกิดขึ้น จิตมันทุกข์อย่างไร? เมื่อจิตไม่มีกิเลส แต่มีนิวรณ์ แล้วจิตมันมีทุกข์น้อยลงอย่างไร? และเมื่อจิตไม่มีกิเลสและนิวรณ์ จิตมันไม่มีทุกข์อย่างไร?
สรุปได้ว่า นิพพาน ไม่ได้มีอยู่จริง เป็นแค่การสมมติเรียกสภาวะจิตขณะที่ความทุกข์มันลดน้อยลงเท่านั้น คือลดมาก ลดน้อย ลดชั่วคราว หรือลดถาวร แต่ถ้าไปยึดถือว่ามันมีนิพพานจริงๆ มันก็เลยทำให้งงว่ามันเย็นแค่ไหน? หรือนิพพานยังมีความร้อนอยู่หรือเปล่า? เป็นต้น