เช้าวันรุ่งขึ้น จัสมินไปเข้าเวรตามปกติ วันนี้เธอได้รับมอบหมายให้ช่วยงานนายแพทย์ท่านหนึ่งดูแลคนไข้ชายตอนบ่าย เพราะจะมีการตรวจพิเศษ
"จัสมิน วันนี้โชคดีของเธอนะ ไม่ค่อยมีใครได้ช่วยหมอท่านนี้ รู้ไหม เพราะท่านน่ะ เรื่องมาก ขี้บ่น แถมจะเอาอะไรก็ต้องได้ ฉันเลยยกหน้าที่นี้ให้เธอนะ
หมอท่านนี้ชื่อดอกเตอร์ สุไลมาน วันนี้ท่านจะเข้ามาทำการตรวจอะไรสักอย่าง มากับตำรวจ เธอจำได้ไหม เคสที่ฆ่าคนตายอ่ะ ฆาตกรต่อเนื่องที่ชื่อกริชณะน่ะ" หัวหน้าพยาบาลบรีฟงานให้เธอในตอนเช้าก่อนเริ่มงาน
"ค่ะ จำได้ เหมือนพระเจ้าดลใจนะคะ หนูอยากดูแลเคสนี้อยู่พอดี หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะพี่" จัสมินตอบหัวหน้างานอย่างดีใจและกระตือรือร้น
ประมาณเก้าโมงเช้า จ่าฟัสริลเข้ามาที่โรงพยาบาล ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อย เข้ามาขอคุยกับจัสมิน
"คุณพยาบาล ผมขอคุยด้วยหน่อยสิ" จ่าฟัสริลขอคุยกับจัสมินเป็นการส่วนตัวขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมเอกสารคนไข้รายอื่นอยู่
"คะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมองจากเค้าน์เตอร์พยาบาล
"คุณชื่อจัสมิน พยาบาลที่จะมาช่วยหมอสุไลมานใช่ไหม?" ฟัสริลถามเธอ
"อ่อ ค่ะใช่ค่ะ ดิฉันจัสมิน มีอะไรเหรอคะ?" จัสมินตอบคำถามจ่าฟัสริล
"มาคุยกับผมหน่อยได้ไหม ผมมีเรื่องอยากปรึกษา" จ่าฟัสริลกระซิบใกล้ๆ
เธอปิดแฟ้มเอกสารคนไข้ เก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วเดินออกจากเค้าน์เตอร์ตามจ่าฟัสริลไปที่ห้องรับรอง
"มีอะไรเหรอคะ คุณหมอยังไม่เข้ามาค่ะ จะเข้ามาตอนบ่าย คุณตำรวจมีอะไรไหมคะ" จัสมินปิดประตูห้องแล้วถามจ่าฟัสริล
"คุณรู้ไหม คุณพยาบาล ไอ้ฆาตรกรนั่นมันฆ่าลูกสาวผม คุณรู้ไหม ผมกับเมียต้องหย่ากันเพราะมัน ผมต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน คุณรู้ไหม ตอนนี้ชิ้นส่วนของลูกสาวผมอยู่ที่นิติเวชมา 2 ปีกว่าแล้ว ผมกับตำรวจยังหาหัวลูกผมกับศพอื่นๆ ที่มันฆ่าไม่เจอเลย ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ผมคิดถึงลูก จะฝังก็ไม่ได้ ผมแค่อยากเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย คุณพยาบาล คุณต้องช่วยผมนะ" จ่าฟัสริลเริ่มมีน้ำตาออกมาขณะพูดถึงลูกสาวที่เสียไปจากน้ำมือไอ้ฆาตรกรโรคจิตนั่น
"ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไรล่ะคะ คุณตำรวจ ฉันแค่เป็นผู้ช่วยของหมอสุไลมานวันนี้ แล้วฉันก็เพิ่งจะมาทำงานที่นี่ เคสของคุณฉันก็เพิ่งจะได้ศึกษาเมื่อไม่นานนี้ คุณจะให้ฉันช่วยยังไง" จัสมินปลอบจ่าฟัสริล สงสารเขาแต่ไม่รู้จริงๆว่าจะช่วยอย่างไร
"เอ้อ! คุณตำรวจ ฉันอยากรู้เหมือนกัน ว่าเคสนี้มันเป็นมายังไง ไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อฉันหรือเปล่านะ มันออกจะบ้าไปหน่อย แต่ฉันว่าฉันควรบอกคุณ" จัสมินเริ่มอยากจะเล่าความลับให้จ่าฟัสริลฟัง
"เรื่องมันเกิดที่ เขต 7 แถวชาอลัมในเคแอล คุณอยู่อิโป้ไม่น่ารู้จัก เพราะคุณเพิ่งจะมาทำงานที่นี่ใช่ไหม มันฆ่าเด็ก 3 ขวบ 5 คน และก็ฆ่าเมียมัน ที่บ้านร้าง แล้วหั่นศพออกเป็นชิ้นๆไปทิ้งที่กองขยะในหมู่บ้าน วันหนึ่ง หมามันคาบมือเมียมันออกมา ตำรวจเลยเจอชิ้นส่วนต่างๆของเด็กๆและเมียมัน ผมถึงเจอว่าลูกผมตายแล้ว แต่หัวของเด็กๆไม่ได้อยู่ที่กองขยะนั่น มีแต่หัวเมียมัน มันเก็บไว้ที่บ้าน ผมไปเจอ ศาลตัดสินว่ามันบ้า โรคจิตเลยให้มาบำบัดที่นี่แทนที่จะประหารชีวิตมัน คุณคิดว่ามันสมควรไหม คนชั่วอย่างมัน สมควรตาย ไม่ควรแม้แต่มานั่งลอยหน้าลอยตาในโรงพยาบาลนี่" จ่าฟัสริลอธิบายเหตุการณ์ให้ฟังคร่าวๆ
"หนึ่งในเด็กที่ตายมีชื่อซีย์ด้วยใช่ไหมคะ?" จัสมินถามจ่าเพื่อความแน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
"ใช่ แล้วคุณรู้ไหม ซีย์เป็นเด็กที่บกพร่องทางด้านปัญญา อยู่กับยายที่แม่ทิ้งไป คุณดู ไอ้โรคจิตนี่มันยังทำได้อ่ะ ตอนนี้ยายของซีย์ก็อยู่ที่นี่ เพราะรับไม่ได้เหมือนกันที่หลานต้องตายแบบนั้น แล้วคุณรู้จักซีย์ได้อย่างไร ในเอกสารไม่น่ามีบอกนะ" จ่าฟัสริลสงสัย
"ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ เธอมาเข้าฝันฉันค่ะ เธออยากกลับบ้าน เธอเหงา แต่บอกแค่ว่า ความจริงจะปรากฎในเวลาที่เหมาะสม ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร ไม่รู้ว่า มันจะหมายถึงวันนี้หรือเปล่า" จัสมินเล่าให้ตำรวจฟัง
"ก็อาจเป็นไปได้นะ วันนี้ผมมาหาหมอสุไลมานให้ช่วยหาความจริงจากมันนี่ล่ะ แล้วเรามาช่วยกันพาเด็กๆกลับบ้านกันนะ" จ่าฟัสริลปาดน้ำตาที่ปริ่มเบ้าออก พลางลุกขึ้น ทำตัวกระฉับกระเฉง
"ค่ะ!" จัสมินรับปาก
"จัสมิน คุณมีงานหรือเปล่าน่ะ ไปกินกาแฟกับผมไหม ผมขออนุญาตหัวหน้าคุณให้" จ่าฟัสริลชวนเธอออกไปสูดอากาศข้างนอก
"ฉันก็สรุปงานของฉันไปเรื่อย ถ้าคุณตำรวจมีอะไรจะระบายเพิ่มก็คุยได้นะคะ ฉันยินดีรับฟัง แต่คุณคงต้องไปขออนุญาตหัวหน้าให้ฉันล่ะคะ เพราะมันยังเวลางานฉันอยู่" จัสมินบอก
"โอเค งั้นคุณรอผมแป๊บ เดี๋ยวผมมา" จ่าฟัสริลวิ่งไปขออนุญาตหัวหน้าพยาบาลเพื่อพาเธอออกไปข้างนอกสักพัก
"ไป หัวหน้าคุณอนุญาตละ" จ่าฟัสริลยิ้มหน้าบานกลับมา
เธอส่งงานเพื่อนพยาบาลสักครู่ แล้วเก็บกระเป๋าเดินตามจ่าฟัสริลไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาล
"คุณตำรวจมีอะไรจะเล่าให้ดิฉันฟังอีกคะ" จัสมินเริ่มถามคำถามหลังจากดูดนมเย็นที่เธอสั่งมา
"ผมไม่รู้ว่าหมอสุไลมานจะทำอย่างไรกับกริชณะน่ะสิ ผมกลัว ว่าเราจะไม่ได้คำตอบอะไร กลัวจะเสียเวลาไปกับไอ้บ้านั่น คุณรู้ไหม ผมใช้เวลา 2 ปีกว่านี่ถามมันนะ ว่ามันเอาหัวเด็กๆไปซ่อนไว้ที่ไหน แต่มันไม่เคยปริปาก ผมจนปัญญาจริงๆ ผมคิดถึงลูกผมมาก คุณอยากดูรูปไหม ผมพกติดตัวไว้ตลอดเลยนะ" ฟัสริลหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วโชว์รูปลูกสาวให้จัสมินดู
"น่ารักจังค่ะ ไม่น่าเสียชีวิตเร็วเลย เขาน่าจะมีอนาคตที่สดใสกว่านี้" จัสมินมองรูปพร้อมชื่นชมความน่ารักของลูกสาวฟัสริล
"ใช่ ไม่น่าต้องตาย เธอไปเล่นกับเพื่อนที่สนามเด็กเล่น แล้วไอ้กริชณะ มันหลอกพาเธอไป ผมผิดเอง ผมมัวแต่คุยเรื่องงานอยู่ ไม่ทันระวังลูก พอหันกลับมา ลูกก็หายไปแล้ว เมียผมรับไม่ได้ ที่สูญเสียลูกไป เราออกตามหา ผมสั่งคนออกตามหา ปิดประกาศคนหาย ทั่วบริเวณก็ไม่มีวี่แวว ในที่สุด เมียผมก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เธอขอกลับไปอยู่กับครอบครัวเธอแล้วขอหย่ากับผม คุณเข้าใจไหมผมเสียลูกไปคนหนึ่งแล้ว ผมต้องมาเสียคนที่ผมรักไปอีกคน ทุกวันผมต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อจะหนีจากอารมณ์เสียใจ ทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน ผมนั่งร้องไห้ ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมตุ๊กตาตัวโปรดของลูกผม แปรงหวีผมของเมียผม กลิ่นแป้งที่ผมทาให้ลูกทุกเช้าก่อนไปเนอสเซอรี่ คุณรู้ไหม ผมทรมานแค่ไหนตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมา" จ่าฟัสริลเล่าความในใจให้จัสมินฟัง
"ฉันเข้าใจคุณค่ะคุณตำรวจ และก็สงสารคุณจับใจ ฉันจะช่วยคุณเต็มที่นะคะ ไม่ต้องห่วง เพราะฉันสัญญากับซีย์ไว้เหมือนกัน ว่าฉันจะพาเขากลับบ้านให้ได้" จัสมินกล่าว
"เอ้อ เที่ยงครึ่งแล้ว ผมว่าคุณควรไปเตรียมตัวนะ เผื่อหมอสุไลมานมาจะได้ไม่ฉุกละหุก" จ่าฟัสริลเปลี่ยนเรื่องเบนความสนใจ
จัสมินกลับเข้าไปทำงานแล้ว เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ และเครื่องมือรวมถึงยาต่างๆ พร้อมใช้ตอนที่หมอสุไลมานเข้ามา เธออ่านเอกสารคนไข้อีกครั้ง ทบทวนข้อมูลต่างๆเพื่อตอบคำถามหมอได้โดยไม่ตะกุกตะกัก
บ่ายโมง หมอสุไลมานช่างตรงเวลาจริงๆ หมอหนุ่มใหญ่ร่างโต ใส่แว่นขอบกลม เดินมา เสื้อกาวน์ปลิวว่อนตามหลังเพราะแรงสะบัดเดินเร็วของเขา พยาบาลทุกคนประจำที่ตนเอง หลังจากก่อนหน้าจับกลุ่มคุยกัน กินขนมสนุกสนาน
"เอ้า! ทำอะไรกันอยู่ ไปสิ รออะไร?" "ใครจะช่วยผม ตามมา เร็ว เวลาผมมีค่านะ ไม่ใช่เอาเวลามานั่งจับกลุ่มเม้าท์กัน!" หมอสุไลมานเสียงแข็งใส่พนักงานที่นั่งตัวหดเหลือเท่าไม้ขีดไฟ
ในห้องตรวจ 4 เครื่องมือเตรียมพร้อม จอมอนิเตอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจพร้อม เครื่องวัดความดันโลหิต พร้อม ซริงค์พร้อมยา พร้อม จ่าฟัสริล พร้อม
"อัสลามมุอลัยกุมครับหมอสุไลมาน ผมจ่าฟัสริล บินซอและห์ ดูแลเคสนี้ครับ" ฟัสริลแนะนำตัว
"วอลัยกุมมุสลาม โอเค ผมขออธิบายกับคุณก่อนนะครับ ว่าวันนี้ วิธีการที่เราจะทำเรียกว่า นาโค อนาลิซิส คือการฉีดตัวยา โซเดียม เพนโธธอล เข้าไปในเส้นเลือด ผ่านสายน้ำเกลือ ซึ่งมันจะทำให้คนไข้อาจจะมึนงงในเบื้องต้น แล้วสุดท้ายอาจจะ นะครับ อาจจะคายความจริงออกมา ซึ่งผมรับประกันไม่ได้ ว่ามันจะเป็นความจริงทั้งหมดหรือเปล่า เพราะบางที มันเหมือนคนไข้จะฝัน แล้วเพ้ออะไรออกมาก็ได้ เหมือนเครื่องจับเท็จ คุณก็ไม่อาจได้ความจริงทั้งหมดจากนักโทษ จริงไหม แต่มันอาจช่วยคุณได้ในระดับหนึ่ง เพราะกริชณะเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จริงไหม วิธีนี้อาจจะดีกว่า แต่ผมบอกคุณตรงนี้ มันอาจเกิดอาการข้างเคียงกับคนไข้นะครับ หากใช้โอเวอร์โดส ซึ่งผมจะดูแลเรื่องการใช้ และจะฉีดให้เขาเอง ส่วนคำถาม คุณเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ ผมขอดูหน่อย" หมอสุไลมานอธิบายวิธีการเค้นความจริงจากฆาตกรรายนี้ พร้อมขอดูชุดคำถามที่จ่าฟัสริลเตรียมมา
"โอเค ผมว่าน่าจะใช้ได้ เราอาจจะได้ความจริงซักที" หมอสุไลมานถอนหายใจ
"เอ้า เธอ ไปสิ ไปกับฉัน เอาคนไข้มา" เขาพูดกับจัสมินพร้อมเดินเสื้อกาวน์ปลิวออกจากห้องตรวจไป
Section 7.1 "Go home together" (7 ตอนสยองขวัญ) ตอนที่ 7.1/7
"จัสมิน วันนี้โชคดีของเธอนะ ไม่ค่อยมีใครได้ช่วยหมอท่านนี้ รู้ไหม เพราะท่านน่ะ เรื่องมาก ขี้บ่น แถมจะเอาอะไรก็ต้องได้ ฉันเลยยกหน้าที่นี้ให้เธอนะ
หมอท่านนี้ชื่อดอกเตอร์ สุไลมาน วันนี้ท่านจะเข้ามาทำการตรวจอะไรสักอย่าง มากับตำรวจ เธอจำได้ไหม เคสที่ฆ่าคนตายอ่ะ ฆาตกรต่อเนื่องที่ชื่อกริชณะน่ะ" หัวหน้าพยาบาลบรีฟงานให้เธอในตอนเช้าก่อนเริ่มงาน
"ค่ะ จำได้ เหมือนพระเจ้าดลใจนะคะ หนูอยากดูแลเคสนี้อยู่พอดี หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะพี่" จัสมินตอบหัวหน้างานอย่างดีใจและกระตือรือร้น
ประมาณเก้าโมงเช้า จ่าฟัสริลเข้ามาที่โรงพยาบาล ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อย เข้ามาขอคุยกับจัสมิน
"คุณพยาบาล ผมขอคุยด้วยหน่อยสิ" จ่าฟัสริลขอคุยกับจัสมินเป็นการส่วนตัวขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมเอกสารคนไข้รายอื่นอยู่
"คะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมองจากเค้าน์เตอร์พยาบาล
"คุณชื่อจัสมิน พยาบาลที่จะมาช่วยหมอสุไลมานใช่ไหม?" ฟัสริลถามเธอ
"อ่อ ค่ะใช่ค่ะ ดิฉันจัสมิน มีอะไรเหรอคะ?" จัสมินตอบคำถามจ่าฟัสริล
"มาคุยกับผมหน่อยได้ไหม ผมมีเรื่องอยากปรึกษา" จ่าฟัสริลกระซิบใกล้ๆ
เธอปิดแฟ้มเอกสารคนไข้ เก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วเดินออกจากเค้าน์เตอร์ตามจ่าฟัสริลไปที่ห้องรับรอง
"มีอะไรเหรอคะ คุณหมอยังไม่เข้ามาค่ะ จะเข้ามาตอนบ่าย คุณตำรวจมีอะไรไหมคะ" จัสมินปิดประตูห้องแล้วถามจ่าฟัสริล
"คุณรู้ไหม คุณพยาบาล ไอ้ฆาตรกรนั่นมันฆ่าลูกสาวผม คุณรู้ไหม ผมกับเมียต้องหย่ากันเพราะมัน ผมต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน คุณรู้ไหม ตอนนี้ชิ้นส่วนของลูกสาวผมอยู่ที่นิติเวชมา 2 ปีกว่าแล้ว ผมกับตำรวจยังหาหัวลูกผมกับศพอื่นๆ ที่มันฆ่าไม่เจอเลย ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ผมคิดถึงลูก จะฝังก็ไม่ได้ ผมแค่อยากเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย คุณพยาบาล คุณต้องช่วยผมนะ" จ่าฟัสริลเริ่มมีน้ำตาออกมาขณะพูดถึงลูกสาวที่เสียไปจากน้ำมือไอ้ฆาตรกรโรคจิตนั่น
"ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไรล่ะคะ คุณตำรวจ ฉันแค่เป็นผู้ช่วยของหมอสุไลมานวันนี้ แล้วฉันก็เพิ่งจะมาทำงานที่นี่ เคสของคุณฉันก็เพิ่งจะได้ศึกษาเมื่อไม่นานนี้ คุณจะให้ฉันช่วยยังไง" จัสมินปลอบจ่าฟัสริล สงสารเขาแต่ไม่รู้จริงๆว่าจะช่วยอย่างไร
"เอ้อ! คุณตำรวจ ฉันอยากรู้เหมือนกัน ว่าเคสนี้มันเป็นมายังไง ไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อฉันหรือเปล่านะ มันออกจะบ้าไปหน่อย แต่ฉันว่าฉันควรบอกคุณ" จัสมินเริ่มอยากจะเล่าความลับให้จ่าฟัสริลฟัง
"เรื่องมันเกิดที่ เขต 7 แถวชาอลัมในเคแอล คุณอยู่อิโป้ไม่น่ารู้จัก เพราะคุณเพิ่งจะมาทำงานที่นี่ใช่ไหม มันฆ่าเด็ก 3 ขวบ 5 คน และก็ฆ่าเมียมัน ที่บ้านร้าง แล้วหั่นศพออกเป็นชิ้นๆไปทิ้งที่กองขยะในหมู่บ้าน วันหนึ่ง หมามันคาบมือเมียมันออกมา ตำรวจเลยเจอชิ้นส่วนต่างๆของเด็กๆและเมียมัน ผมถึงเจอว่าลูกผมตายแล้ว แต่หัวของเด็กๆไม่ได้อยู่ที่กองขยะนั่น มีแต่หัวเมียมัน มันเก็บไว้ที่บ้าน ผมไปเจอ ศาลตัดสินว่ามันบ้า โรคจิตเลยให้มาบำบัดที่นี่แทนที่จะประหารชีวิตมัน คุณคิดว่ามันสมควรไหม คนชั่วอย่างมัน สมควรตาย ไม่ควรแม้แต่มานั่งลอยหน้าลอยตาในโรงพยาบาลนี่" จ่าฟัสริลอธิบายเหตุการณ์ให้ฟังคร่าวๆ
"หนึ่งในเด็กที่ตายมีชื่อซีย์ด้วยใช่ไหมคะ?" จัสมินถามจ่าเพื่อความแน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
"ใช่ แล้วคุณรู้ไหม ซีย์เป็นเด็กที่บกพร่องทางด้านปัญญา อยู่กับยายที่แม่ทิ้งไป คุณดู ไอ้โรคจิตนี่มันยังทำได้อ่ะ ตอนนี้ยายของซีย์ก็อยู่ที่นี่ เพราะรับไม่ได้เหมือนกันที่หลานต้องตายแบบนั้น แล้วคุณรู้จักซีย์ได้อย่างไร ในเอกสารไม่น่ามีบอกนะ" จ่าฟัสริลสงสัย
"ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ เธอมาเข้าฝันฉันค่ะ เธออยากกลับบ้าน เธอเหงา แต่บอกแค่ว่า ความจริงจะปรากฎในเวลาที่เหมาะสม ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร ไม่รู้ว่า มันจะหมายถึงวันนี้หรือเปล่า" จัสมินเล่าให้ตำรวจฟัง
"ก็อาจเป็นไปได้นะ วันนี้ผมมาหาหมอสุไลมานให้ช่วยหาความจริงจากมันนี่ล่ะ แล้วเรามาช่วยกันพาเด็กๆกลับบ้านกันนะ" จ่าฟัสริลปาดน้ำตาที่ปริ่มเบ้าออก พลางลุกขึ้น ทำตัวกระฉับกระเฉง
"ค่ะ!" จัสมินรับปาก
"จัสมิน คุณมีงานหรือเปล่าน่ะ ไปกินกาแฟกับผมไหม ผมขออนุญาตหัวหน้าคุณให้" จ่าฟัสริลชวนเธอออกไปสูดอากาศข้างนอก
"ฉันก็สรุปงานของฉันไปเรื่อย ถ้าคุณตำรวจมีอะไรจะระบายเพิ่มก็คุยได้นะคะ ฉันยินดีรับฟัง แต่คุณคงต้องไปขออนุญาตหัวหน้าให้ฉันล่ะคะ เพราะมันยังเวลางานฉันอยู่" จัสมินบอก
"โอเค งั้นคุณรอผมแป๊บ เดี๋ยวผมมา" จ่าฟัสริลวิ่งไปขออนุญาตหัวหน้าพยาบาลเพื่อพาเธอออกไปข้างนอกสักพัก
"ไป หัวหน้าคุณอนุญาตละ" จ่าฟัสริลยิ้มหน้าบานกลับมา
เธอส่งงานเพื่อนพยาบาลสักครู่ แล้วเก็บกระเป๋าเดินตามจ่าฟัสริลไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาล
"คุณตำรวจมีอะไรจะเล่าให้ดิฉันฟังอีกคะ" จัสมินเริ่มถามคำถามหลังจากดูดนมเย็นที่เธอสั่งมา
"ผมไม่รู้ว่าหมอสุไลมานจะทำอย่างไรกับกริชณะน่ะสิ ผมกลัว ว่าเราจะไม่ได้คำตอบอะไร กลัวจะเสียเวลาไปกับไอ้บ้านั่น คุณรู้ไหม ผมใช้เวลา 2 ปีกว่านี่ถามมันนะ ว่ามันเอาหัวเด็กๆไปซ่อนไว้ที่ไหน แต่มันไม่เคยปริปาก ผมจนปัญญาจริงๆ ผมคิดถึงลูกผมมาก คุณอยากดูรูปไหม ผมพกติดตัวไว้ตลอดเลยนะ" ฟัสริลหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วโชว์รูปลูกสาวให้จัสมินดู
"น่ารักจังค่ะ ไม่น่าเสียชีวิตเร็วเลย เขาน่าจะมีอนาคตที่สดใสกว่านี้" จัสมินมองรูปพร้อมชื่นชมความน่ารักของลูกสาวฟัสริล
"ใช่ ไม่น่าต้องตาย เธอไปเล่นกับเพื่อนที่สนามเด็กเล่น แล้วไอ้กริชณะ มันหลอกพาเธอไป ผมผิดเอง ผมมัวแต่คุยเรื่องงานอยู่ ไม่ทันระวังลูก พอหันกลับมา ลูกก็หายไปแล้ว เมียผมรับไม่ได้ ที่สูญเสียลูกไป เราออกตามหา ผมสั่งคนออกตามหา ปิดประกาศคนหาย ทั่วบริเวณก็ไม่มีวี่แวว ในที่สุด เมียผมก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เธอขอกลับไปอยู่กับครอบครัวเธอแล้วขอหย่ากับผม คุณเข้าใจไหมผมเสียลูกไปคนหนึ่งแล้ว ผมต้องมาเสียคนที่ผมรักไปอีกคน ทุกวันผมต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อจะหนีจากอารมณ์เสียใจ ทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน ผมนั่งร้องไห้ ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมตุ๊กตาตัวโปรดของลูกผม แปรงหวีผมของเมียผม กลิ่นแป้งที่ผมทาให้ลูกทุกเช้าก่อนไปเนอสเซอรี่ คุณรู้ไหม ผมทรมานแค่ไหนตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมา" จ่าฟัสริลเล่าความในใจให้จัสมินฟัง
"ฉันเข้าใจคุณค่ะคุณตำรวจ และก็สงสารคุณจับใจ ฉันจะช่วยคุณเต็มที่นะคะ ไม่ต้องห่วง เพราะฉันสัญญากับซีย์ไว้เหมือนกัน ว่าฉันจะพาเขากลับบ้านให้ได้" จัสมินกล่าว
"เอ้อ เที่ยงครึ่งแล้ว ผมว่าคุณควรไปเตรียมตัวนะ เผื่อหมอสุไลมานมาจะได้ไม่ฉุกละหุก" จ่าฟัสริลเปลี่ยนเรื่องเบนความสนใจ
จัสมินกลับเข้าไปทำงานแล้ว เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ และเครื่องมือรวมถึงยาต่างๆ พร้อมใช้ตอนที่หมอสุไลมานเข้ามา เธออ่านเอกสารคนไข้อีกครั้ง ทบทวนข้อมูลต่างๆเพื่อตอบคำถามหมอได้โดยไม่ตะกุกตะกัก
บ่ายโมง หมอสุไลมานช่างตรงเวลาจริงๆ หมอหนุ่มใหญ่ร่างโต ใส่แว่นขอบกลม เดินมา เสื้อกาวน์ปลิวว่อนตามหลังเพราะแรงสะบัดเดินเร็วของเขา พยาบาลทุกคนประจำที่ตนเอง หลังจากก่อนหน้าจับกลุ่มคุยกัน กินขนมสนุกสนาน
"เอ้า! ทำอะไรกันอยู่ ไปสิ รออะไร?" "ใครจะช่วยผม ตามมา เร็ว เวลาผมมีค่านะ ไม่ใช่เอาเวลามานั่งจับกลุ่มเม้าท์กัน!" หมอสุไลมานเสียงแข็งใส่พนักงานที่นั่งตัวหดเหลือเท่าไม้ขีดไฟ
ในห้องตรวจ 4 เครื่องมือเตรียมพร้อม จอมอนิเตอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจพร้อม เครื่องวัดความดันโลหิต พร้อม ซริงค์พร้อมยา พร้อม จ่าฟัสริล พร้อม
"อัสลามมุอลัยกุมครับหมอสุไลมาน ผมจ่าฟัสริล บินซอและห์ ดูแลเคสนี้ครับ" ฟัสริลแนะนำตัว
"วอลัยกุมมุสลาม โอเค ผมขออธิบายกับคุณก่อนนะครับ ว่าวันนี้ วิธีการที่เราจะทำเรียกว่า นาโค อนาลิซิส คือการฉีดตัวยา โซเดียม เพนโธธอล เข้าไปในเส้นเลือด ผ่านสายน้ำเกลือ ซึ่งมันจะทำให้คนไข้อาจจะมึนงงในเบื้องต้น แล้วสุดท้ายอาจจะ นะครับ อาจจะคายความจริงออกมา ซึ่งผมรับประกันไม่ได้ ว่ามันจะเป็นความจริงทั้งหมดหรือเปล่า เพราะบางที มันเหมือนคนไข้จะฝัน แล้วเพ้ออะไรออกมาก็ได้ เหมือนเครื่องจับเท็จ คุณก็ไม่อาจได้ความจริงทั้งหมดจากนักโทษ จริงไหม แต่มันอาจช่วยคุณได้ในระดับหนึ่ง เพราะกริชณะเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จริงไหม วิธีนี้อาจจะดีกว่า แต่ผมบอกคุณตรงนี้ มันอาจเกิดอาการข้างเคียงกับคนไข้นะครับ หากใช้โอเวอร์โดส ซึ่งผมจะดูแลเรื่องการใช้ และจะฉีดให้เขาเอง ส่วนคำถาม คุณเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ ผมขอดูหน่อย" หมอสุไลมานอธิบายวิธีการเค้นความจริงจากฆาตกรรายนี้ พร้อมขอดูชุดคำถามที่จ่าฟัสริลเตรียมมา
"โอเค ผมว่าน่าจะใช้ได้ เราอาจจะได้ความจริงซักที" หมอสุไลมานถอนหายใจ
"เอ้า เธอ ไปสิ ไปกับฉัน เอาคนไข้มา" เขาพูดกับจัสมินพร้อมเดินเสื้อกาวน์ปลิวออกจากห้องตรวจไป