ตามหัวข้อเลยค่ะ คือสงสัยว่าตัวเองมีอาการเป็นไทรอยด์ ชนิดไฮโปไทรอยด์ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ที่ตั้งกระทู้เพราะอยากฟังความคิดเห็นของคนที่อาจจะเคยเป็น หรือคนที่เป็นอยู่ หรือเคยไปตรวจน่ะค่ะ
ในกระทู้แบ่งเป็นช่วงแรกพูดถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมาของเรานะคะหากไม่อยากอ่าน เรามีสรุปไว้ข้างล่างถึงอาการที่คิดว่าเป็นคะ
พื้นเดิมคือเป็นคนอ้วน เลยเริ่มลดความอ้วนตั้งแต่ ม.3 โดยการอดอาหาร ไม่ออกกำลังกายนะคะ อดอย่างเดียว น้ำหนักลดคะ จาก 67 มาเป็น 58 ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน พอขึ้น ม.ปลาย อยากลดอีกจึงเริ่มหันมาเริ่มวิ่ง วิ่งอยู่กับที่วันละ 35-40 นาทีทุกวัน ตื่นเช้ามาไม่กินข้าวไม่ค่อยกินอะไรเลย แล้วประมาณ 5 โมงก็จะวิ่งๆๆๆๆๆทุกวัน พอตอนเย็นก็กินส้มตำแบบเผ็ดมากๆ ทำแบบนี้อยู่เกือบปีคะ น้ำหนักก็ลงไปเป็น 54 แล้วก็ไม่ลงอีกเลย
จนปิดเทอมม.4 ขึ้น ม.5 เป็นหนักขึ้น คือออกกำลังกายทั้งวัน แต่ไม่ใช้แบบหนักมา ไม่ยกเวท เล่นตามพวกฟิตเนสกูรูฝรั่งทำกัน พวกท่า jump lunge ,jumping jack ประมาณนี้คะ sit-up วันละ 200-300 ครั้ง วิ่งอีกวันละไม่ต่ำกว่า 40 นาที บางทีวิ่งเช้าวิ่งเย็น เสพติดการลดความอ้วน(แบบผิดๆ)มาก แล้วพฤติกรรมการกินเหมือนเดิมคือ กินน้อยจนถึงแทบไม่กินเลย พอเปิดเทอมม.5 มาน้ำหนักลงคะ เหลือ 48 ครั้งแรกของชีวิต ดีใจมาก แล้วก็ยังคงไว้ซึ่งการลดความอ้วนแบบเดิม
ที่แย่คือเริ่มสั่งยาลดความอ้วนมากินคะ กินตั้งแต่ยาตามตลาดจนยาแพงๆแบบที่ดาราโฆษณา กินมาจนกระทั้ง ขึ้นมหาวิทยาลัยปี 1 ก็ยังกิน แต่เริ่มรู้สึกไม่โอเค เราจะมีอาการง่วงแต่นอนไม่หลับตลอดเวลา เลยหยุดคะ แล้วก็คงไว้ซึ้งการรับประทานอาหารน้อย แล้วคณะที่เรียนคือทำงานหนักมาก ไม่ค่อยได้นอน อยู่โต้รุ่งเกือบตลอด เลยไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่กินน้อยบางวันไม่กินเลย น้ำหนักขึ้นคะ ขึ้นจนเสื้อนักศึกษาไซต์ M เริ่มคับ พอปิดเทอมปี 1 ได้มีโอกาสรู้จักโรค อนาลอกเซียเป็นครั้งแรก ตัวเองอาการนั้นเลย วันๆไม่กินอะไร ไม่กินจริงๆนะคะ ดูแต่คลิปออกกำลังกาย แล้วก็บ้าคลั่งแบบนั้น จนผอมลงไปมาก น้ำหนักกลับมาอยู่ที่เลข 47 อีกครั้ง หน้าตอบ ตาคล้ำ โทรม เหนือยง่าย
พอปี 2 ก็เรียนเหมือนเดิม เริ่มรู้ว่าตัวเองเป็นโรคจิต เลยพยายามรักษาตัวเอง พยายามฝืนใจทานอาหาร (ที่มีประโยชน์แต่ยังกินน้อย พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย พอปี2 เรียนหนักขึ้น ทำโปรเจคเริ่มมีความเครียดมาก) น้ำหนักขึ้นมาจนเสื้อนักศึกษาใส่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองอ้วนขึ้น จนพอปี 3 เรียนหนัก ทำงานหนัก ต้องไปต่างประเทศด้วย เลยสั่งยาลดน้ำหนักมากินอีกครั้ง แล้วก็อดอาหารๆๆๆๆๆ น้ำหนักก็ลงไปประมาณ 55-56 แต่คงไว้ไม่นาน กลับมาจากต่างประเทศก็ออกกำลังกาย เริ่มเวทเทรนนิ่ง รู้จักการกินคลีน แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วมาก มากจนกลับไปเท่าตอนม.3 เลยคะ ทั้งๆที่เราควบคุมการกินดีมาก โซเดียมต่ำ ไขมันต่ำ โปรตีนสูง เล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ดาร์ดิโอ อาทิตย์ละ 6 วัน พัก 1 วัน แต่ยังเครียดทำโปรเจคที่มหาวิทยาลัยและพักผ่อนน้อย น้ำหนักขึ้นแบบพรวดๆ จากนั้นก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องมีอะไรผิดปกติแน่
****จุดสำคัญที่ทำให้คิดว่าเป็นคือ****
มีอาการบวม คุณแม่บอกว่าบวมโดยเฉพาะขา บวมจนเหมือนจนพิการ คือมันบวมแบบไม่สมส่วน
เรามองว่าคอเราบวม ลองกลืนน้ำแล้วส่องกระจกมันมีลูกคลื่นขึ้นมา แต่ไม่ใช่ลูกกระเดือก
หงุดหงิดง่าย
ออกกำลังกายด้วยการวิ่งที่ความเร็ว 7.5-9 กม.ต่อ ชม.ทุกวัน เป็นเวลา 30-40 นาที แล้วก็เล่นเวทเบาๆแต่น้ำหนักไม่ลง สัดส่วนไม่ลง แถมดูใหญ่ขึ้น
กินน้อยแต่น้ำหนักขึ้น หรือเท่าเดิม
ประจำเดือนมาน้อยมาก บางเดือนมาวันเดียวแล้วหายเลย บางเดือนมาแค่ปวดท้องแล้วหายไปเลย
นอนไม่ค่อยหลับ ต่อให้หลับก็จะตื่นช่วงตี 4-ตี5 ตลอด เวลาตื่นมาจะใจหวิวๆมาก คือหัวใจเต้นแรงมาก (เคยไม่หลับติดต่อกัน 2 วันเพราะทำโปรเจค แต่พอได้นอนก็นอนหลับไม่เต็มที่เลยคะ) ทรมานมาก อยากนอนพักผ่อน คือร่างกายมันเหนื่อย
ความจำไม่ค่อยดี ทั้งๆที่อ่านย้ำๆ จ่อสมาธิ
ท้องอืดง่าย บางทีกินนมแก้วเดียวก็ท้องอืดเลย
ความดันต่ำ ชีพจรเต้นต่ำ ขี้หนาว
เพิ่มเติมคือ ครอบครัวมีประวัติ คุณอาเป็นไทรอยด์ และตอนเด็ก ๆ เป็นหนองในคอหลายครั้ง ต้องไปนอนให้ยาฆ่าเชื้อจนคุณหมอบอกว่าถ้าเป็นอีกคงต้องผ่าออก แล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเข้าโรงพยาบาลเพราะมีอาการไข้ขึ้น อ่อนเพลียมาก อาเจียนคุณหมอตรวจเลือดเพราะคิดว่าเป็นไข้เลือดออกแต่ผลปกติ เม็ดเลือดขาวต่ำกว่าเกณฑ์คือ 9000 แต่ไม่ต่ำขนาดที่เป็นไข้เลือดออกได้ แต่คุณหมอบอกคอบวม ๆ แต่ไม่แดงไม่เจ็บคอ อาจจะติดเชื้อเลยให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ 1 วัน (3 ขวด)
ที่มาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาเพราะ
1 เรากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายคะ มีประกันสุขภาพแต่ก็ทราบว่าประกันไม่คุมเรื่องตรวจหาโรคเอง แล้วค่าใช้จ่ายเราก็ต้องจ่ายเองในการตรวจ จึงอยากได้คำปรึกษาจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่าอาการอย่างเรามันเข้าข่ายไหมคะ แล้ว
2 หากเข้าข่าย ควรตรวจที่โรงพยาบาลไหนดีคะ ที่ค่าตรวจไม่แพงน่ะคะ ไม่อยากให้เกิน 1000 บาท (ปล.อยู่ กทม.คะ)
กระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อเด็กที่กำลังสับสนคนหนึ่งมาก ขอบพระคุณที่กรุณาให้คำแนะนำและหากท่านใดต่อว่าเรื่องการลดน้ำหนักของเรา เราทราบแล้วคะว่ามันผิดและไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง
ช่วยหน่อยคะ สงสัยว่าตัวเองเป็นไทรอยด์ รบกวนผู้รู้ช่วยแสดงความเห็นทีนะคะ
ในกระทู้แบ่งเป็นช่วงแรกพูดถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมาของเรานะคะหากไม่อยากอ่าน เรามีสรุปไว้ข้างล่างถึงอาการที่คิดว่าเป็นคะ
พื้นเดิมคือเป็นคนอ้วน เลยเริ่มลดความอ้วนตั้งแต่ ม.3 โดยการอดอาหาร ไม่ออกกำลังกายนะคะ อดอย่างเดียว น้ำหนักลดคะ จาก 67 มาเป็น 58 ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน พอขึ้น ม.ปลาย อยากลดอีกจึงเริ่มหันมาเริ่มวิ่ง วิ่งอยู่กับที่วันละ 35-40 นาทีทุกวัน ตื่นเช้ามาไม่กินข้าวไม่ค่อยกินอะไรเลย แล้วประมาณ 5 โมงก็จะวิ่งๆๆๆๆๆทุกวัน พอตอนเย็นก็กินส้มตำแบบเผ็ดมากๆ ทำแบบนี้อยู่เกือบปีคะ น้ำหนักก็ลงไปเป็น 54 แล้วก็ไม่ลงอีกเลย
จนปิดเทอมม.4 ขึ้น ม.5 เป็นหนักขึ้น คือออกกำลังกายทั้งวัน แต่ไม่ใช้แบบหนักมา ไม่ยกเวท เล่นตามพวกฟิตเนสกูรูฝรั่งทำกัน พวกท่า jump lunge ,jumping jack ประมาณนี้คะ sit-up วันละ 200-300 ครั้ง วิ่งอีกวันละไม่ต่ำกว่า 40 นาที บางทีวิ่งเช้าวิ่งเย็น เสพติดการลดความอ้วน(แบบผิดๆ)มาก แล้วพฤติกรรมการกินเหมือนเดิมคือ กินน้อยจนถึงแทบไม่กินเลย พอเปิดเทอมม.5 มาน้ำหนักลงคะ เหลือ 48 ครั้งแรกของชีวิต ดีใจมาก แล้วก็ยังคงไว้ซึ่งการลดความอ้วนแบบเดิม
ที่แย่คือเริ่มสั่งยาลดความอ้วนมากินคะ กินตั้งแต่ยาตามตลาดจนยาแพงๆแบบที่ดาราโฆษณา กินมาจนกระทั้ง ขึ้นมหาวิทยาลัยปี 1 ก็ยังกิน แต่เริ่มรู้สึกไม่โอเค เราจะมีอาการง่วงแต่นอนไม่หลับตลอดเวลา เลยหยุดคะ แล้วก็คงไว้ซึ้งการรับประทานอาหารน้อย แล้วคณะที่เรียนคือทำงานหนักมาก ไม่ค่อยได้นอน อยู่โต้รุ่งเกือบตลอด เลยไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่กินน้อยบางวันไม่กินเลย น้ำหนักขึ้นคะ ขึ้นจนเสื้อนักศึกษาไซต์ M เริ่มคับ พอปิดเทอมปี 1 ได้มีโอกาสรู้จักโรค อนาลอกเซียเป็นครั้งแรก ตัวเองอาการนั้นเลย วันๆไม่กินอะไร ไม่กินจริงๆนะคะ ดูแต่คลิปออกกำลังกาย แล้วก็บ้าคลั่งแบบนั้น จนผอมลงไปมาก น้ำหนักกลับมาอยู่ที่เลข 47 อีกครั้ง หน้าตอบ ตาคล้ำ โทรม เหนือยง่าย
พอปี 2 ก็เรียนเหมือนเดิม เริ่มรู้ว่าตัวเองเป็นโรคจิต เลยพยายามรักษาตัวเอง พยายามฝืนใจทานอาหาร (ที่มีประโยชน์แต่ยังกินน้อย พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย พอปี2 เรียนหนักขึ้น ทำโปรเจคเริ่มมีความเครียดมาก) น้ำหนักขึ้นมาจนเสื้อนักศึกษาใส่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองอ้วนขึ้น จนพอปี 3 เรียนหนัก ทำงานหนัก ต้องไปต่างประเทศด้วย เลยสั่งยาลดน้ำหนักมากินอีกครั้ง แล้วก็อดอาหารๆๆๆๆๆ น้ำหนักก็ลงไปประมาณ 55-56 แต่คงไว้ไม่นาน กลับมาจากต่างประเทศก็ออกกำลังกาย เริ่มเวทเทรนนิ่ง รู้จักการกินคลีน แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วมาก มากจนกลับไปเท่าตอนม.3 เลยคะ ทั้งๆที่เราควบคุมการกินดีมาก โซเดียมต่ำ ไขมันต่ำ โปรตีนสูง เล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ดาร์ดิโอ อาทิตย์ละ 6 วัน พัก 1 วัน แต่ยังเครียดทำโปรเจคที่มหาวิทยาลัยและพักผ่อนน้อย น้ำหนักขึ้นแบบพรวดๆ จากนั้นก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องมีอะไรผิดปกติแน่
****จุดสำคัญที่ทำให้คิดว่าเป็นคือ****
มีอาการบวม คุณแม่บอกว่าบวมโดยเฉพาะขา บวมจนเหมือนจนพิการ คือมันบวมแบบไม่สมส่วน
เรามองว่าคอเราบวม ลองกลืนน้ำแล้วส่องกระจกมันมีลูกคลื่นขึ้นมา แต่ไม่ใช่ลูกกระเดือก
หงุดหงิดง่าย
ออกกำลังกายด้วยการวิ่งที่ความเร็ว 7.5-9 กม.ต่อ ชม.ทุกวัน เป็นเวลา 30-40 นาที แล้วก็เล่นเวทเบาๆแต่น้ำหนักไม่ลง สัดส่วนไม่ลง แถมดูใหญ่ขึ้น
กินน้อยแต่น้ำหนักขึ้น หรือเท่าเดิม
ประจำเดือนมาน้อยมาก บางเดือนมาวันเดียวแล้วหายเลย บางเดือนมาแค่ปวดท้องแล้วหายไปเลย
นอนไม่ค่อยหลับ ต่อให้หลับก็จะตื่นช่วงตี 4-ตี5 ตลอด เวลาตื่นมาจะใจหวิวๆมาก คือหัวใจเต้นแรงมาก (เคยไม่หลับติดต่อกัน 2 วันเพราะทำโปรเจค แต่พอได้นอนก็นอนหลับไม่เต็มที่เลยคะ) ทรมานมาก อยากนอนพักผ่อน คือร่างกายมันเหนื่อย
ความจำไม่ค่อยดี ทั้งๆที่อ่านย้ำๆ จ่อสมาธิ
ท้องอืดง่าย บางทีกินนมแก้วเดียวก็ท้องอืดเลย
ความดันต่ำ ชีพจรเต้นต่ำ ขี้หนาว
เพิ่มเติมคือ ครอบครัวมีประวัติ คุณอาเป็นไทรอยด์ และตอนเด็ก ๆ เป็นหนองในคอหลายครั้ง ต้องไปนอนให้ยาฆ่าเชื้อจนคุณหมอบอกว่าถ้าเป็นอีกคงต้องผ่าออก แล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเข้าโรงพยาบาลเพราะมีอาการไข้ขึ้น อ่อนเพลียมาก อาเจียนคุณหมอตรวจเลือดเพราะคิดว่าเป็นไข้เลือดออกแต่ผลปกติ เม็ดเลือดขาวต่ำกว่าเกณฑ์คือ 9000 แต่ไม่ต่ำขนาดที่เป็นไข้เลือดออกได้ แต่คุณหมอบอกคอบวม ๆ แต่ไม่แดงไม่เจ็บคอ อาจจะติดเชื้อเลยให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ 1 วัน (3 ขวด)
ที่มาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาเพราะ
1 เรากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายคะ มีประกันสุขภาพแต่ก็ทราบว่าประกันไม่คุมเรื่องตรวจหาโรคเอง แล้วค่าใช้จ่ายเราก็ต้องจ่ายเองในการตรวจ จึงอยากได้คำปรึกษาจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่าอาการอย่างเรามันเข้าข่ายไหมคะ แล้ว
2 หากเข้าข่าย ควรตรวจที่โรงพยาบาลไหนดีคะ ที่ค่าตรวจไม่แพงน่ะคะ ไม่อยากให้เกิน 1000 บาท (ปล.อยู่ กทม.คะ)
กระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อเด็กที่กำลังสับสนคนหนึ่งมาก ขอบพระคุณที่กรุณาให้คำแนะนำและหากท่านใดต่อว่าเรื่องการลดน้ำหนักของเรา เราทราบแล้วคะว่ามันผิดและไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง