อ่านย้อนหลังวันที่ 1 เส้นทางสายโรแมนติกเยอรมัน-ออสเตรีย-เชค(ถึงชวานเกาและฟุสเซ่น)
ที่:
http://pantip.com/topic/34632740
=============================
วันที่ 2 ของการเดินทาง 30 เม.ย. 58
:ไปเที่ยวปราสาท Neuschwanstein – Innsbruck นิวชะวานซะไต และขับรถต่อไปนอนที่อิ้นบลูค

=============================
06.00 น. ตื่นนอน ทำอาหารเช้า แค่ไข่ต้ม ขนมปังปิ้ง ไส้กรอก แฮมชีส สลัดผัก
ชงกาแฟ ให้ท่านพ่อท่านแม่ รับประทาน เริ่ดคร้า (ดิฉันกินอย่างเดียว)
เจ้าของบ้านกำชับว่า ไม่ต้องล้างจานนะ ให้วางจานไว้ในซิงค์ล้างจาน
(ไอ่เราคนไทยก็เตรียมซันไล เตรียมสก็อตไบรไปด้วยฮ่ะ)
เปิดตู้ในห้องครัวไปเจอเครื่องล้างจาน ถึงบางอ้อ ก้ออากาศบ้านเค้าหนาวไงคะ
หากต้องให้มือโดนน้ำบ่อยๆ ผิวหนังคงหลุดยุ่ยเป็นแน่แท้
ครั้นจะให้อิคนไทยพวกนี้ใช้เครื่องล้างจานเอง เครื่องล้างจานอาจจะพังได้
07.30 น. ออกเดินทางห่างจากบ้านพักไปแค่สัก 5 นาที คือใกล้บ้านมากๆ
หาที่จอดรถตอนนี้ยังเช้าที่จอดรถยังโล่งมากๆ พวกเราเดินไปซื้อตั๋วขึ้นปราสาท
ซึ่งจะประกอบไปด้วยปราสาทพ่อชื่อ Hohenschwangau เดินขึ้นไปชมได้ค่ะ ไม่สูงมาก
ปราสาทพ่อคือ สีเหลืองๆบนเนินค่ะ
และปราสาทลูกชื่อ Neuschwanstein หรือปราสาทดีสนีย์แลนด์
ที่ตกแต่งไว้อย่างอลังการปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเงินทุนมหาศาล เริ่มตั้งแต่ปี 1868 ถึงปี 1892
อาทิ ห้องทรงงาน ห้องบรรทมห้องฮอลล์ที่ ใช้ในการแสดง โอเปร่า และคอนเสิร์ต
แม้กระทั่งราชาการ์ตูนอย่าง “วอล์ทดิสนีย์”ยังได้จำลองแบบปราสาทแห่งนี้
ไป เป็นปราสาทในเทพนิยายอันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์
ทางขึ้นไปชมปราสาทลูกจะเดินขึ้นไปไกลและสูงหน่อย
สำหรับผู้สูงวัย หรือผู้ร่างกายเหนื่อยง่ายเค้ามีรถม้าให้นั่งเก๋ๆค่ะ (จำราคาค่ารถม้าไม่ได้อ่ะ)
แต่ต้องทนกลิ่นอึน้องม้าด้วย บางทีก็วิ่งไปอึไป ม้าตัวใหญ่แบบคนเยอรมันน่ะค่ะ
สำหรับผู้ร่างกายแข็งแรง หรือบ้าพลังร้อยแรงม้าอย่างดิฉันก็ขอเดินขึ้นเขามันส์กว่าค่ะ
ได้ชมต้นไม้ ลำธาร ริมสองข้างทางเพลินๆ แต่ก้าวเท้าอย่างไวนะ กลัวไปถึงหลังรถม้า ฮ่าๆๆๆ
ปราสาทนอยชวานชไตน์ อยู่บนเนินเขาสูงกว่า 200 เมตรเหนือออบแก่งของแม่น้ำพอลลัท
ที่สร้างจากบัญชาของกษัตริย์ลุควิคที่ 2 ผู้น่าสงสาร และมีชีวิตอย่างอาภัพ
ลุควิคที่ 2 แค่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินโปรดของพระองค์
ถือเป็นปราสาทในจินตนาการอย่างแท้จริง
(ด้านในปราสาทไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพค่ะ)
เมื่อสร้างปราสาทเสร็จ พระองค์กลับไม่มีโอกาสได้เข้าอยู่และเสียชีวิตลงอย่างปริศนา
บ้างว่าท่านฟั่นเฟือนและกำลังจะถูกจองจำจึงกระโดดน้ำตายระหว่างนั่งเรือในทะเลสาปใกล้ปราสาท
บ้างว่าท่านถูกลอบปลงพระชนม์ผลักตกน้ำ คำว่า Schwans แปลว่า หงส์
13.30 น. หลังจากชมปราสาทนอยส์แล้วเราหาร้านพิซซ่าทานใกล้ๆปราสาท
และเดินลงมายังที่จอดรถออกเเดินทางต่อไปยังออสเตรีย
ตามเส้นทางที่ GPS บอก วิวระหว่างทางสวยงามเพราะขนาบด้วยเทือกเขาแอลป์
และผ่านทะเลสาบด้วยมีหลายเมืองที่น่าแวะ แต่เกรงจะไปถึงจุดหมายดึก
เราจึงแวะถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกที่เมืองเล็กๆได้แค่เมืองเดียวชื่อ
Oberammergau พยายามออกเสียงอยู่นานน่าจะอ่านว่า "

โอเบ้ออัมเมอร์เกา)"
เมืองนี้ดูมีเสน่ห์แบบคริสต์ผสมมุสลิม เราอยู่ที่เมืองนี้จนพระอาทิตย์เกือบจะตกดิน
ขับต่อถึง Innsbruck ประเทศออสเตรีย เมืองแห่งคริสตอล ก็ค่ำๆแล้ว
เช็คอินเข้าโรงแรมแต่ไม่มีที่จอดรถ ต้องขับไปหาที่จอดรถสาธารณะใกล้ๆกัน
จึงเกิดเหตุกาณ์ไม่คาดฝัน!!!!
เมื่อส่งสมาชิกทุกคนขนกระเป๋าลงหน้าโรงแรมเรียบร้อย
ดิฉันพร้อม Navigator สาวขับรถวนหาที่จอดรถเรียกได้ว่าจะรอบเมืองแระ
จึงขับกลับมาที่โรงแรมเพื่อให้ Navigator สาวของเรา วิ่งลงไปถามทางอีกครั้ง
แต่.......ในขณะเดียวกันดิฉันเหลือบไปเห็นป้าย "Parking"
ซึ่งเป็นทางลงจอดรถชั้นใต้ดินฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม
ก็กะว่าขับไปจอดแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ไปหาที่โรงแรมก็ได้ คิดว่าแป๊บเดียวหน่า!
แล้ว!!! การนำรถตู้คันยาวลงไปจอดชั้นใต้ดินนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ
รถที่จอดในนี้ ที่นี่เมืองนี้....เป็นรถขนาดเล็กแบบมินิคูเปอร์ซะส่วนใหญ่
ล็อคที่จอดจึงเล็กๆแคบๆ ดิฉันเดินหน้า-ถอยหลัง เข้าๆออกๆอยู่นานมาก
อีกทั้งยังมีรถอีกคันขับออกมาขวางการตีวงอีกต่างหาก = ='
จนลืมเวลาไปเลยว่ากี่นาทีผ่านไป
มือถือดิฉันโทรเข้า-โทรออกไม่ได้ เพราะไม่ได้เปิดบริการโรมมิ่งไว้
คือกะว่าจะรอใช้ wifi free เวลาถึงที่พักแต่ละที่แห่ง
ไม่คิดว่าจะต้องรับสายใครอ่ะจิ ><"
ก็เดินข้ามถนนกลับมาที่โรงแรมแบบชิลๆ อากาศหนาวๆ
ผ่าน Homeless people บ้างนิดหน่อย ดิฉันมองไปยังหน้าโรงแรม
เห็นสาวเอเชียสองคนก้มหน้าก้มตากดมือถือ ใบหน้าเครียดสุดๆ
หน้าตาคุ้นๆ ทันทีที่สองคนเงยหน้าจากมือถือ มาเห็นดิฉัน!!!
สองคน....โผเข้ามากอด น้ำตาคลอ กระโดดดีใจกันมากๆ
สรุปคือเรายืนกอดกัน 3 คนที่หน้าโรงแรม หุหุ!
(นางนึกว่าน้องสาวตัวเองหลงทางค่ะ เฮ้ออออ! Lost in Innsbruck)
ความรักความห่วงใยของพี่น้อง ทริปนี้ประทับใจกึ่งรู้สึกผิดเล็กๆ
ด้วยความหิว รีบขึ้นห้อง ต้มมาม่าในทันที (พกมาเอง) หุหุ
ง่วงมากและหลับไป เมื่อไหร่มะรู้ zzzZZZZ
ข้อมูลจาก 9MOT*
"อินส์บรูค Innsbruck แปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบ ๆ
แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์เดิมเป็น เมืองตากอากาศ
ของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก
เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรีย
ต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นพระนางมาเรีย เทเรเซีย ผู้ยิ่งใหญ่
หรือแม้แต่ นโปเลียน โบนาปาร์ต
พระราชวังตากอากาศที่เมืองอินส์บรูค มีชื่อว่าชลอสอัมราส
ได้รับการขนานนามว่าเชินบรุนน้อยเพราะเชินบรุนคือ
พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิออสเตรีย
ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของการปกครองของจักรวรรดิ
เมื่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างพากันมาตากอากาศที่อินส์บรูค
ชลอสอัมราสและอินส์บรูค จึงเปรียบเสมือน ศูนย์กลางการปกครอง
ในช่วงเวลานั้นไปโดยปริยาย
เมืองนี้หาที่จอดรถยาก จุดถ่ายภาพสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกสวยๆ
ริมแม่น้ำอินส์ หลังคาทองและถนนสวยๆ ที่รายล้อมด้วยตึกเก่าของอินส์บรูค
ตึกสีสวยที่มี เทือกเขาแอลป์ อยู่เบื้องหลังคือ hight light ของเมืองอินส์บรูค"
ไว้พรุ่งนี้ตื่นเช้าออกไปชมเมือง Innsbruck อินส์บรูค กันค่ะ
[CR] รีวิวเส้นทางสายโรแมนติกเยอรมัน ออสเตรีย เชค วันที่ 2
ที่: http://pantip.com/topic/34632740
=============================
วันที่ 2 ของการเดินทาง 30 เม.ย. 58
:ไปเที่ยวปราสาท Neuschwanstein – Innsbruck นิวชะวานซะไต และขับรถต่อไปนอนที่อิ้นบลูค
=============================
06.00 น. ตื่นนอน ทำอาหารเช้า แค่ไข่ต้ม ขนมปังปิ้ง ไส้กรอก แฮมชีส สลัดผัก
ชงกาแฟ ให้ท่านพ่อท่านแม่ รับประทาน เริ่ดคร้า (ดิฉันกินอย่างเดียว)
เจ้าของบ้านกำชับว่า ไม่ต้องล้างจานนะ ให้วางจานไว้ในซิงค์ล้างจาน
(ไอ่เราคนไทยก็เตรียมซันไล เตรียมสก็อตไบรไปด้วยฮ่ะ)
เปิดตู้ในห้องครัวไปเจอเครื่องล้างจาน ถึงบางอ้อ ก้ออากาศบ้านเค้าหนาวไงคะ
หากต้องให้มือโดนน้ำบ่อยๆ ผิวหนังคงหลุดยุ่ยเป็นแน่แท้
ครั้นจะให้อิคนไทยพวกนี้ใช้เครื่องล้างจานเอง เครื่องล้างจานอาจจะพังได้
07.30 น. ออกเดินทางห่างจากบ้านพักไปแค่สัก 5 นาที คือใกล้บ้านมากๆ
หาที่จอดรถตอนนี้ยังเช้าที่จอดรถยังโล่งมากๆ พวกเราเดินไปซื้อตั๋วขึ้นปราสาท
ซึ่งจะประกอบไปด้วยปราสาทพ่อชื่อ Hohenschwangau เดินขึ้นไปชมได้ค่ะ ไม่สูงมาก
ปราสาทพ่อคือ สีเหลืองๆบนเนินค่ะ
และปราสาทลูกชื่อ Neuschwanstein หรือปราสาทดีสนีย์แลนด์
ที่ตกแต่งไว้อย่างอลังการปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเงินทุนมหาศาล เริ่มตั้งแต่ปี 1868 ถึงปี 1892
อาทิ ห้องทรงงาน ห้องบรรทมห้องฮอลล์ที่ ใช้ในการแสดง โอเปร่า และคอนเสิร์ต
แม้กระทั่งราชาการ์ตูนอย่าง “วอล์ทดิสนีย์”ยังได้จำลองแบบปราสาทแห่งนี้
ไป เป็นปราสาทในเทพนิยายอันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์
ทางขึ้นไปชมปราสาทลูกจะเดินขึ้นไปไกลและสูงหน่อย
สำหรับผู้สูงวัย หรือผู้ร่างกายเหนื่อยง่ายเค้ามีรถม้าให้นั่งเก๋ๆค่ะ (จำราคาค่ารถม้าไม่ได้อ่ะ)
แต่ต้องทนกลิ่นอึน้องม้าด้วย บางทีก็วิ่งไปอึไป ม้าตัวใหญ่แบบคนเยอรมันน่ะค่ะ
สำหรับผู้ร่างกายแข็งแรง หรือบ้าพลังร้อยแรงม้าอย่างดิฉันก็ขอเดินขึ้นเขามันส์กว่าค่ะ
ได้ชมต้นไม้ ลำธาร ริมสองข้างทางเพลินๆ แต่ก้าวเท้าอย่างไวนะ กลัวไปถึงหลังรถม้า ฮ่าๆๆๆ
ปราสาทนอยชวานชไตน์ อยู่บนเนินเขาสูงกว่า 200 เมตรเหนือออบแก่งของแม่น้ำพอลลัท
ที่สร้างจากบัญชาของกษัตริย์ลุควิคที่ 2 ผู้น่าสงสาร และมีชีวิตอย่างอาภัพ
ลุควิคที่ 2 แค่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินโปรดของพระองค์
ถือเป็นปราสาทในจินตนาการอย่างแท้จริง
(ด้านในปราสาทไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพค่ะ)
เมื่อสร้างปราสาทเสร็จ พระองค์กลับไม่มีโอกาสได้เข้าอยู่และเสียชีวิตลงอย่างปริศนา
บ้างว่าท่านฟั่นเฟือนและกำลังจะถูกจองจำจึงกระโดดน้ำตายระหว่างนั่งเรือในทะเลสาปใกล้ปราสาท
บ้างว่าท่านถูกลอบปลงพระชนม์ผลักตกน้ำ คำว่า Schwans แปลว่า หงส์
13.30 น. หลังจากชมปราสาทนอยส์แล้วเราหาร้านพิซซ่าทานใกล้ๆปราสาท
และเดินลงมายังที่จอดรถออกเเดินทางต่อไปยังออสเตรีย
ตามเส้นทางที่ GPS บอก วิวระหว่างทางสวยงามเพราะขนาบด้วยเทือกเขาแอลป์
และผ่านทะเลสาบด้วยมีหลายเมืองที่น่าแวะ แต่เกรงจะไปถึงจุดหมายดึก
เราจึงแวะถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกที่เมืองเล็กๆได้แค่เมืองเดียวชื่อ
Oberammergau พยายามออกเสียงอยู่นานน่าจะอ่านว่า "
เมืองนี้ดูมีเสน่ห์แบบคริสต์ผสมมุสลิม เราอยู่ที่เมืองนี้จนพระอาทิตย์เกือบจะตกดิน
ขับต่อถึง Innsbruck ประเทศออสเตรีย เมืองแห่งคริสตอล ก็ค่ำๆแล้ว
เช็คอินเข้าโรงแรมแต่ไม่มีที่จอดรถ ต้องขับไปหาที่จอดรถสาธารณะใกล้ๆกัน
จึงเกิดเหตุกาณ์ไม่คาดฝัน!!!!
เมื่อส่งสมาชิกทุกคนขนกระเป๋าลงหน้าโรงแรมเรียบร้อย
ดิฉันพร้อม Navigator สาวขับรถวนหาที่จอดรถเรียกได้ว่าจะรอบเมืองแระ
จึงขับกลับมาที่โรงแรมเพื่อให้ Navigator สาวของเรา วิ่งลงไปถามทางอีกครั้ง
แต่.......ในขณะเดียวกันดิฉันเหลือบไปเห็นป้าย "Parking"
ซึ่งเป็นทางลงจอดรถชั้นใต้ดินฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม
ก็กะว่าขับไปจอดแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ไปหาที่โรงแรมก็ได้ คิดว่าแป๊บเดียวหน่า!
แล้ว!!! การนำรถตู้คันยาวลงไปจอดชั้นใต้ดินนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ
รถที่จอดในนี้ ที่นี่เมืองนี้....เป็นรถขนาดเล็กแบบมินิคูเปอร์ซะส่วนใหญ่
ล็อคที่จอดจึงเล็กๆแคบๆ ดิฉันเดินหน้า-ถอยหลัง เข้าๆออกๆอยู่นานมาก
อีกทั้งยังมีรถอีกคันขับออกมาขวางการตีวงอีกต่างหาก = ='
จนลืมเวลาไปเลยว่ากี่นาทีผ่านไป
มือถือดิฉันโทรเข้า-โทรออกไม่ได้ เพราะไม่ได้เปิดบริการโรมมิ่งไว้
คือกะว่าจะรอใช้ wifi free เวลาถึงที่พักแต่ละที่แห่ง
ไม่คิดว่าจะต้องรับสายใครอ่ะจิ ><"
ก็เดินข้ามถนนกลับมาที่โรงแรมแบบชิลๆ อากาศหนาวๆ
ผ่าน Homeless people บ้างนิดหน่อย ดิฉันมองไปยังหน้าโรงแรม
เห็นสาวเอเชียสองคนก้มหน้าก้มตากดมือถือ ใบหน้าเครียดสุดๆ
หน้าตาคุ้นๆ ทันทีที่สองคนเงยหน้าจากมือถือ มาเห็นดิฉัน!!!
สองคน....โผเข้ามากอด น้ำตาคลอ กระโดดดีใจกันมากๆ
สรุปคือเรายืนกอดกัน 3 คนที่หน้าโรงแรม หุหุ!
(นางนึกว่าน้องสาวตัวเองหลงทางค่ะ เฮ้ออออ! Lost in Innsbruck)
ความรักความห่วงใยของพี่น้อง ทริปนี้ประทับใจกึ่งรู้สึกผิดเล็กๆ
ด้วยความหิว รีบขึ้นห้อง ต้มมาม่าในทันที (พกมาเอง) หุหุ
ง่วงมากและหลับไป เมื่อไหร่มะรู้ zzzZZZZ
ข้อมูลจาก 9MOT*
"อินส์บรูค Innsbruck แปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบ ๆ
แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์เดิมเป็น เมืองตากอากาศ
ของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก
เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรีย
ต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นพระนางมาเรีย เทเรเซีย ผู้ยิ่งใหญ่
หรือแม้แต่ นโปเลียน โบนาปาร์ต
พระราชวังตากอากาศที่เมืองอินส์บรูค มีชื่อว่าชลอสอัมราส
ได้รับการขนานนามว่าเชินบรุนน้อยเพราะเชินบรุนคือ
พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิออสเตรีย
ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของการปกครองของจักรวรรดิ
เมื่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างพากันมาตากอากาศที่อินส์บรูค
ชลอสอัมราสและอินส์บรูค จึงเปรียบเสมือน ศูนย์กลางการปกครอง
ในช่วงเวลานั้นไปโดยปริยาย
เมืองนี้หาที่จอดรถยาก จุดถ่ายภาพสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกสวยๆ
ริมแม่น้ำอินส์ หลังคาทองและถนนสวยๆ ที่รายล้อมด้วยตึกเก่าของอินส์บรูค
ตึกสีสวยที่มี เทือกเขาแอลป์ อยู่เบื้องหลังคือ hight light ของเมืองอินส์บรูค"
ไว้พรุ่งนี้ตื่นเช้าออกไปชมเมือง Innsbruck อินส์บรูค กันค่ะ