อ่านย้อนหลังวันที่ 2 เส้นทางสายโรแมนติกเยอรมัน ออสเตรีย เชค
เที่ยวปราสาท Neuschwanstein – Innsbruck นิวชะวานซะไต และขับรถต่อไปนอนที่อิ้นบลูค ได้ที่:
http://pantip.com/topic/34635753

====================================
วันที่ 3 เส้นทางสายโรแมนติกเยอรมัน-ออสเตรีย-เชค
(ชมเมือง Innsbruck เข้าพิพิธภัณฑ์ชวารอฟกี้ และไปนอนที่ Hallstatt)
ทบทวนตารางการเที่ยวกันนิดนึงค่ะ เราอยู่กันวันที่ 3 นะคะ

-----------------------------
วันที่ 1 วันที่ 29 เม.ย. Munich – Schwangau มิวนิค - ชวาล์ฟเกา
วันที่ 2 วันที่ 30 เม.ย. Schwangau – Neuschwanstein – Fussen – Innsbruck ชวาล์ฟเกา - นิวชะวานซะไต-ฟุสเซ่น- อิ้นบลูค
วันที่ 3 วันที่ 1 พ.ค. Innsbruck – Hallstatt อิ้นบลูค - ฮอลสแตท
วันที่ 4 วันที่ 2 พ.ค. Hallstatt – Ceskey Krumlov ฮอลสแตท - เชสกี้ ครุมลอฟ
วันที่ 5 วันที่ 3 พ.ค. Ceskey Krumlov – Prague เชสกี้ ครุมลอฟ – ปาร์ค
วันที่ 6 วันที่ 4 พ.ค. Prague ปาร์ค
วันที่ 7 วันที่ 5 พ.ค. Prague – Rothenburg ob der Tauber ปาร์ค - โรเทนบวร์ก
วันที่ 8 วันที่ 6 พ.ค. Rothenburg ob der Tauber - Munich โรเทนบวร์ก - มิวนิค
วันที่ 9 วันที่ 7 พ.ค. Munich มิวนิค
วันที่ 10 วันที่ 8 พ.ค. ขึ้นเครื่องกลับบ้าน
----------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 3 ของการเดินทาง 1 พ.ค. 58 อินส์บรูค-ฮอลสตัท Innsbruck - Hallstatt
มันคือ May Day วันแรงงานจร้า ร้านรวงทุกห้างปิดทำการ หุหุ

08.00 น ตื่นมาทานอาหารเช้าในโรงแรมค่ะ ที่นี่รูปแบบโรงแรมพร้อม Breakfast พร้อมและอยู่ใจกลางเมืองริมแม่น้ำด้วย
ชื่อ "เบสิค โฮเทล อินส์บรูค Basic Hotel Innsbruck"

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินลัดเลาะไปตามถนนในเมืองเพื่อเที่ยวชมอาคารและสถานที่สำคัญต่าง ๆ
ที่เกิดจากศิลปะหลายๆ แบบรวมกันทั้งบาโรค, โกธิคและเรเนซอง มีร้านค้าขายของที่ระลึกเปิดในวันหยุดบ้างประปราย
แถวถนน Maria Theresein หากมีเวลาอาจเยี่ยมชมลานกีฬาฤดูหนาว
ซึ่งต้องขึ้นกระเช้าไปชมสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองอินส์บรูคInnsbruck ทั้งเมืองจากยอดเขาสูง (เราอดขึ้นค่ะ ><)





เช้าวันนี้บรรยากาศเฉอะแฉะ เพราะฝนโรยปรายเบาๆ
พวกเราจึงเดินกางร่มชมเมืองไปเรื่อยเปื่อย











สิ่งที่ประทับใจเมืองนี้นอกจากวิวเทือกเขาแอลป์กลางเมืองแล้ว ก็คือ 3 สิ่งนี้

1)การแยกขยะแบบแยกจริงจัง มีถังขยะหลากชนิดมากๆ


ถังขยะกระดาษ


ถังขยะขวดน้ำพลาสติก


ถังขยะขวดแก้ว


ถังขยะโลหะ


ถังขยะกระป๋อง



2)คนใช้จักรยานกันเป็นส่วนใหญ่



ตู้กดจักรยาน




ตู้กดบุหรี่ไม่เกี่ยวจร้า


3)ปลูกดอกไม้สุดโปรดแบบทิวลิปกันริมถนนคร้า!
ปลูกกันแบบทิ้งขว้าง แต่สวยมากอยากจะเด็ดดอกทิวลิปซะจริงๆ
แต่ก็......"ไม่ควร"..... จึงเก็บมาได้แค่ภาพถ่าย






เกือบๆเที่ยงเรา Check out และออกเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ชวารอฟกี้
คริสตัล เวิร์ล Swarovski Crystal Word  
ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เส้นทางการขับรถไปยัง Swarovski 5-10 นาที
ใครชอบคริสตัลได้เลือกซื้อกันสนุกไปเลย




ช้อปจนเหนื่อยก็ทานอาหารเที่ยงกันในนี้เลยค่ะ

15.00 น ออกจาก Swarovski ยังคงเลือกใช้วิธีเลี่ยงเส้นทางหลัก
มาใช้ถนนสายเล็กที่ผ่าน Gerlos pass แต่ต้องใช้สมาธิในการขับรถ
ผ่านเส้นทางสูงชันกับโค้งหักศอกหลายโค้ง แต่วิวระหว่างทางนั้นสวยงามจับใจมากจริงๆ นี่คือข้อดีของการขับรถเที่ยว
มองไหล่ทางด้านนึงคือเหวค่ะ อีกด้านคือเทือกเขาสวยมากๆ ถนนแคบๆแบบแค่พอให้รถสวนกันได้
แต่สกิวการขับรถของดิฉันเข้าที่เข้าทางแล้ว (เมื่อเทียบกับวันแรกจะขับกินทางเลนชาวบ้านตลอด)

และแล้ววันนี้ก็ได้เวลาที่เราต้องเติมน้ำมัน!!!!!! เลี้ยวรถเข้าปั้ม
เอ้า!!!! ไม่มีเด็กป้ัมให้บริการนะคะ
เอาแระไง! เกิดมาไม่เคยเติมน้ำมันเอง ทำไงล่ะ?

จอดรถดูชาวบ้านเค้าสิคะ อ่ะเคร รู้แระ
ไปจอดตรงถังหัวจ่าย เปิดฝาถังน้ำมันรถเรา เขียนว่า ดีเซล
เราก็หยิบหัวจ่ายดีเซลมา กดจำนวนเงินที่เครื่อง
(คำนวณเอาสิคะ อย่าให้ล้นออกมานอกถังนะคะ!!!)




แล้วเติมใส่ถังน้ำมันรถเรา คอยสังเกตจำนวนเงินที่เครื่อง
และปริมาณน้ำมันในถัง ลุ้นเอาค่ะ
ว่าจะทะลักออกมารึยัง ลุ้นๆๆๆ สรุปว่า "รอดค่ะ"



ยังคะ ยังไม่จบ!
เติมเสร็จก็ขับรถมาจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในปั้มนั่นแหล่ะค่ะ
เดินไปบอกที่เคาท์เตอร์ว่า เติมจากหัวจ่ายเลขที่เท่าไหร่ ของเรา No.3
เค่าจะแจ้งจำนวนเงินให้เราจ่าย ตามที่เรากดไปตะกี้ค่ะ ก็จ่ายตังส์ Euro ไป
เฮ้อออ! จบสิ้นการเติมน้ำมัน เย้ๆๆๆๆดีใจจังเราเติมน้ำมันเองเป็นแล้ววววว

ต่อไปเราขับมุ่งสู่ Hallstatt ฮอลสแตท-ออสเตรีย
(ใช้เวลาขับรถน่าจะสัก 3 ชั่วโมง)
ก่อนเข้าสู่เมืองฮอลสแตท สังเกตง่ายๆคือ....
เราต้องขับรถบนถนนที่ตัดทะลุภูเขา1-2 ลูก
พอออกจากถนนทางที่ทะลุภูเขาออกมา.....
ก็เจอเมืองฮอลสแตทเลย.... เก๋นะคะ!

เมืองนี้เป็นที่นิยมมากๆของชาวเอเชีย เหมือนจะใช้เป็นสถานที่ถ่ายหนัง
หรืออะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงดัง
และด้วยความที่เป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาปอันแสนงาม
17.00 น ถึงเมืองฮอลสเตท คืนนี้เราไม่พักโรงแรมค่ะ
แต่เช็คอินเข้าบ้านของคุณป้า Haus Lidy



จริงๆเมืองนี้สามารถเดินทางได้โดยรถไฟแล้วต่อเรือข้ามมายังเมืองฮอลสแตท
แต่ราคาที่พักและค่าอาหารที่นี่แพงหูฉี่ คงเพราะความนิยม demand-supply นั่นเอง
ที่เที่ยวที่ควรเข้าชมของเมืองนี้คือ "เหมืองเกลือโบราณ" ไว้พรุ่งนี้เราจะไปชมกันค่ะ

เย็นนี้ขอหาอะไรใส่ท้องกันหน่อย คนขับหิวแล้ววววววว