สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน วันนี้อยากจะขอแบ่งปันเกี่ยวกับประสบกาณ์การมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ Innsbruck University ค่ะ ประสบการณ์ที่ได้รับมนต์วิเศษจากเทือกเขา แอลป์...จะเป็นอย่างไรติดตามกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นเลย เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของทุน Erasmus Mundus ค่ะ มาแลกเปลี่ยนที่ออสเตรียเมือง ทั้งหมด 6 เดือนที่
Innsbruck University ทำไมถึงเลือกที่นี่ เมือง Innsbruck เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่อง หุบเขา แล้วหน้าหนาวก็ขึ้นชื่อเรื่องสกี (ฝันไว้ว่าสักครั้งในชีวิตต้องมาเล่นสกีค่ะ) เมืองนี้เป็นเมืองสงบ ผู้คนประมาณ 200000 คนค่ะ โดยถ้าออกมายืนข้างนอก เมื่อเรามอง 360 องศารอบตัวเราจะเห็นเป็นภูเขา เรียกง่ายๆๆว่า..ภูเขาล้อมเมืองค่ะ หาแบบนี้ไม่ได้แล้วนะค่ะ
ส่วนชื่อเมืองนั้น Innsbruck ก็แปลว่า สะพานข้ามแม่น้ำอินส์ Inns เป็นชื่อแม่น้ำ ค่ะ ส่วน Brucker แปลว่าสะพาน ในภาษาเยอรมัน เมืองอินส์บรุกเป็นเมืองหลักของ แคว้น Tirol ในประเทศออสเตรีย.
มหาลัยนี้มีความเก่าแก่เกือบ 500 ปี และเป็นมหาลัยอันดับสองของประเทศออสเตรีย อันดับที่ 200- 250 ของมหาลัยโลกค่ะ โดยมหาลัยที่นี่จะไม่ได้มีเขตรั้วเหมือนมหาวิทยาลัยบ้านเรา จะแยกออกเป็นตึกต่างๆประปนกับบ้านเรือนของผู้คนที่นี่ ตึกก็จะกระจัดระจายไปตามถนนเส้นต่างๆ
ผู้คนที่นี่คนข้างเป็นมิตร นิสัยดีมาก เด็กนักเรียนจะเป็นระเบียบเรียบร้อย คนที่นี่ชอบกินแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่าเบียร์นั้นถูกว่าน้ำอัดลมเสียอีก แต่ขอเน้นย้ำว่าเด็กนักเรียนที่นี่หน้าตาดีมาก มหาลัยที่นี่ไม่มีกีฬาสี ไม่มีแข่งกีฬาคณะ ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องจะเป็นเพื่อนกันและต่างคนต่างอยู่ ไม่มีดาวคณะ หรือว่าคนที่หน้าตาสวยที่สุดในคณะ ไม่มีเชียร์หลีดเดอร์ แต่ที่นี่จะมีงานพรอม.หรือว่างานเต้นรำ ที่มีงานเลี้ยงแบบเป็นทางการ ทุกคนจะต้องใส่ชุดราตรีและชุดสูททางการ รองเท้า เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องแป๊ะ
ส่วนเรื่องภาษาคนที่นี่พูดภาษาเยอรมันแต่เป็น เยอรมันแบบออสเตรีย เป็นภาษาหลัก ( เพื่อนที่มาจากเยอรมันมาเรียนที่ออสเตรียบอกว่ามีความแตกต่างกัน บางครั้งฟังกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร ขนาดพูดภาษาเยอรมันเหมือนกันนะเนี่ย)
ส่วนผู้คนที่นี่ ส่วนมากจะเป็นคนแก่ และเด็ก ค่อนข้างมาก ผู้คนมีระเบียบวินัย ใจดี ของราคาแพงๆตั้งในตู้กระจกโชว์ก็ไม่มีการขโมยอย่างใด และต่างไว้ใจในความซื่อสัตย์ของแต่ละคน ถ้าของหายของก็จะอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน
วันนี้จะพาเพื่อนๆมารู้จักเมืองอินส์บรุกก่อนนะค่ะ..ที่เรามาอยู่ตั้งหกเดือน มาดูกันว่าเมืองนี้สวยขนาดไหน และพิเศษอย่างไร....พร้อมๆกับรับพลังจากเทือกเขาแอลป์ไปพร้อมๆกันนะค่ะ
เริ่มกันเลยนะค่ะเครื่องใกล้ลงที่สนามบิน Innsbruck Airport ค่ะ
อันนี้พอลงจากเครื่องบินจะก็เจอวิวนี้.อันนี้เป็นสนามบินค่ะ...ฉากหลังเป็นภูเขา สวยไหมค่ะ
ถนน Maria- Theresien Str เป็นถนนหลักของเมืองจะมีแหล่งช็อปปิ้ง และที่สำคัญ ..ด้านหน้าเป็นภูเขา ..คนชอบมานั่งตากแดด เดินเล่นที่นี่กันในวันที่อากาศค่ะ
อนุสรณ์ของชื่อว่า Anna Saule เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรุกแล้วก็นั่งท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปที่จุดนี้
Gloden roof ค่ะ หรือหลังคาทองอันเลื่องชื่อ เมื่อมาถึงทุกคนต้องถ่ายภาพนี้ ว่ากันว่าเป็นสิงหบัญชรของจักรพรรดิที่ออสเตรียจะออกมาพบกับประชาชน
บ้านหลายหลายสี มีฉากหลังเป็นภูเขา นักท่องเที่ยวต้องมาจุดนี้ค่ะ.ถือว่าเป็น Must see ของที่นี่กันเลยทีเดียว
ถนนทางเข้าหลังคาทอง
ตึกราบ้านช่องของเมือง คนที่นี่ส่วนมากจะอยู่เป็นบ้าน หรือไม่ก็เป็น Apartment แต่ขอย้ำว่าข้างในหรูหราสุด มีการจัดแต่ง แบ่งสัดส่วนอย่างสวยงาม ที่สำคัญส่วนมากจะมีอ่างอาบน้ำในตัว และห้องครัวต้องมีเครื่องล้างจาก Amazing Austrai
ใกล้หอพักเรามีทะเลสายสวยๆชื่อว่า Baggersee ( See ที่นี่แปลว่า ทะเลสาบค่ะ) สวยไหม
อันนี้เป็นแม่น้ำอินส์ค่ะ
SWAROVSKI - Crystal world มีต้นกำเนิดที่ออสเตรียค่ะ และที่อินส์บรุกเป็นสถานที่ตั้งของคริสตัลเวิร์ดด้วยค่ะ อย่างรูปนี้เป็นสวนหน้าคน เก๋มากค่ะ
ทิวทัศน์รอบเมือง Watten อันเป็นที่ตั้งของ คริสตัลเวิร์ด
Hungerberg สามารถเห็นวิวทั้งเมืองของอินส์บรุกได้ ขอย้ำค่ะว่าแจ่มมาก
อีกภาพระดับสูงขึ้นอีกหน่อย
อีกด้านหนึ่งของภูเขาก็จะเป็นภูเขาหลายๆๆเทือกค่ะ.
Nordkette อันนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่เห็นวิวทั้งเมืองของอินบรุกส์ค่ะ.แล้วที่น่าประทับใจกว่านั้น มีแม่น้ำสีเขียวๆไหลผ่านกลางเมือง ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
มนต์ขลังของธรรมชาติ
First snows คะ ปีนี้มาตั้งแต่เดือนตุลา ประหลาดมาก..แค่คืนเดียวทำให้ทั้งเมืองขาวในพริบตา
อันนี้เป็นวิวจากหน้าต่างห้องนอนเราเอง
มาพิสูจน์ความขาวของหิมะกัน
อันนี้เป็นวิวได้มาจากการ Hiking นะค่ะ
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นไก่ทอดค่ะ อร่อยมาก คู่กับมันฝรั่งดองก็จะมีรสชาติเปรี้ยวๆๆ..
วันนี้ขอตัวก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนที่นี่ แล้วจะพามารู้จักกับมหาลัยนี้กันนะค่ะ.. ความขลังยังมี.ประสบการณ์สุดมันยังคงดำเนินต่อไปค่ะ แล้วติดตามกันต่อนะค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง.เมื่อความฝันของฉันเป็นจริง นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of Innsbruck ตอนที่ 1 รู้จักอินบรุกกันเถอะ
ก่อนอื่นเลย เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของทุน Erasmus Mundus ค่ะ มาแลกเปลี่ยนที่ออสเตรียเมือง ทั้งหมด 6 เดือนที่
Innsbruck University ทำไมถึงเลือกที่นี่ เมือง Innsbruck เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่อง หุบเขา แล้วหน้าหนาวก็ขึ้นชื่อเรื่องสกี (ฝันไว้ว่าสักครั้งในชีวิตต้องมาเล่นสกีค่ะ) เมืองนี้เป็นเมืองสงบ ผู้คนประมาณ 200000 คนค่ะ โดยถ้าออกมายืนข้างนอก เมื่อเรามอง 360 องศารอบตัวเราจะเห็นเป็นภูเขา เรียกง่ายๆๆว่า..ภูเขาล้อมเมืองค่ะ หาแบบนี้ไม่ได้แล้วนะค่ะ
ส่วนชื่อเมืองนั้น Innsbruck ก็แปลว่า สะพานข้ามแม่น้ำอินส์ Inns เป็นชื่อแม่น้ำ ค่ะ ส่วน Brucker แปลว่าสะพาน ในภาษาเยอรมัน เมืองอินส์บรุกเป็นเมืองหลักของ แคว้น Tirol ในประเทศออสเตรีย.
มหาลัยนี้มีความเก่าแก่เกือบ 500 ปี และเป็นมหาลัยอันดับสองของประเทศออสเตรีย อันดับที่ 200- 250 ของมหาลัยโลกค่ะ โดยมหาลัยที่นี่จะไม่ได้มีเขตรั้วเหมือนมหาวิทยาลัยบ้านเรา จะแยกออกเป็นตึกต่างๆประปนกับบ้านเรือนของผู้คนที่นี่ ตึกก็จะกระจัดระจายไปตามถนนเส้นต่างๆ
ผู้คนที่นี่คนข้างเป็นมิตร นิสัยดีมาก เด็กนักเรียนจะเป็นระเบียบเรียบร้อย คนที่นี่ชอบกินแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่าเบียร์นั้นถูกว่าน้ำอัดลมเสียอีก แต่ขอเน้นย้ำว่าเด็กนักเรียนที่นี่หน้าตาดีมาก มหาลัยที่นี่ไม่มีกีฬาสี ไม่มีแข่งกีฬาคณะ ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องจะเป็นเพื่อนกันและต่างคนต่างอยู่ ไม่มีดาวคณะ หรือว่าคนที่หน้าตาสวยที่สุดในคณะ ไม่มีเชียร์หลีดเดอร์ แต่ที่นี่จะมีงานพรอม.หรือว่างานเต้นรำ ที่มีงานเลี้ยงแบบเป็นทางการ ทุกคนจะต้องใส่ชุดราตรีและชุดสูททางการ รองเท้า เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องแป๊ะ
ส่วนเรื่องภาษาคนที่นี่พูดภาษาเยอรมันแต่เป็น เยอรมันแบบออสเตรีย เป็นภาษาหลัก ( เพื่อนที่มาจากเยอรมันมาเรียนที่ออสเตรียบอกว่ามีความแตกต่างกัน บางครั้งฟังกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร ขนาดพูดภาษาเยอรมันเหมือนกันนะเนี่ย)
ส่วนผู้คนที่นี่ ส่วนมากจะเป็นคนแก่ และเด็ก ค่อนข้างมาก ผู้คนมีระเบียบวินัย ใจดี ของราคาแพงๆตั้งในตู้กระจกโชว์ก็ไม่มีการขโมยอย่างใด และต่างไว้ใจในความซื่อสัตย์ของแต่ละคน ถ้าของหายของก็จะอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน
วันนี้จะพาเพื่อนๆมารู้จักเมืองอินส์บรุกก่อนนะค่ะ..ที่เรามาอยู่ตั้งหกเดือน มาดูกันว่าเมืองนี้สวยขนาดไหน และพิเศษอย่างไร....พร้อมๆกับรับพลังจากเทือกเขาแอลป์ไปพร้อมๆกันนะค่ะ
เริ่มกันเลยนะค่ะเครื่องใกล้ลงที่สนามบิน Innsbruck Airport ค่ะ
อันนี้พอลงจากเครื่องบินจะก็เจอวิวนี้.อันนี้เป็นสนามบินค่ะ...ฉากหลังเป็นภูเขา สวยไหมค่ะ
ถนน Maria- Theresien Str เป็นถนนหลักของเมืองจะมีแหล่งช็อปปิ้ง และที่สำคัญ ..ด้านหน้าเป็นภูเขา ..คนชอบมานั่งตากแดด เดินเล่นที่นี่กันในวันที่อากาศค่ะ
อนุสรณ์ของชื่อว่า Anna Saule เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรุกแล้วก็นั่งท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปที่จุดนี้
Gloden roof ค่ะ หรือหลังคาทองอันเลื่องชื่อ เมื่อมาถึงทุกคนต้องถ่ายภาพนี้ ว่ากันว่าเป็นสิงหบัญชรของจักรพรรดิที่ออสเตรียจะออกมาพบกับประชาชน
บ้านหลายหลายสี มีฉากหลังเป็นภูเขา นักท่องเที่ยวต้องมาจุดนี้ค่ะ.ถือว่าเป็น Must see ของที่นี่กันเลยทีเดียว
ถนนทางเข้าหลังคาทอง
ตึกราบ้านช่องของเมือง คนที่นี่ส่วนมากจะอยู่เป็นบ้าน หรือไม่ก็เป็น Apartment แต่ขอย้ำว่าข้างในหรูหราสุด มีการจัดแต่ง แบ่งสัดส่วนอย่างสวยงาม ที่สำคัญส่วนมากจะมีอ่างอาบน้ำในตัว และห้องครัวต้องมีเครื่องล้างจาก Amazing Austrai
ใกล้หอพักเรามีทะเลสายสวยๆชื่อว่า Baggersee ( See ที่นี่แปลว่า ทะเลสาบค่ะ) สวยไหม
อันนี้เป็นแม่น้ำอินส์ค่ะ
SWAROVSKI - Crystal world มีต้นกำเนิดที่ออสเตรียค่ะ และที่อินส์บรุกเป็นสถานที่ตั้งของคริสตัลเวิร์ดด้วยค่ะ อย่างรูปนี้เป็นสวนหน้าคน เก๋มากค่ะ
ทิวทัศน์รอบเมือง Watten อันเป็นที่ตั้งของ คริสตัลเวิร์ด
Hungerberg สามารถเห็นวิวทั้งเมืองของอินส์บรุกได้ ขอย้ำค่ะว่าแจ่มมาก
อีกภาพระดับสูงขึ้นอีกหน่อย
อีกด้านหนึ่งของภูเขาก็จะเป็นภูเขาหลายๆๆเทือกค่ะ.
Nordkette อันนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่เห็นวิวทั้งเมืองของอินบรุกส์ค่ะ.แล้วที่น่าประทับใจกว่านั้น มีแม่น้ำสีเขียวๆไหลผ่านกลางเมือง ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
มนต์ขลังของธรรมชาติ
First snows คะ ปีนี้มาตั้งแต่เดือนตุลา ประหลาดมาก..แค่คืนเดียวทำให้ทั้งเมืองขาวในพริบตา
อันนี้เป็นวิวจากหน้าต่างห้องนอนเราเอง
มาพิสูจน์ความขาวของหิมะกัน
อันนี้เป็นวิวได้มาจากการ Hiking นะค่ะ
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นไก่ทอดค่ะ อร่อยมาก คู่กับมันฝรั่งดองก็จะมีรสชาติเปรี้ยวๆๆ..
วันนี้ขอตัวก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนที่นี่ แล้วจะพามารู้จักกับมหาลัยนี้กันนะค่ะ.. ความขลังยังมี.ประสบการณ์สุดมันยังคงดำเนินต่อไปค่ะ แล้วติดตามกันต่อนะค่ะ