updated: 26 ธ.ค. 2558 เวลา 22:16:36 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวยอย่างการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ทำให้ประเทศนี้เป็นที่จับตาว่ามีการขยายตัวแบบก้าวกระโดดในทศวรรษหน้า ตอกย้ำโดยนักวิจัยของสถาบันการพัฒนานานาชาติ (CID) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า "อินเดียมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี แตกต่างจากประเทศคู่แข่งในเอเชียอย่างจีนที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง" โดยมีอัตราเฉลี่ย 4.3% ต่อปีในช่วงปี 2558-2567
"อินเดียนับว่าเป็นประเทศที่มีความสามารถในด้านการผลิตสูง ทำให้ส่งออกสินค้าได้หลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ยา, ยานพาหนะ และอิเล็กทรอนิกส์" ริคาร์โอ เฮาส์มันน์ ศาสตราจารย์ด้านการปฏิบัติงานการพัฒนาทางเศรษฐกิจ วิทยาลัยเคนเนดี้สกูลแห่งฮาร์วาร์ด และผู้อำนวยการ CID กล่าว
นายเฮาส์มันน์ระบุเพิ่มว่า "ที่ผ่านมาจีนได้รับผลดีจากการส่งออกหลากหลายชนิด ซึ่งผลักดันให้รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงไม่ถึงทศวรรษ เราก็คาดหวังว่าการส่งออกของอินเดียบวกกับศักยภาพในการพัฒนาจะช่วยขับเคลื่อนรายได้ให้สูงขึ้น ทั้งยังผลักดันให้อินเดียขึ้นแท่นผู้นำด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้าด้วย"
ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดว่าอินเดียจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลกปี 2559-2560 โดยจะโตที่ 7.3% และ 7.5% ตามลำดับ สวนกระแสความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก การค้าที่ลดลง และการลงทุนที่ซบเซา สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจระดับโลก เผยว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวราว 7.5% ในปี 2559 และ 8.1% ในปี 2560
ที่ผ่านมา นายกัวซิกบาซู รองประธานอาวุโสของเวิลด์แบงก์ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียที่ได้รับแรงหนุนจากนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้างของนายกรัฐมนตรีโมดิ จะขยายตัวในอัตรามากกว่าจีนช่วงปี 2559-2560 โดยการเติบโตของจีนช่วง 2 ปีข้างหน้า ยังคงอยู่ในระดับสูงแต่จะค่อย ๆ ลดลง ไม่ขยายตัวอย่างร้อนแรงเหมือนในทศวรรษก่อน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลอินเดียคือ พัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวเทียบเท่า หรือแซงหน้าจีนพี่เบิ้มของภูมิภาค
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ รัฐบาลอินเดียมุ่งเน้นด้านการยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก เพราะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งนายโมดิได้ตั้งเป้าภารกิจสำคัญที่จะเปลี่ยนอินเดียให้เป็นศูนย์กลางทางการผลิต เช่นเดียวกับเกาหลีใต้และไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการ เช่น ปัญหารายได้ของเกษตรกรที่ตกต่ำ ผลิตภาพที่ต่ำ และปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญถึงฝีมือการบริหารจัดการของนายโมดิ ที่ขณะนี้เริ่มมีประชาชนอินเดียไม่พอใจกับผลงานบ้างแล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1451128649 
แนวโน้ม ศก. "อินเดีย" สดใส โค่นจีนขึ้นแท่นประเทศโตเร็วสุด
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวยอย่างการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ทำให้ประเทศนี้เป็นที่จับตาว่ามีการขยายตัวแบบก้าวกระโดดในทศวรรษหน้า ตอกย้ำโดยนักวิจัยของสถาบันการพัฒนานานาชาติ (CID) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า "อินเดียมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี แตกต่างจากประเทศคู่แข่งในเอเชียอย่างจีนที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง" โดยมีอัตราเฉลี่ย 4.3% ต่อปีในช่วงปี 2558-2567
"อินเดียนับว่าเป็นประเทศที่มีความสามารถในด้านการผลิตสูง ทำให้ส่งออกสินค้าได้หลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ยา, ยานพาหนะ และอิเล็กทรอนิกส์" ริคาร์โอ เฮาส์มันน์ ศาสตราจารย์ด้านการปฏิบัติงานการพัฒนาทางเศรษฐกิจ วิทยาลัยเคนเนดี้สกูลแห่งฮาร์วาร์ด และผู้อำนวยการ CID กล่าว
นายเฮาส์มันน์ระบุเพิ่มว่า "ที่ผ่านมาจีนได้รับผลดีจากการส่งออกหลากหลายชนิด ซึ่งผลักดันให้รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงไม่ถึงทศวรรษ เราก็คาดหวังว่าการส่งออกของอินเดียบวกกับศักยภาพในการพัฒนาจะช่วยขับเคลื่อนรายได้ให้สูงขึ้น ทั้งยังผลักดันให้อินเดียขึ้นแท่นผู้นำด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้าด้วย"
ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดว่าอินเดียจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลกปี 2559-2560 โดยจะโตที่ 7.3% และ 7.5% ตามลำดับ สวนกระแสความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก การค้าที่ลดลง และการลงทุนที่ซบเซา สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจระดับโลก เผยว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวราว 7.5% ในปี 2559 และ 8.1% ในปี 2560
ที่ผ่านมา นายกัวซิกบาซู รองประธานอาวุโสของเวิลด์แบงก์ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียที่ได้รับแรงหนุนจากนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้างของนายกรัฐมนตรีโมดิ จะขยายตัวในอัตรามากกว่าจีนช่วงปี 2559-2560 โดยการเติบโตของจีนช่วง 2 ปีข้างหน้า ยังคงอยู่ในระดับสูงแต่จะค่อย ๆ ลดลง ไม่ขยายตัวอย่างร้อนแรงเหมือนในทศวรรษก่อน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลอินเดียคือ พัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวเทียบเท่า หรือแซงหน้าจีนพี่เบิ้มของภูมิภาค
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ รัฐบาลอินเดียมุ่งเน้นด้านการยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก เพราะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งนายโมดิได้ตั้งเป้าภารกิจสำคัญที่จะเปลี่ยนอินเดียให้เป็นศูนย์กลางทางการผลิต เช่นเดียวกับเกาหลีใต้และไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการ เช่น ปัญหารายได้ของเกษตรกรที่ตกต่ำ ผลิตภาพที่ต่ำ และปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญถึงฝีมือการบริหารจัดการของนายโมดิ ที่ขณะนี้เริ่มมีประชาชนอินเดียไม่พอใจกับผลงานบ้างแล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1451128649