คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 45
มาตอบคุณห่านป่าในความเห็นที่ 39 และ 43 ค่ะ
คุณรู้ได้อย่างไรค่ะว่าคนอื่นเขาใช้ความคิดแบบปรนัย และคุณเคยเข้าใจคำว่ามนุษย์คือสัตว์โลกที่มีความหลากหลายในพันธุกรรมและความคิดไหมค่ะ หากมองในทางกลับกันแล้วดิฉันก็ไม่เคยเห็นคนอีกฝ่ายเขาใช้วาทกรรมโจมตีคนอื่นเป็นสีดำทั้งหมดนี่ค่ะ เช่นกรณีไม่รักชาติ โกง โง่ จน ฯลฯ นี่เป็นวาทกรรมของฝ่ายไหนกันแน่ค่ะที่แบ่งแยกความขาว-ดำชัดเจนในจิตใจคนโดยเฉพาะคนในชาติเดียวกัน และสิ่งที่ดิฉันตกใจในแนวคิดคุณห่านป่าก็คือคุณยังกล้ายกตัวอย่างคำว่า "วาทกรรมบิดเบือน พูดไม่ครบ เอาดีใส่ตัว สร้างชั่วให้คนอื่น" มาอ้างเป็นประเด็นในการเสริมแนวคิดของตัวเอง นี่คือการลืมสำรวจตัวเองโดยแท้จริงอย่างเต็มรูปแบบนะค่ะ อยากให้คุณลองกลับไปพิจารณาดูเสียใหม่ว่าตัวอย่างนั้นใครเป็นคนทำเสียจนติดเป็นภาพลักษณ์ประจำพรรคการเมืองของตัวเอง
สิ่งที่คุณบอกดิฉันว่าเป็นการมโนล้วนๆทั้งที่ดิฉันพยายามยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและปรากฏแก่สายตาประชาชนมากที่สุดมาให้ผู้อ่านดู แต่คุณห่านป่ากลับมองไม่เห็นภาพนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนว่าใครกันแน่ที่ไม่พิจารณาบริบทการเมือง
ในโลกนี้ยากนักที่ใครจะทำอะไรได้ถูกใจคนทั้งประเทศไปหมดเสียทุกคน การบริหารประเทศบางครั้งมันก็เหมือนการแก้ปัญหากองน้ำที่ขังอยู่บนกองผ้าใบ ในกรณีที่ไม่สามารถเอาน้ำออกจากกองผ้าใบได้จนหมดคุณเลื่อนน้ำจากจุดหนึ่งให้มันแห้งแน่นอนน้ำก็ต้องไหลไปกองกันอยู่อีกที่หนึ่งแทนที่เดิม มีคนได้ประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล ก็ย่อมที่จะมีคนเสียประโยชน์จากโครงการของรัฐบาลเช่นกัน ฉะนั้นแล้วดิฉันเข้าใจคำที่คุณพูดว่าว่า "แม้จะไม่ดีเลิศ ประเสริฐศรี มณีเด้ง" แน่นอนค่ะเป็นเรื่องธรรมดามากจริงๆสำหรับมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม แต่ทางฝ่ายคุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจตรงนี้หรือไม่ดิฉันก็เกินจะคาดเดาแต่โดยรูปธรรมแล้วเห็นน้อยมากจนแทบจะมองไม่เห็นนะค่ะ โยนความผิดให้พ้นตัวตลอด
และคุณไม่ต้องห่วงเลยนะค่ะว่าใครจะมองไม่เห็นเรื่อง "ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๗ และตอนที่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็พอ เราจะเห็นว่า...เหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้น....วุ่นวายขนาดไหน" ดิฉันเชื่อว่าเพื่อนร่วมประเทศของเราเห็นนะค่ะว่าต้นเหตุแห่งความวุ่นวายเกิดจากอะไร กระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระต่างๆได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางให้ปรากฏต่อหน้าประชาชนหรือไม่ ทุกคนมีวิจารณญาณในการเสพประสบการณ์ที่ได้รับนะค่ะ อย่าคิดว่าเพื่อนร่วมประเทศเราจะมองไม่ออกนะค่ะ ประกอบกับความไร้มารยาททางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ที่ไปดึงคนจากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยแลกกับตำแหน่งในกระทรวงที่สำคัญต่างๆ เพียงเพื่ออยากให้คุณอภิสิทธิ์ได้มีโอกาสนั่งเก้าอีนายกรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรมในพฤติกรรมและรองรับพฤติกรรมเยี่ยงนี้ด้วยคำว่ากลไกรัฐสภา นี่คือต้นเหตุจากความวุ่นวายที่แท้จริงนะค่ะ ลองกลับไปทบทวนดูให้ดีหากคุณยังเป็นหนึ่งคนที่ยังศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยฯ
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมในสมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ทำไมคุณไม่มองว่าการขึ้นดำรงตำแหน่งของคุณอภิสิทธิ์เป็นเรื่องไม่ชอบธรรมและเสียมารยาททางการเมืองละค่ะ เป้าหมายหลักของผู้ชุมนุมเขาเพียงแค่ต้องการให้คุณอภิสิทธิ์ยุบสภาแล้วเลือกตั้งกันใหม่เท่านั้น และดิฉันต้องมาทึ่งกับคุณห่านป่าอีกครั้งว่า ณ เวลานั้นบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี , คุณอภิสิทธิ์ เพียรพยายามหาทางออกแบบสันติแต่...คนเสื้อแดงก็พยายามใช้ความรุนแรงเพื่อเป้าหมายทางการเมืองถึงขั้นพยายามจับตัวทำร้ายนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คุณอภิสิทธิ์....กลายเป็นเป้าการโจมตี ชนิดเอาถึงตาย จากคนเสื้อแดง , ตลอดเวลาสองปีเศษที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ แทบจะไม่มีสักวันเดียวที่ไม่ถูกกดดันปัญหาใหญ่น้อย คุณห่านป่าค่ะการพยายามหาทางออกอย่างสันติของคุณคือการลากเอาอาวุธสงคราม เอารถถังมาปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมหรือค่ะ ดิฉันจำไม่ผิดก่อนที่จะมีการเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนจริง ทางแกนนำคนเสื้อแดงได้ขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุมไปก่อนหน้านั้นแล้ว และได้มีการเจรจาไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามในการเข้าสลายการชุมนุมจากตัวแทนแล้ว และตัวกลางในการเจรจาครั้งนั้นก็มีอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ด้วยแต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล ทำให้เหตุการณ์นั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก นี่หรือค่ะสันติของคุณ และหลังจากที่คนเสื้อแดงได้ถูกสลายการชุมนุมไปแล้วมีใครไปขัดแข้งขัดขาการทำงานของคุณอภิสิทธิ์หรือค่ะ เขาปล่อยให้พวกคุณทำจนหมดวาระแต่ผลงานไม่เข้าตาประชาชนเองคุณยังจะไปโทษคนอื่นได้อย่างเหลือเชื่อ
"แม้จะพ่ายแพ้เลือกตั้ง ต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่คุณอภิสิทธิ์ ก็ยังทำหน้าที่อย่างน่าชื่นชมยิ่ง" นี่น่าชื่นชมหรือค่ะ ลูกพรรคคุณอภิสิทธิ์มีการจัดตั้งทีมประท้วงกันจนหาสาระไม่ได้ การทุ่มเก้าอี้ใส่เพื่อนสมาชิกสภา การลากเก้าอี้ประธานสภา ฯลฯ ส่วนนอกสภาก็ร่วมกันเป่านกหวีดปิดประเทศ ไล่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยการเอาเรื่องปฏิรูปมาอ้าง ดูถูกชนชั้นระหว่างคนเมืองกับคนต่างจังหวัด แบ่งแบกชนชั้น คิดว่าเสียงตัวเองมีคุณภาพมากกว่าคนอื่น คนอื่นโง่ เลว โกง ฯลฯ ตัวเองเป็นคนดี นี่คือสิ่งที่สร้างสรรค์และน่าชื่นชมหรือไม่ค่ะ
และที่คุณมาตลกปิดท้ายกับคำว่า "เราหาได้อีกมั้ยในประเทศไทยเรา .นักการเมืองแบบต้องฝ่าฟันเต็ม ๑๐๐ แบบคุณอภิสิทธิ์" ดิฉันขอตอบสั้นๆเลยนะค่ะ หาไม่ได้ค่ะนักการเมืองที่โชคดีแบบคุณอภิสิทธิ์ ได้เปรียบเขาทุกอย่างแต่ไม่มีปัญญาเลือกตั้งชนะใคร หาไม่ได้อีกแล้วแน่นอนค่ะ
ส่วนเรื่องที่คุณว่า ทำไม "พี่น้องคนเสื้อแดงจึงไปไม่ถึงฝันฝันสักที่ แหกโค้งลงข้างทาง ทั้งที่มีพลังเหลือเฟือ ก็เพราะไม่ยอมรับความเห็นต่าง ไม่รู้จักนำความเห็นต่างมาศึกษา...ให้รู้เขารู้เรา" คุณห่านป่าลองมองกลับไปทางตัวเองดูนะค่ะว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่แข็งกร้าวต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่ยอมปรองดองด้วย อยากไล่พวกคิดต่างออกนอกประเทศ ฯลฯ ที่สำคัญคือไม่กล้าที่จะให้ประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนตัดสินในความเห็นต่างผ่านคูหาเลือกตั้ง แบบนี้มันสะท้อนให้เห็นนะค่ะว่าใครที่ไม่ยอมรับความเห็นต่างค่ะ
คุณรู้ได้อย่างไรค่ะว่าคนอื่นเขาใช้ความคิดแบบปรนัย และคุณเคยเข้าใจคำว่ามนุษย์คือสัตว์โลกที่มีความหลากหลายในพันธุกรรมและความคิดไหมค่ะ หากมองในทางกลับกันแล้วดิฉันก็ไม่เคยเห็นคนอีกฝ่ายเขาใช้วาทกรรมโจมตีคนอื่นเป็นสีดำทั้งหมดนี่ค่ะ เช่นกรณีไม่รักชาติ โกง โง่ จน ฯลฯ นี่เป็นวาทกรรมของฝ่ายไหนกันแน่ค่ะที่แบ่งแยกความขาว-ดำชัดเจนในจิตใจคนโดยเฉพาะคนในชาติเดียวกัน และสิ่งที่ดิฉันตกใจในแนวคิดคุณห่านป่าก็คือคุณยังกล้ายกตัวอย่างคำว่า "วาทกรรมบิดเบือน พูดไม่ครบ เอาดีใส่ตัว สร้างชั่วให้คนอื่น" มาอ้างเป็นประเด็นในการเสริมแนวคิดของตัวเอง นี่คือการลืมสำรวจตัวเองโดยแท้จริงอย่างเต็มรูปแบบนะค่ะ อยากให้คุณลองกลับไปพิจารณาดูเสียใหม่ว่าตัวอย่างนั้นใครเป็นคนทำเสียจนติดเป็นภาพลักษณ์ประจำพรรคการเมืองของตัวเอง
สิ่งที่คุณบอกดิฉันว่าเป็นการมโนล้วนๆทั้งที่ดิฉันพยายามยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและปรากฏแก่สายตาประชาชนมากที่สุดมาให้ผู้อ่านดู แต่คุณห่านป่ากลับมองไม่เห็นภาพนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนว่าใครกันแน่ที่ไม่พิจารณาบริบทการเมือง
ในโลกนี้ยากนักที่ใครจะทำอะไรได้ถูกใจคนทั้งประเทศไปหมดเสียทุกคน การบริหารประเทศบางครั้งมันก็เหมือนการแก้ปัญหากองน้ำที่ขังอยู่บนกองผ้าใบ ในกรณีที่ไม่สามารถเอาน้ำออกจากกองผ้าใบได้จนหมดคุณเลื่อนน้ำจากจุดหนึ่งให้มันแห้งแน่นอนน้ำก็ต้องไหลไปกองกันอยู่อีกที่หนึ่งแทนที่เดิม มีคนได้ประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล ก็ย่อมที่จะมีคนเสียประโยชน์จากโครงการของรัฐบาลเช่นกัน ฉะนั้นแล้วดิฉันเข้าใจคำที่คุณพูดว่าว่า "แม้จะไม่ดีเลิศ ประเสริฐศรี มณีเด้ง" แน่นอนค่ะเป็นเรื่องธรรมดามากจริงๆสำหรับมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม แต่ทางฝ่ายคุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจตรงนี้หรือไม่ดิฉันก็เกินจะคาดเดาแต่โดยรูปธรรมแล้วเห็นน้อยมากจนแทบจะมองไม่เห็นนะค่ะ โยนความผิดให้พ้นตัวตลอด
และคุณไม่ต้องห่วงเลยนะค่ะว่าใครจะมองไม่เห็นเรื่อง "ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๗ และตอนที่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็พอ เราจะเห็นว่า...เหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้น....วุ่นวายขนาดไหน" ดิฉันเชื่อว่าเพื่อนร่วมประเทศของเราเห็นนะค่ะว่าต้นเหตุแห่งความวุ่นวายเกิดจากอะไร กระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระต่างๆได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางให้ปรากฏต่อหน้าประชาชนหรือไม่ ทุกคนมีวิจารณญาณในการเสพประสบการณ์ที่ได้รับนะค่ะ อย่าคิดว่าเพื่อนร่วมประเทศเราจะมองไม่ออกนะค่ะ ประกอบกับความไร้มารยาททางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ที่ไปดึงคนจากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยแลกกับตำแหน่งในกระทรวงที่สำคัญต่างๆ เพียงเพื่ออยากให้คุณอภิสิทธิ์ได้มีโอกาสนั่งเก้าอีนายกรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรมในพฤติกรรมและรองรับพฤติกรรมเยี่ยงนี้ด้วยคำว่ากลไกรัฐสภา นี่คือต้นเหตุจากความวุ่นวายที่แท้จริงนะค่ะ ลองกลับไปทบทวนดูให้ดีหากคุณยังเป็นหนึ่งคนที่ยังศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยฯ
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมในสมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ทำไมคุณไม่มองว่าการขึ้นดำรงตำแหน่งของคุณอภิสิทธิ์เป็นเรื่องไม่ชอบธรรมและเสียมารยาททางการเมืองละค่ะ เป้าหมายหลักของผู้ชุมนุมเขาเพียงแค่ต้องการให้คุณอภิสิทธิ์ยุบสภาแล้วเลือกตั้งกันใหม่เท่านั้น และดิฉันต้องมาทึ่งกับคุณห่านป่าอีกครั้งว่า ณ เวลานั้นบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี , คุณอภิสิทธิ์ เพียรพยายามหาทางออกแบบสันติแต่...คนเสื้อแดงก็พยายามใช้ความรุนแรงเพื่อเป้าหมายทางการเมืองถึงขั้นพยายามจับตัวทำร้ายนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คุณอภิสิทธิ์....กลายเป็นเป้าการโจมตี ชนิดเอาถึงตาย จากคนเสื้อแดง , ตลอดเวลาสองปีเศษที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ แทบจะไม่มีสักวันเดียวที่ไม่ถูกกดดันปัญหาใหญ่น้อย คุณห่านป่าค่ะการพยายามหาทางออกอย่างสันติของคุณคือการลากเอาอาวุธสงคราม เอารถถังมาปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมหรือค่ะ ดิฉันจำไม่ผิดก่อนที่จะมีการเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนจริง ทางแกนนำคนเสื้อแดงได้ขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุมไปก่อนหน้านั้นแล้ว และได้มีการเจรจาไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามในการเข้าสลายการชุมนุมจากตัวแทนแล้ว และตัวกลางในการเจรจาครั้งนั้นก็มีอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ด้วยแต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล ทำให้เหตุการณ์นั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก นี่หรือค่ะสันติของคุณ และหลังจากที่คนเสื้อแดงได้ถูกสลายการชุมนุมไปแล้วมีใครไปขัดแข้งขัดขาการทำงานของคุณอภิสิทธิ์หรือค่ะ เขาปล่อยให้พวกคุณทำจนหมดวาระแต่ผลงานไม่เข้าตาประชาชนเองคุณยังจะไปโทษคนอื่นได้อย่างเหลือเชื่อ
"แม้จะพ่ายแพ้เลือกตั้ง ต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่คุณอภิสิทธิ์ ก็ยังทำหน้าที่อย่างน่าชื่นชมยิ่ง" นี่น่าชื่นชมหรือค่ะ ลูกพรรคคุณอภิสิทธิ์มีการจัดตั้งทีมประท้วงกันจนหาสาระไม่ได้ การทุ่มเก้าอี้ใส่เพื่อนสมาชิกสภา การลากเก้าอี้ประธานสภา ฯลฯ ส่วนนอกสภาก็ร่วมกันเป่านกหวีดปิดประเทศ ไล่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยการเอาเรื่องปฏิรูปมาอ้าง ดูถูกชนชั้นระหว่างคนเมืองกับคนต่างจังหวัด แบ่งแบกชนชั้น คิดว่าเสียงตัวเองมีคุณภาพมากกว่าคนอื่น คนอื่นโง่ เลว โกง ฯลฯ ตัวเองเป็นคนดี นี่คือสิ่งที่สร้างสรรค์และน่าชื่นชมหรือไม่ค่ะ
และที่คุณมาตลกปิดท้ายกับคำว่า "เราหาได้อีกมั้ยในประเทศไทยเรา .นักการเมืองแบบต้องฝ่าฟันเต็ม ๑๐๐ แบบคุณอภิสิทธิ์" ดิฉันขอตอบสั้นๆเลยนะค่ะ หาไม่ได้ค่ะนักการเมืองที่โชคดีแบบคุณอภิสิทธิ์ ได้เปรียบเขาทุกอย่างแต่ไม่มีปัญญาเลือกตั้งชนะใคร หาไม่ได้อีกแล้วแน่นอนค่ะ
ส่วนเรื่องที่คุณว่า ทำไม "พี่น้องคนเสื้อแดงจึงไปไม่ถึงฝันฝันสักที่ แหกโค้งลงข้างทาง ทั้งที่มีพลังเหลือเฟือ ก็เพราะไม่ยอมรับความเห็นต่าง ไม่รู้จักนำความเห็นต่างมาศึกษา...ให้รู้เขารู้เรา" คุณห่านป่าลองมองกลับไปทางตัวเองดูนะค่ะว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่แข็งกร้าวต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่ยอมปรองดองด้วย อยากไล่พวกคิดต่างออกนอกประเทศ ฯลฯ ที่สำคัญคือไม่กล้าที่จะให้ประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนตัดสินในความเห็นต่างผ่านคูหาเลือกตั้ง แบบนี้มันสะท้อนให้เห็นนะค่ะว่าใครที่ไม่ยอมรับความเห็นต่างค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
มาตอบคุณห่านป่านะค่ะ
ก่อนอื่นดิฉันต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าดิฉันไม่ได้มาสู้เพื่อพรรคเพื่อไทย เพื่อคุณทักษิณหรือคุณยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น หลายครั้งที่ดิฉันต้องปะทะคารมกับคนเสื้อแดงในเวปนี้ก็เคยมี แต่ทุกถ้อยความที่กล่าวมาในกระทู้นั้นมันบ่งบอกถึงความรู้สึกต่อพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งที่สมควรจะสร้างผลงานให้สมกับชื่อพรรคประชาธิปัตย์ที่สื่อถึงประชาธิปไตยโดยตรงแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม คุณบอกให้ดิฉันพิจารณาที่เหตุด้วย เหตุที่ว่าคืออะไรเหรอค่ะ เหตุที่อยากบริหารประเทศเองโดยใช้วาทกรรมโจมตีผู้อื่น ผลักดันฝ่ายตรงข้ามให้ภาพลักษณ์เป็นคนไม่ดี ไม่รักชาติ โกง ฯลฯ อย่างนั้นหรือค่ะ ในขณะเดียวกันผลงานตัวเองกับไม่เป็นที่ปรากฏในเรื่องทีดี ซึ่งมันเป็นเหตุที่แท้จริงที่ประชาชนเขาไม่เลือกพวกคุณ ทำไมคุณไม่มองเหตุนี้บ้างละค่ะ
สิ่งที่คุณบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานเพื่อสาธารณะไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม มันสาธารณะจริงค่ะ แต่เป็นสาธารณะในทางเลวร้ายจนเดือดร้อนกันทั้งประเทศ หากคุณมานั่งภูมิใจกับผลงานเพื่อสาธารณะของคุณเช่นนี้ ขอความกรุณาอยู่เฉยๆจักเป็นพระคุณต่อประเทศชาติมากกว่านะค่ะ ดิฉันคงไม่สาธยายอะไรมากว่าไปทำอะไรมาบ้างนะค่ะ น่าจะเห็นๆกันอยู่ แล้วอย่าบอกนะค่ะว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่เชื่อ
คุณกำลังจะสื่อว่ารูปแบบการบริหารพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่าพรรคอื่น เรื่องรูปแบบการบริหารพรรคมันจะดีไม่ดียังไงมันก็เรื่องของพรรคคุณค่ะ แต่ในเรื่องการทำหน้าที่ในสภาช่วยทำหน้าที่ให้ดีเหมือนกับระบอบที่คุณเชิดชูด้วยนะค่ะ ส่วนนอกสภาไม่ต้องพูดถึงการเข้าทำการปิดประเทศนี่คือสิ่งเลวร้ายที่ประเทศไทยได้ประสบและส่งผลกับประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่หรือค่ะรูปแบบพรรคที่คุณภาคภูมิใจ
และที่ตลกปิดท้ายสำหรับคุณห่านป่าก็คือคุณเอาคุณอภิสิทธิ์ที่เป็นอดีตนายกฯที่ไม่เคยชนะการเลือกตั้งมาเชิดชูอยู่เหนือคนที่เขาชนะการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเข้าสู่การเมืองด้วยความมุ่งมั่นแต่วัยหนุ่มผ่านการเลือกตั้งตามครรลองระบอบประชาธิปไตย.. ตลกมากค่ะ แล้วบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อคิดว่าตัวเองสู้ไม่ได้นี่เหรอค่ะครรลองประชาธิปไตย ร่วมเป่านกหวีดไล่คนที่มาจากการเลือกตั้ง นี่เหรอค่ะครรลองประชาธิปไตย หากเป็นคนอื่นดิฉันคงจะไม่สมเพช แต่นี่เขาคือหัวหน้าพรรคที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศกลับมาทำตัวได้เช่นนี้ แย่นะค่ะ
ก่อนอื่นดิฉันต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าดิฉันไม่ได้มาสู้เพื่อพรรคเพื่อไทย เพื่อคุณทักษิณหรือคุณยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น หลายครั้งที่ดิฉันต้องปะทะคารมกับคนเสื้อแดงในเวปนี้ก็เคยมี แต่ทุกถ้อยความที่กล่าวมาในกระทู้นั้นมันบ่งบอกถึงความรู้สึกต่อพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งที่สมควรจะสร้างผลงานให้สมกับชื่อพรรคประชาธิปัตย์ที่สื่อถึงประชาธิปไตยโดยตรงแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม คุณบอกให้ดิฉันพิจารณาที่เหตุด้วย เหตุที่ว่าคืออะไรเหรอค่ะ เหตุที่อยากบริหารประเทศเองโดยใช้วาทกรรมโจมตีผู้อื่น ผลักดันฝ่ายตรงข้ามให้ภาพลักษณ์เป็นคนไม่ดี ไม่รักชาติ โกง ฯลฯ อย่างนั้นหรือค่ะ ในขณะเดียวกันผลงานตัวเองกับไม่เป็นที่ปรากฏในเรื่องทีดี ซึ่งมันเป็นเหตุที่แท้จริงที่ประชาชนเขาไม่เลือกพวกคุณ ทำไมคุณไม่มองเหตุนี้บ้างละค่ะ
สิ่งที่คุณบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานเพื่อสาธารณะไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม มันสาธารณะจริงค่ะ แต่เป็นสาธารณะในทางเลวร้ายจนเดือดร้อนกันทั้งประเทศ หากคุณมานั่งภูมิใจกับผลงานเพื่อสาธารณะของคุณเช่นนี้ ขอความกรุณาอยู่เฉยๆจักเป็นพระคุณต่อประเทศชาติมากกว่านะค่ะ ดิฉันคงไม่สาธยายอะไรมากว่าไปทำอะไรมาบ้างนะค่ะ น่าจะเห็นๆกันอยู่ แล้วอย่าบอกนะค่ะว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่เชื่อ
คุณกำลังจะสื่อว่ารูปแบบการบริหารพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่าพรรคอื่น เรื่องรูปแบบการบริหารพรรคมันจะดีไม่ดียังไงมันก็เรื่องของพรรคคุณค่ะ แต่ในเรื่องการทำหน้าที่ในสภาช่วยทำหน้าที่ให้ดีเหมือนกับระบอบที่คุณเชิดชูด้วยนะค่ะ ส่วนนอกสภาไม่ต้องพูดถึงการเข้าทำการปิดประเทศนี่คือสิ่งเลวร้ายที่ประเทศไทยได้ประสบและส่งผลกับประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่หรือค่ะรูปแบบพรรคที่คุณภาคภูมิใจ
และที่ตลกปิดท้ายสำหรับคุณห่านป่าก็คือคุณเอาคุณอภิสิทธิ์ที่เป็นอดีตนายกฯที่ไม่เคยชนะการเลือกตั้งมาเชิดชูอยู่เหนือคนที่เขาชนะการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเข้าสู่การเมืองด้วยความมุ่งมั่นแต่วัยหนุ่มผ่านการเลือกตั้งตามครรลองระบอบประชาธิปไตย.. ตลกมากค่ะ แล้วบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อคิดว่าตัวเองสู้ไม่ได้นี่เหรอค่ะครรลองประชาธิปไตย ร่วมเป่านกหวีดไล่คนที่มาจากการเลือกตั้ง นี่เหรอค่ะครรลองประชาธิปไตย หากเป็นคนอื่นดิฉันคงจะไม่สมเพช แต่นี่เขาคือหัวหน้าพรรคที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศกลับมาทำตัวได้เช่นนี้ แย่นะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
เขียนได้ดีมากๆ เลยค่ะ 


มาร์คต้นทุนทางการเมืองสูงกว่าใคร ทั้งชาติตระกูล การศึกษา โอกาส ฯลฯ แล้วยังเข้าสู่เส้นทางการเมืองตั้งแต่อายุน้อย
ได้รับการตอบรับอย่างดี ถือเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังของประชาชน หากเขาทำตัวดีๆ ยึดถือหลักการและความถูกต้อง
ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเหนื่อย หรือฝ่าฟัน แต่เขาจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน คิดว่าสิ่งที่ทำลายเขาคือ
1. สังกัดพรรค ปชป. ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นพรรคโบราณ ยึดกับระบบเดิมๆ ในพรรคเต็มไปด้วยลูกท่านหลานเธอ
และนักกฎหมายหัวหมอ คิดแต่จะรักษาผลประโยชน์โดยไม่ได้เข้าถึงประชาชน ไม่ได้สร้างนโยบายดีๆ ตอบโจทย์ชาวบ้าน
หากมาร์คเข้าไปแล้วถ้าสามารถปฏิรูปพรรคได้ ก็คงดี แต่พรรคก็อยู่ใต้ร่มเงาคนแบบสุเทพ
2. ยึดนายหัวชวนเป็นไอดอล ในขณะที่นายกทักษิณชูนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงานและโอกาสให้ประชาชน
มุ่งพัฒนาการเมืองใหม่ที่สู้กันด้วยนโยบายเพื่อปากท้องประชาชน แต่นายหัวชวนได้แต่สร้างวาทกรรม ไม่เคยคิดใหม่ทำใหม่
มีแต่การพูดจาเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ช่วงนึงสังคมยังเรียกว่าเป็นมีดโกนอาบน้ำผึ้ง
3. สาวกที่หลับตาส่งเสริมกันทั้งที่รู้ว่าผิด ไม่ว่าจะทำอะไร คนที่เรียกตัวเองว่าเก่งและดีก็พร้อมจะสนับสนุน
ขนาดบอยคอตการเลือกตั้ง หรือทำสิ่งที่ต่างชาติยังกังขาว่าทำไมชื่อพรรคช่างขัดกับการกระทำเสียจริง
สาวกก็พร้อมจะสนับสนุน
4. เครื่องมือพิเศษที่ช่วยอุ้มมาตลอด ทำให้เขาไม่อยู่กับโลกความจริง ไม่คิดพัฒนาศักยภาพหรือทำสิ่งที่ถูกต้อง
5. ตัวเอง ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นแบบไหน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเอง หากรักจะมีอำนาจแต่ไม่คิดจะเคียงข้างประชาชน
ก็ไปไหนไม่ได้ไกลกว่านี้
มาร์คต้นทุนทางการเมืองสูงกว่าใคร ทั้งชาติตระกูล การศึกษา โอกาส ฯลฯ แล้วยังเข้าสู่เส้นทางการเมืองตั้งแต่อายุน้อย
ได้รับการตอบรับอย่างดี ถือเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังของประชาชน หากเขาทำตัวดีๆ ยึดถือหลักการและความถูกต้อง
ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเหนื่อย หรือฝ่าฟัน แต่เขาจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน คิดว่าสิ่งที่ทำลายเขาคือ
1. สังกัดพรรค ปชป. ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นพรรคโบราณ ยึดกับระบบเดิมๆ ในพรรคเต็มไปด้วยลูกท่านหลานเธอ
และนักกฎหมายหัวหมอ คิดแต่จะรักษาผลประโยชน์โดยไม่ได้เข้าถึงประชาชน ไม่ได้สร้างนโยบายดีๆ ตอบโจทย์ชาวบ้าน
หากมาร์คเข้าไปแล้วถ้าสามารถปฏิรูปพรรคได้ ก็คงดี แต่พรรคก็อยู่ใต้ร่มเงาคนแบบสุเทพ
2. ยึดนายหัวชวนเป็นไอดอล ในขณะที่นายกทักษิณชูนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงานและโอกาสให้ประชาชน
มุ่งพัฒนาการเมืองใหม่ที่สู้กันด้วยนโยบายเพื่อปากท้องประชาชน แต่นายหัวชวนได้แต่สร้างวาทกรรม ไม่เคยคิดใหม่ทำใหม่
มีแต่การพูดจาเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ช่วงนึงสังคมยังเรียกว่าเป็นมีดโกนอาบน้ำผึ้ง
3. สาวกที่หลับตาส่งเสริมกันทั้งที่รู้ว่าผิด ไม่ว่าจะทำอะไร คนที่เรียกตัวเองว่าเก่งและดีก็พร้อมจะสนับสนุน
ขนาดบอยคอตการเลือกตั้ง หรือทำสิ่งที่ต่างชาติยังกังขาว่าทำไมชื่อพรรคช่างขัดกับการกระทำเสียจริง
สาวกก็พร้อมจะสนับสนุน
4. เครื่องมือพิเศษที่ช่วยอุ้มมาตลอด ทำให้เขาไม่อยู่กับโลกความจริง ไม่คิดพัฒนาศักยภาพหรือทำสิ่งที่ถูกต้อง
5. ตัวเอง ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นแบบไหน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเอง หากรักจะมีอำนาจแต่ไม่คิดจะเคียงข้างประชาชน
ก็ไปไหนไม่ได้ไกลกว่านี้
ความคิดเห็นที่ 23
เข้ามาขำห่านป่า

ทั้งปีทั้งชาติ อ้างแต่ "รูปแบบ" ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยเอ่ยถึง "เนื้อหา"
เอาง่าย ๆ นะห่านนะ
คนกว่าครึ่งประเทศ เขาชอบทักษิณนั้น เพราะเขาเห็น "ฝีมือ"
ตอนทักษิณอยู่พลังธรรม จะมีใครู้จักทักษิณ
ตอนทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทย ชนะ ปชป. ก็เพราะคนเขาเบื่อ รำคาญ หน่าย ปชป. ไม่ใช่เพราะนิยมทักษิณ
พอทักษิณทำงาน คนก็เห็นฝีมือ มีผลงาน จากไม่รู้จักทักษิณ ก็กลายเป็นนิยมชมชอบและเชื่อถือทักษิณ
แต่ ปชป. ไม่เคยรู้สึกตัว เคยใช้วิธีทำลายด้วยปากอย่างไร ก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม โดยไม่เคยติดสร้างผลงาน
(ทำลายด้วยปากไม่สำเร็จ ก็วิ่งซบอำนาจนอกระบบให้เข้ามาช่วย)
นี่คือเหตุผลที่คนเขาชอบท้กษิณ ชอบเพราะเชื่อในฝีมือ ไม่ใช่ชอบเพราะฝีปาก
เทียบกับ ปชป. ที่มีแต่ฝีปาก แต่ไม่มีฝีมือ
คนชอบ ปชป. ชอบสองอย่าง สองอย่างที่ไม่ใช่ฝีมือหรือผลงาน
แต่ชอบเพราะ 1. ชอบแล้วรู้สึกว่ามีระดับ ตามวิถีวัฒนธรรมกระแดะ 2. ชอบเพราะหลงคารม หลงรูปแบบ
ปชป. นั้น เก่งในการสร้างภาพให้ตัวเอง เก่งในการป้ายสีคนอื่น นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ ปชป.อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเนื้อแท้ ที่ว่า ปชป. ไม่ใช่พรรคของใครนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
10 ปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เห็นว่า ปชป. นั้น พรรคของใคร แต่ไม่ใช่ของประชาชนแน่ ๆ
ปชป. ประชาธิปไตยจริงเหรอ ?
ไม่จริง
ปชป. จะใช้วิธี "สร้างภาพ" เช่น การจะมีมติในเรื่องใด ๆ ผู้มีอำนาจในพรรคจะคุมเกม สั่งการเรียบร้อย
แล้วมาสร้างพิธีกรรม ทำเป็นประชุม มีมติ แล้วอ้างว่านี่คือประชาธิปไตยในพรรค
ทั้งที่ความจริงแล้ว ปาหี่ทั้งเพ
กว่าสองปีที่อภิสิทธิ์โดนอุ้มขึ้นเป็นนายกฯ ก็อยู่ภายใต้เงาอำนาจของเทพเทือกผู้มีอำนาจจริงในพรรคทุกเรื่อง
แม้กระทั่งต้องยอมไปเป่านกหวีดข้างถนน อภิสิทธิ์ก็ยังยอมทำ
หากจะบอกว่าพรรคการเมืองอื่นนั้น มีเจ้าของพรรค
แต่อย่าลืมว่า การดำเนินการของพรรคย่อมต้องได้รับความเห็นด้วยจากประชาชน
หากเจ้าของพรรคทำให้ประชาชนไม่เห็นด้วย ประชาชนก็ไม่สนับสนุน
ต่างกับ ปชป. ที่อ้างว่าไม่มีเจ้าของ แต่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน จึงทำให้แพ้การเลือกตั้งซ้ำซาก
จนต้องหันมาเล่นการเมืองนอกระบบมาสิบปีแล้ว
บ่อยากเว้าหลาย เอาถ่อนิหละ
เมื่อย
ทั้งปีทั้งชาติ อ้างแต่ "รูปแบบ" ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยเอ่ยถึง "เนื้อหา"
เอาง่าย ๆ นะห่านนะ
คนกว่าครึ่งประเทศ เขาชอบทักษิณนั้น เพราะเขาเห็น "ฝีมือ"
ตอนทักษิณอยู่พลังธรรม จะมีใครู้จักทักษิณ
ตอนทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทย ชนะ ปชป. ก็เพราะคนเขาเบื่อ รำคาญ หน่าย ปชป. ไม่ใช่เพราะนิยมทักษิณ
พอทักษิณทำงาน คนก็เห็นฝีมือ มีผลงาน จากไม่รู้จักทักษิณ ก็กลายเป็นนิยมชมชอบและเชื่อถือทักษิณ
แต่ ปชป. ไม่เคยรู้สึกตัว เคยใช้วิธีทำลายด้วยปากอย่างไร ก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม โดยไม่เคยติดสร้างผลงาน
(ทำลายด้วยปากไม่สำเร็จ ก็วิ่งซบอำนาจนอกระบบให้เข้ามาช่วย)
นี่คือเหตุผลที่คนเขาชอบท้กษิณ ชอบเพราะเชื่อในฝีมือ ไม่ใช่ชอบเพราะฝีปาก
เทียบกับ ปชป. ที่มีแต่ฝีปาก แต่ไม่มีฝีมือ
คนชอบ ปชป. ชอบสองอย่าง สองอย่างที่ไม่ใช่ฝีมือหรือผลงาน
แต่ชอบเพราะ 1. ชอบแล้วรู้สึกว่ามีระดับ ตามวิถีวัฒนธรรมกระแดะ 2. ชอบเพราะหลงคารม หลงรูปแบบ
ปชป. นั้น เก่งในการสร้างภาพให้ตัวเอง เก่งในการป้ายสีคนอื่น นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ ปชป.อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเนื้อแท้ ที่ว่า ปชป. ไม่ใช่พรรคของใครนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
10 ปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เห็นว่า ปชป. นั้น พรรคของใคร แต่ไม่ใช่ของประชาชนแน่ ๆ
ปชป. ประชาธิปไตยจริงเหรอ ?
ไม่จริง
ปชป. จะใช้วิธี "สร้างภาพ" เช่น การจะมีมติในเรื่องใด ๆ ผู้มีอำนาจในพรรคจะคุมเกม สั่งการเรียบร้อย
แล้วมาสร้างพิธีกรรม ทำเป็นประชุม มีมติ แล้วอ้างว่านี่คือประชาธิปไตยในพรรค
ทั้งที่ความจริงแล้ว ปาหี่ทั้งเพ
กว่าสองปีที่อภิสิทธิ์โดนอุ้มขึ้นเป็นนายกฯ ก็อยู่ภายใต้เงาอำนาจของเทพเทือกผู้มีอำนาจจริงในพรรคทุกเรื่อง
แม้กระทั่งต้องยอมไปเป่านกหวีดข้างถนน อภิสิทธิ์ก็ยังยอมทำ
หากจะบอกว่าพรรคการเมืองอื่นนั้น มีเจ้าของพรรค
แต่อย่าลืมว่า การดำเนินการของพรรคย่อมต้องได้รับความเห็นด้วยจากประชาชน
หากเจ้าของพรรคทำให้ประชาชนไม่เห็นด้วย ประชาชนก็ไม่สนับสนุน
ต่างกับ ปชป. ที่อ้างว่าไม่มีเจ้าของ แต่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน จึงทำให้แพ้การเลือกตั้งซ้ำซาก
จนต้องหันมาเล่นการเมืองนอกระบบมาสิบปีแล้ว
บ่อยากเว้าหลาย เอาถ่อนิหละ
เมื่อย
ความคิดเห็นที่ 12
สวัสดีคุณนาคเจ้าของกระทู้ครับ เห็นผลสรุปของอาจารย์ปริญญาตามกติกา MMP ของบวรศักดิ์แล้วผมขออนุญาตนำข้อมูลเพิ่มเติมจากการทดลองคำนวน ส.ส. ตามกติกาใหม่ของคุณมีชัย โดยใช้ฐานข้อมูลผลคะแนนการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 มาคิดดังนี้ครับ
พรรคเพื่อไทย 3,159,386 คะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ 2,425,427 คะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา 636,296 คะแนน
พรรคภูมิใจไทย 1,685,940 คะแนน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 604,182 คะแนน
พรรคมาตุภูมิ 127,444 คะแนน
พรรคกิจสังคม 11,716 คะแนน
คะแนนรวมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรค = 8,650,391 คะแนน
เพื่อไทย 125*3,159,386/8,650,391 = 46 คน
ประชาธิปัตย์ 125*2,425,427/8,650,391 = 35 คน
ชาติไทยพัฒนา 125* 636,296/8,650,391 = 9 คน
ภูมิใจไทย 125*1,685,940/8,650,391 = 24 คน
ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 125*604,182/8,650,391 = 9 คน
มาตุภูมิ 125*127,444/8,650,391 = 2 คน
กิจสังคม ไม่ได้ที่นั่ง
ไม่ว่าผลการทดลองจะออกมาเป็นเช่นไร จขกท ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เห็นด้วยกับกติกาการเลือกตั้งแบบใหม่ที่คุณมีชัย ได้นำเสนอออกมาเพราะเป็นการจำกัดสิทธิ์สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกพรรคที่ตัวเองต้องการ และขัดแย้งกับหลักประชาธิปไตยสากลครับ
สรุปจำนวน ส.ส. ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ตามกติกาเลือกตั้งใหม่ ดังนี้ครับ

เครดิตภาพ : ชุนเทียน
ส่วนจำนวน ส.ส. ทั้ง สองระบบ ผมขอสรุปภาพรวมดังนี้ครับ
- พรรคเพื่อไทย (พท.) เดิมได้ส.ส.265 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 250 คน ลดลง 15 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมได้ส.ส. 159 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 150 คน ลดลง 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เดิมได้ส.ส.34 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 53 คน เพิ่มขึ้น 19 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดิมได้ส.ส.19 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 24 คน เพิ่มขึ้น 5 คน
- พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) เดิมได้ส.ส. 7 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 14 คน เพิ่มขึ้น 7 คน
- พรรคพลังชล (พช.) เดิมได้ส.ส.7คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 6 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) เดิมได้ส.ส. 4 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 4 คน
- พรรคมาตุภูมิ (มภ) เดิมได้ส.ส.2 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 2 คน ไม่เปลี่ยนแปลง
- พรรคมหาชน (พมช.) เดิมได้ส.ส. 1 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักษ์สันติ (รส.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
ที่มา http://pantip.com/topic/34406525
พรรคเพื่อไทย 3,159,386 คะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ 2,425,427 คะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา 636,296 คะแนน
พรรคภูมิใจไทย 1,685,940 คะแนน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 604,182 คะแนน
พรรคมาตุภูมิ 127,444 คะแนน
พรรคกิจสังคม 11,716 คะแนน
คะแนนรวมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรค = 8,650,391 คะแนน
เพื่อไทย 125*3,159,386/8,650,391 = 46 คน
ประชาธิปัตย์ 125*2,425,427/8,650,391 = 35 คน
ชาติไทยพัฒนา 125* 636,296/8,650,391 = 9 คน
ภูมิใจไทย 125*1,685,940/8,650,391 = 24 คน
ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 125*604,182/8,650,391 = 9 คน
มาตุภูมิ 125*127,444/8,650,391 = 2 คน
กิจสังคม ไม่ได้ที่นั่ง
ไม่ว่าผลการทดลองจะออกมาเป็นเช่นไร จขกท ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เห็นด้วยกับกติกาการเลือกตั้งแบบใหม่ที่คุณมีชัย ได้นำเสนอออกมาเพราะเป็นการจำกัดสิทธิ์สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกพรรคที่ตัวเองต้องการ และขัดแย้งกับหลักประชาธิปไตยสากลครับ
สรุปจำนวน ส.ส. ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ตามกติกาเลือกตั้งใหม่ ดังนี้ครับ

เครดิตภาพ : ชุนเทียน
ส่วนจำนวน ส.ส. ทั้ง สองระบบ ผมขอสรุปภาพรวมดังนี้ครับ
- พรรคเพื่อไทย (พท.) เดิมได้ส.ส.265 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 250 คน ลดลง 15 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมได้ส.ส. 159 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 150 คน ลดลง 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เดิมได้ส.ส.34 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 53 คน เพิ่มขึ้น 19 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดิมได้ส.ส.19 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 24 คน เพิ่มขึ้น 5 คน
- พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) เดิมได้ส.ส. 7 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 14 คน เพิ่มขึ้น 7 คน
- พรรคพลังชล (พช.) เดิมได้ส.ส.7คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 6 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) เดิมได้ส.ส. 4 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 4 คน
- พรรคมาตุภูมิ (มภ) เดิมได้ส.ส.2 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 2 คน ไม่เปลี่ยนแปลง
- พรรคมหาชน (พมช.) เดิมได้ส.ส. 1 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักษ์สันติ (รส.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
ที่มา http://pantip.com/topic/34406525
แสดงความคิดเห็น
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ ค่ะ คุณเคยได้ยินคำนี้หรือไม่ " 30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน "
เท่าที่ดูๆแล้วคุณอภิสิทธิ์ก็ค่อนข้างจะเพรียบพร้อมในทุกๆอย่าง ทั้งพื้นฐานครอบครัว การศึกษา รูปร่างหน้าตา การพูดการปราศรัยต่อหน้าผู้คน จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยังชื่นชมและศรัทธาในตัวคุณ แม้ว่าประวัติในการทำงานของคุณซึ่งดิฉันดูๆแล้วก็ไม่เท่าไหร่ ออกหนักไปทางเรื่องที่เสียมากกว่าเรื่องที่ดีอย่างเห็นได้ชัด
ขอก้าวข้ามมา ณ เวลาที่คุณอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยนะค่ะ การนำกลไกรัฐสภามาใช้ในทางที่ผิดเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของคุณดูๆแล้วมันก็ยังขัดลูกหูลูกตามากพอสมควร แต่ยังไงก็ตามแต่ก็คงไม่เลวร้ายไปกว่าการใช้อาวุธสงครามเข้าสลายการชุมนุมจนมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือคุณอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี กลับไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรเลย ลอยตัวหนีปัญหาทุกอย่างเหมือนไม่มีความรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆและออกจะสะใจลึกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการไล่ล่าผู้ชุมนุมที่เหลือหลังจากเหตุการณ์นั้นด้วย และยังทนใช้หน้าเดินต่างเท้าทำงานจนหมดวาระได้ มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากๆสำหรับความรับผิดชอบของคนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสิ่งที่เหลือเชื่อสูงสุดจริงๆ ณ เวลานั้นก็คือยังมีผู้คนจำนวนมากที่ชื่นชมคุณอภิสิทธิ์ว่าเป็นนักการเมืองคนดี มีคุณภาพ นี่คือสิ่งที่ฟ้าลิขิตมาให้คุณมากๆเลยนะค่ะคุณอภิสิทธิ์
แต่จนแล้วจนรอด 30 ลิขิตฟ้าก็ยังสู้ 70 ต้องฝ่าฟันไม่ได้ เพราะว่าสิ่งต่างๆที่คุณได้ทำมาเป็นการฝ่าฟันในแนวทางที่ผิด หลากหลายวาทกรรมต่างๆที่คุณพยายามผลักดันให้คนอื่นเป็นคนเลวในสายตาเพื่อนร่วมประเทศ ทุกอย่างมันโต้แย้งด้วยวิจารณญาณของผู้คนในการเสพคำพูดของคุณ จึงเป็นที่มาของความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งแก่คุณยิ่งลักษณ์อย่างขาดลอยเมื่อปี 2554 แต่คุณอภิสิทธิ์ก็ยังคงได้รับกำลังใจและแนวร่วมสนับสนุนมากมายต่อไป จนไปถึงช่วงที่มวลมหาประชาชน กปปส. ได้ทำการปิดประเทศ แทนที่คุณอภิสิทธิ์จะคัดค้านกลับไปร่วมเป่านกหวีดกับเขาด้วย ดิฉันเรียนตามตรงนะค่ะ นั่นคือการฝ่าฟันที่ผิดมหันต์บนทางเดินสายประชาธิปไตยของคุณและพรรคประชาธิปัตย์ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือยังมาบอยคอตการเลือกตั้งให้สวนกับคำว่ามวลมหาประชาชน-ประชาชนทนไม่ไหว ให้ผู้คนเขาตราหน้าว่านี่คือมวลมหาประชาชนจริงหรือ แต่ทำไมถึงกลัวการเลือกตั้ง
ดิฉันขอก้าวข้ามเหตุการหลังจากนั้น เพราะอยากจะนำเสนอให้เห็นภาพว่าคุณอภิสิทธิ์มีตัวช่วยเยอะแยะมากมายจริงๆ ซึ่งนักการเมืองทั้งโลกก็คงจะอดอิจฉาคุณไม่ได้ หลังจากที่ คสช. ได้ทำการยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญในสมัยคุณบวรศักดิ์ ได้ผุดไอเดียกติกาเลือกตั้งในแนวทางใหม่ขึ้นที่เรียกว่า MMP (Mixed Member Proportion) ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยดิฉันจะยังไม่ขอกล่าวมาก แต่ขอสรุปบทวิเคราะห์เชิงตัวเลขของอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ได้ดังภาพนี้
เครดิตภาพ http://www.posttoday.com/analysis/politic/338161
ดูจากตัวเลขจะสังเกตุได้เลยว่าพรรคไหนที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้น หรือพรรคไหนที่ได้คะแนนน้อยลง เรามองผ่านๆเราอาจจะคิดว่ายังไงพรรคเพื่อไทยก็ได้คะแนนมากที่สุดอยู่ดี แต่พวกคุณอย่าลืมคำว่า "กลไกรัฐสภา" นะค่ะ นี่คือสุดยอดวาทกรรมและอาวุธเด็ดของคุณอภิสิทธิ์ที่พร้อมจะเสียมารยาททางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยได้ทุกเมื่อ โดยกลไกรัฐสภานี้คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ได้ฟอกวาทกรรมนี้ให้ดูเป็นเรื่องที่ทำได้ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และดิฉันก็ไม่เชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์จะไม่ทำเมื่อมีโอกาส เพราะประวัติที่ผ่านมาเคยทำมาแล้ว ผู้อ่านลองนึกภาพเจ้าตูบหนึ่งตัวเคยมีประวัติคาบข้าวเหนียวไก่ทอดจากตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ แต่ต่อมาคุณบวรศักดิ์และคณะ กรธ. ได้วางชิ้นเนื้อที่พึ่งย่างใหม่ๆหอมๆลงบนจานแล้ววางบนโต๊ะเตี้ยๆ คุณบวรศักดิ์แน่ใจได้อย่างไรค่ะว่าเจ้าตูบตัวนั้นจะไม่ไปกินชิ้นเนื้อชิ้นนั้น นี่คือสิ่งที่เป็นทั้งลิลขิตฟ้าและเหล่าผู้สนับสนุนที่ยังคงพร้อมจะช่วยเหลือคุณอยู่ทุกเมื่อ แต่ รธน. ของคุณบวรศักดิ์ก็ต้องตกกระป๋องไปท่ามกลางความหัวเสียของผู้ร่าง
ก้าวข้ามมาถึงยุคคุณมีชัย ก็ยังคงไม่ต่างจากคุณบวรศักดิ์มากนัก เพียงแค่เอาสูตรเลือกตั้งสุดพิสดารออกมาใช้ รายละเอียดเป็นเช่นไรคิดว่าท่านผู้อ่านคงจะเคยผ่านตามาบ้าง และเคยมีคนนำกติกาการเลือกตั้งของคุณมีชัยมาคิดผลคะแนนที่ได้ ผลที่ได้คือพรรคที่เคยได้คะแนนอันดับหนึ่งก็ได้ จำนวน ส.ส. น้อยลงต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของสภา และพรรคประชาธิปัตย์เองก็ได้คะแนนลดลงไปด้วย กลับกลายเป็นพรรคอันดับที่รองลงไปได้ประโยชน์ชัดเจนจากกติกานี้ แต่ก็เพียงพอสำหรับการจับมือกับพรรคอันดับสามลงไปเพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยใช้อาวุธเด็ดประจำตัวเช่นเคยนั่นก็คือ "กลไกรัฐสภา" ซึ่งดิฉันคงไม่ขอขยายความต่อ เห็นไหมค่ะคุณอภิสิทธิ์ มีคนเอาใจช่วยคุณมากมายจริงๆ แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรคุณมีชัยและคณะ ก็พร้อมที่จะทนรับแรงกดดันแทนคุณ
แม้แต่กระทั่งเรื่องตัดขวัญกำลังใจฝ่ายตรงข้ามอย่างกรณีการดำเนินคดีเอาผิดคุณยิ่งลักษณ์ในโครงการจำนำข้าวเป็นต้น เป็นการเอาผิดแบบที่เรียกว่าตั้งใจให้เลิกยุ่งกับการเมืองไปเลยทีเดียว ในทางกลับกันโครงการประกันราคาข้าวของคุณอภิสิทธิ์กลับยกผลประโยชน์ให้กับจำเลยด้วยเหตุผลสะท้านโลกที่ว่าเอกสารจมน้ำหาย โดยส่วนตัวดิฉันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณยิ่งลักษณ์หรือคุณอภิสิทธิ์ก็น่าจะได้รับการปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรมที่เสมอภาคกัน ไม่ใช่เอียงอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องสองมาตรฐานแต่มันไม่มีมาตรฐานเลยแม้แต่น้อย หากเราเอามาตรฐานที่คุณยิ่งลักษณ์ถูกบีบอยู่ ณ ขณะนี้มาใช้ คุณอภิสิทธิ์ก็ต้องโดนด้วยและไม่ใช่แค่เรื่องข้าวเท่านั้น โครงการประกันพืชผลทางการเกษตรอื่นๆที่เป็นการอุดหนุนเกษตรกร เช่น ยางพารา ข้าวโพด ลำไย ฯลฯ ก็ต้องโดนด้วยทุกยุคทุกสมัย สมัยคุณอภิสิทธิ์เอาเงินไปแจกชนชั้นกลางคนละ 2,000 บาท คุณก็ต้องโดนด้วย GT200 คุณก็ต้องโดนด้วย ฯลฯ
ณ เวลานี้ คุณอภิสิทธิ์เห็นหรือยังค่ะว่าจาก 100% มีลิขิตฟ้ามาช่วยคุณเกิน 30% เข้าไปแล้ว เกินกว่าหัวข้อกระทู้ที่ดิฉันตั้งขึ้นมาเสียอีก ในส่วนที่เหลือมันเป็นเรื่องของตัวคุณแล้วนะค่ะว่าควรจะพิจารณาตนเองหรือไม่ว่าที่ผ่านมาทำไมคุณถึงได้กลายเป็นแค่อดีตนายกรัฐมนตรีไม่กี่คนในประวัติศาสตร์โลกที่ไม่เคยเลือกตั้งชนะใคร ดิฉันเรียนตรงๆนะค่ะ เสียดายโอกาสตรงนี้มากๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติเพื่อสร้างฐานคะแนนนิยมให้กับตัวเองไว้รองรับการเลือกตั้งครั้งต่อๆไปได้ แต่พวกคุณกลับเน้นที่จ้องทำลายพรรคตรงข้ามมากกว่าที่จะทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ หากพวกคุณจะมองว่าพวกคุณเป็นฝ่ายค้านมากกว่าได้เป็นรัฐบาลผลงานคุณจึงน้อย เปล่าเลยนะค่ะ ผลงานพวกคุณมันเพียบมากจริงๆแต่เป็นผลงานในเชิงร้ายที่พวกคุณตั้งใจทำมันมากับมือทุกครั้งมันสมควรหรือไม่ แม้แต่คุณเนวินซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้อะไรในทางการเมืองเขาก็ยังพัฒนาจังหวัดเขาได้ แต่พวกคุณวนเวียนอยู่กับการเมืองแท้ๆแต่กลับไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอันให้กับประเทศชาติ หากเป็นเรื่องร้ายๆก็อย่าไปถนัดมันมากเลยค่ะ ดิฉันอายแทน
ขอบคุณ คุณ cnck3 เรื่องข้อมูลในอดีตสมัยอภิปรายเรื่องคุณพ่อท่านบรรหารค่ะ เพื่อไม่เป็นการเข้าใจผิดของผู้อ่าน ดิฉันขออนุญาตแก้ไขข้อความตรงนั้นออกไป และขออภัยท่านผู้อ่านไว้พร้อมนี้ค่ะ