รัฐธรรมนูญ 58 .... เพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้งตามที่คุณขอมา ?????? ..../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม
เผด็จการสภาที่ถูกต้อง? ....บทบรรณาธิการ ..ไทยรัฐออนไลน์

ถึงแม้การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
จะยุติลงแล้ว แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค
ประชาธิปัตย์ติดใจเป็นพิเศษใน 2 ประเด็น ได้แก่การให้
คณะกรรมการปรองดองเสนอให้ตราพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ
แก่ผู้กระทำความผิด เชื่อว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงแน่

อีกประเด็นหนึ่งได้แก่มาตรา 181 และ 182 ที่ให้อำนาจพิเศษแก่
นายกรัฐมนตรีมาตรา 181 ให้นายกรัฐมนตรีเสนอขอความไว้วางใจ
จากสภาผู้แทนราษฎรให้เปิดประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายกรัฐมนตรีภายใน 7 วัน หากนายกรัฐมนตรีได้คะแนน เสียงไว้วางใจ
ไม่ถึงกึ่งหนึ่งให้ยุบสภา ส.ส.พ้นตำแหน่งทั้ง 450 คน เป็นเรื่องแปลก
ประหลาดในระบบรัฐสภา

เนื่องจากตามปกติหากนายกรัฐมนตรีแพ้มติไม่ไว้วางใจ จะต้องพ้นจากตำแหน่ง
พร้อมกับคณะรัฐมนตรี แต่มาตรา 181 กลับให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชนะ ส่วนเสียง
ข้างมากของ ส.ส.ผู้ชนะ กลับกลายเป็นผู้แพ้ พ้นจากตำแหน่งทั้งสภา เช่นเดียวกับ
มาตรา 182 ให้นายกฯเสนอร่าง พ.ร.บ. ถ้า ส.ส.ไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจภา
ยใน 7 วัน ถือว่าให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.

อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ระบุว่า วิธีการดังกล่าวเป็นการสร้าง “เผด็จการรัฐสภา”
ที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์
หลายคนยังคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. สัดส่วนแบบผสม ที่ให้ประชาชนเลือก
ผู้สมัครคนใดก็ได้ กลัวว่าจะทำให้แตกแยกในพรรค เพราะผู้สมัครในบัญชีรายชื่อ
จะต้องหาเสียงแข่งกัน เพื่อให้ชนะเลือกตั้ง

การให้ผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งเลือกผู้สมัครคนใดก็ได้ในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร
ส.ส.นอกจากจะทำให้พรรคแตกแยกกันแล้ว ยังน่าจะขัดต่อวัตถุประสงค์
การเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่ออีกด้วย เพราะการเลือกตั้งแบบนี้ต้องการให้
“เลือกพรรค” ตามคติ “พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค” เนื่องจาก
ผู้มีสิทธิ์เลือก “บุคคล” ได้อยู่แล้ว คือการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต

ถึงแม้ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะยืนยันมาโดยตลอดว่า
ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และพร้อมที่จะทบทวน แต่แสดงท่าทีว่า
อาจจะแก้ไขในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญๆ แต่จะยืนยันไม่ทบทวนเรื่อง
ที่มาของนายกรัฐมนตรี ที่มาของ ส.ว. และวิธีการเลือกตั้ง ซึ่งมุ่งสกัดกั้น
ไม่ให้พรรคใดได้เสียงข้างมาก เพราะต้องการรัฐบาลผสม

สมาชิก สปช.ระดับประธานคณะกรรมาธิการหลายคน เห็นตรงกันว่าจะต้อง
ทบทวนร่างรัฐธรรมนูญเกือบทั้งฉบับ บางคนฟันธงว่าหากไม่ยอมแก้ไข
จะไม่ผ่านการลงประชามติ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าถ้าไม่มีการออก
เสียงประชามติจะกลายเป็นระเบิดเวลานำไปสู่ความขัดแย้ง ที่น่าเป็นห่วงมาก
ก็คือ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ขอเวลาทดลองวิชาอย่างน้อย 5 ปี.

http://www.thairath.co.th/content/496111




http://www.thairath.co.th/cartoon/5/90/1

รัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง  ตามที่คุณขอมา   ... จัดให้แล้วเยี่ยม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่