ผมกับมิ้งค์ รู้จักกันทางวีแชท ตอนผมเป็นทหารที่สัตหีบ แล้วเราก็คุยกัน คุยกันถูคอ คุยไปเรื่อยๆผมก็เริ่มชอบมิ้งค์ เลยขอมิ้งเป็นแฟนทั้งที่ไม่เคยเจอกันเลย มิ้งค์ก็ตอบตกลง เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพ่อของมิ้งค์ก็รู้ว่าเราคุยกัน พ่อมิ้งค์เลยโทรมาหาผม บอกให้เลิกคุยกัน คงเป็นเพราะเราไม่เคยเจอกัน พ่อมิ้งค์คงไม่ไว้ใจผม แล้วผมกลับมิ้งค์ก็ไม่ได้คุยกัน ผมคิดถึงมิ้งค์มาก คอยส่งข้อความให้มิ้งค์ตลอดถึงมิ้งค์จะไม่ได้อ่าน ผมก็จะส่งไปหามิ้งค์ทุกวัน ผ่านไปประมาณเดือนหนึ่ง มิ้งค์ก็ติดต่อกลับมา ผมดีใจมาก แล้วเราก็แอบคุยกันผ่านทางโซเซียลแบบนี้จนเป็นปี แล้วผมก็ปลดทหาร กลับมาบ้านที่อุบลราชธานี ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าจะเรียนต่อ ปวส. หรือว่าทำงาน แต่มิ้งค์อยากให้ผมเรียน ผมเลยตัดสินใจเรียน ในระหว่างนี้มันก็เกิดเรื่องแบบเดิมขึ้นอีก พ่อแม่มิ้งค์จับได้ว่าเราแอบคุยกันอีก แล้วมิ้งค์ก็หายไปอีก แต่ผ่านไปสักพักมิ้งค์ก็กลับมาคุยเหมือนเดิม เป็นแบบนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่มิ้งค์ก็กลับมาตลอด มิ้งค์บอกกับผมว่าจะไม่ทิ้งผมไป สักวันพ่อแม่ก็จะเข้าใจเรา แล้วแม่มิ้งค์ก็ให้มิ้งค์ไปนิวซีแลนด์ ไปเรียนที่นั่น เพื่อจะไม่ให้เราคุยกัน แต่เราก็ได้คุยกันเหมือนเดิม มิ้งค์ไปอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งเดือน ก็กลับมาเรียนที่ไทย ผมดีใจมากที่มิ้งค์กลับมาเรียนที่ไทย เราก็คุยกันแบบนี้จน2ปี ไม่เคยเจอกันเลย จนผมได้ไปฝึกงานที่ชลบุรี 1 ปี แล้วเราก็ได้นัดเจอกัน ในวันพุธที่ 10 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นวันหยุด ผมไม่ได้ไปฝึกงาน ผมอายมาก มิ้งค์น่ารักมาก มิ้งค์พาเพื่อนมาด้วย 2 คน ผมก็พาเพื่อนไปด้วย 1 คน วันนั้นเราไปดูหนังกัน ไม่ค่อยได้คุยกันเลย มัวแต่อาย คุยกันน้อยมาก ต่างคนต่างดูหนัง หนังจบผมก็ไปส่งมิ้งค์ขึ้นรถกลับบ้าน พอมิ้งค์ขึ้นรถผมก็ส่งไลน์ไปขอโทษมิ้งค์ที่ผมไม่ค่อยพูด แล้วผมก็นัดเจอมิ้งค์อีกเป็นการแก้ตัว ครั้งนี้เราก็คุยกันเยอะขึ้น เริ่มไม่อายกัน สนิทกันมากขึ้น แล้วเราก็ไปถ่ายรูปคู่กัน ก็เขินๆอายๆ เพื่อนมิ้งค์บอกให้เอามือโอบไหล่มิ้งค์ ตอนแรกผมก็ไม่กล้า ผมก็ถามมิ้งค์ว่าโอบได้มั๊ย มิ้งค์ก็บอกได้ ผมดีใจสุดๆ หลังจากนี้เราก็ได้เจอกันเรื่อยๆ เดือนหนึ่งก็ประมาณ 3-4 ครั้ง เจอกันเฉพาะวันที่ผมหยุด และวันที่มิ้งค์มาเรียน ส่วนอาทิตย์ไหนที่ผมฝึกงานกลางคืนเราก็จะได้เจอกันอีก ออกกะแล้วผมก็จะไปหามิ้งค์ บางทีก็ง่วงมากแต่ผมก็ไปเพราะผมอยากเจอมิ้งค์ กลับมาก็ได้นอนประมาณ 2 ชั่วโมงก็ไปฝึกงานต่อ ผมมีความสุขมากที่ได้เจอมิ้งค์ ได้อยู่ข้างๆมิ้งค์ ได้จับมือมิ้งค์ ผมอยากกอดมิ้งค์มากแต่ผมไม่กล้า ผมกลัวมิ้งค์ว่า ผมได้อ่านประสบการณ์ความรักของมิ้งค์ ที่มิ้งค์เขียนส่งอาจารย์ ผมดีใจมาก มิ้งค์เขียนเรื่องของผม ผมชอบประโยคนี้มาก "ถึงจะมีใครห้ามหรือไม่อยากให้คุยยังไงก็ตาม เราก็ยังรักกันเหมือนเดิม และก็ยังคุยกันแบบนี่ต่อไป แอบเจอกันแบบนี้ พอถึงเวลาพ่อแม่ก็จะเข้าใจเราเอง" เวลาที่ผมฝึกงานปีหนึ่งมันช่างผ่านไปเร็ว เราไปดูหนังด้วยกันก่อนที่ผมจะกลับมาเรียน วันนั้นมิ้งค์หอมแก้มผม ผมดีใจมาก มีความสุขที่สุด ดูหนังจบเราก็มาเดินเล่นกัน แล้วผมกับมิ้งค์ก็เกี่ยวก้อยกัน เราสัญญาจะไม่ทิ้งกัน หลังจากนั้นผมก็ได้กลับมาเรียน อีก4เดือนผมก็จะจบ ปวส. แล้ววันหนึ่งก็มีผู้ชายคนนึงเข้ามาในชีวิตมิ้งค์ เขาอายุ 31 มีงานทำแล้ว ส่วนผม 25 ยังเรียนอยู่เลย มิ้งค์ 19 เป็นคนที่แม่มิ้งค์ให้คุยด้วย บ้านอยู่ใกล้กัน เขาพึ่งย้ายมามั้ง ผมก็ไม่แน่ใจ มิ้งค์ก็เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง แต่มิ้งค์ก็บอกผมว่าไม่ได้ชอบเขา ที่คุยกับเขาเพราะแม่ให้คุย เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ผมก็ไม่อยากให้มิ้งคุยกับคนนั้นเหมือนกัน แต่ไม่รู้ผมจะห้ามยังไง ผมก็มีว่าให้มิ้งค์บ้าง พอว่าไปเราก็ทะเลาะกัน แต่แปบเดียวแค่นั้นแหละเราก็ดีกัน ไม่ถึงครึ่งวัน ผมก็ไม่ได้ถามเรื่องผู้ชายคนนี้พักหนึ่ง เพราะถามทีไรเราจะทะเลาะกันทุกที แล้วผมก็นัดเจอมิ้งค์อีก รอมิ้งค์ให้คำตอบอยู่ว่าว่างวันไหน ผมก็จะนั่งรถจากอุบลไปชลบุรี ผมบอกมิ้งค์ว่า ไปถึงจะกอดให้ขี้แตกเลย มิ้งค์ก็จะบอกกับผมว่าพร้อมตลอด เราคบกันมาจะ 3ปีแล้ว ผมยังไม่กล้ากอดมิ้งค์เลย มิ้งค์เคยบอกห้ามโดนนม ตอนดูหนังด้วยกันแขนผมไปโดน แล้วถ้ากอดมันก็ต้องโดน ผมเลยไม่กล้า แล้วก็มาถึงวันเกิดผม 4พ. ย. 58 มิ้งค์ก็ทำวีดีโอมาให้ผม มิ้งค์บอกว่าอย่าน้อยใจนะ ที่ไม่ได้เจอกัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอนะ แต่มันไกล ลำบากกว่าจะมาถึง เจอกันแปบเดียวก็กลับ ไว้ว่างๆค่อยเจอกัน แล้วมิ้งก็บอกว่ารักกับมิ้งค์นานๆนะ ห้ามมีคนอื่นด้วย ผมดีใจมาก หลังจากวันเกิดผม ได้2วัน คือวันที่ 6 พ. ย. 58 ตื่นเช้ามาเราก็คุยกันปกติ แล้วผมก็ถามมิ้งค์ว่าได้คุยกับคนนั้นมั๊ย มิ้งค์ก็บอกคุย ผมเลยบอกคงสนิทกันมาก มิ้งค์บอกว่านิดนึง แล้วผมก็บอกเซง มิ้งค์ก็บอกเซงก็เซงไป บายๆ ครั้งนี้มันแปลกมากที่มิ้งค์พูดแบบนี้
แล้วมิ้งค์ก็เงียบไป ผมก็คิดว่าเดียวเราก็ดีกันเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ ช่วงบ่ายมามิ้งค์ก็บอกเลิกผม มิ้งค์บอกเหนื่อย มิ้งค์เริ่มไม่ไหว อยากพอ พ่อแม่ก็ไม่ยอมรับผม พ่อแม่มิ้งค์คงกลัวผมพามิ้งค์ลำบาก กลัวผมดูแลมิ้งค์ไม่ดี ผมเลยบอกว่าให้เวลาผมพิสูจน์ตัวเองอีกหน่อย ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะผมยังเรียนอยู่ รอผมเรียนจบก่อน ผมก็ยื้อมิ้งค์ แต่ไม่สำเร็จ มิ้งค์บอกเสียใจที่ทำแบบนี้ ทั้งที่ยังรัก ความรู้สึกผมตอนนั้นแบบอยากตายมาก ร้องไห้ แล้วมิ้งค์ก็บล็อกไลน์ เฟสผม ผมไม่รู้จะทำไง รู้แต่ว่าผมอยากมีมิ้งค์ ไม่อยากให้มิ้งค์หายไป ผมขอให้มิ้งค์คุยกับผมในฐานะอะไรก็ได้ ขอแค่มิ้งค์ไม่หายไปก็พอ ผมทำใจไม่ได้ แต่มิ้งค์ก็ไม่คุยกับผมเลย ผมเหงา ผมหมดแรง ผมนอนร้องไห้ ตอนนี้ผมก็ยังคิดถึงมิ้งค์ รอมิ้งค์กลับมา คอยส่งข้อความให้มิ้งค์ในไลน์เหมือนที่เคยส่ง ถึงแม้มิ้งค์จะบล็อกผมแล้ว เวลาไปเรียนผมก็คิดถึง ตื่นมาเคยส่งข้อความไปปลุกมิ้งค์ทุกวัน วันทั้งวันผมก็จะคุยแต่กับมิ้งค์ เวลาเหล่านี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวของผม เลิกเรียนมาผมเคยคุยกับมิ้งค์ ตอนนี้ผมจะชวนเพื่อนไปวิ่งบ้าง เตะบอลบ้าง เผื่อมันจะช่วยให้ผมดีขึ้น เวลาอยู่คนเดียวผมก็ยังแอบร้องไห้ เวลานอนผมก็จะฝันเห็นมิ้งค์บ่อยๆ ผมยังคิดถึงวันเวลาดีๆที่เราเคยยิ้ม เคยหัวเราะด้วยกัน มิ้งค์เป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับผม ผมอยากบอกมิ้งค์ว่าผมยังรอมิ้งค์กลับมานะ ผมยังเป็นคนที่รักมิ้งค์คนเดิม ในวันที่มิ้งค์บอกเลิกผมขอโทษที่ผมคิดอยากตาย ตอนนี้ผมจะตั้งใจเรียน จบมาจะตั้งใจทำงาน คิดถึงมิ้งค์เสมอ
มีโอกาสไหมที่เขาจะกลับมาเป็นคนเดิม
แล้วมิ้งค์ก็เงียบไป ผมก็คิดว่าเดียวเราก็ดีกันเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ ช่วงบ่ายมามิ้งค์ก็บอกเลิกผม มิ้งค์บอกเหนื่อย มิ้งค์เริ่มไม่ไหว อยากพอ พ่อแม่ก็ไม่ยอมรับผม พ่อแม่มิ้งค์คงกลัวผมพามิ้งค์ลำบาก กลัวผมดูแลมิ้งค์ไม่ดี ผมเลยบอกว่าให้เวลาผมพิสูจน์ตัวเองอีกหน่อย ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะผมยังเรียนอยู่ รอผมเรียนจบก่อน ผมก็ยื้อมิ้งค์ แต่ไม่สำเร็จ มิ้งค์บอกเสียใจที่ทำแบบนี้ ทั้งที่ยังรัก ความรู้สึกผมตอนนั้นแบบอยากตายมาก ร้องไห้ แล้วมิ้งค์ก็บล็อกไลน์ เฟสผม ผมไม่รู้จะทำไง รู้แต่ว่าผมอยากมีมิ้งค์ ไม่อยากให้มิ้งค์หายไป ผมขอให้มิ้งค์คุยกับผมในฐานะอะไรก็ได้ ขอแค่มิ้งค์ไม่หายไปก็พอ ผมทำใจไม่ได้ แต่มิ้งค์ก็ไม่คุยกับผมเลย ผมเหงา ผมหมดแรง ผมนอนร้องไห้ ตอนนี้ผมก็ยังคิดถึงมิ้งค์ รอมิ้งค์กลับมา คอยส่งข้อความให้มิ้งค์ในไลน์เหมือนที่เคยส่ง ถึงแม้มิ้งค์จะบล็อกผมแล้ว เวลาไปเรียนผมก็คิดถึง ตื่นมาเคยส่งข้อความไปปลุกมิ้งค์ทุกวัน วันทั้งวันผมก็จะคุยแต่กับมิ้งค์ เวลาเหล่านี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวของผม เลิกเรียนมาผมเคยคุยกับมิ้งค์ ตอนนี้ผมจะชวนเพื่อนไปวิ่งบ้าง เตะบอลบ้าง เผื่อมันจะช่วยให้ผมดีขึ้น เวลาอยู่คนเดียวผมก็ยังแอบร้องไห้ เวลานอนผมก็จะฝันเห็นมิ้งค์บ่อยๆ ผมยังคิดถึงวันเวลาดีๆที่เราเคยยิ้ม เคยหัวเราะด้วยกัน มิ้งค์เป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับผม ผมอยากบอกมิ้งค์ว่าผมยังรอมิ้งค์กลับมานะ ผมยังเป็นคนที่รักมิ้งค์คนเดิม ในวันที่มิ้งค์บอกเลิกผมขอโทษที่ผมคิดอยากตาย ตอนนี้ผมจะตั้งใจเรียน จบมาจะตั้งใจทำงาน คิดถึงมิ้งค์เสมอ