สวัสดีครับทุกท่าน..... วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวแบ่งปันประสบการณ์เที่ยวภูสอยดาวกันนะ
ก่อนเข้าเรื่องขอบ่นนิดหน่อยนะครับ
ข้ามๆท่อนนี้ไปก็ได้ ฮาๆ 
ผมมีเพื่อนสาวคนสนิทรู้จักกันมานานนมอยู่คนนึง นานแค่ไหนหน่ะเหรอครับ รู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 แหนะ สมัยนั้นอนุบาล1 มันกี่ขวบกันนะ ตอนนี้ต่างคนก็ปากันเข้าไปคนละ 30++ เอาเป็นว่าเป็นเพื่อรักเลยละ ปกตินางไม่ใช่คนที่จะชอบเที่ยวป่าเขาลำเนาไพรเท่าไรนัก คือนางรักสบาย ถึงเที่ยวป่าเที่ยวดอย นางก็ขอโรงแรมหรู รีสอร์ทดัง ไม่งั้นไม่ไปเด็ดขาด .... ซึ่งแตกต่างกับผมโดยสิ้นเชิง ผมเน้นถูกๆไม่แพงก็ไปได้หมด ดังนั้น เรามักจะไม่ค่อยได้ร่วมทริปกันเท่าไรนัก แต่ครั้งนี้นางมาแปลก จู่ๆก็มาชวนเดินขึ้นภูสอยดาว? กางเต้นท์นอน? หือ??? คนติดหรู คุณหนู ไม่ออกกำลังกายเลย มีเวลาก็ปาตี้ตลอดอย่างหล่อนเนี่ยนะ จะไปภูสอยดาว
ซักไป ไล่มา สุดท้ายได้ความว่า ................ อ่อ....... “เอาใจฝาชี” ฝาชีนางอยากไป และนางก็ไม่อยากไปกันลำพัง 2 คน เลยชวนส่วนเกินอย่างผมไปด้วย ซึ่งตรูอยากไปมาก ก่อนหน้านี้เคยร่วมทริปกับนางหนนึงที่เสม็ด เจอนางแสดงอิทธิฤทธิ์ทะเลาะกับฝาชีโชว์ คิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นทีไรขนลุกทุกที

เพราะคนที่ซวยคือข้าพเจ้าและชาวคณะ เช้ามาเขากอดกันกลมส่วนบรรดากรรมการขอบตาดำช้ำกันเป็นแถวๆไม่ได้หลับดีนอนดี ....... ก็เลยกลัวจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะถ้ามันซ้ำรอย รอบนี้ กลางดอย และมีตรูคนเดียวที่ต้องเป็นสักขีพยานไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น (แอบคิดในใจ เอ๊ะ!! รึมันจะโดนขอแต่งงานกลางดอย ฮึ้ย.....) แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปร่วมทริป เพราะนี่เป็นทริปแรกในชีวิตที่มันจะกางเต้นท์นอนบน “ภู-สอย-ดาว!!!!” .... แค่คิดก็สนุกแล้ว
ได้ข้อสรุปกันว่าเราจะไปช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. เวลาตรงกันที่สุด พอได้วันแล้วเราก็เริ่มหาข้อมูลกัน ส่วนมากก็ได้จากในพันทิปนี่แหละครับแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยม เก่าบ้าง ใหม่บ้าง วันนี้ผมจะมาอัพเดทข้อมูลล่าสุดที่ไปลุยมาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ หลังจากที่อารัมภบทมาซะยืดยาว เริ่มเลยละกันครับ
การเตรียมตัว สิ่งที่ต้องรู้นะครับ สำหรับคนที่อยากไปบ้าง
1.
เตรียมร่างกายของคุณให้พร้อมนะ ต้องฟิตหน่อย เพราะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทาง 6.5 กิโลแม๊ว ป้ายเขาบอกอย่างงั้นนะ แต่ผมว่ามันไกลกว่าอีกอะ ในความรู้สึก T^T
2. จะนอนกี่คืนดี
จำนวนคืนที่จะนอนบนนั้น มันจะสัมพันธ์กับกิจกรรมที่จะทำ และ
เวลาที่จะใช้เริ่มออกสตาร์ทเดินขึ้นภูฯ เพราะเดิน 6.5 กิโลเมตรที่ว่านั้นต้อง
ใช้เวลา 3-5 ชั่วโมงเลยนะ ขึ้นอยู่กับความฟิตของแต่ละคน ถ้าจะไปนอนคืนเดียว ก็ควรเริ่มเดินขึ้นเขาเช้าๆหน่อย เขาเริ่มให้ขึ้นได้ตั้งแต่ 8.00-14.00 นะตัวเธอ.... ถ้ามาหลัง 14.00 จนท.เข้าไม่อนุญาตให้เดินขึ้นแล้วนะ เพราะกว่าจะไปถึงลานสนได้ มันจะดึก และอันตราย สุดท้ายจะเป็นภาระของลูกหลาน..... เอ้ย! เป็นภาระของเจ้าหน้าที่
3.
เตรียมข้าวของเครื่องใช้ .... เธอจ๋า บนดอยไม่มี7-11 นะจ้า... จะไปนอนกี่คืน อยู่กี่วัน ต้องกินข้าวกี่มื้อก็เตรียมไปซะนะครับ บนนั้นไม่มีอะไรขายนะ ถ้าไม่เตรียมอาหารไป จะเป็นยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ใครลองไม่เตรียมแล้วมาเขียนกระทู้เล่าให้กันฟังบ้างนะครับ 5555
4.
รู้มั้ย ค่าลูกหาบเขาปรับราคากันแล้วนะ ไม่ใช่ 30 แล้วนะ เป็น 35 บาท/กิโลกรัมแล้วจ้ะ และที่สำคัญ ยกให้เป็นอีกข้อเลย เพราะผมเองพึ่งรู้ตอนจะลงภูฯ
5. โอ้.... มาย.... ก๊อด!!!!!!
ค่าลูกหาบเขาคิดทั้งขาขึ้น และขาลงนะจ้ะเธอ...... (ร้อง

เบาๆในใจ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ตามอ่านไปเรื่อยๆนะจ้ะ)
6. เมื่อกี้บอกแล้วนะครับว่า
ไม่มีอะไรขายบนนั้น แม้กระทั่งน้ำดื่ม!! มีคนบอกว่าขวดละ 45 อย่าไปเชื่อ.... มันไม่มี.... ทุกท่านครับ ขึ้นไปบนนั้น แหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค/บริโภคหลักมาจากน้ำฝน และลำธารนะครับ น้ำฝน จนท. เขาจะกักเก็บไว้ในแท็งค์ทุกท่านสามารถเอาภาชนะที่เตรียมมา มาเปิดก๊อกเอาไปใช้ได้เลย หรือจะเช่าถังน้ำ/ขันน้ำจากศูนย์บริการนทท.ก็ได้ (ค่าเช่าอย่างละ 10บาท/คืน) หรือไม่ชอบน้ำฝน จะเอาน้ำจากลำธารก็ได้ครับ ไปตักได้เท่าที่ต้องการ ตักมาแล้วก็เอามาต้มนะครับ จึงจะดื่มได้....... หรือไม่ก็ซื้อน้ำแล้วให้ลูกหาบแบกขึ้นมาให้ ราคาตามตกลง T^T กก.ละ 35 บาท น้ำลิตรนึงหนักเท่าไร เอา35บาทคูณเข้าไป ....
7. เมื่อเตรียมของเสร็จจากที่บ้านแล้ว
แนะนำให้เอาไปชั่งก่อนเลยว่าสิ่งของที่จะเอาขึ้นไป และจะใช้จ้างลูกหาบนั้นมีจำนวน มีน้ำหนักเท่าไร ไปชั่งกับเครื่องชั่ง7 ก็ได้ แล้วเตรียมเงินไปให้พร้อม!!!! เพราะที่นั้นไม่มี ATM ให้กดนะครับ จนท.เขาก็ไม่รับบัตรด้วย ATM ที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากอุทยานฯ 18 กิโลเมตร ไปกลับก็ 36 กิโลเมตร นานและเดินทางลำบากนะครับ เตรียมเงินสดมาให้เยอะๆๆๆๆ อย่าคิดว่าจะไม่ได้ใช้ ติดตัวน้อยเกินไปจะลำบากเหมือนพวกผม วุ่นวายมาก บอกเลย
8.
ตัวคุ่นมันทุกที่ ทุกเวลา พ่นสเปรกันแมลงที่ตัวตลอดเวลาเถอะ ไม่งั้นจะเป็นเหมือนข้าพเจ้า จบทริปนี้ โดนคุ่นกันไป 6 จุด เต็มขาเลย เพราะความชล่าใจ

ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองนะจ้ะ อยากรู้ว่ามาที่นี่ อย่างต่ำๆต้องเสียค่าอะไรบ้าง?
1. ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ท่านละ 30บาท (เด็กเท่าไรไม่รู้ไม่ได้สนใจ หุหุ)
2. ค่าเช่าพื้นที่กางเต้นท์ 40 บาท / คน / คืน
3. ค่ามัดจำขยะ 200บาท / คณะ
คือเวลาเราเข้ามาแล้วติดต่อจะกางเต้นท์นอน จนท.เขาจะจัดป้ายไม้ให้ คณะละ 1 อัน เพื่อระบุรายละเอียดว่าระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ เรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง......... สำหรับค่ามัดจำขยะ ถ้าขากลับเราขนขยะลงมา เขาจะคืนเงินให้ 200 บาท
4. ค่าเช่าเต้นท์ (ใครเอามาเองก็ไม่ต้องจ่าย) ส่วนใครไม่ได้เอามา ต้องจ่ายเงินที่นี่นะจ้ะ มีรายละเอียดดังนี้
a. เต้นท์ 2 คน 150บาท/คืน
b. เต้นท์ 3 คน 225บาท/คืน
c. เต้นท์ 4 คน 300บาท/คืน
d. เต้นท์ 6 คน (จำไม่ได้เท่าไรไม่รู้ ลองโทร.ไปถามดูนะครับ)
5. เต้นท์ที่เช่าไม่รวมเครื่องนอนนะจ้ะ
a. หมอน (ฟีบมาก แบนแต๊ดแต๋) 15บาท/ใบ/คืน
b. ถุงนอน 82.5บาท/อัน/คืน (เอะ! ทำไมมีทศนิยม)
c. แผ่นรองนอน 55บาท/อัน/คืน
เมื่อขึ้นไปแล้วเกิดนึกได้ว่าอยากใช้อะไรเพิ่มเติม บนนั้นมี Extra ให้เช่าเพิ่มได้นะครับ (จ่ายตอนขาลงอีกครั้งนึง)
ข้อมูลพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางกันได้เลย!!!!!!! (เดี๋ยวเย็นๆมาเล่าต่อ...ทำงานแพรพ)
[CR] ภูสอยดาว 13-15 พ.ย.58 (หน้าแล้งก็สวยนะ) ทริปป่วนจิต ชีวิตดี Slow life ณ ปลายภู
สวัสดีครับทุกท่าน..... วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวแบ่งปันประสบการณ์เที่ยวภูสอยดาวกันนะ
ก่อนเข้าเรื่องขอบ่นนิดหน่อยนะครับ ข้ามๆท่อนนี้ไปก็ได้ ฮาๆ
ผมมีเพื่อนสาวคนสนิทรู้จักกันมานานนมอยู่คนนึง นานแค่ไหนหน่ะเหรอครับ รู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 แหนะ สมัยนั้นอนุบาล1 มันกี่ขวบกันนะ ตอนนี้ต่างคนก็ปากันเข้าไปคนละ 30++ เอาเป็นว่าเป็นเพื่อรักเลยละ ปกตินางไม่ใช่คนที่จะชอบเที่ยวป่าเขาลำเนาไพรเท่าไรนัก คือนางรักสบาย ถึงเที่ยวป่าเที่ยวดอย นางก็ขอโรงแรมหรู รีสอร์ทดัง ไม่งั้นไม่ไปเด็ดขาด .... ซึ่งแตกต่างกับผมโดยสิ้นเชิง ผมเน้นถูกๆไม่แพงก็ไปได้หมด ดังนั้น เรามักจะไม่ค่อยได้ร่วมทริปกันเท่าไรนัก แต่ครั้งนี้นางมาแปลก จู่ๆก็มาชวนเดินขึ้นภูสอยดาว? กางเต้นท์นอน? หือ??? คนติดหรู คุณหนู ไม่ออกกำลังกายเลย มีเวลาก็ปาตี้ตลอดอย่างหล่อนเนี่ยนะ จะไปภูสอยดาว
ซักไป ไล่มา สุดท้ายได้ความว่า ................ อ่อ....... “เอาใจฝาชี” ฝาชีนางอยากไป และนางก็ไม่อยากไปกันลำพัง 2 คน เลยชวนส่วนเกินอย่างผมไปด้วย ซึ่งตรูอยากไปมาก ก่อนหน้านี้เคยร่วมทริปกับนางหนนึงที่เสม็ด เจอนางแสดงอิทธิฤทธิ์ทะเลาะกับฝาชีโชว์ คิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นทีไรขนลุกทุกที
ได้ข้อสรุปกันว่าเราจะไปช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. เวลาตรงกันที่สุด พอได้วันแล้วเราก็เริ่มหาข้อมูลกัน ส่วนมากก็ได้จากในพันทิปนี่แหละครับแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยม เก่าบ้าง ใหม่บ้าง วันนี้ผมจะมาอัพเดทข้อมูลล่าสุดที่ไปลุยมาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ หลังจากที่อารัมภบทมาซะยืดยาว เริ่มเลยละกันครับ
การเตรียมตัว สิ่งที่ต้องรู้นะครับ สำหรับคนที่อยากไปบ้าง
1. เตรียมร่างกายของคุณให้พร้อมนะ ต้องฟิตหน่อย เพราะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทาง 6.5 กิโลแม๊ว ป้ายเขาบอกอย่างงั้นนะ แต่ผมว่ามันไกลกว่าอีกอะ ในความรู้สึก T^T
2. จะนอนกี่คืนดี จำนวนคืนที่จะนอนบนนั้น มันจะสัมพันธ์กับกิจกรรมที่จะทำ และเวลาที่จะใช้เริ่มออกสตาร์ทเดินขึ้นภูฯ เพราะเดิน 6.5 กิโลเมตรที่ว่านั้นต้อง ใช้เวลา 3-5 ชั่วโมงเลยนะ ขึ้นอยู่กับความฟิตของแต่ละคน ถ้าจะไปนอนคืนเดียว ก็ควรเริ่มเดินขึ้นเขาเช้าๆหน่อย เขาเริ่มให้ขึ้นได้ตั้งแต่ 8.00-14.00 นะตัวเธอ.... ถ้ามาหลัง 14.00 จนท.เข้าไม่อนุญาตให้เดินขึ้นแล้วนะ เพราะกว่าจะไปถึงลานสนได้ มันจะดึก และอันตราย สุดท้ายจะเป็นภาระของลูกหลาน..... เอ้ย! เป็นภาระของเจ้าหน้าที่
3. เตรียมข้าวของเครื่องใช้ .... เธอจ๋า บนดอยไม่มี7-11 นะจ้า... จะไปนอนกี่คืน อยู่กี่วัน ต้องกินข้าวกี่มื้อก็เตรียมไปซะนะครับ บนนั้นไม่มีอะไรขายนะ ถ้าไม่เตรียมอาหารไป จะเป็นยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ใครลองไม่เตรียมแล้วมาเขียนกระทู้เล่าให้กันฟังบ้างนะครับ 5555
4. รู้มั้ย ค่าลูกหาบเขาปรับราคากันแล้วนะ ไม่ใช่ 30 แล้วนะ เป็น 35 บาท/กิโลกรัมแล้วจ้ะ และที่สำคัญ ยกให้เป็นอีกข้อเลย เพราะผมเองพึ่งรู้ตอนจะลงภูฯ
5. โอ้.... มาย.... ก๊อด!!!!!! ค่าลูกหาบเขาคิดทั้งขาขึ้น และขาลงนะจ้ะเธอ...... (ร้อง
6. เมื่อกี้บอกแล้วนะครับว่าไม่มีอะไรขายบนนั้น แม้กระทั่งน้ำดื่ม!! มีคนบอกว่าขวดละ 45 อย่าไปเชื่อ.... มันไม่มี.... ทุกท่านครับ ขึ้นไปบนนั้น แหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค/บริโภคหลักมาจากน้ำฝน และลำธารนะครับ น้ำฝน จนท. เขาจะกักเก็บไว้ในแท็งค์ทุกท่านสามารถเอาภาชนะที่เตรียมมา มาเปิดก๊อกเอาไปใช้ได้เลย หรือจะเช่าถังน้ำ/ขันน้ำจากศูนย์บริการนทท.ก็ได้ (ค่าเช่าอย่างละ 10บาท/คืน) หรือไม่ชอบน้ำฝน จะเอาน้ำจากลำธารก็ได้ครับ ไปตักได้เท่าที่ต้องการ ตักมาแล้วก็เอามาต้มนะครับ จึงจะดื่มได้....... หรือไม่ก็ซื้อน้ำแล้วให้ลูกหาบแบกขึ้นมาให้ ราคาตามตกลง T^T กก.ละ 35 บาท น้ำลิตรนึงหนักเท่าไร เอา35บาทคูณเข้าไป ....
7. เมื่อเตรียมของเสร็จจากที่บ้านแล้ว แนะนำให้เอาไปชั่งก่อนเลยว่าสิ่งของที่จะเอาขึ้นไป และจะใช้จ้างลูกหาบนั้นมีจำนวน มีน้ำหนักเท่าไร ไปชั่งกับเครื่องชั่ง7 ก็ได้ แล้วเตรียมเงินไปให้พร้อม!!!! เพราะที่นั้นไม่มี ATM ให้กดนะครับ จนท.เขาก็ไม่รับบัตรด้วย ATM ที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากอุทยานฯ 18 กิโลเมตร ไปกลับก็ 36 กิโลเมตร นานและเดินทางลำบากนะครับ เตรียมเงินสดมาให้เยอะๆๆๆๆ อย่าคิดว่าจะไม่ได้ใช้ ติดตัวน้อยเกินไปจะลำบากเหมือนพวกผม วุ่นวายมาก บอกเลย
8. ตัวคุ่นมันทุกที่ ทุกเวลา พ่นสเปรกันแมลงที่ตัวตลอดเวลาเถอะ ไม่งั้นจะเป็นเหมือนข้าพเจ้า จบทริปนี้ โดนคุ่นกันไป 6 จุด เต็มขาเลย เพราะความชล่าใจ
ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองนะจ้ะ อยากรู้ว่ามาที่นี่ อย่างต่ำๆต้องเสียค่าอะไรบ้าง?
1. ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ท่านละ 30บาท (เด็กเท่าไรไม่รู้ไม่ได้สนใจ หุหุ)
2. ค่าเช่าพื้นที่กางเต้นท์ 40 บาท / คน / คืน
3. ค่ามัดจำขยะ 200บาท / คณะ
คือเวลาเราเข้ามาแล้วติดต่อจะกางเต้นท์นอน จนท.เขาจะจัดป้ายไม้ให้ คณะละ 1 อัน เพื่อระบุรายละเอียดว่าระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ เรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง......... สำหรับค่ามัดจำขยะ ถ้าขากลับเราขนขยะลงมา เขาจะคืนเงินให้ 200 บาท
4. ค่าเช่าเต้นท์ (ใครเอามาเองก็ไม่ต้องจ่าย) ส่วนใครไม่ได้เอามา ต้องจ่ายเงินที่นี่นะจ้ะ มีรายละเอียดดังนี้
a. เต้นท์ 2 คน 150บาท/คืน
b. เต้นท์ 3 คน 225บาท/คืน
c. เต้นท์ 4 คน 300บาท/คืน
d. เต้นท์ 6 คน (จำไม่ได้เท่าไรไม่รู้ ลองโทร.ไปถามดูนะครับ)
5. เต้นท์ที่เช่าไม่รวมเครื่องนอนนะจ้ะ
a. หมอน (ฟีบมาก แบนแต๊ดแต๋) 15บาท/ใบ/คืน
b. ถุงนอน 82.5บาท/อัน/คืน (เอะ! ทำไมมีทศนิยม)
c. แผ่นรองนอน 55บาท/อัน/คืน
เมื่อขึ้นไปแล้วเกิดนึกได้ว่าอยากใช้อะไรเพิ่มเติม บนนั้นมี Extra ให้เช่าเพิ่มได้นะครับ (จ่ายตอนขาลงอีกครั้งนึง)
ข้อมูลพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางกันได้เลย!!!!!!! (เดี๋ยวเย็นๆมาเล่าต่อ...ทำงานแพรพ)