บทที่ 16: ความจริง
ฉันนั่งจ้องสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ยังคงงง และตะลึงกับสิ่งที่เห็น แล้วตกลงนี่มันใช่เรื่องจริง จริงๆ เหรอเนี่ย
“นี่ๆ เธอเชื่อรึยัง หรือจะเปิดหน้าอกให้เธอดูอีกทีก็ได้นะ” เสียงเบื่อหน่ายดังมาจากโน๊ตบุคที่วางอยู่บนโต๊ะของพีทในคอนโด ส่วนฉันได้แต่ดูสำเนาบัตรประชาชนที่อยู่ตรงหน้าสลับกับหน้าของสาวสวยที่คุยวิดีโอคอลอยู่กับฉันตอนนี้
“นี่แหละที่ฉันอยากจะบอกเธอ แต่เธอไม่ฟังฉันเลย” พีทพูดเสียงอ่อยๆ มาจากด้านหลังของฉัน
“เอาล่ะฉันไปแล้วนะ ต้องรีบไปเตรียมตัวโชว์คืนนี้” สาวสวยในวิดีโอพูดก่อนที่จะออฟไลน์ไป
คือ..สรุปแล้วน้องเหมียว ที่มีชื่อจริงว่านายพยัคฆ์ หรือชื่อเล่นว่าเสือ แต่พอรู้ตัวว่าเป็นสาวก็เปลี่ยนเป็นเหมียว เป็นเพื่อนสนิทกับพีทมาตั้งแต่ประถม และมีห้องอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับพีทที่กรุงเทพฯ หรือที่ฉันอยู่นั้นแหละ แล้วรู้ตัวว่าเป็นสาวจึงแปลงเพศช่วงที่เข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งพีทได้ไปขอค้างที่ห้องของเหมียวในวันที่ป๊า และแม่ฉันมา โดยมีข้อตกลงว่าต้องไปเทรนส่วนตัวให้ในวันเสาร์ที่เค้าออกไป เพราะพี่เสือ เอ่อ..พี่เหมียวรู้สึกว่าตัวเองอวบขึ้น นอกจากนั้นเรื่องที่ฉันเห็นวันนั้นเค้าแค่หยอกกันเล่นเฉยๆ
“แต่จะว่าไปนมไอ้เสือใหญ่กว่าเธออีกนะเมื่อกี้” พีทพูดพลางขำ ด้วยความที่อายมากฉันจึงเขวี้ยงหมอนอิงใส่พีท
“ชอบก็ไปอยู่กับเค้าเลยสิ” ฉันบ่นอุบ
“ไปได้ไง ก็เค้าอยากกินเกี๊ยวนี่น่าาา” พีทพูดพลางวิ่งเค้ามากอดฉัน และพูดต่อ
“เข้าใจฉันแล้วใช่ไหม” นายพีทพูด
“อืม ฉันขอโทษนะ ฉันงี่เง่า ไร้สาระ ใส่นายอีกแล้ว” ฉันหันไปจ้องหน้าเค้าเพื่อขอโทษจากใจจริง
“เฮ้ออ..ทำไงได้” เค้าถอนหายใจออกมา และพูดเปรยๆ
“นายโกรธฉันมากเลยเหรอ” ฉันถามเค้า
“เปล่าฉันแค่ต้องทำใจว่าฉันดันไปรักยัยเน่าแถมไร้สาระอย่างเธอน่ะสิ” เค้ายิ้มก่อนที่จะกอดฉันต่อ เอ่อ..งั้นต่อไปนี้จะโกรธอะไรนายนี่สงสัยต้องมีสติหน่อยแล้วเรา
2 อาทิตย์ต่อมา..
“เกี๊ยวววว” เสียงแม่เรียกฉันจากหน้าบ้าน สงสัยว่า..
“คนที่อยู่คอนโดนั่นโทรมาให้ส่งของให้อีกแล้ว” นั่นไงเป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ พีทอีกแล้ว
ฉันจึงเดินไปที่หน้าร้านเพื่อรับของจากแม่
“นี่แม่ก็เริ่มโมโหแล้วนะ ไม่มีเท้าเดินออกมาบ้างเลยรึไง โทรเรียกอยู่ได้ คนรวยสมัยนี้เนี่ยนะ แล้วเราน่ะรีบส่งแล้วก็รีบกลับนะ ปล่อยให้ออกไปส่งที่นี่ทีไรกว่าจะกลับช้าตลอด ร้านยิ่งขาดคนอยู่” แม่ฉันบ่นๆ แต่ก็ยัดของใส่มือฉัน เอิ่ม..หนูขอโทษนะแม่
ฉันปั่นจักรยานไปจนถึงที่คอนโด ซึ่งสามารถเห็นพีทที่มายืนรออยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน
“เย้ๆ เกี๊ยวมาแล้วๆ” นายนั่นกระโดด เด้งๆ อยู่หน้าคอนโด จะบ้าตายฉันล่ะอายคนซะจริงๆ
“นายจะมารอทำไม เดี๋ยวคนที่รู้จักฉันเห็นก็ไปบอกป๊ากับแม่ฉันพอดี” ฉันบ่นนายพีท นายนั่นทำหน้าสลดก่อนที่จะเข้ามาช่วยฉันถือของ
ตอนที่ฉันจอดรถนั่นเองจู่ๆ ฉันก็รู้สึกเวียนหัว และหน้ามืด ก่อนที่จะได้ยินเสียงพีทเรียกชื่อฉันเป็นเสียงสุดท้าย แล้วฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
ห้อง 1708..
กลิ่นหอมๆ ลอยมาเข้าจมูกฉัน แล้วฉันจึงลืมตาขึ้นมา ตอนนี้ฉันนอนอยู่บนเตียงใหญ่ เอ่อ..นุ่มเป็นบ้า แล้วก็ไม่ต้องสืบด้วยว่าห้องใคร เพราะฉันเข้าออกอยู่เป็นประจำ
ฉันลุกจากเตียง และเดินไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูไปฉันจึงเดินตามกลิ่นจนไปถึงครัว ภาพที่เห็นคือผู้ชายตัวใหญ่ใส่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายหมีน่ารัก กำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำต้มอะไรสักอย่างในหม้อ ว่าแล้วฉันจึงเดินไปแอบพีทที่ด้านหลัง ก่อนที่จะสะกิดไหล่เค้า และเมื่อเค้าหันมาฉันจึงจุ๊บเข้าไปที่แก้มพีท
“ยัยเน่า” เค้าพูดออกมาอย่างตกใจเบาๆ
“ใช่สิ นั่นทำให้ฉันเหรอ” ฉันฉีกยิ้ม และมองหน้าเค้า
“อะ..อืม ก็ใช่น่ะสิ” ตอนนี้พีทก้มหน้าหงุดๆ มือคนแต่ข้าวในหม้อ โดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย
“อะไรกัน ทำไมไม่มองหน้ากันนเลยน่าา~” ฉันพูดล้อเค้า พร้อมกับมุดเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างแขน 2 ข้างของพีทที่กำลังทำครัวอยู่
“ไหนๆ ทำอะไรอยู่” ฉันหันไปดูสิ่งที่เค้าทำอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ทำโจ๊กให้เธออยู่ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ” เค้าพูดขณะที่กำลังคนโจ๊กในหม้อ
ฉันยิ้มกับความน่ารักของเค้า แฟนฉันนี่น่ารักจังนะ แล้วฉันจึงตัดสินใจหันกลับไปหาเค้า พีททำท่าตกใจเล็กน้อย แล้วฉันก็เขย่งตัวพร้อมกับกอดคอดึงพีทลงมาแล้วก็จูบที่ริมฝีปากเค้า
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงชอบแกล้งฉัน น่ารักจริงๆเลยนะเราอ่ะ แฟนใครเนี่ย” ฉันพูดหลังจากถอนริมฝีปากออก
“ออกไปรอที่โต๊ะนู่นเลยไป” พีทพูดพลางหน้าแดง ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วจึงมุดตัวออกไปจากตัวเค้า แต่ก่อนที่จะไปถึงโต๊ะอาหาร ฉันก็แวะที่ตู้เย็นของเค้าก่อน หาของกินเล่นก่อนอ่ะนะ
เมื่อเปิดเข้าไปในตู้เย็นของนายนั่นมีแต่ของที่มาจากร้านฉันเต็มไปหมด สั่งมาทิ้งขว้างจริงๆ แต่แล้วฉันก็เห็นมะม่วงเปรี้ยว โอ้ยเข็ดฟันดีจัง เอาออกไปกินดีกว่า~
“พีทกินมะม่วงนะ” ฉันถามเค้า
“ของของฉันก็ของของเธอนั่นแหละ อยากได้อะไรก็หยิบเลย” เค้าพูดตอบฉัน
ฉันเดินไปที่โต๊ะอาหารก่อนที่จะกินมะม่วงอย่างเอร็ดอร่อย
“กินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย เปรี้ยวซะขนาดนั้น ฉันซื้อมาฉันยังไม่กล้ากินต่อเลย” พีทพูดขณะที่กำลังนำอาหารมาเสิร์ฟฉัน
ฉันได้แต่ยิ้มตอบเค้าเพราะมะม่วงกำลังเต็มปาก เมื่อฉันเคี้ยวเสร็จ ฉันจึงเดินไปเพื่อที่จะเตรียมน้ำดื่มให้กับเราทั้ง 2 คน แต่แล้วฉันก็หน้ามืดอีกครั้ง และพีทก็มารับได้ทัน
“เป็นอะไรเนี่ย ฉันว่านะเพราะว่าเธอห่างจากฉันไปนานก็เลยป่วยบ่อยเห็นไหมเนี่ยยัยเน่า มานั่งนี่ก่อนเลย” เค้าประคองฉันมานั่งที่โต๊ะจัดแจงอาหารให้ตรงหน้า แล้วพีทจึงเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อนำน้ำมาให้ฉันแทน
“ตาบ้า ไร้สาระ” ฉันพูดว่าเค้า แต่เอ๊ะ! ฉันแปลกใจกับอาการของฉันเหมือนกัน เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้เพิ่งมาเป็นตอนนี้นะ แต่กลับเป็นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้สักพัก
ดูเหมือนพีทจะสามารถจับสังเกตสีหน้าฉันได้ และเค้าก็คงคิดอะไรบางอย่างอยู่ที่เหมือนกับฉัน แล้วเค้าก็พูดออกมา
“ประจำเดือนเธอมาปกติไหม” พีทถาม
“มันก็…” ฉันนึกขึ้นได้ว่ามันไม่มากว่า 2- 3 เดือนแล้ว
“ว่าไงเกี๊ยว” เค้าถามซ้ำ ฉันจับมือเค้าแน่น ถ้าฉันบอกสิ่งที่ฉันคิดไปมันจะโอเคไหม ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า แต่ฉันก็ต้องบอกเค้า
“พีท หรือว่าเกี๊ยวจะท้อง..” ฉันตัดสินใจพูดออกมา
เมื่อฉันเลื่อนหน้าไปมองที่หน้าของพีท เค้าดูไม่ได้ตกใจจากคำพูดของฉัน แต่กลับดูดีใจสุดๆ ดูตื่นเต้น และมีความสุขกับคำถามนั้น
“เธอไม่ต้องห่วงน่ะฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” เค้าพูดก่อนที่จะเข้ามากอดฉัน ฉันกอดเค้า เรากอดกันอยู่นานก่อนที่จะได้ยินเสียงเคาะที่ประตู
‘ก๊อกๆ’
“เดี๋ยวฉันไปดูเอง” พีทว่า
เมื่อประตูเปิดออก แม่บ้านคนที่โทรศัพท์ให้พวกเรานั้นกำลังยืนอยู่เป็นคนแรกที่หน้าประตู ก่อนที่จะตามด้วย.. ป๊า! แม่! และคุณตำรวจอีก 2 คน
“แม่ว่าแล้วว่าช่วงหลายสัปดาห์นี้ แกหายไปส่งของนานกว่าปกติ ดีนะว่าฉันเจอแม่บ้านคนนี้พอดีแล้วจำเสียงได้ ยัยเกี๊ยวลุกมาเดี๋ยวนี้ และคุณตำรวจคะ จับนายนี่เลยค่ะ เค้าลักพาตัวลูกสาวฉัน” แม่พูดจบตำรวจ 2 นายก็เข้ามาจับพีทไป ไม่ใช่ว่าคุณตำรวจทั้ง 2 ไม่รู้กฎหมายนะว่าคนหายต้อง 24 ชั่วโมงถึงจะแจ้งความคนหายได้ และฉันก็บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่คุณตำรวจทั้ง 2 เซ็นต์ติดค่าของไว้ที่ร้านฉันเยอะมาก พอแม่ฉันขู่หน่อยก็เลยทำตามแต่โดยดี โถ่แม่..อย่าทำอะไรสามีหนู
ณ โรงพัก..
“พ่อหนุ่มอยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวเจ้คนนั้นไป เดี๋ยวพวกลุงจะปล่อยเราออกมาเอง” คุณตำรวจเข้ามาบอกพีทที่ตอนนี้นั่งหน้าหง่อยอยู่ในคุก
“พีท เกี๊ยวขอโทษเดี๋ยวเกี๊ยวเคลียร์กับแม่ และป๊าเองนะ” ฉันเดินเข้าไปบอกเค้า
ซึ่งขณะนั้นแม่ และป๊าเดินเข้ามาหาฉันพอดี ตัวป๊าน่ะก็ไม่ได้อะไรนะไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไร แต่แม่ฉันเนี้ยสิ
“ยัยเกี๊ยว แกกำลังโดนผู้ชายคนนั้นหลอกนะ ออกมาเดี๋ยวนี้!” แม่ฉันเดินเข้ามาลากฉันออกไป
“คุณแม่ครับผมไม่ได้มาหลอกเกี๊ยวนะครับ” พีทตะโกนออกมาจากตาราง
“แล้วแกให้แม่บ้านโทรมาหลอกฉันเนี่ยนะ” แม่ตะโกนตอบกลับ
ตอนนี้ฉันอยากจะออกไปจากที่นี่มาก ทั้งตำรวจ และคนในหมู่บ้านต่างมามุงดู และขำกับการกระทำของแม่ฉันที่เถียงกับพีทมาก
ไม่นานนัก และแล้วเฮียเคี้ยงสุดหล่อก็เดินเข้ามา
“คุณน้าอย่าไปยอมนะครับ อย่างนี้ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” เค้าเดินเข้ามายืนเคียงข้างแม่ฉัน และพูดยุแม่ฉัน ก่อนที่จะเดินเข้ามาทางฉัน
“น้องเกี๊ยวครับพี่ต้องขอโทษน้องเกี๊ยววันนั้นด้วยนะครับ ที่วันนั้นพี่ไม่ยอมรับฟังน้องเกี๊ยว คงเพราะพี่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับน้องเกี๊ยวมากเกินไป แต่ตอนนี้หลังจากที่พี่ได้ไปนอนคิดมาแล้ว..” เค้าพูดพร้อมกับจับมือฉัน
“เด็กดีๆ อย่างน้องเกี๊ยว ไม่มีทางที่จะไปยุ่งกับไอ้กุ๊ยนั่นได้อย่างแน่นอน”
เฮียเคี้ยงพูดจบพร้อมกับเอามือของฉันไปลูบหน้าเค้า หึ้ย~ จะทนไม่ไหวแล้ว
“เกี๊ยวอย่าให้ไอ้อ้วนนั่นมันจับมือ” พีทตะโกนออกมา
“แกอย่ามายุ่งไอ้หน้าหล่อ 2 คนนี้เค้าเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วโว้ยยย..” แม่ฉันพูดเยาะเย้ยกลับ
“ฮ่าๆ แกมันสู้ฉันไม่ได้หรอก” เฮียเคี้ยงพูดตอกกลับออกไปอีก
โอ๊ยยยยยยยย! ทนไม่ไหวแล้วว
“พอ! พอได้แล้ว! และก็ปล่อยมือฉันด้วย” ฉันตะโกนออกมาก่อนที่จะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเฮียเคี้ยง
“ทำไมทำกับเฮียอย่างนี้” เฮียเคี้ยงพูดออกมาพร้อมกับเบะปาก
“แกนี่มันไม่น่ารักกับพี่เค้าเลย ไม่เป็นไรนะลูกน้องเค้ากำลังหลงผิด” แม่ฉันพูดต่อ พร้อมกับหันไปปลอบใจเฮียเคี้ยง
ฉันหันกลับไปมองหน้าพีท ที่ตอนนี้เกาะลูกกรงอย่างน่าสงสาร เอาล่ะฉันตัดสินใจแล้ว
“ป๊า แม่ เกี๊ยวขอโทษนะคะ” แม่กับป๊าหันมามองที่ฉันอย่างสงสัย รวมไปถึงชาวบ้านที่อยู่ในโรงพัก เฮียเคี้ยง และนายพีทด้วย
“เกี๊ยวรักเค้าคนนั้น” ฉันพูดพลางชี้ไปที่พีท
“แกจะไปรักเค้าได้ยังไง แกไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนเลยนอกจากคนแถวบ้าน แกกำลังโดนเค้าหลอกอยู่..” แม่ฉันพูดต่อ แต่ไม่ทันพูดจบป๊าฉันก็ขัดขึ้นมาก่อน
“ฟังลูก” ป๊าพูดแค่สั้นๆ เท่านั้น แล้วฉันจึงพูดต่อ
“อืมม..ที่เกี๊ยวไม่ได้บอกป๊ากับแม่..คือเกี๊ยวอยู่กับเค้ามาตลอดตอนที่อยู่กรุงเทพฯ เค้าคือแฟนเกี๊ยว!” ฉันตะโกนออกไป
‘โครมมม’ เฮียเคี้ยงเป็นลมล้มพับลงไปทันทีที่สิ้นเสียงฉันพูด
“อาเคี้ยง!” แม่ฉันรีบวิ่งเข้าไปดูเฮียเคี้ยงที่ล้มลงไปก่อนที่จะเงยหน้ามาต่อว่าฉัน
“เป็นได้ก็เลิกได้ ฉันไม่เห็นว่าจะยากตรงไหน แล้วฉันก็จะไม่ยอมให้แกเป็นแฟนกับคนไร้อนาคตอย่างนั้นหรอก ดูเฮียเคี้ยงซิมีอนาคต..” แม่ฉันก็พูดไม่ทันจบอีกครั้ง โดยคราวนี้ถูกป๊าเอามือมาปิดปากซะก่อน
“ไม่ต้องสนใจแม่เค้าหรอกลูก แม่เค้าก็อย่างงี้แหละ” ป๊าพูดพลางยิ้มให้ฉัน
นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 16
บทที่ 1 http://pantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://pantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/34318241
บทที่ 4 http://pantip.com/topic/34324517
บทที่ 5 http://pantip.com/topic/34331346
บทที่ 6 http://pantip.com/topic/34340038
บทที่ 7 http://pantip.com/topic/34349167
บทที่ 8 http://pantip.com/topic/34361425
บทที่ 9 http://pantip.com/topic/34366412
บทที่ 10 http://pantip.com/topic/34375149
บทที่ 11 http://pantip.com/topic/34381076
บทที่ 12 http://pantip.com/topic/34391357
บทที่ 13 http://pantip.com/topic/34399747
บทที่ 14 http://pantip.com/topic/34408095
บทที่ 15 http://pantip.com/topic/34419870
ป.ล. ตอนสุดท้ายมาวันศุกร์นี้ค่า
-----------------------------------------------------------
บทที่ 16: ความจริง
ฉันนั่งจ้องสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ยังคงงง และตะลึงกับสิ่งที่เห็น แล้วตกลงนี่มันใช่เรื่องจริง จริงๆ เหรอเนี่ย
“นี่ๆ เธอเชื่อรึยัง หรือจะเปิดหน้าอกให้เธอดูอีกทีก็ได้นะ” เสียงเบื่อหน่ายดังมาจากโน๊ตบุคที่วางอยู่บนโต๊ะของพีทในคอนโด ส่วนฉันได้แต่ดูสำเนาบัตรประชาชนที่อยู่ตรงหน้าสลับกับหน้าของสาวสวยที่คุยวิดีโอคอลอยู่กับฉันตอนนี้
“นี่แหละที่ฉันอยากจะบอกเธอ แต่เธอไม่ฟังฉันเลย” พีทพูดเสียงอ่อยๆ มาจากด้านหลังของฉัน
“เอาล่ะฉันไปแล้วนะ ต้องรีบไปเตรียมตัวโชว์คืนนี้” สาวสวยในวิดีโอพูดก่อนที่จะออฟไลน์ไป
คือ..สรุปแล้วน้องเหมียว ที่มีชื่อจริงว่านายพยัคฆ์ หรือชื่อเล่นว่าเสือ แต่พอรู้ตัวว่าเป็นสาวก็เปลี่ยนเป็นเหมียว เป็นเพื่อนสนิทกับพีทมาตั้งแต่ประถม และมีห้องอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับพีทที่กรุงเทพฯ หรือที่ฉันอยู่นั้นแหละ แล้วรู้ตัวว่าเป็นสาวจึงแปลงเพศช่วงที่เข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งพีทได้ไปขอค้างที่ห้องของเหมียวในวันที่ป๊า และแม่ฉันมา โดยมีข้อตกลงว่าต้องไปเทรนส่วนตัวให้ในวันเสาร์ที่เค้าออกไป เพราะพี่เสือ เอ่อ..พี่เหมียวรู้สึกว่าตัวเองอวบขึ้น นอกจากนั้นเรื่องที่ฉันเห็นวันนั้นเค้าแค่หยอกกันเล่นเฉยๆ
“แต่จะว่าไปนมไอ้เสือใหญ่กว่าเธออีกนะเมื่อกี้” พีทพูดพลางขำ ด้วยความที่อายมากฉันจึงเขวี้ยงหมอนอิงใส่พีท
“ชอบก็ไปอยู่กับเค้าเลยสิ” ฉันบ่นอุบ
“ไปได้ไง ก็เค้าอยากกินเกี๊ยวนี่น่าาา” พีทพูดพลางวิ่งเค้ามากอดฉัน และพูดต่อ
“เข้าใจฉันแล้วใช่ไหม” นายพีทพูด
“อืม ฉันขอโทษนะ ฉันงี่เง่า ไร้สาระ ใส่นายอีกแล้ว” ฉันหันไปจ้องหน้าเค้าเพื่อขอโทษจากใจจริง
“เฮ้ออ..ทำไงได้” เค้าถอนหายใจออกมา และพูดเปรยๆ
“นายโกรธฉันมากเลยเหรอ” ฉันถามเค้า
“เปล่าฉันแค่ต้องทำใจว่าฉันดันไปรักยัยเน่าแถมไร้สาระอย่างเธอน่ะสิ” เค้ายิ้มก่อนที่จะกอดฉันต่อ เอ่อ..งั้นต่อไปนี้จะโกรธอะไรนายนี่สงสัยต้องมีสติหน่อยแล้วเรา
2 อาทิตย์ต่อมา..
“เกี๊ยวววว” เสียงแม่เรียกฉันจากหน้าบ้าน สงสัยว่า..
“คนที่อยู่คอนโดนั่นโทรมาให้ส่งของให้อีกแล้ว” นั่นไงเป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ พีทอีกแล้ว
ฉันจึงเดินไปที่หน้าร้านเพื่อรับของจากแม่
“นี่แม่ก็เริ่มโมโหแล้วนะ ไม่มีเท้าเดินออกมาบ้างเลยรึไง โทรเรียกอยู่ได้ คนรวยสมัยนี้เนี่ยนะ แล้วเราน่ะรีบส่งแล้วก็รีบกลับนะ ปล่อยให้ออกไปส่งที่นี่ทีไรกว่าจะกลับช้าตลอด ร้านยิ่งขาดคนอยู่” แม่ฉันบ่นๆ แต่ก็ยัดของใส่มือฉัน เอิ่ม..หนูขอโทษนะแม่
ฉันปั่นจักรยานไปจนถึงที่คอนโด ซึ่งสามารถเห็นพีทที่มายืนรออยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน
“เย้ๆ เกี๊ยวมาแล้วๆ” นายนั่นกระโดด เด้งๆ อยู่หน้าคอนโด จะบ้าตายฉันล่ะอายคนซะจริงๆ
“นายจะมารอทำไม เดี๋ยวคนที่รู้จักฉันเห็นก็ไปบอกป๊ากับแม่ฉันพอดี” ฉันบ่นนายพีท นายนั่นทำหน้าสลดก่อนที่จะเข้ามาช่วยฉันถือของ
ตอนที่ฉันจอดรถนั่นเองจู่ๆ ฉันก็รู้สึกเวียนหัว และหน้ามืด ก่อนที่จะได้ยินเสียงพีทเรียกชื่อฉันเป็นเสียงสุดท้าย แล้วฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
ห้อง 1708..
กลิ่นหอมๆ ลอยมาเข้าจมูกฉัน แล้วฉันจึงลืมตาขึ้นมา ตอนนี้ฉันนอนอยู่บนเตียงใหญ่ เอ่อ..นุ่มเป็นบ้า แล้วก็ไม่ต้องสืบด้วยว่าห้องใคร เพราะฉันเข้าออกอยู่เป็นประจำ
ฉันลุกจากเตียง และเดินไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูไปฉันจึงเดินตามกลิ่นจนไปถึงครัว ภาพที่เห็นคือผู้ชายตัวใหญ่ใส่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายหมีน่ารัก กำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำต้มอะไรสักอย่างในหม้อ ว่าแล้วฉันจึงเดินไปแอบพีทที่ด้านหลัง ก่อนที่จะสะกิดไหล่เค้า และเมื่อเค้าหันมาฉันจึงจุ๊บเข้าไปที่แก้มพีท
“ยัยเน่า” เค้าพูดออกมาอย่างตกใจเบาๆ
“ใช่สิ นั่นทำให้ฉันเหรอ” ฉันฉีกยิ้ม และมองหน้าเค้า
“อะ..อืม ก็ใช่น่ะสิ” ตอนนี้พีทก้มหน้าหงุดๆ มือคนแต่ข้าวในหม้อ โดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย
“อะไรกัน ทำไมไม่มองหน้ากันนเลยน่าา~” ฉันพูดล้อเค้า พร้อมกับมุดเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างแขน 2 ข้างของพีทที่กำลังทำครัวอยู่
“ไหนๆ ทำอะไรอยู่” ฉันหันไปดูสิ่งที่เค้าทำอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ทำโจ๊กให้เธออยู่ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ” เค้าพูดขณะที่กำลังคนโจ๊กในหม้อ
ฉันยิ้มกับความน่ารักของเค้า แฟนฉันนี่น่ารักจังนะ แล้วฉันจึงตัดสินใจหันกลับไปหาเค้า พีททำท่าตกใจเล็กน้อย แล้วฉันก็เขย่งตัวพร้อมกับกอดคอดึงพีทลงมาแล้วก็จูบที่ริมฝีปากเค้า
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงชอบแกล้งฉัน น่ารักจริงๆเลยนะเราอ่ะ แฟนใครเนี่ย” ฉันพูดหลังจากถอนริมฝีปากออก
“ออกไปรอที่โต๊ะนู่นเลยไป” พีทพูดพลางหน้าแดง ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วจึงมุดตัวออกไปจากตัวเค้า แต่ก่อนที่จะไปถึงโต๊ะอาหาร ฉันก็แวะที่ตู้เย็นของเค้าก่อน หาของกินเล่นก่อนอ่ะนะ
เมื่อเปิดเข้าไปในตู้เย็นของนายนั่นมีแต่ของที่มาจากร้านฉันเต็มไปหมด สั่งมาทิ้งขว้างจริงๆ แต่แล้วฉันก็เห็นมะม่วงเปรี้ยว โอ้ยเข็ดฟันดีจัง เอาออกไปกินดีกว่า~
“พีทกินมะม่วงนะ” ฉันถามเค้า
“ของของฉันก็ของของเธอนั่นแหละ อยากได้อะไรก็หยิบเลย” เค้าพูดตอบฉัน
ฉันเดินไปที่โต๊ะอาหารก่อนที่จะกินมะม่วงอย่างเอร็ดอร่อย
“กินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย เปรี้ยวซะขนาดนั้น ฉันซื้อมาฉันยังไม่กล้ากินต่อเลย” พีทพูดขณะที่กำลังนำอาหารมาเสิร์ฟฉัน
ฉันได้แต่ยิ้มตอบเค้าเพราะมะม่วงกำลังเต็มปาก เมื่อฉันเคี้ยวเสร็จ ฉันจึงเดินไปเพื่อที่จะเตรียมน้ำดื่มให้กับเราทั้ง 2 คน แต่แล้วฉันก็หน้ามืดอีกครั้ง และพีทก็มารับได้ทัน
“เป็นอะไรเนี่ย ฉันว่านะเพราะว่าเธอห่างจากฉันไปนานก็เลยป่วยบ่อยเห็นไหมเนี่ยยัยเน่า มานั่งนี่ก่อนเลย” เค้าประคองฉันมานั่งที่โต๊ะจัดแจงอาหารให้ตรงหน้า แล้วพีทจึงเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อนำน้ำมาให้ฉันแทน
“ตาบ้า ไร้สาระ” ฉันพูดว่าเค้า แต่เอ๊ะ! ฉันแปลกใจกับอาการของฉันเหมือนกัน เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้เพิ่งมาเป็นตอนนี้นะ แต่กลับเป็นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้สักพัก
ดูเหมือนพีทจะสามารถจับสังเกตสีหน้าฉันได้ และเค้าก็คงคิดอะไรบางอย่างอยู่ที่เหมือนกับฉัน แล้วเค้าก็พูดออกมา
“ประจำเดือนเธอมาปกติไหม” พีทถาม
“มันก็…” ฉันนึกขึ้นได้ว่ามันไม่มากว่า 2- 3 เดือนแล้ว
“ว่าไงเกี๊ยว” เค้าถามซ้ำ ฉันจับมือเค้าแน่น ถ้าฉันบอกสิ่งที่ฉันคิดไปมันจะโอเคไหม ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า แต่ฉันก็ต้องบอกเค้า
“พีท หรือว่าเกี๊ยวจะท้อง..” ฉันตัดสินใจพูดออกมา
เมื่อฉันเลื่อนหน้าไปมองที่หน้าของพีท เค้าดูไม่ได้ตกใจจากคำพูดของฉัน แต่กลับดูดีใจสุดๆ ดูตื่นเต้น และมีความสุขกับคำถามนั้น
“เธอไม่ต้องห่วงน่ะฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” เค้าพูดก่อนที่จะเข้ามากอดฉัน ฉันกอดเค้า เรากอดกันอยู่นานก่อนที่จะได้ยินเสียงเคาะที่ประตู
‘ก๊อกๆ’
“เดี๋ยวฉันไปดูเอง” พีทว่า
เมื่อประตูเปิดออก แม่บ้านคนที่โทรศัพท์ให้พวกเรานั้นกำลังยืนอยู่เป็นคนแรกที่หน้าประตู ก่อนที่จะตามด้วย.. ป๊า! แม่! และคุณตำรวจอีก 2 คน
“แม่ว่าแล้วว่าช่วงหลายสัปดาห์นี้ แกหายไปส่งของนานกว่าปกติ ดีนะว่าฉันเจอแม่บ้านคนนี้พอดีแล้วจำเสียงได้ ยัยเกี๊ยวลุกมาเดี๋ยวนี้ และคุณตำรวจคะ จับนายนี่เลยค่ะ เค้าลักพาตัวลูกสาวฉัน” แม่พูดจบตำรวจ 2 นายก็เข้ามาจับพีทไป ไม่ใช่ว่าคุณตำรวจทั้ง 2 ไม่รู้กฎหมายนะว่าคนหายต้อง 24 ชั่วโมงถึงจะแจ้งความคนหายได้ และฉันก็บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่คุณตำรวจทั้ง 2 เซ็นต์ติดค่าของไว้ที่ร้านฉันเยอะมาก พอแม่ฉันขู่หน่อยก็เลยทำตามแต่โดยดี โถ่แม่..อย่าทำอะไรสามีหนู
ณ โรงพัก..
“พ่อหนุ่มอยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวเจ้คนนั้นไป เดี๋ยวพวกลุงจะปล่อยเราออกมาเอง” คุณตำรวจเข้ามาบอกพีทที่ตอนนี้นั่งหน้าหง่อยอยู่ในคุก
“พีท เกี๊ยวขอโทษเดี๋ยวเกี๊ยวเคลียร์กับแม่ และป๊าเองนะ” ฉันเดินเข้าไปบอกเค้า
ซึ่งขณะนั้นแม่ และป๊าเดินเข้ามาหาฉันพอดี ตัวป๊าน่ะก็ไม่ได้อะไรนะไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไร แต่แม่ฉันเนี้ยสิ
“ยัยเกี๊ยว แกกำลังโดนผู้ชายคนนั้นหลอกนะ ออกมาเดี๋ยวนี้!” แม่ฉันเดินเข้ามาลากฉันออกไป
“คุณแม่ครับผมไม่ได้มาหลอกเกี๊ยวนะครับ” พีทตะโกนออกมาจากตาราง
“แล้วแกให้แม่บ้านโทรมาหลอกฉันเนี่ยนะ” แม่ตะโกนตอบกลับ
ตอนนี้ฉันอยากจะออกไปจากที่นี่มาก ทั้งตำรวจ และคนในหมู่บ้านต่างมามุงดู และขำกับการกระทำของแม่ฉันที่เถียงกับพีทมาก
ไม่นานนัก และแล้วเฮียเคี้ยงสุดหล่อก็เดินเข้ามา
“คุณน้าอย่าไปยอมนะครับ อย่างนี้ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” เค้าเดินเข้ามายืนเคียงข้างแม่ฉัน และพูดยุแม่ฉัน ก่อนที่จะเดินเข้ามาทางฉัน
“น้องเกี๊ยวครับพี่ต้องขอโทษน้องเกี๊ยววันนั้นด้วยนะครับ ที่วันนั้นพี่ไม่ยอมรับฟังน้องเกี๊ยว คงเพราะพี่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับน้องเกี๊ยวมากเกินไป แต่ตอนนี้หลังจากที่พี่ได้ไปนอนคิดมาแล้ว..” เค้าพูดพร้อมกับจับมือฉัน
“เด็กดีๆ อย่างน้องเกี๊ยว ไม่มีทางที่จะไปยุ่งกับไอ้กุ๊ยนั่นได้อย่างแน่นอน”
เฮียเคี้ยงพูดจบพร้อมกับเอามือของฉันไปลูบหน้าเค้า หึ้ย~ จะทนไม่ไหวแล้ว
“เกี๊ยวอย่าให้ไอ้อ้วนนั่นมันจับมือ” พีทตะโกนออกมา
“แกอย่ามายุ่งไอ้หน้าหล่อ 2 คนนี้เค้าเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วโว้ยยย..” แม่ฉันพูดเยาะเย้ยกลับ
“ฮ่าๆ แกมันสู้ฉันไม่ได้หรอก” เฮียเคี้ยงพูดตอกกลับออกไปอีก
โอ๊ยยยยยยยย! ทนไม่ไหวแล้วว
“พอ! พอได้แล้ว! และก็ปล่อยมือฉันด้วย” ฉันตะโกนออกมาก่อนที่จะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเฮียเคี้ยง
“ทำไมทำกับเฮียอย่างนี้” เฮียเคี้ยงพูดออกมาพร้อมกับเบะปาก
“แกนี่มันไม่น่ารักกับพี่เค้าเลย ไม่เป็นไรนะลูกน้องเค้ากำลังหลงผิด” แม่ฉันพูดต่อ พร้อมกับหันไปปลอบใจเฮียเคี้ยง
ฉันหันกลับไปมองหน้าพีท ที่ตอนนี้เกาะลูกกรงอย่างน่าสงสาร เอาล่ะฉันตัดสินใจแล้ว
“ป๊า แม่ เกี๊ยวขอโทษนะคะ” แม่กับป๊าหันมามองที่ฉันอย่างสงสัย รวมไปถึงชาวบ้านที่อยู่ในโรงพัก เฮียเคี้ยง และนายพีทด้วย
“เกี๊ยวรักเค้าคนนั้น” ฉันพูดพลางชี้ไปที่พีท
“แกจะไปรักเค้าได้ยังไง แกไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนเลยนอกจากคนแถวบ้าน แกกำลังโดนเค้าหลอกอยู่..” แม่ฉันพูดต่อ แต่ไม่ทันพูดจบป๊าฉันก็ขัดขึ้นมาก่อน
“ฟังลูก” ป๊าพูดแค่สั้นๆ เท่านั้น แล้วฉันจึงพูดต่อ
“อืมม..ที่เกี๊ยวไม่ได้บอกป๊ากับแม่..คือเกี๊ยวอยู่กับเค้ามาตลอดตอนที่อยู่กรุงเทพฯ เค้าคือแฟนเกี๊ยว!” ฉันตะโกนออกไป
‘โครมมม’ เฮียเคี้ยงเป็นลมล้มพับลงไปทันทีที่สิ้นเสียงฉันพูด
“อาเคี้ยง!” แม่ฉันรีบวิ่งเข้าไปดูเฮียเคี้ยงที่ล้มลงไปก่อนที่จะเงยหน้ามาต่อว่าฉัน
“เป็นได้ก็เลิกได้ ฉันไม่เห็นว่าจะยากตรงไหน แล้วฉันก็จะไม่ยอมให้แกเป็นแฟนกับคนไร้อนาคตอย่างนั้นหรอก ดูเฮียเคี้ยงซิมีอนาคต..” แม่ฉันก็พูดไม่ทันจบอีกครั้ง โดยคราวนี้ถูกป๊าเอามือมาปิดปากซะก่อน
“ไม่ต้องสนใจแม่เค้าหรอกลูก แม่เค้าก็อย่างงี้แหละ” ป๊าพูดพลางยิ้มให้ฉัน