บทที่ 17: ลูกชายแม่ (End)
ป๊า และแม่ของฉันนั่งเรียงหน้าจ้องเราทั้งคู่ที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ตอนนี้พวกเรากลับมาอยู่ที่บ้านของฉันกันแล้ว ทั้งป๊า แม่ ฉัน และพีท..
“ไหน เล่ามาซิเจอกันได้ยังไง” ป๊าฉันพูดขึ้นมา
“คือหนู..” ฉันกำลังจะตอบ แต่แล้วป๊าก็พูดขัดขึ้น
“ป๊าจะให้เค้าพูด” ป๊าปรามฉันก่อนที่จะมองไปที่พีท
“ผมทำการประกาศหารูมเมทจากในเว็บหอพักครับ ส่วนเกี๊ยวก็ได้เงินเดือนจำกัด เธอจึงโทรมาหาผม แต่ว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกล่อลูกสาวพวกคุณนะครับ” พีทพูดออกมาก่อนที่จะมองหน้าฉัน
“คนดีๆ ที่ไหนเค้าจะประกาศหาคนร่วมห้องผ่านอินเทอร์เน็ต แล้วตัวเองเป็นผู้ชาย ยังจะ..” แม่ฉันบ่นขึ้นมาก่อนที่ป๊าจะหันเอามือไปปิดปากไว้
“อายุเท่าไหร่” ป๊าฉันถามต่อ
“26 ครับ” พีทตอบ และก่อนที่พ่อจะถามคำถามต่อไปพีทก็พูดขึ้นมา
“ผมตั้งใจที่รับผิดชอบเกี๊ยวครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับเรื่องเกี๊ยวผมรักเธอจริงๆ ผมตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะมาแนะนำตัว ทำความรู้จักกับคุณพ่อ คุณแม่แบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมาซะก่อน”
‘พรวด’ เหตุการณ์ต่อจากนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
หลังจากที่พีทพูดจบ ป๊าของฉันก็ลุกพรวดขึ้นมา ก่อนที่จะเข้าไปซัดพีทอย่างเต็มแรง และเตะนายพีทเค้าไปอีก 2 ที ซึ่งมันรวดเร็วมาก และกว่าที่ฉันจะเข้าไปห้ามป๊าได้ทัน ตอนนี้พีทก็ตัวงอหมดแล้ว
“ป๊าขอโทษ ป๊าลืมตัว” ป๊าหันมามองหน้าฉันก่อนที่จะเสยผม และกลับไปนั่งที่เดิม
นายพีทลุกขึ้นจากตรงนั้น สภาพตอนนี้ทั้งปากแตก และหัวยุ่ง เค้าค่อยๆ คลานมานั่งตัวงออยู่ข้างๆ ฉัน
“โถ่! กะอีแค่คอนโดยังไม่มีปัญญาซื้อเงินสดเลย แล้วจะเอาอะไรมาเลี้ยงลูกสาวฉัน” แม่พูดขึ้นมาอีก รอบนี้ป๊าไม่ได้ห้ามแม่อย่างเคย
“แล้วทำไมต้องหารูมเมท” ป๊าของฉันถามต่อ
“เอาจริงๆ คือผม..ไม่ค่อยชอบทำความสะอาดครับ เลยมีแนวคิดว่าถ้ามีรูมเมทก็..ช่วยกันทำ อะไรประมาณนี้ครับ” ตาพีทมองป๊าฉันอย่างเกร็งๆ
“นี่แกเห็นลูกสาวฉันเป็นคนใช้เหรอ” ป๊าฉันกำลังจะอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ฉันจับขาป๊าไว้
“อย่าทำเค้าเลยนะป๊า” ป๊าหันมามองหน้าฉันก่อนที่จะสงบลง
“แล้วนี่เกี๊ยวรู้รึเปล่า” ป๊าถามฉัน
“คือ..ก็รู้บ้างค่ะป๊า แต่หนูก็..ไม่ได้ว่าอะไร” ฉันตอบพลางนั่งก้มหน้า
“ยัยเกี๊ยวเอ้ย! ยัยลูกโง่ นี่ถ้าแกไปเป็นเมียเฮียเคี้ยงนะ ป่านี้ก็สบายไปทั้งชาติ..” แม่ฉันบ่นขึ้นมา แต่ก็โดนป๊าขัดขึ้นมาอีกครั้ง
“ป๊าจะเคารพการตัดสินใจของเกี๊ยว ถ้าเกี๊ยวเลือกเค้า ป๊าก็จะยอม แต่..” ป๊าฉันชำเลืองไปที่แม่ และพูดต่อ
“แต่เกี๊ยวเคลียร์กับแม่แกต่อเองก็แล้วกัน” ป๊าพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินหายออกไปจากตรงนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินตามป๊าไป และปล่อยให้พีทรับมือกับแม่ของฉัน คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง
--------------------------------------------------------------------
พีท:
“คุณแม่ครับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ..” ผมยังพูดทันไม่จบ สาวอายุกว่า 50 ที่อยู่ตรงหน้าผมก็ขัดขึ้นมาก่อน รู้เลยว่ายัยเกี๊ยวไม่ฟังคนอื่นเหมือนใคร
“นายรู้มั้ย ลูกสาวฉันถูกจับหมั้นกับเฮียเคี้ยงเจ้าของโรงน้ำตั้งแต่เด็กๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นป่านี้ ลูกสาวฉันก็คงเป็นเถ้าแก่เนี้ยไปแล้ว เพราะนายแท้ๆ...แล้วตอนนี้ทำอาชีพอะไร” แม่ของยัยเกี๊ยวถามผมขึ้นมาหลังจากบ่นเสร็จ
“เป็นเทรนเนอร์อยู่ที่ฟิตเนส หรือที่ออกกำลังกายน่ะครับ แต่ว่า..” ผมตอบไปไม่ทันจะจบก็โดนขัดขึ้นอีกครั้ง
“อะไรคือเนอร์ๆ เนี่ยไม่รู้จัก แต่สรุปว่าเป็นลูกจ้างเค้าใช่มั้ย แล้วที่ว่าทำงานในที่ออกกำลังกาย ที่เหมือนมาช่วยจับๆ ตามที่ออกกำลังใช่มั้ย แล้วอย่างนี้จะเลี้ยงลูกฉันได้ยังไง ฉันเลี้ยงยัยเกี๊ยวมากับป๊า ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ดีหน่อยก็แค่ที่คอนโดในกรุงเทพฯ ของเธอน่ะใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังผ่อนไม่หมดใช่มั้ยล่ะ อย่างนี้จะให้ฉันวางใจยกลูกสาวให้ได้ยังไง แล้ว..” ผมไม่ปล่อยให้คุณแม่พูดจบ ผมจึงขัดขึ้นมา เพราะถ้าปล่อยให้คุณแม่พูดมากกว่านี้ หูผมคงชาแน่ๆ แค่ปากแตก กับโดนเตะนี่ผมก็เริ่มปวดตึ๊บๆ แล้ว
“คือ..นอกจากผมจะทำงานที่นั้นแล้ว ผมยังเป็นเจ้าของฟิตเนสด้วยครับ” เมื่อผมพูดจบ ผมจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคุณแม่ ท่านดูไม่ได้แปลกใจอะไร
“ก็นะ เจ้าของสถานที่ออกกำลังกาย แล้วยังไงจะสู้เฮียเคี้ยงลูกเจ้าของโรงน้ำรายใหญ่ของอำเภอเราได้ยังไงล่ะ ถ้านายคิดว่ามีดีแค่นี้แล้วจะทำให้ฉันเลิกสงสัยในตัวนายได้ ฝันไปรึไง!” คุณแม่พูดออกมาอย่างเสียงดัง เอาล่ะครับ งั้นผมตัดสินใจที่จะพูดความจริงให้คุณแม่ยัยเกี๊ยวฟังทั้งหมด
“ฟิตเนสของผมไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีกว่า 100 สาขากระจายทั่วทุกจังหวัดครับ ส่วนคอนโดที่ผมอยู่ผมซื้อด้วยเงินสดไม่ได้ผ่อนครับ คุณแม่สบายใจได้ว่าผมดูแลเกี๊ยวได้ดีกว่าไอ้เคี้ยงนั้นแน่นอน” ผมมองกลับไปที่หน้าของคุณแม่ด้วยความมั่นใจ
ตอนนี้คุณแม่ยัยเกี๊ยวจ้องมองมาที่ผม และกำลังอ้าปากค้าง นี่แหละโอกาสของผม
“คุณแม่ครับ ให้ผมดูแลเกี๊ยวนะครับ”
--------------------------------------------------------------------
เกี๊ยว:
ใครจะไปคิดว่าฉันจะเข้าไปเห็นป๊ากำลังนั่งน้ำตาซึมอยู่ ป๊าไม่เคยแสดงความรู้สึกแบบนี้ออกมาให้ฉันเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่นับตอนส่งฉันไปกรุงเทพล่ะนะ และเพราะโอกาสนี้เองฉันจึงได้เข้าไปขอโทษ และปรับความเข้าใจกับป๊า ฉันกับป๊าจึงเดินออกมาพร้อมกัน เพื่อเข้ามาดูสถานการณ์ของพีท กับแม่ เฮ้อออ..ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างนะ
“มานี่มาลูก มันต้องเริ่มจากแกะตรงนี้ก่อนนะ อ่า~เก่งมากจ้ะพ่อคุณหัวไว หน้าตาก็ดีแถมยังฉลาดอีกตังหากนะ งั้นทำตรงนี้ไปนะเดี๋ยวแม่ไปเตรียมต้มซุปทางนู้นก่อน” ฉัน และป๊าต่างหันหน้ามามองกัน เพราะงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ป๊า หรือว่าเฮียเคี้ยงมาที่บ้านเรา” ฉันหันกลับไปถามป๊า
“ไม่นะ แม่แกไม่เห็นบอกพ่อเลย” ป๊าฉันตอบ แล้วเราทั้ง 2 จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในครัว
“อ้าววว! ยัยเกี๊ยวมานั่งตรงนี้ช่วยพีทเค้าแกะกุ้งหน่อยลูก ดูซิคงหิวกันแล้วใช่มั้ย วันนี้ทำอะไรมาตั้งหลายอย่าง มามาเดี๋ยวแม่ทำกับข้าวเลี้ยงพวกลูกๆ เอง” แม่ฉันเข้ามาประคองฉัน และพาเข้าไปนั่งข้างๆ พีท ก่อนที่แม่จะเดินกลับไปทำอาหารต่อที่เตา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ” ฉันกระซิบถามพีทที่นั่งอยู่ข้างๆ
พีทไม่ตอบฉันได้แต่ยักคิ้วใส่ ก่อนที่จะหันกลับไปแกะเปลือกกุ้งต่อเช่นกัน..
“โอ๊ะ!” ไม่นานหลังจากนั้นนายพีทก็ร้องขึ้นมาเมื่อสังเกตที่มือเค้าตอนนี้มีเลือกซิบๆ ออกมาบ้างแล้ว สงสัยว่าจะโดนเปลือกกุ้งบาดมือ ซุ่มซ่ามจริงๆ เข้าไปช่วยหน่อยแล้วกะ..
ขณะนั้นเอง ซึ่งฉันยังไม่ทันที่จะเข้าไปช่วยนายพีท ทั้งๆ ที่นั่งข้างๆ กันนะเนี่ย เพราะอะไรนะเหรอ..ก็แม่ฉันน่ะสิพุ่งตัวมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาจัดการมือตาพีทอย่างเสร็จสรรพ
“โอ๊ยตายแล้ว ไม่เจ็บนะลูก พอแล้วๆ ไม่ต้องทำและ ปล่อยให้เกี๊ยวทำไป” แม่ฉันพูด เอิ่ม..นี่เกี๊ยวนะแม่ ลูกแม่เองจำกันไม่ได้เหรอ
“ไม่เป็นไรครับๆ ผมทำต่อได้” นายพีทยิ้มอย่างสุภาพให้แม่ฉัน โอ๊ยย..บรรยากาศสวีทของ 2 คนนี่นี่มันอะไรกันนน!
ทั้ง 2 ยื้อยุดกันจนกระทั้งฉันแกะทั้งหมดจนเสร็จ แล้วนายพีทก็เดินออกขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นแม่ก็เข้ามาประชิดตัวฉัน
“เลือกลูกเขยให้แม่ได้ดีมากกกก” แม่ฉันมาลากเสียงยาวแบบนี้นายพีทเล่นของใส่แม่ฉันแน่ๆ
“อะไรจะขนาดนั้นแม่” ฉันตอบกลับไปก่อนที่จะเดินนำเครื่องครัวไปวางในที่ล้างจาน
“นี่แกไม่รู้อะไรเลยจริงๆ สินะ” แม่ฉันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะทำอาหารต่อ และไล่ฉันออกไปข้างนอก
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย..
หลายวันต่อมา..
“สัปดาห์หน้าแล้วนะ ที่เรานัดกันจะไปจดทะเบียน” นายพีทพูดพลางเล่นผมฉัน
ใช่แล้ว..แม่ฉันไปดูฤกษ์จดทะเบียนไว้ ทางพีททั้งฉัน และเค้าก็ได้พูดคุยกับพ่อกับแม่ของพีทแล้ว ท่านทั้ง 2 ไม่ได้รังเกียจอะไรฉัน และยังดีใจมากอีกด้วยที่พีทจะหยุดพฤติกรรมกะล่อนเจ้าชู้ของเค้าได้ แล้วฉันยังได้รู้อีกว่าจริงๆ แล้วนายนี่รวยสุดๆ มิน่าล่ะแม่ฉันถึงเป็นแบบนั้น..
“ดีใจมากขนาดนั้นเลยรึไง” ฉันถามเค้า โดยที่ตายังคงจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ที่กำลังออกอากาศรายการโปรดฉันอยู่
“ดีใจมากเลยล่ะ ต่อไปนี้ฉันจะได้…” นายพีทไม่พูดเปล่าพลางเอามือของเค้าค่อยๆ โอบตัวฉันอย่างหื่นกาม ฉันมองหน้าเค้า และก่อนที่มือเค้าจะเลื่อนไปจุดสำคัญ ฉันก็ตบหลังมือเค้าได้อย่างทันเวลา
‘เพี๊ยะ’
พีทมองหน้าฉันอย่างอ้อนวอน หลังจาที่ฉันตบมือเค้าไป
“โอเคๆ พ่อจะรอให้ลูกออกมาก่อน และกันน๊า” เค้ายอมแพ้ที่จะสู้กับสายตาฉัน และเปลี่ยนไปคุยกับลูกในท้องแทน อิตานี่ปัญญาอ่อนจริงๆ แต่เอ๊ะ! รู้สึกแปลกๆ นะเนี่ย
“พีท” ฉันเรียกนายนั้นขึ้นมา เพราะจู่ๆ ฉันก็ปวดท้องขึ้นมากระทันหัน ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“เป็นอะไรรึเปล่า” นายพีทที่วิ่งตามฉันมาที่ห้องน้ำ เค้าตะโกนถามอยู่หน้าประตู
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม..เลือดถึงไหลล่ะ
“พีท..ฉัน..เลือดออก”
ที่โรงพยาบาล..
“ประจำเดือนคุณมาค่ะ ไม่ได้มีอาการตั้งท้องนะคะ ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเพราะความเครียด และก็เพราะอากาศร้อนที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว ยังไงก็พยายามกันใหม่นะคะ อายุยังน้อยทั้งคู่แถมยังแข็งแรงด้วย ยังไงเดี๋ยวออกไปรอรับยาด้านนอกได้เลยค่ะ”
คุณหมอพูดจบฉันได้แต่หันไปมองหน้านายพีทที่ฉายแววเสียใจเล็กน้อย เราทั้งคู่เดินผ่านออกมาที่ตรงรับยา ฉันจึงได้ตัดสินใจพูด
“นายเสียใจมากเลยเหรอ”
พีทหันมายิ้มให้ฉัน เค้าลูบที่หัวฉันก่อนที่จะพูดต่อ
“ไม่หรอก แต่นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยนะที่..ฉันคิดว่าอยากจะมีลูกกับเธอจริงๆ อยากให้เธอเป็นแม่ของลูกฉัน ถ้าถามว่าเสียใจมากมั้ยก็ไม่มากหรอก แต่ก็แค่มีเสียดายบ้าง มันมีอีกเรื่องที่ฉันเสียใจมากกว่านั้นคือ..ช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ฉันทำให้เธอเครียดจัด จนร่างกายไม่ปกติมากกว่า” เค้าพูดพลางยิ้ม
ฉันโถมตัวนำหัวไปพิงที่อกเค้า สักพักนายพีทก็เอื้อมมือมาโอบฉันตอบ
“ไว้คืนนี้เรามาพยายามกันใหม่เน๊อะ” นายนั่นกระซิบใส่ฉัน
“ไอ้บ้าฉันมีประจำเดือน” ฉันตบที่แขนเค้าก่อนที่จะลุกขึ้นมาตอบ
“เวลานี้ยังมาหื่นใส่อีก” ฉันบ่นต่อ นายพีทยิ้มอย่างสดใสให้ฉัน
เราทั้ง 2 กอดกันอยู่ตรงนั้นอย่างเนิ่นนานรอจนกระทั่งทางโรงพยาบาลเรียกฉันไปรับยา..
หลายเดือนต่อมา..
“ฉันยอมให้นายแต่งงานกับลูกสาวฉัน ก็เพราะลูกสาวฉันเลือกนายหรอกนะ”
“ครับคุณพ่อ”
“แล้วที่ยอมให้แต่เร็วอย่างนี้ ก็เพราะเมียฉันบังคับหรอกนะ ถ้าเป็นฉันอีก 5 ปีนู่น!”
“ครับคุณพ่อ”
“แล้ว..”
“พอแล้วคุณ กลับบ้านกันได้แล้ว!”
บทสนทนาของป๊า และพีทด้านบนถูกขัดด้วย เสียงของแม่ฉัน ที่กำลังลากพ่อออกจากรถของนายพีทที่ตอนนี้มาส่งท่านทั้ง 2 ที่สนามบิน และที่แม่ฉันรีบก็เพื่อให้ทันกับเครื่องบินที่กำลังจะออกเพื่อกลับบ้านที่เชียงใหม่
นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 17 (จบ)
บทที่ 1 http://pantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://pantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/34318241
บทที่ 4 http://pantip.com/topic/34324517
บทที่ 5 http://pantip.com/topic/34331346
บทที่ 6 http://pantip.com/topic/34340038
บทที่ 7 http://pantip.com/topic/34349167
บทที่ 8 http://pantip.com/topic/34361425
บทที่ 9 http://pantip.com/topic/34366412
บทที่ 10 http://pantip.com/topic/34375149
บทที่ 11 http://pantip.com/topic/34381076
บทที่ 12 http://pantip.com/topic/34391357
บทที่ 13 http://pantip.com/topic/34399747
บทที่ 14 http://pantip.com/topic/34408095
บทที่ 15 http://pantip.com/topic/34419870
บทที่ 16 http://pantip.com/topic/34428198
ป.ล. ขอบคุณทุกคำแนะนำ ติชม ถ้าฟีตแบคดีอาจจะมีเรื่องใหม่นะ
-----------------------------------------------------------
บทที่ 17: ลูกชายแม่ (End)
ป๊า และแม่ของฉันนั่งเรียงหน้าจ้องเราทั้งคู่ที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ตอนนี้พวกเรากลับมาอยู่ที่บ้านของฉันกันแล้ว ทั้งป๊า แม่ ฉัน และพีท..
“ไหน เล่ามาซิเจอกันได้ยังไง” ป๊าฉันพูดขึ้นมา
“คือหนู..” ฉันกำลังจะตอบ แต่แล้วป๊าก็พูดขัดขึ้น
“ป๊าจะให้เค้าพูด” ป๊าปรามฉันก่อนที่จะมองไปที่พีท
“ผมทำการประกาศหารูมเมทจากในเว็บหอพักครับ ส่วนเกี๊ยวก็ได้เงินเดือนจำกัด เธอจึงโทรมาหาผม แต่ว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกล่อลูกสาวพวกคุณนะครับ” พีทพูดออกมาก่อนที่จะมองหน้าฉัน
“คนดีๆ ที่ไหนเค้าจะประกาศหาคนร่วมห้องผ่านอินเทอร์เน็ต แล้วตัวเองเป็นผู้ชาย ยังจะ..” แม่ฉันบ่นขึ้นมาก่อนที่ป๊าจะหันเอามือไปปิดปากไว้
“อายุเท่าไหร่” ป๊าฉันถามต่อ
“26 ครับ” พีทตอบ และก่อนที่พ่อจะถามคำถามต่อไปพีทก็พูดขึ้นมา
“ผมตั้งใจที่รับผิดชอบเกี๊ยวครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับเรื่องเกี๊ยวผมรักเธอจริงๆ ผมตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะมาแนะนำตัว ทำความรู้จักกับคุณพ่อ คุณแม่แบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมาซะก่อน”
‘พรวด’ เหตุการณ์ต่อจากนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
หลังจากที่พีทพูดจบ ป๊าของฉันก็ลุกพรวดขึ้นมา ก่อนที่จะเข้าไปซัดพีทอย่างเต็มแรง และเตะนายพีทเค้าไปอีก 2 ที ซึ่งมันรวดเร็วมาก และกว่าที่ฉันจะเข้าไปห้ามป๊าได้ทัน ตอนนี้พีทก็ตัวงอหมดแล้ว
“ป๊าขอโทษ ป๊าลืมตัว” ป๊าหันมามองหน้าฉันก่อนที่จะเสยผม และกลับไปนั่งที่เดิม
นายพีทลุกขึ้นจากตรงนั้น สภาพตอนนี้ทั้งปากแตก และหัวยุ่ง เค้าค่อยๆ คลานมานั่งตัวงออยู่ข้างๆ ฉัน
“โถ่! กะอีแค่คอนโดยังไม่มีปัญญาซื้อเงินสดเลย แล้วจะเอาอะไรมาเลี้ยงลูกสาวฉัน” แม่พูดขึ้นมาอีก รอบนี้ป๊าไม่ได้ห้ามแม่อย่างเคย
“แล้วทำไมต้องหารูมเมท” ป๊าของฉันถามต่อ
“เอาจริงๆ คือผม..ไม่ค่อยชอบทำความสะอาดครับ เลยมีแนวคิดว่าถ้ามีรูมเมทก็..ช่วยกันทำ อะไรประมาณนี้ครับ” ตาพีทมองป๊าฉันอย่างเกร็งๆ
“นี่แกเห็นลูกสาวฉันเป็นคนใช้เหรอ” ป๊าฉันกำลังจะอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ฉันจับขาป๊าไว้
“อย่าทำเค้าเลยนะป๊า” ป๊าหันมามองหน้าฉันก่อนที่จะสงบลง
“แล้วนี่เกี๊ยวรู้รึเปล่า” ป๊าถามฉัน
“คือ..ก็รู้บ้างค่ะป๊า แต่หนูก็..ไม่ได้ว่าอะไร” ฉันตอบพลางนั่งก้มหน้า
“ยัยเกี๊ยวเอ้ย! ยัยลูกโง่ นี่ถ้าแกไปเป็นเมียเฮียเคี้ยงนะ ป่านี้ก็สบายไปทั้งชาติ..” แม่ฉันบ่นขึ้นมา แต่ก็โดนป๊าขัดขึ้นมาอีกครั้ง
“ป๊าจะเคารพการตัดสินใจของเกี๊ยว ถ้าเกี๊ยวเลือกเค้า ป๊าก็จะยอม แต่..” ป๊าฉันชำเลืองไปที่แม่ และพูดต่อ
“แต่เกี๊ยวเคลียร์กับแม่แกต่อเองก็แล้วกัน” ป๊าพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินหายออกไปจากตรงนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินตามป๊าไป และปล่อยให้พีทรับมือกับแม่ของฉัน คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง
พีท:
“คุณแม่ครับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ..” ผมยังพูดทันไม่จบ สาวอายุกว่า 50 ที่อยู่ตรงหน้าผมก็ขัดขึ้นมาก่อน รู้เลยว่ายัยเกี๊ยวไม่ฟังคนอื่นเหมือนใคร
“นายรู้มั้ย ลูกสาวฉันถูกจับหมั้นกับเฮียเคี้ยงเจ้าของโรงน้ำตั้งแต่เด็กๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นป่านี้ ลูกสาวฉันก็คงเป็นเถ้าแก่เนี้ยไปแล้ว เพราะนายแท้ๆ...แล้วตอนนี้ทำอาชีพอะไร” แม่ของยัยเกี๊ยวถามผมขึ้นมาหลังจากบ่นเสร็จ
“เป็นเทรนเนอร์อยู่ที่ฟิตเนส หรือที่ออกกำลังกายน่ะครับ แต่ว่า..” ผมตอบไปไม่ทันจะจบก็โดนขัดขึ้นอีกครั้ง
“อะไรคือเนอร์ๆ เนี่ยไม่รู้จัก แต่สรุปว่าเป็นลูกจ้างเค้าใช่มั้ย แล้วที่ว่าทำงานในที่ออกกำลังกาย ที่เหมือนมาช่วยจับๆ ตามที่ออกกำลังใช่มั้ย แล้วอย่างนี้จะเลี้ยงลูกฉันได้ยังไง ฉันเลี้ยงยัยเกี๊ยวมากับป๊า ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ดีหน่อยก็แค่ที่คอนโดในกรุงเทพฯ ของเธอน่ะใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังผ่อนไม่หมดใช่มั้ยล่ะ อย่างนี้จะให้ฉันวางใจยกลูกสาวให้ได้ยังไง แล้ว..” ผมไม่ปล่อยให้คุณแม่พูดจบ ผมจึงขัดขึ้นมา เพราะถ้าปล่อยให้คุณแม่พูดมากกว่านี้ หูผมคงชาแน่ๆ แค่ปากแตก กับโดนเตะนี่ผมก็เริ่มปวดตึ๊บๆ แล้ว
“คือ..นอกจากผมจะทำงานที่นั้นแล้ว ผมยังเป็นเจ้าของฟิตเนสด้วยครับ” เมื่อผมพูดจบ ผมจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคุณแม่ ท่านดูไม่ได้แปลกใจอะไร
“ก็นะ เจ้าของสถานที่ออกกำลังกาย แล้วยังไงจะสู้เฮียเคี้ยงลูกเจ้าของโรงน้ำรายใหญ่ของอำเภอเราได้ยังไงล่ะ ถ้านายคิดว่ามีดีแค่นี้แล้วจะทำให้ฉันเลิกสงสัยในตัวนายได้ ฝันไปรึไง!” คุณแม่พูดออกมาอย่างเสียงดัง เอาล่ะครับ งั้นผมตัดสินใจที่จะพูดความจริงให้คุณแม่ยัยเกี๊ยวฟังทั้งหมด
“ฟิตเนสของผมไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีกว่า 100 สาขากระจายทั่วทุกจังหวัดครับ ส่วนคอนโดที่ผมอยู่ผมซื้อด้วยเงินสดไม่ได้ผ่อนครับ คุณแม่สบายใจได้ว่าผมดูแลเกี๊ยวได้ดีกว่าไอ้เคี้ยงนั้นแน่นอน” ผมมองกลับไปที่หน้าของคุณแม่ด้วยความมั่นใจ
ตอนนี้คุณแม่ยัยเกี๊ยวจ้องมองมาที่ผม และกำลังอ้าปากค้าง นี่แหละโอกาสของผม
“คุณแม่ครับ ให้ผมดูแลเกี๊ยวนะครับ”
เกี๊ยว:
ใครจะไปคิดว่าฉันจะเข้าไปเห็นป๊ากำลังนั่งน้ำตาซึมอยู่ ป๊าไม่เคยแสดงความรู้สึกแบบนี้ออกมาให้ฉันเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่นับตอนส่งฉันไปกรุงเทพล่ะนะ และเพราะโอกาสนี้เองฉันจึงได้เข้าไปขอโทษ และปรับความเข้าใจกับป๊า ฉันกับป๊าจึงเดินออกมาพร้อมกัน เพื่อเข้ามาดูสถานการณ์ของพีท กับแม่ เฮ้อออ..ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างนะ
“มานี่มาลูก มันต้องเริ่มจากแกะตรงนี้ก่อนนะ อ่า~เก่งมากจ้ะพ่อคุณหัวไว หน้าตาก็ดีแถมยังฉลาดอีกตังหากนะ งั้นทำตรงนี้ไปนะเดี๋ยวแม่ไปเตรียมต้มซุปทางนู้นก่อน” ฉัน และป๊าต่างหันหน้ามามองกัน เพราะงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ป๊า หรือว่าเฮียเคี้ยงมาที่บ้านเรา” ฉันหันกลับไปถามป๊า
“ไม่นะ แม่แกไม่เห็นบอกพ่อเลย” ป๊าฉันตอบ แล้วเราทั้ง 2 จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในครัว
“อ้าววว! ยัยเกี๊ยวมานั่งตรงนี้ช่วยพีทเค้าแกะกุ้งหน่อยลูก ดูซิคงหิวกันแล้วใช่มั้ย วันนี้ทำอะไรมาตั้งหลายอย่าง มามาเดี๋ยวแม่ทำกับข้าวเลี้ยงพวกลูกๆ เอง” แม่ฉันเข้ามาประคองฉัน และพาเข้าไปนั่งข้างๆ พีท ก่อนที่แม่จะเดินกลับไปทำอาหารต่อที่เตา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ” ฉันกระซิบถามพีทที่นั่งอยู่ข้างๆ
พีทไม่ตอบฉันได้แต่ยักคิ้วใส่ ก่อนที่จะหันกลับไปแกะเปลือกกุ้งต่อเช่นกัน..
“โอ๊ะ!” ไม่นานหลังจากนั้นนายพีทก็ร้องขึ้นมาเมื่อสังเกตที่มือเค้าตอนนี้มีเลือกซิบๆ ออกมาบ้างแล้ว สงสัยว่าจะโดนเปลือกกุ้งบาดมือ ซุ่มซ่ามจริงๆ เข้าไปช่วยหน่อยแล้วกะ..
ขณะนั้นเอง ซึ่งฉันยังไม่ทันที่จะเข้าไปช่วยนายพีท ทั้งๆ ที่นั่งข้างๆ กันนะเนี่ย เพราะอะไรนะเหรอ..ก็แม่ฉันน่ะสิพุ่งตัวมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาจัดการมือตาพีทอย่างเสร็จสรรพ
“โอ๊ยตายแล้ว ไม่เจ็บนะลูก พอแล้วๆ ไม่ต้องทำและ ปล่อยให้เกี๊ยวทำไป” แม่ฉันพูด เอิ่ม..นี่เกี๊ยวนะแม่ ลูกแม่เองจำกันไม่ได้เหรอ
“ไม่เป็นไรครับๆ ผมทำต่อได้” นายพีทยิ้มอย่างสุภาพให้แม่ฉัน โอ๊ยย..บรรยากาศสวีทของ 2 คนนี่นี่มันอะไรกันนน!
ทั้ง 2 ยื้อยุดกันจนกระทั้งฉันแกะทั้งหมดจนเสร็จ แล้วนายพีทก็เดินออกขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นแม่ก็เข้ามาประชิดตัวฉัน
“เลือกลูกเขยให้แม่ได้ดีมากกกก” แม่ฉันมาลากเสียงยาวแบบนี้นายพีทเล่นของใส่แม่ฉันแน่ๆ
“อะไรจะขนาดนั้นแม่” ฉันตอบกลับไปก่อนที่จะเดินนำเครื่องครัวไปวางในที่ล้างจาน
“นี่แกไม่รู้อะไรเลยจริงๆ สินะ” แม่ฉันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะทำอาหารต่อ และไล่ฉันออกไปข้างนอก
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย..
หลายวันต่อมา..
“สัปดาห์หน้าแล้วนะ ที่เรานัดกันจะไปจดทะเบียน” นายพีทพูดพลางเล่นผมฉัน
ใช่แล้ว..แม่ฉันไปดูฤกษ์จดทะเบียนไว้ ทางพีททั้งฉัน และเค้าก็ได้พูดคุยกับพ่อกับแม่ของพีทแล้ว ท่านทั้ง 2 ไม่ได้รังเกียจอะไรฉัน และยังดีใจมากอีกด้วยที่พีทจะหยุดพฤติกรรมกะล่อนเจ้าชู้ของเค้าได้ แล้วฉันยังได้รู้อีกว่าจริงๆ แล้วนายนี่รวยสุดๆ มิน่าล่ะแม่ฉันถึงเป็นแบบนั้น..
“ดีใจมากขนาดนั้นเลยรึไง” ฉันถามเค้า โดยที่ตายังคงจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ที่กำลังออกอากาศรายการโปรดฉันอยู่
“ดีใจมากเลยล่ะ ต่อไปนี้ฉันจะได้…” นายพีทไม่พูดเปล่าพลางเอามือของเค้าค่อยๆ โอบตัวฉันอย่างหื่นกาม ฉันมองหน้าเค้า และก่อนที่มือเค้าจะเลื่อนไปจุดสำคัญ ฉันก็ตบหลังมือเค้าได้อย่างทันเวลา
‘เพี๊ยะ’
พีทมองหน้าฉันอย่างอ้อนวอน หลังจาที่ฉันตบมือเค้าไป
“โอเคๆ พ่อจะรอให้ลูกออกมาก่อน และกันน๊า” เค้ายอมแพ้ที่จะสู้กับสายตาฉัน และเปลี่ยนไปคุยกับลูกในท้องแทน อิตานี่ปัญญาอ่อนจริงๆ แต่เอ๊ะ! รู้สึกแปลกๆ นะเนี่ย
“พีท” ฉันเรียกนายนั้นขึ้นมา เพราะจู่ๆ ฉันก็ปวดท้องขึ้นมากระทันหัน ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“เป็นอะไรรึเปล่า” นายพีทที่วิ่งตามฉันมาที่ห้องน้ำ เค้าตะโกนถามอยู่หน้าประตู
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม..เลือดถึงไหลล่ะ
“พีท..ฉัน..เลือดออก”
ที่โรงพยาบาล..
“ประจำเดือนคุณมาค่ะ ไม่ได้มีอาการตั้งท้องนะคะ ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเพราะความเครียด และก็เพราะอากาศร้อนที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว ยังไงก็พยายามกันใหม่นะคะ อายุยังน้อยทั้งคู่แถมยังแข็งแรงด้วย ยังไงเดี๋ยวออกไปรอรับยาด้านนอกได้เลยค่ะ”
คุณหมอพูดจบฉันได้แต่หันไปมองหน้านายพีทที่ฉายแววเสียใจเล็กน้อย เราทั้งคู่เดินผ่านออกมาที่ตรงรับยา ฉันจึงได้ตัดสินใจพูด
“นายเสียใจมากเลยเหรอ”
พีทหันมายิ้มให้ฉัน เค้าลูบที่หัวฉันก่อนที่จะพูดต่อ
“ไม่หรอก แต่นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยนะที่..ฉันคิดว่าอยากจะมีลูกกับเธอจริงๆ อยากให้เธอเป็นแม่ของลูกฉัน ถ้าถามว่าเสียใจมากมั้ยก็ไม่มากหรอก แต่ก็แค่มีเสียดายบ้าง มันมีอีกเรื่องที่ฉันเสียใจมากกว่านั้นคือ..ช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ฉันทำให้เธอเครียดจัด จนร่างกายไม่ปกติมากกว่า” เค้าพูดพลางยิ้ม
ฉันโถมตัวนำหัวไปพิงที่อกเค้า สักพักนายพีทก็เอื้อมมือมาโอบฉันตอบ
“ไว้คืนนี้เรามาพยายามกันใหม่เน๊อะ” นายนั่นกระซิบใส่ฉัน
“ไอ้บ้าฉันมีประจำเดือน” ฉันตบที่แขนเค้าก่อนที่จะลุกขึ้นมาตอบ
“เวลานี้ยังมาหื่นใส่อีก” ฉันบ่นต่อ นายพีทยิ้มอย่างสดใสให้ฉัน
เราทั้ง 2 กอดกันอยู่ตรงนั้นอย่างเนิ่นนานรอจนกระทั่งทางโรงพยาบาลเรียกฉันไปรับยา..
หลายเดือนต่อมา..
“ฉันยอมให้นายแต่งงานกับลูกสาวฉัน ก็เพราะลูกสาวฉันเลือกนายหรอกนะ”
“ครับคุณพ่อ”
“แล้วที่ยอมให้แต่เร็วอย่างนี้ ก็เพราะเมียฉันบังคับหรอกนะ ถ้าเป็นฉันอีก 5 ปีนู่น!”
“ครับคุณพ่อ”
“แล้ว..”
“พอแล้วคุณ กลับบ้านกันได้แล้ว!”
บทสนทนาของป๊า และพีทด้านบนถูกขัดด้วย เสียงของแม่ฉัน ที่กำลังลากพ่อออกจากรถของนายพีทที่ตอนนี้มาส่งท่านทั้ง 2 ที่สนามบิน และที่แม่ฉันรีบก็เพื่อให้ทันกับเครื่องบินที่กำลังจะออกเพื่อกลับบ้านที่เชียงใหม่