สวัสดีค่ะ เนื่องจากที่มาโพสวันนี้เพราะว่าทนไม่ไหวจริงกับพฤติกรรม คุณพี่พนักงานรายนี้
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับเพื่อน ได้ไปเดินที่ห้างนี้ ตอนเย็นจะเดินไปเคลมเมมโมรี่การ์ด ระหว่างทาง
เราก็เดินผ่านบู๊ทที่เรากล่าวถึง พี่พนักงาน 2 คนได้เดินมาหาเรา แล้วถามเราว่า
พนักงาน : น้องคะ สะดวกมั้ยคะพี่ขอ เวลา 2 นาที ?
เราก็ยังงงๆ อยู่กำลังจะส่ายหัวเค้าก็จูงแขนเราเข้าไปในบู๊ทเค้าเลย
ด้วยความเกรงใจ ก็เลยหันหน้าไปมองเพื่อน ยิ้มๆ เข้าใจกันว่าเออๆไม่เป็นไรคงแปบเดียว
เค้าถามเราว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เราก็ตอบไปว่าได้นิดหน่อยค่ะ
แล้วเค้าก็ให้ผู้ชายฝรั่งมาเป็นคนเทสผลิตภัณฑ์ให้ ตอนแรกก็ไม่มีอะไรมาก
เหมือนพวกแนะนำสินค้ามาเทสทั่วไป ผู้ชายฝรั่งเค้าก็ถามว่าให้เทสที่หน้าหรือที่มือ เราก็บอกว่ามือ
แล้วเค้าก็แนะนำไปเรื่อยๆ จากนั้นเสร็จแล้ว ก็เข้าอีหรอบปกติ บอกเราว่าเนี่ยคือหน้าเราเป็นสิวนะ
เค้าอยากให้เรามาลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้า จากนั้นฝรั่งคนเดิมหยิบเครื่องคิดเลขมา
คือด้วยความที่ จขกท. ก็ยังเป็นแค่เด็ก นศ. พอเห็นราคาถึงกับอึ้ง 55555
3 ชิ้น 12,900 2 ชิ้น 8,500 1 ชิ้น 3,800 (ตกใจกับราคาแต่ก็ยังนิ่งอยู่ เพราะตั้งใจว่าแค่มาเทสเฉยๆเพราะเค้าพาเราเข้ามาเอง)
เค้าก็แนะนำว่าเนี่ย อย่างเราอะใช้ แค่ตัวเดียวพอ เป็นตัว คลีนซิ่ง ถ้าวันนี้เค้าจะขายให้เราราคาพิเศษ แล้วก็แถมใบ ทรีทเม้นฟรี 2 ใบ
เราก็เลยปฎิเสธอย่างไม่น่าเกลียดว่า ยังไงขอลองไปปรึกษาแม่ก่อน แล้วก็หันไปถามพี่ผู้หญิงอีกคนที่พาเรามา
ว่าบู๊ทพี่อยู่ถึงวันไหนเดี๋ยวถ้าแม่สนใจจะมาอีกทีแล้วกัน
เท่านั้นแหละค่ะ !!!!!! ขุ่นพี่พนักงานคนนี้ก็ทำการขายแบบฮาดเซลล์กับเราทันที่ !
เรียกว่าจิตวิทยามาเต็มสารพัด
พนักงาน : พี่อะอยากให้น้องใช้เพราะว่าพี่เห็นว่าหน้าน้องอะเป็นสิว คือมีปัญหาแบบนี้จริงๆ พี่อยากให้น้องอะเปิดใจให้กับแบรนด์เรา
แล้ววันนี้พี่ทำเซลล์ซึ่งวันเดียวเท่านั้นๆ บลาๆ
แล้วเค้าก็ถามว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ของอะไรอยู่ เราก็ตอบว่าที่บ้านญาติก็มีครีมเป็นของตัวเอง แต่ตัวเราอะ เรียนหนักไม่ค่อยได้นอน
ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองด้วย แล้วไปวันนี้หน้าก็ทาแค่แป้งพัพธรรมดาอย่างเดียวไม่ได้เขียนคิ้วอะไรเลยทั้งนั้น
พอได้การเค้าก็เริ่มอีก
พนักงาน : เนี่ยน้องพี่เค้าก็ขายครีม พี่ก็ใช้มาหมดแล้ว ตอนแรกนะก็หายดีๆ หลังๆก็เป็นอีก เนี่ยพี่อะใช้มาหมดแล้ว
เนี่ยน้องพี่อายุ 40 นะคะ ลูก 2 คน ดูหน้าพี่สิ (ใช่ค่ะอันนี้ยอมรับเค้าหน้าเด็กจริงๆ หน้าตาดูดี)
เนี่ยพี่ลองใช้มาเกือบทุกแบรนด์แล้ว ลาแมร์นะคะน้องพี่ก็ถล่มมาหมดแล้ว แต่พอพี่มาลองใช้ตัวนี้ พี่ก็ไม่ใช้ตัวอื่นอีกเลย
คืออย่างอื่นเราก็เข้าใจที่เค้าพูดนะ แต่พอหลังๆ เหมือนเค้าเริ่มจะลามปามอะ
พนักงาน : เนี่ยผู้หญิงกับสิวเนี่ยมันเป็นปัญหาหลักนะคะ ถ้าน้องลองเปิดใจใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่ หน้าตาน้องก็จะดูดีขึ้น
โตแล้วก็ต้องมีแฟน (ทีนี้เพื่อนเราก็ท้วงมาว่า เค้ามีแฟนแล้วค่ะ )
เนี่ยพี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ น้องสังเกตมั้ยแบบถ้าน้องมีสิว แฟนน้องเค้าก็ไม่อยากจะหอมแก้มน้องหรอก เพราะหน้าเรา
เป็นเม็ดๆ เค้าก็รังเกียด กลัวสิวไปติดหน้าเค้า ( เอิ่ม พอถึงจุดนี้ รู้สึกมั้ยคะ เริ่มยังไงๆ พูดจาได้แบบ = = )
เราก็บอกเค้าว่า ยังไงหนูก็ต้องถามที่บ้านก่อนค่ะ เพราะว่าหนูยังขอเงินที่บ้านขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่
คำพูดของเค้า คือ เค้าถามเราว่าน้องพกบัตรเดบิตอะไรมามั้ย เราก็ตอบเค้าว่าก็พกเป็นปกติค่ะ
คือเค้าบอกให้เราอะไม่ต้องบอกหรอกพ่อแม่ ต้องคิดด้วยตัวเอง หน้าน้องเอง ถ้าน้องอยากหายน้องก็ต้องคิดเอง
บางทีพ่อแม่เค้าไม่เปิดใจหรอก เราอะต้องเปิดใจแล้วลองใช้ พอดีแล้วเราก็เอาไปบอกต่อให้พ่อแม่เราเปิดใจลองใช้ = =
เค้าก็ยังพูดต่อไปเรื่อยๆ จนที่บ้านของเราโทรมาตามว่ายังไม่กลับบ้าน เลยบอกเค้าว่าเนี่ยหนูต้องไปแล้ว
เค้าก็ยังดึงแขนเรา หยิบโทรศัพท์มา เอารูปคนที่เคยซื้อไป นู่นนี่นั่น เนี่ยคนนี้เค้ารวยมาก คนนี้เค้าก็ใช้ลาแมร์ แต่เค้าก็ไม่เอา
เปลี่ยนมาใช้ของพี่
ฝรั่งผู้ชายเค้าเห็นคุยนานเค้าก็มาถามว่าเป็นอะไร
นางก็พูดกับเค้าประมาณว่า เนี่ย น้องเค้ามีเงิน แต่เค้าต้องไปปรึกษาพ่อแม่เค้าก่อน แต่ไออะ อยากให้น้องเค้าใช้
เพราะหน้าน้องเค้ามีปัญหา เพราะอนาคต เค้าก็ต้องแต่งงาน มีครอบครัว มีสามี (จ้า เป็นห่วงขนาดนี้เลยหรอ = = )
ทีนี้เราเริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะเค้าเริ่มดึงเวลาไปเรื่อยๆ เราเลยบอกเค้าว่างั้นเดี๋ยวหนูมาอีกทีแล้วกัน
เค้าก็ยังว่าเราอีกว่าเราไม่เปิดใจ เราก็บอกว่า พี่ก็ควรเปิดใจให้หนูบ้าง พ่อแม่หนูโทรมาตาม แล้วเดี๋ยวก็ต้องไปทำธุระต่อ
นางเมินเลยจ้า เหมือนแบบ หลอกขายเราไม่ได้แล้ว หันไปคุยกับเพื่อนเรา
บอกให้เพื่อนเราเปิดใจกับ แบรนด์นางต่อ เพื่อนเราก็บอกว่าเงินไม่พอ
นางถามว่ามีบัตรเครดิตมั้ย รูดก่อนก็ได้ เพื่อนเราก็บอกว่าไม่มี
นางก็ยังไม่จบจ้า ก็ยังบอกเพื่อนเราว่า ให้มาหุ้นซื้อกับเรา = =
เราก็เริ่มเรียกเพื่อน ให้ไป จน ที่เราขาดผึงเลย ความอดทน ที่ฟังเค้าไปเรื่อยๆก็เพราะว่าเกรงใจ
นางหันไปบอกเพื่อนเราจ้า ว่า เนี่ยถ้าไม่ซื้อก็พูดว่าไม่ซื้อเลย ไม่ใช่ให้พี่มาเทสมาดูแล พี่จะได้เอาเวลาไปขายคนอื่น
ปรี๊ดเลย พอฟังคำนี้ เราเดินออกจากบู๊ทแล้วเรียกเพื่อนเลย
ต่อหลังสุดท้าย ซึ่ง ! เราคิดว่า คนที่มีวุฒิภาวะมากพอ อายุ 40 อย่างเค้า น่าจะมีความคิดความอ่านว่าสมควรจะพูดมั้ย
เค้าพูดต่อตอนเพื่อนเราเดินออกมาแล้วเรากำลังจะไป ว่า
" เนี่ยถ้าน้องหน้าไม่สวย น้องก็จะโดนผู้ชายหลอก _ (ปี้) เค้าไม่ได้ปี้เพราะเค้ารัก "
คือเป็นคำพูดที่แย่มาก โมโหมากเดินออกมา เรานะคิดเลยว่า เออเราก็ผิดเองที่ไปฟังเค้าพูดเวิ่นเว้อมากมาย
น่าจะตัดบทแล้วออกมาให้ไวกว่านี้ แต่คุณพนักงานคนนี้ก็นะ
เราเคยเจอพวกขายของเทสแบบนี้มาหลายคน ดันจะให้เราซื้อของแต่ก็ไม่เคยเจอคนหน้าด้านหน้าทนแล้วพูดจา หมา ไม่ แ_ก
ขนาดนี้มาก่อน เราคิดว่าคำพูดพวกนี้มันไม่น่าจะออกมาจากพนักงาน
คือถ้าเราสนใจจริงๆ พอเรามาเจอแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกติดลบกับแบรนด์เพราะพนักงานแค่คนเดียวได้เลยนะ
ตอนแรกเราคิดว่า จะบอก ยี่ห้อไปเลย แต่เราก็กลัวว่าจะทำให้ชื่อแบรนด์เค้าเสียหายรึเปล่า
แต่ขอพูดตรงนี้เลยว่า เราจะไม่เดินไปเฉียด บู๊ทนี้อีก !!! แย่มาก ! พูดจิกกัด พูดเชียร์ของเกินไปจนไม่สนใจอะไร !
ถ้าใครเคยเจอแบบนี้จะเข้าใจความรู้สึกเราเลยค่ะ
ปล. ยืมล็อกอินแฟนมาโพสนะคะ
ปลล. เขียนยาวไปหน่อย ไม่อยากตัดประโยคค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าตัดมาแต่ที่เค้าพูดไม่ดี
** เพิ่มเติมค่ะ
โดยเฉพาะเอาเราไปเทียบกับเดกอายุ 14
แม่ให้ตังอาทิตละ 2000 ไปซื้อทอง
แต่นางไม่ให้ซื้อทองเพราะให้เกบตังมาซื้อครีมรักษาหน้าหน่อยมั้ยหน้ายังลายอยู่เลยแต่เอาตังไปซื้อทอง
เดกเค้ายังตัดสินใจเองได้ทำไมเรามีวุฒิมากกว่าเราถึงไม่ตัดสินเองล่ะงี้
ขนาดแฟนเรายังไม่ปรึกษาพ่อแม่เลย กับซื้อของเพื่อความสวยเราตัดสินเองไม่ได้หรองี้
ขอประณามพนักงานบู๊ทสกินแคร์ ยี่ห้อน้ำแร่ญี่ปุ่น ที่ห้างย่าน ศรีนครินทร์ !!!
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับเพื่อน ได้ไปเดินที่ห้างนี้ ตอนเย็นจะเดินไปเคลมเมมโมรี่การ์ด ระหว่างทาง
เราก็เดินผ่านบู๊ทที่เรากล่าวถึง พี่พนักงาน 2 คนได้เดินมาหาเรา แล้วถามเราว่า
พนักงาน : น้องคะ สะดวกมั้ยคะพี่ขอ เวลา 2 นาที ?
เราก็ยังงงๆ อยู่กำลังจะส่ายหัวเค้าก็จูงแขนเราเข้าไปในบู๊ทเค้าเลย
ด้วยความเกรงใจ ก็เลยหันหน้าไปมองเพื่อน ยิ้มๆ เข้าใจกันว่าเออๆไม่เป็นไรคงแปบเดียว
เค้าถามเราว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เราก็ตอบไปว่าได้นิดหน่อยค่ะ
แล้วเค้าก็ให้ผู้ชายฝรั่งมาเป็นคนเทสผลิตภัณฑ์ให้ ตอนแรกก็ไม่มีอะไรมาก
เหมือนพวกแนะนำสินค้ามาเทสทั่วไป ผู้ชายฝรั่งเค้าก็ถามว่าให้เทสที่หน้าหรือที่มือ เราก็บอกว่ามือ
แล้วเค้าก็แนะนำไปเรื่อยๆ จากนั้นเสร็จแล้ว ก็เข้าอีหรอบปกติ บอกเราว่าเนี่ยคือหน้าเราเป็นสิวนะ
เค้าอยากให้เรามาลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้า จากนั้นฝรั่งคนเดิมหยิบเครื่องคิดเลขมา
คือด้วยความที่ จขกท. ก็ยังเป็นแค่เด็ก นศ. พอเห็นราคาถึงกับอึ้ง 55555
3 ชิ้น 12,900 2 ชิ้น 8,500 1 ชิ้น 3,800 (ตกใจกับราคาแต่ก็ยังนิ่งอยู่ เพราะตั้งใจว่าแค่มาเทสเฉยๆเพราะเค้าพาเราเข้ามาเอง)
เค้าก็แนะนำว่าเนี่ย อย่างเราอะใช้ แค่ตัวเดียวพอ เป็นตัว คลีนซิ่ง ถ้าวันนี้เค้าจะขายให้เราราคาพิเศษ แล้วก็แถมใบ ทรีทเม้นฟรี 2 ใบ
เราก็เลยปฎิเสธอย่างไม่น่าเกลียดว่า ยังไงขอลองไปปรึกษาแม่ก่อน แล้วก็หันไปถามพี่ผู้หญิงอีกคนที่พาเรามา
ว่าบู๊ทพี่อยู่ถึงวันไหนเดี๋ยวถ้าแม่สนใจจะมาอีกทีแล้วกัน
เท่านั้นแหละค่ะ !!!!!! ขุ่นพี่พนักงานคนนี้ก็ทำการขายแบบฮาดเซลล์กับเราทันที่ !
เรียกว่าจิตวิทยามาเต็มสารพัด
พนักงาน : พี่อะอยากให้น้องใช้เพราะว่าพี่เห็นว่าหน้าน้องอะเป็นสิว คือมีปัญหาแบบนี้จริงๆ พี่อยากให้น้องอะเปิดใจให้กับแบรนด์เรา
แล้ววันนี้พี่ทำเซลล์ซึ่งวันเดียวเท่านั้นๆ บลาๆ
แล้วเค้าก็ถามว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ของอะไรอยู่ เราก็ตอบว่าที่บ้านญาติก็มีครีมเป็นของตัวเอง แต่ตัวเราอะ เรียนหนักไม่ค่อยได้นอน
ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองด้วย แล้วไปวันนี้หน้าก็ทาแค่แป้งพัพธรรมดาอย่างเดียวไม่ได้เขียนคิ้วอะไรเลยทั้งนั้น
พอได้การเค้าก็เริ่มอีก
พนักงาน : เนี่ยน้องพี่เค้าก็ขายครีม พี่ก็ใช้มาหมดแล้ว ตอนแรกนะก็หายดีๆ หลังๆก็เป็นอีก เนี่ยพี่อะใช้มาหมดแล้ว
เนี่ยน้องพี่อายุ 40 นะคะ ลูก 2 คน ดูหน้าพี่สิ (ใช่ค่ะอันนี้ยอมรับเค้าหน้าเด็กจริงๆ หน้าตาดูดี)
เนี่ยพี่ลองใช้มาเกือบทุกแบรนด์แล้ว ลาแมร์นะคะน้องพี่ก็ถล่มมาหมดแล้ว แต่พอพี่มาลองใช้ตัวนี้ พี่ก็ไม่ใช้ตัวอื่นอีกเลย
คืออย่างอื่นเราก็เข้าใจที่เค้าพูดนะ แต่พอหลังๆ เหมือนเค้าเริ่มจะลามปามอะ
พนักงาน : เนี่ยผู้หญิงกับสิวเนี่ยมันเป็นปัญหาหลักนะคะ ถ้าน้องลองเปิดใจใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่ หน้าตาน้องก็จะดูดีขึ้น
โตแล้วก็ต้องมีแฟน (ทีนี้เพื่อนเราก็ท้วงมาว่า เค้ามีแฟนแล้วค่ะ )
เนี่ยพี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ น้องสังเกตมั้ยแบบถ้าน้องมีสิว แฟนน้องเค้าก็ไม่อยากจะหอมแก้มน้องหรอก เพราะหน้าเรา
เป็นเม็ดๆ เค้าก็รังเกียด กลัวสิวไปติดหน้าเค้า ( เอิ่ม พอถึงจุดนี้ รู้สึกมั้ยคะ เริ่มยังไงๆ พูดจาได้แบบ = = )
เราก็บอกเค้าว่า ยังไงหนูก็ต้องถามที่บ้านก่อนค่ะ เพราะว่าหนูยังขอเงินที่บ้านขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่
คำพูดของเค้า คือ เค้าถามเราว่าน้องพกบัตรเดบิตอะไรมามั้ย เราก็ตอบเค้าว่าก็พกเป็นปกติค่ะ
คือเค้าบอกให้เราอะไม่ต้องบอกหรอกพ่อแม่ ต้องคิดด้วยตัวเอง หน้าน้องเอง ถ้าน้องอยากหายน้องก็ต้องคิดเอง
บางทีพ่อแม่เค้าไม่เปิดใจหรอก เราอะต้องเปิดใจแล้วลองใช้ พอดีแล้วเราก็เอาไปบอกต่อให้พ่อแม่เราเปิดใจลองใช้ = =
เค้าก็ยังพูดต่อไปเรื่อยๆ จนที่บ้านของเราโทรมาตามว่ายังไม่กลับบ้าน เลยบอกเค้าว่าเนี่ยหนูต้องไปแล้ว
เค้าก็ยังดึงแขนเรา หยิบโทรศัพท์มา เอารูปคนที่เคยซื้อไป นู่นนี่นั่น เนี่ยคนนี้เค้ารวยมาก คนนี้เค้าก็ใช้ลาแมร์ แต่เค้าก็ไม่เอา
เปลี่ยนมาใช้ของพี่
ฝรั่งผู้ชายเค้าเห็นคุยนานเค้าก็มาถามว่าเป็นอะไร
นางก็พูดกับเค้าประมาณว่า เนี่ย น้องเค้ามีเงิน แต่เค้าต้องไปปรึกษาพ่อแม่เค้าก่อน แต่ไออะ อยากให้น้องเค้าใช้
เพราะหน้าน้องเค้ามีปัญหา เพราะอนาคต เค้าก็ต้องแต่งงาน มีครอบครัว มีสามี (จ้า เป็นห่วงขนาดนี้เลยหรอ = = )
ทีนี้เราเริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะเค้าเริ่มดึงเวลาไปเรื่อยๆ เราเลยบอกเค้าว่างั้นเดี๋ยวหนูมาอีกทีแล้วกัน
เค้าก็ยังว่าเราอีกว่าเราไม่เปิดใจ เราก็บอกว่า พี่ก็ควรเปิดใจให้หนูบ้าง พ่อแม่หนูโทรมาตาม แล้วเดี๋ยวก็ต้องไปทำธุระต่อ
นางเมินเลยจ้า เหมือนแบบ หลอกขายเราไม่ได้แล้ว หันไปคุยกับเพื่อนเรา
บอกให้เพื่อนเราเปิดใจกับ แบรนด์นางต่อ เพื่อนเราก็บอกว่าเงินไม่พอ
นางถามว่ามีบัตรเครดิตมั้ย รูดก่อนก็ได้ เพื่อนเราก็บอกว่าไม่มี
นางก็ยังไม่จบจ้า ก็ยังบอกเพื่อนเราว่า ให้มาหุ้นซื้อกับเรา = =
เราก็เริ่มเรียกเพื่อน ให้ไป จน ที่เราขาดผึงเลย ความอดทน ที่ฟังเค้าไปเรื่อยๆก็เพราะว่าเกรงใจ
นางหันไปบอกเพื่อนเราจ้า ว่า เนี่ยถ้าไม่ซื้อก็พูดว่าไม่ซื้อเลย ไม่ใช่ให้พี่มาเทสมาดูแล พี่จะได้เอาเวลาไปขายคนอื่น
ปรี๊ดเลย พอฟังคำนี้ เราเดินออกจากบู๊ทแล้วเรียกเพื่อนเลย
ต่อหลังสุดท้าย ซึ่ง ! เราคิดว่า คนที่มีวุฒิภาวะมากพอ อายุ 40 อย่างเค้า น่าจะมีความคิดความอ่านว่าสมควรจะพูดมั้ย
เค้าพูดต่อตอนเพื่อนเราเดินออกมาแล้วเรากำลังจะไป ว่า
" เนี่ยถ้าน้องหน้าไม่สวย น้องก็จะโดนผู้ชายหลอก _ (ปี้) เค้าไม่ได้ปี้เพราะเค้ารัก "
คือเป็นคำพูดที่แย่มาก โมโหมากเดินออกมา เรานะคิดเลยว่า เออเราก็ผิดเองที่ไปฟังเค้าพูดเวิ่นเว้อมากมาย
น่าจะตัดบทแล้วออกมาให้ไวกว่านี้ แต่คุณพนักงานคนนี้ก็นะ
เราเคยเจอพวกขายของเทสแบบนี้มาหลายคน ดันจะให้เราซื้อของแต่ก็ไม่เคยเจอคนหน้าด้านหน้าทนแล้วพูดจา หมา ไม่ แ_ก
ขนาดนี้มาก่อน เราคิดว่าคำพูดพวกนี้มันไม่น่าจะออกมาจากพนักงาน
คือถ้าเราสนใจจริงๆ พอเรามาเจอแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกติดลบกับแบรนด์เพราะพนักงานแค่คนเดียวได้เลยนะ
ตอนแรกเราคิดว่า จะบอก ยี่ห้อไปเลย แต่เราก็กลัวว่าจะทำให้ชื่อแบรนด์เค้าเสียหายรึเปล่า
แต่ขอพูดตรงนี้เลยว่า เราจะไม่เดินไปเฉียด บู๊ทนี้อีก !!! แย่มาก ! พูดจิกกัด พูดเชียร์ของเกินไปจนไม่สนใจอะไร !
ถ้าใครเคยเจอแบบนี้จะเข้าใจความรู้สึกเราเลยค่ะ
ปล. ยืมล็อกอินแฟนมาโพสนะคะ
ปลล. เขียนยาวไปหน่อย ไม่อยากตัดประโยคค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าตัดมาแต่ที่เค้าพูดไม่ดี
** เพิ่มเติมค่ะ
โดยเฉพาะเอาเราไปเทียบกับเดกอายุ 14
แม่ให้ตังอาทิตละ 2000 ไปซื้อทอง
แต่นางไม่ให้ซื้อทองเพราะให้เกบตังมาซื้อครีมรักษาหน้าหน่อยมั้ยหน้ายังลายอยู่เลยแต่เอาตังไปซื้อทอง
เดกเค้ายังตัดสินใจเองได้ทำไมเรามีวุฒิมากกว่าเราถึงไม่ตัดสินเองล่ะงี้
ขนาดแฟนเรายังไม่ปรึกษาพ่อแม่เลย กับซื้อของเพื่อความสวยเราตัดสินเองไม่ได้หรองี้