แฟนถูกให้ออกจากงาน ไปร้องเรียนที่สวัสดิการแรงงาน แต่บริษัทจะฟ้องกลับ

ยืมลอกอินแฟนมานะครับ พอดีเปิดมาแล้วลอกอินอยู่  เลยเอามาตั้งกระทู้ครับ

แฟนเป็นเซลส์ครับ  รู้จักกันเพราะทำงานสายเดียวกัน เธอจบไม่ตรงสายงาน แต่บุคลิก และ ท่าทาง พรสวรรค์การพูด  มาเต็ม  เลยได้รับโอกาสเป็นเซลส์  จบเกษตร แต่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  ขายเก่งเลยครับ  หัวหน้า  รวมถึงระดับประธานบริษัทชมไม่ขาดปาก  คิดดูว่า  เมื่อก่อนฐานเงินเดือน 6,000  (เงินเดือนล้วนๆเลยนะครับ) แฟนได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 คืออู้ฟู่เลย


พอรู้จักผม  ก็แต่งงาน แล้วพอท้อง แฟนก็ยอมลาออกมาเลี้ยงลูกครับ  เธอรักลูกมาก 2 ปีแรก  เลี้ยงลูกอยู่กับบ้านพร้อมเปิดร้านกาแฟเล็กๆ  เธอก็ทำขนมพวกเบเกอร์รี่ แม่แฟนมาช่วยดูน้องด้วย แต่ช่วงน้อง 2 ขวบ แม่แฟนมีเหตุให้มาช่วยเลี้ยงน้องไม่สะดวก  แฟนก็ตัดสินใจเซ้งร้านไป  (ร้องไห้หลายวัน แต่เพื่อลูก ก็ต้องทำ)  ระหว่างนั้นแฟนไม่อยู่เฉยเลยครับ หาโน่นนี่นั่นทำ  สั่งของจากจีนมาขาย  เป็นเซลส์ฟรีแลนซ์ ขายพวกอสังหา  จนน้องเข้าโรงเรียน  เธอก็เริ่มหางานประจำใหม่  ได้ทำงานเป็นเซลส์อสังหา  ทำจนเจ้านายรักมากเลยครับ  คือเก่ง  กล้าคิดกล้าทำ กล้าพูดในสิ่งที่คิดว่าปล่อยไปไม่ได้  แต่งานหนัก  กลับบ้านแล้วลูกหลับ  ออกไปตอนลูกไม่ตื่น  ทำอยู่ 8 เดือนก็ลาออก  เพราะลูกอีกแล้วววววววววว  ตอนนั้นรายรับอยู่ที่เดือนละ 45,000  ตอนออก  นายฝรั่งยื้อเลยครับ เพราะคนอื่นๆไม่ค่อยเถียงนาย  คือชอบเอาใจนาย  แต่แฟนเป็นประเภท  ไม่สนใจ พูดแต่เรื่องที่ถูกต้องและเป็นไปได้เท่านั้น  ทุกวันนี้ นายฝรั่งยังโทรมาเรียกกลับไปทำงาน  หรือบางทีก็มีจ๊อบฟรีแลนซ์  ของเพื่อนๆในวงการมาให้ทำตลอดครับ


หลังจากนั้นก็ไปทำงานอื่นช่วงสั้นๆ  แต่เจองานที่ไม่ค่อยโอเค  แฟนเลยลาออกมา  แล้วมาทำนายหน้าอสังหาเต็มตัว  รายรับเฉลี่ยเดือนละ 60,000  บาท เธออาศัยคอนเนคชันที่มีๆอยู่  คือคิดว่าจะเป็นนายหน้าวันนี้  พรุ่งนี้เธอออกไปดูตลาด    ทำตลาด  หาลูกค้า  คือไวมาก  ปิดบ้านหลังแรกได้เดือนแรกได้ค่านายหน้ามา 2 แสนกว่า  เธอก็ใจดีแบ่งให้ลุงอะไรไม่รู้ที่แนะนำไปเกือบแสน  เธอบอก  ให้ไว้เพราะเป้นการต่อยอดความสัมพันธ์  ครั้งหน้าเค้าจะช่วยเราอีกผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่  รู้แต่ว่าเธอมีความสุขดี


จนช่วง6 เดือนก่อน  ผมอยากเปลี่ยนงาน  แต่ไม่กล้าเปลี่ยน  ด้วยอายุ  และยังไม่กล้าพอ (อันนี้ยอมรับ)  เพราะกลัวหางานไม่ได้  กลัวครอบครัวลำบาก  ในระหว่างนั้นม ีบริษัทนึง  โทรมาตื้อให้แฟนไปทำงานด้วย  แต่แฟนผมปฏิเสธไป  เพราะ เธอบอกว่าไม่อยากทำสายอิเลคทรอนิกแล้ว  อยากพุ่งไปด้านอสังหาเลย  แต่พอเธอเห็นผมลังเลจะเปลี่ยนงาน  เราก็มานั่งคุยกันครับ  ผมเลยบอกเธอไปว่า หากผมหางานไม่ได้  รายได้ครอบครัวจะลดลง  เธอ ก็ถามว่า เธอก็มีรายได้นะ  ลดยังไง  ผมเลยสารภาพไปว่า  ผมรู้สึกว่ารายได้มันไม่แน่นอน  ถ้าผมทำงานประจำ  มันคือรายได้ที่แน่นอน  แฟนผมเลยตกลงที่จะรับงานที่เค้าเสนอ  เพื่อให้ผมกล้าเปลี่ยนงาน (เธอพยายามพูดปลอบผมว่า  อยากรีเฟรชคอนเนคชัน  แต่ผมรู้ว่าเธอทำเพื่ออยากให้ผมเบาใจ  เพราะงานเดิมเธอเห็นแล้วว่าผมเหนื่อยมาก  ผมไม่แฮปปี้)

บริษัทให้เธอไปอบรม 1 เดือน  เธอไม่เคยห่างลูก  แต่เธอก็ยอมครับ  บินไปกลับทุกอาทิตย์  หมดค่าตั๋วไปหมื่นกว่า  แต่ก็ยอม  จนเธอเข้าทำงานที่สาขา  
เธอมักจะไม่พูดเรื่องงานให้ผมฟัง  แต่ผมก็พอดูออกว่าเธอมีปัญหา  เธอเคยหลุดปากพูดว่า  หัวหน้าเธอไม่รู้อะไรเลย  เธอรอราคามา 2 วันจนลูกค้าหลุดไป
บางครั้งเธอเสนอความคิดแนวทางใหม่ๆ  หัวหน้าจะแสดงท่าทางไม่พอใจทันที  เธอเลยเปรยๆกับผม  ส่วนผม  ผมสนับสนุนเธอนะ  เพราะที่ผ่านมา  เธอซัพพอร์ทผมเรื่องกำลังใจตลอด  เธอให้ผมตัดสินใจเลือกงาน เธอเคารพการตัดสินใจผม  เธอหนุนหลัง  ช่วยหาลูกค้า  รู้จักใครก็ช่วยโปรโมท  ........เธออยู่ข้างผมในทุกๆส่วนชีวิต  แม้ในวันที่ผมตัดสินใจผิด  ดังนั้น เมื่อเธอตัดสินใจว่าอาจจะลาออก  ผมก็ให้กำลังใจเธอครับ  คือรู้ว่าเธอเก่ง  แต่ถ้าอยู่ไม่ถูกที่  มันก็ไม่มีความหมาย

เธอทนอยู่ถึง 5 เดือน  โดนต่อทดลองงาน  แต่เธอก็ทนเพราะอยากพิสูจน์ตัวเอง  สุดท้ายเมื่อช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา  หัวหน้าเธอก็แจ้งว่าเธอไม่ผ่านทดลองงาน  และให้เธอออกเลยครับ  เธอเสียใจนะ  แต่เจ็บใจมากกว่า  เพราะไม่เคยโดนดูถูกขนาดนี้  ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้เลยครับแฟนผมหงอยเลย  อยู่บ้านพักใจ  มีบริษัทเดิม  บริษัทใหม่หลั่งใหลโทรมาตาม  เธอก็ไม่ไป  คือ  ความมั่นใจโดนทำลายป่นปี้

จนมีพี่ที่ทำงานเดิม  หลายคน  ย้ำ ว่าหลายคน  โทรมาหาแฟนผม  แล้วบอกให้ไปร้องกับสวัสดิการแรงงาน  เพราะ  หัวหน้าเธอทำแบบนี้กับหลายคน  แฟนผมก้ไปปรึกษา  และเขียนเรื่องร้องไป  ตอนนี้เรื่องถึงบริษัทแล้ว  แต่บริษัทแย้งว่า  


ให้แฟนผมออกเพราะไม่มาทำงานติดต่อกัน 3 วัน  และจะฟ้องกลับ


แฟนผมไปร้องเรื่องถูกให้ออกโดยไม่บอกล่วงหน้า (ทำงานเกิน 120 วันแล้ว  ผ่านทดลองงานตามกฏหมาย แต่บริษัทแจ้งไม่ผ่านทดลองงาน) แต่บริษัทแย้งกลับมาแบบนี้  คือแฟนผมโดนยึดของไป  แล้วบอกไม่ต้องมาทำงานอีก  ตามหลักคือ 3 วันจริงครับ  แต่เพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์  ไม่ผ่านทดลองงาน  แฟนเลยพาซื่อว่า  เค้าไม่ให้มาทำงานแล้ว  เลยไม่ไปทำ

ผมสงสารแฟนมากครับ  รู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องกลับไปทำงาน  อยากทราบว่า  กรณีนี้  พอจะทำอย่างไรได้บ้างครับ  

ตอนคุย  หัวหน้าเรียกไปคุยในห้อง 2 คน  ไม่มีพยานครับ  แต่ตอนคืนของมีพยาน
นายจ้างแจ้งว่า  ให้ออกเพราะขาดงาน 3 วัน  ไม่ได้ให้ออกเพราะไม่ผ่านทดลองงาน
พี่ที่บริษัทเดิม  พยายามช่วยหาหลักฐานเท่าที่ช่วยได้  แต่แฟนก็ไม่อยากพาดพิงใครให้ลำบาก

ใครพอจะมีประสบการณ์บ้างครับ  หรือใครพอช่วยแนะนำอะไรได้บ้าง  ต้องใช้หลักฐานอะไร  หรือพูดประมาณไหน  หรือต้องยอมบริษัท  ทั้งๆที่เราโดนทำแบบนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่