คือเราเบื่อ ๆ งานประจำของตัวเองมากค่ะช่วงนี้ เลยลองหาอาชีพใหม่ ๆ อารมณ์ Gen Y อะนะคะ ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง ตอนแรก คิดว่าขายครีมดีมั๊ย แต่ก็แบบว่า คู่แข่งเยอะจุง หน้าก็ไม่สวยพอจะพรีเซ้นต์ของตัวเองได้อีก ฮ่าๆๆๆ เลยลองเลื่อน ๆ เฟซบุ๊กไปเรื่อย ๆ ก็เจอหัวข้อข่าวอันนึง จากเพจที่กดไลค์เอาไว้นานแล้ว ( เราไม่แน่ใจ บอกชื่อเพจได้มั๊ยอะ ) ชื่อหัวข้อข่าวว่า " จากพนักงานออฟฟิต...ผันตัวเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว สร้างรายได้จากการเพาะเห็ดเป็นกอบเป็นกำ "

เห้ยหรือเราจะลองผันตัวไปเป็นเกษตรกรดี ปลูกเห็ดไม่น่ายาก ตอนเด็ก ๆ เคยทำในคาบเรียนการเกษตร ตอนนี้กำลังปรึกษาที่บ้านดู ว่ามีที่มั๊ย อยากกลับไปอยู่บ้านนอกเต็มแก่ค่ะ เบื่อแล้วเมืองหลวง T.T มีแต่คนหลอกลวง เอ่า!! นอกเรื่องอีกละ ฮ่า ๆๆ งั้นเราขออนุญาติ ก๊อปปี้ เขามาลงเลยนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กะเพื่อน ๆ ในนี้บ้าง เราว่า เราอ่านแล้วเราอยากทำอาชีพเกษตรอะ อยู่กับต้นไม้ ไม่วุ่นวาย ถ้าจะมีขัดแย้งกันก็คง อารมณ์แม่ค้าในตลาด ไม่ใช่สังคมหน้ากากแบบงานออฟฟิต เราว่าคนบ้านนอกจริงใจกว่างะ ไม่รู้นะคะ

>>> จากพนักงานออฟฟิตธรรมดาๆ ที่ทำงานและคลุกคลีอยู่ในวงการเกษตรในบริษัทแห่งหนึ่งเป็นระยะเวลา 6 ปี เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน ออกมาเป็นเกษตรกรแบบเต็มตัว และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน

โดยสาเหตุที่ทางคุณอาจณรงค์  สุขมั่นคง ออกมาทำเกษตรกรแบบเต็มตัว เนื่องจากอยากที่จะทำงานใกล้บ้าน เพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว โดนเริ่มแรกได้มารู้จักกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานรัฐวิสาหกิจชุมชน และได้คำแนะนำพร้อมทั้งแนวทางในการทำการเกษตร บวกกับที่ทางคุณอาจณรงค์มีความรู้เดิมที่ได้จากการทำงานมาพอสมควร ทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณอาจณรงค์ลาออกจากงานและมาลงทำทุนทำเกษตรอย่างจริงจัง

ซึ่งจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มเห็ดก็มาจาก เล็งเห็นว่าอาหารส่วนมากมักมีเห็ดฟางเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร และตลาดมีความต้องการอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของราคาขายที่ผ่านมายังมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากนัก จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางคุณอาจณรงค์ตัดสินใจที่จะทำฟาร์มเห็ด

ทว่าการเพาะเห็ดไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ได้ผลผลิตตลอดทั้งปี เนื่องมาจากสภาพอากาศ และความชื้นในโรงเรือน ทางฟาร์มจึงได้นำเอาระบบดิจิตอล ระบบ EVAP เข้ามาช่วยในการควบคุมและปรับสภาพแวดล้อมของอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการเพาะเห็ดในโรงเรือน ทำให้ได้ผลผลิตตลอดทั้งปีไม่ขาดช่วง
        
โดยเคล็ดลับในการเพาะเห็ดของฟาร์ม Straw Mush ที่ทำให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เคล็ดลับอยู่ที่การใช้ใยฝ้ายและเปลือกถั่วเขียวในการหมักเชื้อ ทำให้ได้เห็ดฟางที่สมบูรณ์และใหญ่กว่าเห็ดฟางทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของฟาร์มเห็ด Straw Mush ที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในผลผลิต

กว่าที่จะมีวันนี้ได้ทางคุณอาจณรงค์ได้ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆมากมาย โดยเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ฟาร์มเห็ดสามารถประสบความสำเร็ยได้ก็มาจากบุคคลรอบข้างไม่ว่าจะเป็นครอบครัว จากพี่ๆน้องๆ ที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการแก้ปัญหาอยู่เสมอ แต่สุดท้ายแล้วความสำเร็จที่จะเริ่มได้นั้นต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ที่ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ รวมไปถึงมีความอดทนในการรอคอยผลิตผลความสำเร็จที่จะตามมา เพียงเท่านี้เชื่อได้ว่าความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลตัวเรา


ไม่รู้ว่าจะได้มากได้น้อยอะเนอะ แต่เราแอบมโนไปนะว่า เราปลูกเห็ดขาย แล้วก็นำมาแปรรูปด้วย เสร็จแล้วก็ทำส่งออก อาจจะรุ่งแบบเถ้าแก่น้อยก็ได้ ใครจะไปรู้ ว่ามั๊ยคะ...


เครดิต http://www.smartsme.tv/knowledge-detail.php?sid=2&gid=34&id=18116