สวัสดีครับทุกท่าน
ผมชื่อ ธี ครับ


อยู่ปี 2 อายุ 19 ปี สูง 178 น้ำหนัก 97 กิโล
ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะลดน้ำหนักอย่างจริงจรังเป็นเวลา 3 เดือน ที่ตั้งไว้เท่านี้ไม่ใช่น้อยนะครับ สำหรับคนที่
ไม่เคยทำอะไรได้นานๆอย่างผม เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
สำหรับคนที่ไม่มีจุดหมายในการลดน้ำหนักอย่างผม อยู่มาวันนึง ครอบครัวและเพื่อนๆก็เริ่มบอกเราครับว่า
อ้วนเกินรึไปป่าว แต่ตอนนั้นเรายังไม่สนใจอะไรครับ พอเวลาผ่านมาสักพัก เรื่องก็เกิดครับ

ผมเป็นช่างภาพอิสระ

ที่รับงานทั่วไปครับ แต่ประเด็นคือ มีพี่บัณฑิตท่านนึงครับได้ว่าจ้างให้ผมไปทำงาน ผมก็ไปตามวันเวลาที่เขานัด
แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสิครับ พอเขาเห็นผม เขากลับบอกว่าเขาขอยกเลิกและจะไม่ร่วมงานกัน ผมงงมาก ที่ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงปฏิเสธเรา
ทั้งที่ถึงวันงานแล้วด้วยซ้ำ จนต่อมาผมให้คนที่รู้จักถามเขาครับว่าทำไม ถึงยกเลิก คำตอบของเขา มันช่างเจ็บปวดมากครับ
เขาพูดประมาณว่า เราเป็นคนอ้วนๆดำๆ ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ

(ห้ะ แค่อ้วนและดำ ถึงขนาดต้องไม่จ้างเราเลยหรอ!!!!!!!!) แต่ตอนนั้นก็ยัง
ไม่รู้สึกตัวนะครับ(แอบหน้าด้านเล็กน้อย คริคริ) จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาครับ
จุดพีคของการเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยครับ มีพี่ที่มหาลัยคนนึงครับเขามาดูถูกว่า คนอย่างผมยังไงก็ไม่มีทางหุ่นดี เหมือนเขาได้หรอก

เท่านั้นเหละครับ
ผมรู้สึกว่า ทำไมผมจะทำไม่ได้ กะอีแค่ลดน้ำหนักตั้งแต่วันนั้น ผมก็เริ่มจัดตารางชีวิตตัวเองใหม่เลยครับ
เริ่มตั้งแต่การกินการนอนรวมทั้งออกกำลังกาย
เอาสภาพตอนพีคสุดไปดูครับ รับบ่ดั้ย

ในรูปด้านบนเป็นรูปตอนต้นเดือนที่ผ่านมาครับ น้ำหนักตอนนั้น 97 kg. หน้านี่ยังกะลูกบอล

อื้มหืมมมมมมมมมมมม

เห็นมุมด้านหลังยังอยากจะบ้าตาย นั่นคนหรือท่อนไม้เดินได้
มาดูโปรแกรมการลดความอ้วนของผมดีกว่าครับ อย่าไปดูรูปด้านบนเลย เห็นแล้วอนาถใจ
เนื่องด้วยการเป็นเด็กหอจึงมีข้อจำกัดหลายๆอย่างที่เป็นตัวขัดขวางในการลดน้ำหนักซะเหลือเกิน
แต่ไม่เป็นไรครับคิดจะทำแล้วต้องทำให้ได้ครับ อีกอย่างเวลาลดอย่าบอกเพื่อนครับว่าเราลดน.น.อยู่
(เพื่อนเป็นปัจจัยหลักเลยครับ ที่จะชวนเราไปสวาปามของกินต่างๆนาๆ)
ผมจะแบ่งเป็นช่วงๆให้ดูนะครับ
1. การกิน
ที่บอกไปเด็กหอคงลำบากมากครับในการหาอะไรยัดเข้าปาก ด้วยความที่ผมไม่ค่อยเข้าใจการนับแคลลอลี่ซักเท่าไหร่
ก็จะเอาที่เราทำพอไหวครับ ผมจะกินแค่วันละ 4 มื้อ
มื้อแรกเช้า 8.00-9.00 น. กินข้าวปกติครับ แต่จะเลือกที่เป็นโปรตีนกับผักเยอะหน่อย ข้าวแค่ประมาณกำมือเราครับ
มื้อที่สอง 11.00 น. จะกินเป็นพวกนมครับหรือน้ำผลไม้หนึ่งกล่องเท่านั้น
มื้อที่สาม 12.00-13.00 น. ก็กินข้าวปกติครับเช่นเคยเลือกโปรตีนและผักเหมือนเดิมครับ ข้าวเท่ากำมือเท่าเดิม
มื้อที่สี่ 15.00-16.00 น. กินเป็นพวกโยเกิร์ดหรือนมครับ
บางคนอาจถามแล้วมื้อเย็นหละ ผมเลือกวิธีหักดิบเลยครับ คือไม่กินอะไรเลยตอนเย็น ถ้าหิวมากๆผมจะดื่มน้ำเยอะ
เพื่อให้มันอิ่มน้ำแทนครับ 555 หรือต้มน้ำอุ่นจิบไปเรื่อยๆก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ ดื่มน้ำอุ่นแล้วรู้สึกอิ่มบอกไม่ถูก
อันนี้ คหสต.นะครับ
2. การออกกำลังกาย
ผมจะมีวันออกกำลังกายอยู่ถึง 5 วันเต็มๆเดี้ยวผมจะแบ่งเป็นวันต่อวันให้นะครับ ออกกำลังกายหลักของผมก็จะมีแค่วิ่งครับ
แต่ไม่ได้วิ่งแค่ กิโลสองกิโลนะครับ ผมวิ่งวันละ 5-7 กิโลและจะพยายามไม่เดินเลย คือจะวิ่งเร็วสลับจ้าไปเรื่อยๆ และจำมีเล่นเวทนิดหน่อยครับ
จันทร์ วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ไบเซบ 12/3 ครั้ง
อังคาร วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ไตรเซบ 12/3 ครั้ง
พุธ พัก (มีเรียนเลิกดึกครับ)
พฤหัส วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ส่วนกล้ามเนื้อต้นคอและหัวไหล่ 12/3 ครั้งต่อท่า ต้นคอ-หัวไหล่ด้านหน้า-หัวไหล่ด้านหลัง-หัวไหล่ด้านข้าง (วันนี้จะเป็นวันที่เล่นหนักสุดครับ)
ศุกร์ วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ส่วนต้นขาและน่อง squart 15/3 ครั้ง
เสาร์ วิ่ง ซิดอัพ 15/5 ครั้ง
อาทิตย์ พัก
ประมาณนี้ครับสำหรับโปรแกรมการออกกำลังกายของผม ซึ่งผมคิดว่าโปรแกรมนี้ดีที่สุดแล้วครับจากที่ลองผิดลองถูกมาก ถึงโปรแกรมนี้จะไม่ถูกต้องตามหลักของการลดความอ้วนเท่าไหร่ แต่ผมว่ามันโอเคสำหรับผมก็พอแล้วครับ
3. การพักผ่อน
วันไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย วันนั้นก็จะพักผ่อนจริงๆครับ แบบไม่ทำอะไรเลย เพราะกล้ามเนื้อก็อ่อนล้ามากพอแล้วครับ เป็นการพักให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว และได้สร้างกล้ามเนื้อที่เสียไป
ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับวิธีลดของผม
ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 เดือนละครับ ที่ลดน้ำหนักมา มาลองดูการเปลี่ยนแปลงกันหน่อยดีกว่าครับว่าไปถึงไหนแล้วสำหรับเดือนแรก
้ด้านหน้าครับ
ด้านหลัง
ตอนนี้น้ำหนักลง จาก 97 kg ลงมาที่ 86 kg ครับขออภัยด้วยที่มีรูปแค่นี้ คือตอนลดไม่เคยคิดว่าตัวเองทำได้นานเท่านี้เลยครับ
ตอนนี้ผ่านมาเดือนนึงเริ่มมีคนมาถามละครับว่าทำไมหน้าเรียงขึ้น ผมก็ว่ามันก็เท่าเดิมนะ ไม่เห็นจะเปลี่ยนเท่าไหร่ แต่ก็ดีใจครับที่
น้ำหนักลงไปถึง 11 kg เกินคาดครับ มีกำลังใจที่จะทำไปต่อให้ครบดังที่ตั้งใจไว้ 3 เดือน
เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังเดินทางลดน้ำหนักเหมือนผมนะครับ
ผมขี้เกียจทำอะไรก็ไม่เคยทำได้นานอย่างผมทำได้ 1 เดือนแล้ว ทำไมพวกคุณจะทำไม่ได้
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีก 2 เดือน เห้!!!!!!!สู้!!!!!!!
การเดินทางพิชิตความอ้วนของเด็กหอ
ผมชื่อ ธี ครับ
ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะลดน้ำหนักอย่างจริงจรังเป็นเวลา 3 เดือน ที่ตั้งไว้เท่านี้ไม่ใช่น้อยนะครับ สำหรับคนที่
ไม่เคยทำอะไรได้นานๆอย่างผม เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
สำหรับคนที่ไม่มีจุดหมายในการลดน้ำหนักอย่างผม อยู่มาวันนึง ครอบครัวและเพื่อนๆก็เริ่มบอกเราครับว่า
อ้วนเกินรึไปป่าว แต่ตอนนั้นเรายังไม่สนใจอะไรครับ พอเวลาผ่านมาสักพัก เรื่องก็เกิดครับ
แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสิครับ พอเขาเห็นผม เขากลับบอกว่าเขาขอยกเลิกและจะไม่ร่วมงานกัน ผมงงมาก ที่ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงปฏิเสธเรา
ทั้งที่ถึงวันงานแล้วด้วยซ้ำ จนต่อมาผมให้คนที่รู้จักถามเขาครับว่าทำไม ถึงยกเลิก คำตอบของเขา มันช่างเจ็บปวดมากครับ
เขาพูดประมาณว่า เราเป็นคนอ้วนๆดำๆ ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
ไม่รู้สึกตัวนะครับ(แอบหน้าด้านเล็กน้อย คริคริ) จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาครับ
จุดพีคของการเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยครับ มีพี่ที่มหาลัยคนนึงครับเขามาดูถูกว่า คนอย่างผมยังไงก็ไม่มีทางหุ่นดี เหมือนเขาได้หรอก
ผมรู้สึกว่า ทำไมผมจะทำไม่ได้ กะอีแค่ลดน้ำหนักตั้งแต่วันนั้น ผมก็เริ่มจัดตารางชีวิตตัวเองใหม่เลยครับ
เริ่มตั้งแต่การกินการนอนรวมทั้งออกกำลังกาย
เอาสภาพตอนพีคสุดไปดูครับ รับบ่ดั้ย
ในรูปด้านบนเป็นรูปตอนต้นเดือนที่ผ่านมาครับ น้ำหนักตอนนั้น 97 kg. หน้านี่ยังกะลูกบอล
อื้มหืมมมมมมมมมมมม
เห็นมุมด้านหลังยังอยากจะบ้าตาย นั่นคนหรือท่อนไม้เดินได้
มาดูโปรแกรมการลดความอ้วนของผมดีกว่าครับ อย่าไปดูรูปด้านบนเลย เห็นแล้วอนาถใจ
เนื่องด้วยการเป็นเด็กหอจึงมีข้อจำกัดหลายๆอย่างที่เป็นตัวขัดขวางในการลดน้ำหนักซะเหลือเกิน
แต่ไม่เป็นไรครับคิดจะทำแล้วต้องทำให้ได้ครับ อีกอย่างเวลาลดอย่าบอกเพื่อนครับว่าเราลดน.น.อยู่
(เพื่อนเป็นปัจจัยหลักเลยครับ ที่จะชวนเราไปสวาปามของกินต่างๆนาๆ)
ผมจะแบ่งเป็นช่วงๆให้ดูนะครับ
1. การกิน
ที่บอกไปเด็กหอคงลำบากมากครับในการหาอะไรยัดเข้าปาก ด้วยความที่ผมไม่ค่อยเข้าใจการนับแคลลอลี่ซักเท่าไหร่
ก็จะเอาที่เราทำพอไหวครับ ผมจะกินแค่วันละ 4 มื้อ
มื้อแรกเช้า 8.00-9.00 น. กินข้าวปกติครับ แต่จะเลือกที่เป็นโปรตีนกับผักเยอะหน่อย ข้าวแค่ประมาณกำมือเราครับ
มื้อที่สอง 11.00 น. จะกินเป็นพวกนมครับหรือน้ำผลไม้หนึ่งกล่องเท่านั้น
มื้อที่สาม 12.00-13.00 น. ก็กินข้าวปกติครับเช่นเคยเลือกโปรตีนและผักเหมือนเดิมครับ ข้าวเท่ากำมือเท่าเดิม
มื้อที่สี่ 15.00-16.00 น. กินเป็นพวกโยเกิร์ดหรือนมครับ
บางคนอาจถามแล้วมื้อเย็นหละ ผมเลือกวิธีหักดิบเลยครับ คือไม่กินอะไรเลยตอนเย็น ถ้าหิวมากๆผมจะดื่มน้ำเยอะ
เพื่อให้มันอิ่มน้ำแทนครับ 555 หรือต้มน้ำอุ่นจิบไปเรื่อยๆก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ ดื่มน้ำอุ่นแล้วรู้สึกอิ่มบอกไม่ถูก
อันนี้ คหสต.นะครับ
2. การออกกำลังกาย
ผมจะมีวันออกกำลังกายอยู่ถึง 5 วันเต็มๆเดี้ยวผมจะแบ่งเป็นวันต่อวันให้นะครับ ออกกำลังกายหลักของผมก็จะมีแค่วิ่งครับ
แต่ไม่ได้วิ่งแค่ กิโลสองกิโลนะครับ ผมวิ่งวันละ 5-7 กิโลและจะพยายามไม่เดินเลย คือจะวิ่งเร็วสลับจ้าไปเรื่อยๆ และจำมีเล่นเวทนิดหน่อยครับ
จันทร์ วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ไบเซบ 12/3 ครั้ง
อังคาร วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ไตรเซบ 12/3 ครั้ง
พุธ พัก (มีเรียนเลิกดึกครับ)
พฤหัส วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ส่วนกล้ามเนื้อต้นคอและหัวไหล่ 12/3 ครั้งต่อท่า ต้นคอ-หัวไหล่ด้านหน้า-หัวไหล่ด้านหลัง-หัวไหล่ด้านข้าง (วันนี้จะเป็นวันที่เล่นหนักสุดครับ)
ศุกร์ วิ่ง ซิทอัพ 15/5 ครั้ง เวทเทรนนิง ส่วนต้นขาและน่อง squart 15/3 ครั้ง
เสาร์ วิ่ง ซิดอัพ 15/5 ครั้ง
อาทิตย์ พัก
ประมาณนี้ครับสำหรับโปรแกรมการออกกำลังกายของผม ซึ่งผมคิดว่าโปรแกรมนี้ดีที่สุดแล้วครับจากที่ลองผิดลองถูกมาก ถึงโปรแกรมนี้จะไม่ถูกต้องตามหลักของการลดความอ้วนเท่าไหร่ แต่ผมว่ามันโอเคสำหรับผมก็พอแล้วครับ
3. การพักผ่อน
วันไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย วันนั้นก็จะพักผ่อนจริงๆครับ แบบไม่ทำอะไรเลย เพราะกล้ามเนื้อก็อ่อนล้ามากพอแล้วครับ เป็นการพักให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว และได้สร้างกล้ามเนื้อที่เสียไป
ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับวิธีลดของผม
ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 เดือนละครับ ที่ลดน้ำหนักมา มาลองดูการเปลี่ยนแปลงกันหน่อยดีกว่าครับว่าไปถึงไหนแล้วสำหรับเดือนแรก
้ด้านหน้าครับ
ด้านหลัง
ตอนนี้น้ำหนักลง จาก 97 kg ลงมาที่ 86 kg ครับขออภัยด้วยที่มีรูปแค่นี้ คือตอนลดไม่เคยคิดว่าตัวเองทำได้นานเท่านี้เลยครับ
ตอนนี้ผ่านมาเดือนนึงเริ่มมีคนมาถามละครับว่าทำไมหน้าเรียงขึ้น ผมก็ว่ามันก็เท่าเดิมนะ ไม่เห็นจะเปลี่ยนเท่าไหร่ แต่ก็ดีใจครับที่
น้ำหนักลงไปถึง 11 kg เกินคาดครับ มีกำลังใจที่จะทำไปต่อให้ครบดังที่ตั้งใจไว้ 3 เดือน
เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังเดินทางลดน้ำหนักเหมือนผมนะครับ
ผมขี้เกียจทำอะไรก็ไม่เคยทำได้นานอย่างผมทำได้ 1 เดือนแล้ว ทำไมพวกคุณจะทำไม่ได้
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีก 2 เดือน เห้!!!!!!!สู้!!!!!!!