สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นเส้นบอกบุคลิกภาพ(character line) ภายนอกของตัวรถครับ
ด้านข้างของตัวรถ จะมีเส้นหลักๆดังนี้
1 roof line เส้นหลังคาเป็นเส้นบอกประเภทของรถ ว่าเป็น sedan , wagon , fast back , hatch back, station wagon, pick up , truck
2 window line ,Belt line เส้นที่เกิดจากขอบกระจกล่าง เป็นแนวเส้นขอบกระจกของตัวรถกับตัวbodyของรถ
3 shoulder line เป็นเส้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระหว่างตัวถังรถด้านข้างกับส่วนหน้าต่างห้องโดยสาร จนเกิดเป็น high light ด้านข้างของตัวรถ
เปรียบเสมือน เส้นไหล่ของรถ และแนวเส้นมักจะเป็นส่วนกว้างสุดของตัวรถ(ไม่นับกระจกข้าง) ซึ่งบางคันอาจจะมีเส้น crease เป็นรอยหยัก เน้นความรู้สึกที่โฉบเฉี่ยว หรือบางคันอาจจะเป็นเส้นปูดโปนออกมาเรียกว่า bone line ให้เกิดความรู้สึกแข็งแรงให้จินตนาการไปถึงโครงร่างที่แข็งแกร่งภายใน เล้นนี้จะเป็นเส้นที่บอกcharacter หลักของตัวรถ ว่ามีความเป็น sporty , aggressive, strong ,tough, cult,luxury หรือ fraindly ในแต่ละคันว่ามากน้อยเพียงใด
4 baseline เป็นเส้นที่กำหนดสัดส่วนพื้นที่ด้านล่างของตัวรถ ให้ดู sport strong หรือ tough อาจจะเล่น ที่แสงเงา ให้เกิด High light หรือ shadow บางคันอาจจะเกิดการ เพิ่มเส้นสายลงไปเช่น กาบข้าง หรือ protactor (คิ้วกันกระแทก)
ทั้งหมดทั้งปวงของเส้น เกิดจากการแบ่งสัดส่วนพื้นที่เพื่อให้เกิดความรู้สึกต่างๆ เป็นบุคคลิกภาพของรถนั้นๆ เช่นรถ sport เส้นสายจะเป็นทรงลิ่มเพื่อให้เกิดความรู้สึกพุ่งไปข้างหน้า เส้นที่หนาเกิดความรู้สึกที่แข็งแรง
ส่วนผลพลอยได้เรื่องความแข็งแรงอาจจะเป็นเรื่องหนึ่งแต่ไม่ใช่เรื่องหลัก เพราะปรัชญาการทำรถได้เปลี่ยนไป โดย function หลักของ skin body จะเน้นไปในเรื่องความงาม Emotion มากกว่า function ในเรื่องความแข็งแรง หลังยุคปี 80 การออกแบบรถจะคำนึงถึงคนภายนอกมากขึ้น body เน้นไปทางยุบหรือให้ตัวมากขึ้น ความแข็งแรงจะเน้นไปกับโครงสร้างStructure และ inner body มากขึ้น ก่อนปี 80 body panel ของรถ มากกว่า.8 มม ยุคนั้นยังเคาะพ่นสีได้ เน้นความแข็งของตัวถัง เวลาชนคนจะก่อให้เกิดอันตรายมาก ต่อมายุคหลัง 80 ความหนา bodyจะอยู่ระหว่าง .6 -ปัจจุบันบางคันใช้ความหนา .4 มม.ไปแล้ว ชนทีไม่ต้องเคาะ ยกเปลี่ยนกันทีเดียว แต้ความแข็งแรงและการยุบตัวของโครงสร้างทำได้ดีขึ้น ปกป้องได้ทั้งผู้ที่อยู่ภายใน รวมถึงลดอันตรายกับคนเดินได้มากขึ้น
แต่มีบางคันที่เส้นสายก่อให้เกิดประโยชน์เช่น เบี่ยงเบนมุมกระเซ็นของฝุ่นโคลน หรือ เศษหินเล็กๆบ้าง ส่วนมากพบในรถoffroad
เป็นเส้นบอกบุคลิกภาพ(character line) ภายนอกของตัวรถครับ
ด้านข้างของตัวรถ จะมีเส้นหลักๆดังนี้
1 roof line เส้นหลังคาเป็นเส้นบอกประเภทของรถ ว่าเป็น sedan , wagon , fast back , hatch back, station wagon, pick up , truck
2 window line ,Belt line เส้นที่เกิดจากขอบกระจกล่าง เป็นแนวเส้นขอบกระจกของตัวรถกับตัวbodyของรถ
3 shoulder line เป็นเส้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระหว่างตัวถังรถด้านข้างกับส่วนหน้าต่างห้องโดยสาร จนเกิดเป็น high light ด้านข้างของตัวรถ
เปรียบเสมือน เส้นไหล่ของรถ และแนวเส้นมักจะเป็นส่วนกว้างสุดของตัวรถ(ไม่นับกระจกข้าง) ซึ่งบางคันอาจจะมีเส้น crease เป็นรอยหยัก เน้นความรู้สึกที่โฉบเฉี่ยว หรือบางคันอาจจะเป็นเส้นปูดโปนออกมาเรียกว่า bone line ให้เกิดความรู้สึกแข็งแรงให้จินตนาการไปถึงโครงร่างที่แข็งแกร่งภายใน เล้นนี้จะเป็นเส้นที่บอกcharacter หลักของตัวรถ ว่ามีความเป็น sporty , aggressive, strong ,tough, cult,luxury หรือ fraindly ในแต่ละคันว่ามากน้อยเพียงใด
4 baseline เป็นเส้นที่กำหนดสัดส่วนพื้นที่ด้านล่างของตัวรถ ให้ดู sport strong หรือ tough อาจจะเล่น ที่แสงเงา ให้เกิด High light หรือ shadow บางคันอาจจะเกิดการ เพิ่มเส้นสายลงไปเช่น กาบข้าง หรือ protactor (คิ้วกันกระแทก)
ทั้งหมดทั้งปวงของเส้น เกิดจากการแบ่งสัดส่วนพื้นที่เพื่อให้เกิดความรู้สึกต่างๆ เป็นบุคคลิกภาพของรถนั้นๆ เช่นรถ sport เส้นสายจะเป็นทรงลิ่มเพื่อให้เกิดความรู้สึกพุ่งไปข้างหน้า เส้นที่หนาเกิดความรู้สึกที่แข็งแรง
ส่วนผลพลอยได้เรื่องความแข็งแรงอาจจะเป็นเรื่องหนึ่งแต่ไม่ใช่เรื่องหลัก เพราะปรัชญาการทำรถได้เปลี่ยนไป โดย function หลักของ skin body จะเน้นไปในเรื่องความงาม Emotion มากกว่า function ในเรื่องความแข็งแรง หลังยุคปี 80 การออกแบบรถจะคำนึงถึงคนภายนอกมากขึ้น body เน้นไปทางยุบหรือให้ตัวมากขึ้น ความแข็งแรงจะเน้นไปกับโครงสร้างStructure และ inner body มากขึ้น ก่อนปี 80 body panel ของรถ มากกว่า.8 มม ยุคนั้นยังเคาะพ่นสีได้ เน้นความแข็งของตัวถัง เวลาชนคนจะก่อให้เกิดอันตรายมาก ต่อมายุคหลัง 80 ความหนา bodyจะอยู่ระหว่าง .6 -ปัจจุบันบางคันใช้ความหนา .4 มม.ไปแล้ว ชนทีไม่ต้องเคาะ ยกเปลี่ยนกันทีเดียว แต้ความแข็งแรงและการยุบตัวของโครงสร้างทำได้ดีขึ้น ปกป้องได้ทั้งผู้ที่อยู่ภายใน รวมถึงลดอันตรายกับคนเดินได้มากขึ้น
แต่มีบางคันที่เส้นสายก่อให้เกิดประโยชน์เช่น เบี่ยงเบนมุมกระเซ็นของฝุ่นโคลน หรือ เศษหินเล็กๆบ้าง ส่วนมากพบในรถoffroad
Nomention ทึ่ง, ผีคอมพ์ ถูกใจ, ขอบฟ้าบูรพา ถูกใจ, นพพัฒน์ ถูกใจ, Set Adrift on Memory Bliss ถูกใจ, รักน้องเล็ก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 948217 ถูกใจ, SeeLow ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1556149 ถูกใจ, Buff_Power ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
เส้นยาวๆที่เป็นรอยบุ๋มหรือรอยนูนข้างรถมีประโยชน์อะไรบ้างครับ