ก็เห็นมาหลายกระทู้แล้วที่ออกมาเตือนเรื่องแบบนี้ อยากมาเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งเจอเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ระวังกันหน่อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเพื่อนเรา ซึ่งเราก็อยู่ด้วย เราจะเล่าในมุมของเรานะคะ
เหตุการณ์เกิดประมาณเกือบๆ2ทุ่มของวันที่17/09/2558 ณ สถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ เราเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมาก็ดีใจ แต่เพื่อนที่เจอกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่บีทีเอสอยู่พร้อมๆกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ด้วยความที่เราไม่ได้เจอกันนานก็เลยอยู่ทักทายก่อน
หลังจากที่เพื่อนคุยกับจนท.บีทีเอสเสร็จก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง จับใจความได้ว่า มีป้าคนหนึ่งบอกเพื่อนเราว่าถูกล้วงกระเป๋าที่สยาม กระเป๋าตังหายไม่มีเงินกลับบ้าน ขอเงินยืมเงินเพื่อกลับบ้าน เพื่อนเราชวนไปแจ้งความก็ไม่ยอมไปหรือแจ้งจนท.บีทีเอสก็ยังดีแต่ก็ไม่ยอม จะกลับบ้านอย่างเดียว ดูจากภายนอกและคิดว่าเขาคงเดือดร้อนจริงๆ เพื่อนเราจึงให้เงินป้าคนนั้นไป100บาท หลังจากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกว่าเขาก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ป้าคนนี้เคยมาขอเงินเหมือนกัน น้องโดนหลอกแล้วแหละ!
เพื่อนเราและพี่ผู้หญิงคนนั้นจึงไปแจ้งจนท.บีทีเอสเกี่ยวกับพฤติกรรมของป้าว่าน่าจะเป็นนักต้มตุ๋น และจากการบอกรูปพรรณสัณฐานของป้าแก่จนท.บีทีเอสไป ทางบีทีเอสก็ประสานกันหาจนเจอป้าคนนี้กำลังรอบีทีเอสฝั่งไปหมอชิต และเชิญป้าลงมาจนสำเร็จ ทั้งวิ่งทั้งลุ้นกันจนเหนื่อย ป้าแกก็โวยวายว่าเรียกแกมาทำไม แกจะกลับบ้าน ไม่ยอมนั่นโน่นนี่ เพื่อนเราก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นให้หัวหน้าจนท.ฟัง ให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจนท.ต้องเชิญป้าไว้ แต่พี่ผู้หญิงคนที่เจอเหมือนกันได้แยกกลับไปแล้ว เพราะไม่คิดจนท.ว่าจะตามเจอป้า ป้าแกก็โวยวายว่าไม่มีพยาน อารมณ์ว่าเราปรักปรำป้า เลยแนะนำป้าให้ไปแจ้งความเรื่องโดนล้วงกระเป๋าก่อน เดี๋ยวจะไปเป็นเพื่อนป้า เพราะมีคนเจอเหตุการณ์เหมือนกันก็ต้องสงสัยไว้ก่อนและดูแล้วป้าคงไม่ยอมรับหรอก อย่างน้อยก็เพื่อความบริสุทธิ์ใจ แกไม่ยอมเอะอะจะกลับบ้านอย่างเดียว เกลี้ยกล่อมอยู่พักหนึ่งป้าแกก็ยอมไปหาตำรวจที่ป้อมหน้าเอ็มควอเทีย
เมื่อลงมาที่ป้อมตำรวจก็มีพี่จนท.บีทีเอสอีกคนมาบอกว่าป้าคนนี้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีคนมาแจ้งแบบนี้ มีแต่คนปล่อยผ่านไปและเขาก็อยู่เปนพยานอีกคน ฝั่งป้านั้นก็ยังเล่นใหญ่ไม่เลิก โวยวายจะรีบกลับบ้าน จะแจ้งความข้อหากักขังป้าไว้บ้าง จะไปแจ้งความเรื่องของหายเองบ้าง จนพี่ตำรวจที่ป้อมต้องประสานทางตำรวจที่สน.ทองหล่อมาเคลียร์ถึงที่ ระหว่างรอตำรวจมานั้น ป้าก็โวยวายไปตามเรื่อง ต่อว่าจนท.บีทีเอสว่าไม่มีอะไรทำกันหรอ มาทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ อธิบายพูดดีๆป้าแกก็ดูไม่ฟังไม่เข้าใจ เบ่งว่าไม่กลัวหรอกตำรวจไปเรื่อย เราก็ทำได้แค่บอกว่าใจเย็นๆถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่ผิด บ้านไว้กลับบ้านพร้อมกัน แต่ในการโวยวายของป้าก็มีพิรุทเบาๆ ดูรนรานแปลกๆ จนสังเกตุได้ ก็ได้แต่เกลี้ยกล่อมป้าไว้ไม่ให้ไปไหน เพราะป้าพยายามทำทุกทางให้เราและพี่จนท.บีทีเอสปล่อยนางไป ถึงขนาดให้เราถ่ายรูปและจดเบอร์นางไว้มีอะไรค่อยคุยทีหลังนางจะกลับบ้าน เมื่อตำรวจมาถึงก็ไถ่ถามและด้วยความที่ป้าแกรั้นจึงต้องไปคุยต่อที่โรงพัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงสน.ทองหล่อ ป้าแกก็ยังรั้นไม่เลิกไม่ยอมรับ ทำไก๋ไปเรื่อย คือแถจนสีข้างถลอก ฝั่งเพื่อนเราก็ลงบันทึกประจำวันไว้ พูดคุยกับตำรวจว่าไม่ได้อยากได้เงินคืนแต่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ตำรวจก็ได้สอบสวนป้าหาความจริง ป้าก็ไม่รู้ไม่ชี้อยู่สักพัก จนตำรวจคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า นี่ทำมาหลายทีแล้วนี่ มีรูปด้วยเต็มเน็ตเลยเนี่ย ที่เราเห็นก็เป็นกระทู้ป้าที่แกล้งเดือดร้อนหลอกเอาเงินคนแถวบีทีเอสเหมือนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://4toom.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99/ แต่ในนั้นไม่น่าจะใช่ป้าคนนี้หรอก ตำรวจก็ต่างช่วยกันบรีพ เราคิดตอนนั้นคือป้าแกจะโดนใส่ความหรือป่าว จนสุดท้ายป้าก็จนมุมเพราะหลุดปากมาประมาณว่า ไม่ได้ทำบ่อยเปนกิจวัตร เกลือจิ้มเกลือ และคนที่ให้เขาก็ให้ด้วยความเสน่ห์หา โป๊ะแตก!! ตำรวจเลยค้นสมบัติของป้าในถุงเอ็มควอเทียร์ที่ป้าถือมา ปรากฎว่าในนั้นคือชุดดำหลายชุดมาก ก็เกิดข้อสงสัยว่าคนปกติธรรมดาทำไมต้องพกชุดดำทีเดียวหลายๆชุด และป้าตอนนั้นก็ใส่ชุดดำ เอกสารแสดงตัวตนก็ไ่ม่มีติดตัว พูดจากลับกลอก อารมขึ้นๆลงๆ สุดท้ายป้าก็จนมุมเพราะหลุดปากและต้องไปสืบสวนต่ออีกทีว่าทำเป็นกระบวนการหรือป่าว
ป้าคนนี้ผิวไม่ขาวไม่คล้ำ ผมสั้น เขียนคิ้วดำ ตัวสูงประมาณ155 ใส่ชุดดำ ประเป๋าสะพานข้างสีดำ ถือร่มสีฟ้าคันใหญ่สองคัน ถือถุงเอ็มควอเทียร์สีขาวกับเทวินสีน้ำเงินใบใหญ่ภายในมีแต่ชุดดำ สันนิฐานว่าน่าจะหากินตามงานศพ แบบเนียนไปกินข้าวงานศพไรงี้

อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกๆคนนะคะ อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะสงสาร มันจะกลายเป็นการสนับสนุนกระบวนการนี้ ยิ่งถ้าไปทำกับชาวต่างชาติยิ่งเสียภาพลักษณ์ประเทศไปอีก ป้าคงไม่เข้าใจว่านี้ไม่ใช่งานที่สุจริต ป้าไม่ได้พิการอะไรก็ควรทำงานแลกเงินไม่น่าเอาความเดือดร้อนความน่าสงสารมาหลอกลวงคนอื่นแบบนี้
รูปป้าแกบอกว่าลงไปเลย ป้าแกจะตามหาคนที่ลงเหมือนกันว่าลงทำไม ป้าไม่ได้ทำบ่อย
ขอชื่นชมการประสานงานของบีทีเอสนะคะ ที่ใส่ใจเรื่องนี้ ไม่ยอมให้ผู้ร้ายลอยนวล
ขอบคุณคุณตำรวจทุกๆคนที่มาสอบสวนจนป้าแกหลุดปาก
ขอบคุณเพื่อนที่มาให้เจอพร้อมกับเรื่องน่าตื่นเต้น
กระทู้แรกถ้าผิดพลาดอะไรก้ขออภัยด้วยนะคะ
เตือนภัย!คุณป้าอ้างว่าถูกล้วงกระเป๋าหลอกขอเงินตามBTS
เหตุการณ์เกิดประมาณเกือบๆ2ทุ่มของวันที่17/09/2558 ณ สถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ เราเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมาก็ดีใจ แต่เพื่อนที่เจอกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่บีทีเอสอยู่พร้อมๆกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ด้วยความที่เราไม่ได้เจอกันนานก็เลยอยู่ทักทายก่อน
หลังจากที่เพื่อนคุยกับจนท.บีทีเอสเสร็จก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง จับใจความได้ว่า มีป้าคนหนึ่งบอกเพื่อนเราว่าถูกล้วงกระเป๋าที่สยาม กระเป๋าตังหายไม่มีเงินกลับบ้าน ขอเงินยืมเงินเพื่อกลับบ้าน เพื่อนเราชวนไปแจ้งความก็ไม่ยอมไปหรือแจ้งจนท.บีทีเอสก็ยังดีแต่ก็ไม่ยอม จะกลับบ้านอย่างเดียว ดูจากภายนอกและคิดว่าเขาคงเดือดร้อนจริงๆ เพื่อนเราจึงให้เงินป้าคนนั้นไป100บาท หลังจากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกว่าเขาก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ป้าคนนี้เคยมาขอเงินเหมือนกัน น้องโดนหลอกแล้วแหละ!
เพื่อนเราและพี่ผู้หญิงคนนั้นจึงไปแจ้งจนท.บีทีเอสเกี่ยวกับพฤติกรรมของป้าว่าน่าจะเป็นนักต้มตุ๋น และจากการบอกรูปพรรณสัณฐานของป้าแก่จนท.บีทีเอสไป ทางบีทีเอสก็ประสานกันหาจนเจอป้าคนนี้กำลังรอบีทีเอสฝั่งไปหมอชิต และเชิญป้าลงมาจนสำเร็จ ทั้งวิ่งทั้งลุ้นกันจนเหนื่อย ป้าแกก็โวยวายว่าเรียกแกมาทำไม แกจะกลับบ้าน ไม่ยอมนั่นโน่นนี่ เพื่อนเราก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นให้หัวหน้าจนท.ฟัง ให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจนท.ต้องเชิญป้าไว้ แต่พี่ผู้หญิงคนที่เจอเหมือนกันได้แยกกลับไปแล้ว เพราะไม่คิดจนท.ว่าจะตามเจอป้า ป้าแกก็โวยวายว่าไม่มีพยาน อารมณ์ว่าเราปรักปรำป้า เลยแนะนำป้าให้ไปแจ้งความเรื่องโดนล้วงกระเป๋าก่อน เดี๋ยวจะไปเป็นเพื่อนป้า เพราะมีคนเจอเหตุการณ์เหมือนกันก็ต้องสงสัยไว้ก่อนและดูแล้วป้าคงไม่ยอมรับหรอก อย่างน้อยก็เพื่อความบริสุทธิ์ใจ แกไม่ยอมเอะอะจะกลับบ้านอย่างเดียว เกลี้ยกล่อมอยู่พักหนึ่งป้าแกก็ยอมไปหาตำรวจที่ป้อมหน้าเอ็มควอเทีย
เมื่อลงมาที่ป้อมตำรวจก็มีพี่จนท.บีทีเอสอีกคนมาบอกว่าป้าคนนี้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีคนมาแจ้งแบบนี้ มีแต่คนปล่อยผ่านไปและเขาก็อยู่เปนพยานอีกคน ฝั่งป้านั้นก็ยังเล่นใหญ่ไม่เลิก โวยวายจะรีบกลับบ้าน จะแจ้งความข้อหากักขังป้าไว้บ้าง จะไปแจ้งความเรื่องของหายเองบ้าง จนพี่ตำรวจที่ป้อมต้องประสานทางตำรวจที่สน.ทองหล่อมาเคลียร์ถึงที่ ระหว่างรอตำรวจมานั้น ป้าก็โวยวายไปตามเรื่อง ต่อว่าจนท.บีทีเอสว่าไม่มีอะไรทำกันหรอ มาทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ อธิบายพูดดีๆป้าแกก็ดูไม่ฟังไม่เข้าใจ เบ่งว่าไม่กลัวหรอกตำรวจไปเรื่อย เราก็ทำได้แค่บอกว่าใจเย็นๆถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่ผิด บ้านไว้กลับบ้านพร้อมกัน แต่ในการโวยวายของป้าก็มีพิรุทเบาๆ ดูรนรานแปลกๆ จนสังเกตุได้ ก็ได้แต่เกลี้ยกล่อมป้าไว้ไม่ให้ไปไหน เพราะป้าพยายามทำทุกทางให้เราและพี่จนท.บีทีเอสปล่อยนางไป ถึงขนาดให้เราถ่ายรูปและจดเบอร์นางไว้มีอะไรค่อยคุยทีหลังนางจะกลับบ้าน เมื่อตำรวจมาถึงก็ไถ่ถามและด้วยความที่ป้าแกรั้นจึงต้องไปคุยต่อที่โรงพัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงสน.ทองหล่อ ป้าแกก็ยังรั้นไม่เลิกไม่ยอมรับ ทำไก๋ไปเรื่อย คือแถจนสีข้างถลอก ฝั่งเพื่อนเราก็ลงบันทึกประจำวันไว้ พูดคุยกับตำรวจว่าไม่ได้อยากได้เงินคืนแต่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ตำรวจก็ได้สอบสวนป้าหาความจริง ป้าก็ไม่รู้ไม่ชี้อยู่สักพัก จนตำรวจคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า นี่ทำมาหลายทีแล้วนี่ มีรูปด้วยเต็มเน็ตเลยเนี่ย ที่เราเห็นก็เป็นกระทู้ป้าที่แกล้งเดือดร้อนหลอกเอาเงินคนแถวบีทีเอสเหมือนกัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ในนั้นไม่น่าจะใช่ป้าคนนี้หรอก ตำรวจก็ต่างช่วยกันบรีพ เราคิดตอนนั้นคือป้าแกจะโดนใส่ความหรือป่าว จนสุดท้ายป้าก็จนมุมเพราะหลุดปากมาประมาณว่า ไม่ได้ทำบ่อยเปนกิจวัตร เกลือจิ้มเกลือ และคนที่ให้เขาก็ให้ด้วยความเสน่ห์หา โป๊ะแตก!! ตำรวจเลยค้นสมบัติของป้าในถุงเอ็มควอเทียร์ที่ป้าถือมา ปรากฎว่าในนั้นคือชุดดำหลายชุดมาก ก็เกิดข้อสงสัยว่าคนปกติธรรมดาทำไมต้องพกชุดดำทีเดียวหลายๆชุด และป้าตอนนั้นก็ใส่ชุดดำ เอกสารแสดงตัวตนก็ไ่ม่มีติดตัว พูดจากลับกลอก อารมขึ้นๆลงๆ สุดท้ายป้าก็จนมุมเพราะหลุดปากและต้องไปสืบสวนต่ออีกทีว่าทำเป็นกระบวนการหรือป่าว
ป้าคนนี้ผิวไม่ขาวไม่คล้ำ ผมสั้น เขียนคิ้วดำ ตัวสูงประมาณ155 ใส่ชุดดำ ประเป๋าสะพานข้างสีดำ ถือร่มสีฟ้าคันใหญ่สองคัน ถือถุงเอ็มควอเทียร์สีขาวกับเทวินสีน้ำเงินใบใหญ่ภายในมีแต่ชุดดำ สันนิฐานว่าน่าจะหากินตามงานศพ แบบเนียนไปกินข้าวงานศพไรงี้
อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกๆคนนะคะ อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะสงสาร มันจะกลายเป็นการสนับสนุนกระบวนการนี้ ยิ่งถ้าไปทำกับชาวต่างชาติยิ่งเสียภาพลักษณ์ประเทศไปอีก ป้าคงไม่เข้าใจว่านี้ไม่ใช่งานที่สุจริต ป้าไม่ได้พิการอะไรก็ควรทำงานแลกเงินไม่น่าเอาความเดือดร้อนความน่าสงสารมาหลอกลวงคนอื่นแบบนี้
รูปป้าแกบอกว่าลงไปเลย ป้าแกจะตามหาคนที่ลงเหมือนกันว่าลงทำไม ป้าไม่ได้ทำบ่อย
ขอชื่นชมการประสานงานของบีทีเอสนะคะ ที่ใส่ใจเรื่องนี้ ไม่ยอมให้ผู้ร้ายลอยนวล
ขอบคุณคุณตำรวจทุกๆคนที่มาสอบสวนจนป้าแกหลุดปาก
ขอบคุณเพื่อนที่มาให้เจอพร้อมกับเรื่องน่าตื่นเต้น
กระทู้แรกถ้าผิดพลาดอะไรก้ขออภัยด้วยนะคะ